|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
New Dimension of KPIs
คำว่า KPIs หรือ Key Performance Indicators เกิดขึ้นมาในช่วงประมาณปี90 เห็นจะได้ โดยคราวแรกจริงๆ ผู้เขียนพบว่า # ในการจัดการกลยุทธธุรกิจในขณะนั้นยังเป็นแนวคิดแบบดั้งเดิมคือ เพิ่งปรับ จาก .นโยบายธุรกิจ. (Business Policy) มาสู่ การจัดการกลยุทธ (Strategy Management) ได้ประมาณไม่ถึง 10 ปี (ประมาณ 5-6ปีเห็นจะได้) ซึ่งการวัดกลยุทธในยุคนั้นจะเป็นลักษณะการวัดความสำเร็จของกิจกรรม แผนงาน หรือโครงการตามเป้าหมาย (Target) ที่กำหนดไว้ กับการวัดในเชิงควบคุมทางการเงิน (Financial Control) คือ พิจารณาดูด้านผลตอบแทนในการลงทุน ด้านยอดขาย-ผลกำไร หรือที่คุ้นๆ กันก็จะเป็น ROI (Return of Investment) และในตระกูลทางบัญชีการเงินเป็นหลักใหญ่ # สิ่งที่เป็นวังวนในการวัดความสำเร็จของกิจกรรมแผนงาน โครงการ ในขณะนั้น ยังดูได้ไม่ชัดนักว่าส่งผลโดยตรง (Impact) ต่อความสำเร็จของกลยุทธ เพราะโครงการฯ ฯลฯ ที่ประสบความสำเร็จก็ไม่ชัดเจนว่าจะทำให้กลยุทธสำเร็จ ยอดขาย-กำไร-ขาดทุน ดูจะเป็นดัชนีวัดความสำเร็จของธุรกิจได้ดีกว่า เพราะรู้ได้ สัมผัสได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในทางบัญชี # เมื่อธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนในช่วงนั้นคือ การกำหนดวิสัยทัศน์หรือการสร้าง ข้อความวิสัยทัศน์ (Vision Statement) สัญญาณที่ดีในการจัดการกลยุทธธุรกิจก็เริ่มต้นเกิดขึ้น เพราะว่า 1. วิธีการจัดการกลยุทธแบบดั้งเดิมที่เรียกกันว่า Strategic Management เริ่ม มีปัญหาเพราะเป็นระบบควบคุมกลยุทธ (Strategic Control) มากกว่าที่จะเป็นสิ่งกระตุ้นหรือขับเคลื่อนให้กลยุทธประสบความสำเร็จ 2. การวัดความสำเร็จของโครงการ แผนงานหรือกิจกรรมของแต่ละกลยุทธด้วย เป้าหมายไม่น่าจะสอดคล้องกับสิ่งที่ธุรกิจพัฒนาวิสัยทัศน์ขึ้นมา # ในขณะนั้น การวัดกระบวนการธุรกิจหรือการใช้เครื่องมือจัดกระบวนการธุรกิจ ที่รู้จักกันคือ ระบบควบคุมคุณภาพโดยรวม (TQM: Total Quality Management) มีการวัดผลงานหรือกระบวนการโดยใช้ช่วงกว้างของสถิติควบคุม (Interval of Statistic) ซึ่งเหมาะสมกับการทดสอบค่าต่างๆ ในกระบวนการผลิต แต่ปรับใช้ได้ยากในกระบวนการธุรกิจอื่นๆ ทั้งหมดนี้จึงมีการพิจารณาหาสิ่งวัดใหม่ทางธุรกิจหรือ ดัชนีวัด (Indicator)
จุดเริ่มต้นของการใช้ KPIs
แม้ว่าในระยะหลังๆ ที่ผู้เขียนได้พัฒนา KPIs ขึ้นมาโดยมีทั้ง โมเดลดัชนีวัดผลสำเร็จ (The Indicator Model) เพื่อใช้บอกความสำเร็จของ KPIs ตามพัฒนาการทางกลยุทธของธุรกิจ ซึ่งใน 3-5 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า โมเดลดัชนีวัดผลสำเร็จทั้ง 3 โมเดลคือ 1) โมเดลดัชนีแบบพัฒนาการ (The Growth Indicator Model) 2) โมเดลดัชนีแบบสัมพัทธ์ (The Relative Indicator Model) และ 3) โมเดลดัชนีแบบสัมบูรณ์ (The Absolute Indicator Model) มีประสิทธิภาพในการพัฒนาธุรกิจสู่การเป็นบริษัทระดับโลกได้ พร้อมกันนั้นผู้เขียนยังพบว่า รูปแบบของดัชนีวัด (The Types of KPIs) (จะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป) จำเป็นจะต้องมีเพราะมิฉะนั้น KPIs แบบด้อยคุณภาพหรือเป็น KPIs แบบเห็นแก่ตนเองของผู้ทำหรือฝ่ายงานจะเกิดขึ้นมา ซึ่งทำให้ระบบการวัดผลกลยุทธเสียหายได้ ถึงจุดนี้ ผู้เขียนจึงได้สรุปในเรื่อง KPIs หรือดัชนีวัดผลสำเร็จไว้ว่า 1. ดัชนีวัดผลสำเร็จ จะต้องบ่งบอกหรือระบุถึงสารสนเทศเกี่ยวกับสิ่งหรือสภาพ หรือพฤติกรรมในรูปการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยวัดกลยุทธของธุรกิจหรือหน่วยงาน 