ทะเล ภูเขา ป่าไม้ สายน้ำ ธรรมชาติ บ้านของเรา
ไปให้ถึงฝั่งฝัน

“ในช่วงชีวิตของปุถุชน ทุกคนย่อมมีฝันของตัวเอง การดำเนินชีวิตของคนเราก็เพื่อตามฝันของตนเองให้ทันกับวันเวลาที่ล่วงเลย หลายคนทำได้ตามใจฝัน หลายคนทำได้แค่เพียงฝัน”




ดีเจ (disk jocking) คือนักจัดรายการวิทยุกระจายเสียง มีหน้าที่นำเสนอความคิด ความบันเทิงข้อเท็จจริงของเรื่องราวต่างๆ ผ่านการพูดพร่ำ พรรณนา หน้าไมค์ มีบทบาททางความคิดต่อสังคมมากโข ยิ่งในยุคก่อนหน้าที่สื่อสารมวลชนยังไม่แพร่หลายมากมายเหมือนยุคนี้ที่มีสื่อต่างๆมากมายให้เลือกเสพ คนจัดรายการต่างๆทั้งบันเทิงและความรู้ผ่านกระบวนการต่างๆของการเป็นดีเจซึ่งเปรียบเสมือนคนขี่ม้า หรือ Jocky เป็นผู้กุมบังเหียนสังคมอยู่ในมือ ต้องการสื่อสารให้สังคมดำเนินไปทางใดล้วนแต่อยู่ในมือ ดีเจ ทั้งสิ้น ในปัจจุบันมี วีเจ(video Jocking) เข้ามาร่วมอยู่ในวงศา คณาญาติของอาชีพนักจัดรายการซึ่งมีบทบาทสูงไม่แพ้กัน ไม่ว่าอาชีพ ดีเจ วีเจ เป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นความฝันของคนยุคใหม่ ยุคหลัง พ.ศ.2530 เป็นต้นมา คณะนิเทศศาสตร์ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่ผลิตบุคลากรผู้ทำหน้าที่ ดีเจ หรือ วีเจ จึงเป็นคณะที่นักเรียนนิยมเลือกที่จะเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยและครองอันดับหนึ่งมาโดยตลอดมาถึงปัจจุบัน ผมโชคดีที่ก้าวเข้ามาในสายอาชีพนี้ก่อนหน้า ไม่เช่นนั้น อาจตามฝันของตัวเองไม่เจอ

สำหรับการวิ่งตามฝันของผมมาทันก็เมื่อทำงานเกือบจะครบสิบปีแล้ว โดยต้องออกแรงยื้อยุดฉุดกระชากเอางานวิทยุกระจายเสียงให้มาเป็นหน้าที่ของผมไม่ให้ตกเป็นของช่างภาพที่ฝ่ายผลิตสื่อในตอนนั้น รายการวิทยุกระจายเสียงของกรมป่าไม้ในอดีตชื่อรายการ “ป่าเขาลำเนาไพร”จัดโดยใครมาบ้างนั้นผมไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดรู้แต่ว่าเป็นรายการวิทยุของกรมป่าไม้ที่มานานมาแล้วกับทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตรของกรมส่งเสริมการเกษตร ใช้ผู้ดำเนินรายการหรือผู้จัดรายการที่มักจะเรียกกันผ่านไปแล้วหลายคนตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผมเองได้มีโอกาสเป็นผู้ดำเนินรายการ ก็เมื่อปี พ.ศ.2546 จำได้ขึ้นใจว่าเทปแรกของการจัดรายการก่อนวันบันทึกเสียงคืนนั้นทั้งคืนผมแทบไม่ได้นอน ผมทั้งกลัว ประหม่า ทั้งที่เรียนจบสายตรงด้านนี้ก็ตาม ผมอ่านบทวิทยุที่ผมเขียนจนจำขึ้นใจ เป็นเรื่องของป่าชุมชนเขาราวเทียนทองของผู้ใหญ่สายชล ผู้ใหญ่บ้านหญิงเก่ง ต่อมาได้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปีเมื่อครั้งผู้ใหญ่และสมาชิกเข้ามารับโล่ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้

ที่จริงก่อนหน้าที่จะเข้ารับราชการ โอกาสที่จะได้เป็นดีเจก็ได้เข้ามาให้ผมเลือกแล้วครั้งหนึ่งจากการสมัครเข้าแข่งขันกับผู้อื่นในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อเป็นดีเจ จัดรายการวิทยุของ อ.ส.ม.ท.ซึ่งผมเองก็ได้รับเลือก แต่ชะตาฟ้าลิขิตด้วยบังเอิญสอบเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิชาการเผยแพร่ที่กรมป่าไม้ได้ ซึ่งคำว่าข้าราชการนั้นสำคัญยิ่งนักสำหรับเกษตรกรลูกชาวสวนคนหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี ทั้งตระกูลไม่มีใครรับราชการเลยสักคนเดียว ผมจึงต้องทิ้งความฝันที่จะเป็นดีเจไป และเลือกเข้ารับราชการทันทีที่ได้รับการติดต่อให้ไปรายงานตัวด้วยค่านิยมของคนบ้านนอกทั่วไปว่าเป็นอาชีพที่ดีมั่นคงมีสวัสดิการมากมายตามที่บอกต่อๆกันมา เริ่มรับราชการตำแหน่งนักวิชาการเผยแพร่ที่ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จัดทำแผนและประเมินผลการปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ของกรม รู้อยู่เหมือนกันว่ามีรายการวิทยุของกรมป่าไม้อยู่แต่เนื่องจากมีผู้จัดเดิมอยู่แล้วที่ฝ่ายผลิตสื่อจึงไม่อาจเอ่ยถึงความฝันได้ ก็คิดว่าไม่เป็นไรทำแผนประชาสัมพันธ์ก็ได้ เป็นการเรียนรู้เรื่องการจัดทำงบประมาณไปในตัวด้วย ประกอบกับการทำแผนประชาสัมพันธ์นั้นเป็นเหมือนหัวใจของงานการประชาสัมพันธ์ในภาพรวมทั้งหมด หากจัดทำแผนไม่ดี การประชาสัมพันธ์ในภาพรวมก็คงไม่ดีด้วย จึงเริ่มงานด้วยทำหน้าที่รวบรวมการรายงานผลการประชาสัมพันธ์จากส่วนภูมิภาคทั้งหมด 21 เขต 75 จังหวัด เพื่อประเมินผลประกอบการพิจารณางบประมาณประชาสัมพันธ์ของกรมป่าไม้

ปี 2545 รัฐบาลประกาศปฏิรูประบบราชการมีผลให้กรมป่าไม้แบ่งออกเป็น 3 กรม คือ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตามภารกิจหน้าที่ที่ยังทับซ้อนกันสร้างความสับสนให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เป็นปัญหาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกลับมารวมกันในที่สุดตามกระแสเรียกร้องของบรรดาข้าราชการ พนักงานของทั้งสองกรมทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ทันทีที่กรมป่าไม้ถูกแยกให้เป็นกรม 3 กรมข้างต้น เจ้าหน้าที่ของทุกสำนัก กอง ส่วนต่างๆ ถูกแบ่งเป็นสองมากบ้างน้อยบ้างตามภารกิจ สำหรับส่วนประชาสัมพันธ์ไม่รู้ว่าคนที่จัดสรรอัตรากำลังเขาคิดอย่างไรในการแบ่งแยกเจ้าหน้าที่ของส่วนประชาสัมพันธ์ให้ไปสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยเอาข้าราชการที่เงินเดือนสูงๆไปสังกัดกรมอุทยานฯ และเหลือข้าราชการที่เงินเดือนน้อยหรือเด็กๆ เอาไว้ให้กรมป่าไม้ แต่ไม่เป็นไรคิดบวกไว้ก่อนพร้อมกับพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เด็กเงินเดือนน้อยก็จริงแต่ไฟในการทำงานนั้นย่อมมีพลังมากกว่าตามอายุขัย น้องๆ หลายคนในสายงานป่าไม้ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายและผู้อำนวยการแบบไม่ยากเย็นในอีกไม่กี่ปีต่อมา