2. ดัชนีวัดผลสำเร็จ ต้องมีลักษณะของการเป็นองค์ประกอบที่ให้รู้ถึงสภาพ โดยรวมทุกด้านของธุรกิจหรือขอบเขตผลลัพธ์สำคัญ 3. ดัชนีวัดผลสำเร็จ ให้ค่าของการวัด (Indicator Value) ที่แสดงเป็นปริมาณ (Quality) ค่าใช้จ่าย/ต้นทุน (Cost) และความเร็ว (Speed) โดยที่การวัดนั้นจะมีสภาพหรือพฤติกรรมที่เป็นเชิงปริมาณจะเหมาะสมมากกว่าเชิงคุณภาพ และต้องมีการกำหนดระบบคะแนน (KPIs Scoring) ที่ชัดเจนในตอนสร้างดัชนี (Indicator) 4. ดัชนีวัดผลสำเร็จ ให้ค่าที่แสดงผลสำเร็จของกลยุทธ ณ จุดเวลาหนึ่งหรือช่วง ระยะเวลา (Period of Time) ซึ่งอาจจะเป็นภายใน 1 ปีหรือ 1-4 ปี แต่ไม่ควรเกินกรอบระยะเวลาของแผนกลยุทธหรือแผนธุรกิจ
นี่ล่ะครับ! ที่ถือเป็นมิติใหม่ของดัชนีวัดผลสำเร็จหรือ KPIs
*อย่างไรจึงจะเรียกว่า KPIs
สิบกว่าปีก่อนในระหว่างที่ผู้เขียนเป็นที่ปรึกษาจัดทำวิสัยทัศน์และกลยุทธ เกิดมีคำถามว่าจะเรียกสิ่งที่วัดกลยุทธว่าอะไรดี ซึ่งในขณะนั้นก็เลยใช้ KPIs (Key Performance Indicators) ในขณะที่แคปแบนกับนอร์ตัน (1996) ใช้เพียงดัชนีนำ (Lead Indicator) และดัชนีตาม (Lag Indicator) ผู้เขียนถูกตั้งข้อสงสัยในเชิงคำถามจากธุรกิจว่า จะใช้ KPIs วัดกลยุทธธุรกิจได้จริงหรือ ซึ่งในขณะนั้นก็ไม่ได้ไปสนใจตอบคำถามเพราะ เราทำจริงในธุรกิจย่อมแน่นอนกว่าการถามจากตำรา บังเอิญจริงๆ ว่าผู้เขียนได้เข้าอบรมกับธุรกิจชั้นนำของโลกที่เชี่ยวชาญมากในด้านการผลิตของอุตสาหกรรมประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ ให้เรียนเรื่อง MRP II (Manufacturing Resource Planning II) จึงพบว่า การวัดกระบวนการผลิตได้เปลี่ยนมาใช้ KPIs แทนวิธีการควบคุมทางสถิติเสียเป็นส่วนใหญ่และบางส่วนกลายเป็นดัชนีวัดภายใน KPIs ขณะเดียวกันกับที่ บริษัท GE ได้จัดทำเรื่องของ Six Sigma ก็ใช้ผัง KPIs เป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จทั้งหมด ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้เขียนตระหนักว่า คุณค่าของ KPIs น่าจะใช้ได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติของธุรกิจ หลังจากที่ได้เสนอโดยจุดระเบิดเรื่อง Balanced Scorecard & KPIs ให้ธุรกิจได้รู้จักผ่านทางหนังสือเล่มแรก ดัชนีวัดผลสำเร็จธุรกิจ (KPIs) กับการออกรายการทีวีทางยูบีซีในรายการ แม่ไม้นักบริหารของคุณโอวาท พรหมรัตนพงศ์ ปรากฏว่ามีผู้สนใจเป็นอย่างมากจวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ KPIs ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากการระดมความคิดว่า ควรจะมี KPIs เป็นอย่างไร KPIs ในระบบการจัดการกลยุทธต้องเป็น KPIs ที่ใช้วัดกลยุทธมากกว่าที่จะคิด ว่ากระบวนการธุรกิจ (หลัก/สนับสนุน) จะมี KPIs คืออะไร รายการวัดแบบเดิมของธุรกิจอาจจะไม่ใช่ KPIs ที่บอกความสำเร็จอย่างแท้จริง ซึ่งอาจเป็นเพียง รายการ KPIs (The KPIs List) เท่านั้น KPIs ที่บอกความสำเร็จอย่างแท้จริงจะเรียกว่า The Impact KPIs
ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut DNTConsultants Co.,Ltd
Create Date : 08 มกราคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2551 17:54:10 น. |
Counter : 904 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ ( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced Scorecard & KPIs) การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ (Competency Based Approach) การพัฒนา HRD-KM และ การจัดการสมัยใหม่ *************************
|
|
|
|
|
|
|
|