งานวิทยุกระจายเสียงนั้นเป็นภารกิจที่ติดมากับกรมป่าไม้เพราะเป็นรายการวิทยุของกรมป่าไม้ นับว่าเริ่มใกล้เข้ามาที่ตัวผมอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ถึง หน้าที่จัดรายการวิทยุยังตกไปเป็นของเพื่อนที่ฝ่ายผลิตสื่อบรรจุเข้ามาพร้อมกันแล้วลาออกไปทั้งที่เริ่มทำงานได้ไม่นาน ต่อมาขอกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหลังจากที่ออกไปทำงานในบริษัทเอกชนได้ปีกว่า แต่ดวงชะตาของเพื่อนคนนี้ก็ช่างพลิกผันกลับเข้ารับราชการได้เพียงสองหรือสามปีกรมป่าไม้ก็ต้องถูกแบ่งแยก ทำให้ความคิด อุดมการณ์ของเพื่อนนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ สุดท้ายก็ขอลาออกจากราชการอีกครั้งและครั้งนี้คงไปอย่างถาวร ผมเองเมื่อเพื่อนคนนี้ลาออกไปก็มั่นใจแล้วว่าหน้าที่จัดรายการวิทยุนั้นคงตกเป็นของเราเสียทีหลังจากที่รอมานานนับสิบปี แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพื่อนเจ้ากรรมไม่รู้มองข้ามผมเพื่อนที่บรรจุเข้ามาพร้อมกันไปได้อย่างไร กลับมอบหน้าที่นี้ให้กับช่างภาพที่ทำงานอยู่ด้วยกันไปเสียนี่ ถึงคราวนี้ยอมไม่ได้แล้วถ้าปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปอีกก็คงไม่ได้ทำตามฝันของตนเองเป็นแน่แท้ จึงทำหนังสือแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาว่าวิทยุกระจายเสียงนั้นควรจะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ฝ่ายผลิตสื่อโดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสด้วยการให้สลับกันไปทำรายการแล้วมาดูว่าใครทำดีกว่ากัน ท้ายที่สุดน้องช่างภาพคนนั้นก็ยอมให้ผมทำตามฝันของตัวเองแต่โดยดี โดยไม่ได้ทำรายการแข่งขันกันแต่อย่างใด ก็ทำให้ผมได้ทำอย่างใจฝันไว้ว่าจะเป็นดีเจ ตั้งแต่วันนั้น 16 พฤษภาคม 2546 ถึงจะเป็นรายการวิทยุของราชการเป็นระบบ เอเอ็ม และเป็นรายการบันทึกเทปก็ตาม

งานวิทยุกระจายเสียงนั้นหากใครไม่ได้ร่ำเรียนนิเทศศาสตร์มาก็ย่อมไม่เข้าใจงานวิทยุกระจายเสียงว่าสำคัญต่อภารกิจหลักของหน่วยงานอย่างไร สู้ทนทำงานด้วยอุดมการณ์โดยมีไฟฝันของตนเองและกำลังใจจากผู้ฟังเป็นพลังขับเคลื่อนการงานทุกอย่างด้วยตัวลำพังเพียงคนเดียว สุดท้ายเรือน้อยก็อ่อนแรง สุดจะต้านแรงลมและเกลียวคลื่น ชีวิตก็ผกผันอีกครั้งหลังจากฝ่าฟันมรสุมชีวิตราชการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา

ผมขอย้ายตัวเองจากกรมป่าไม้มาสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่ก็ยังไม่ละจากฝันของตนเองผมเข้ามาริเริ่มงานด้านวิทยุกระจายเสียงให้เกิดขึ้นที่นี่ทันทีที่ผมขอย้ายตัวเองจากกรมป่าไม้ โดยก่อตั้งรายการวิทยุของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ครั้งแรกใช้ชื่อรายการ”สาระดีที่อุทยานฯ”เมื่อปี 2551 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นรายการ“เรื่องเล่าจากป่า”เมื่อปี 2553 แนวคิดหลักของรายการวิทยุกระจายเสียงที่ผมเป็นผู้ดำเนินรายการในปัจจุบัน เป็นการนำเรื่องราวของป่าไม้ อุทยานฯ สัตว์ป่า ความเคลื่อนไหวในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มานำเสนอทางสถานีวิทยุกระจายเสียงทั้งระบบเอฟเอ็ม คือสถานีวิทยุของกรมประมงจังหวัดระยอง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดร้อยเอ็ด ระบบเอเอ็ม สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเพื่อการศึกษาจังหวัดจันทบุรี เป็นรายการที่เต็มไปด้วยสาระ ลักษณะรายการเป็นการสนทนากับผู้บริหาร นักวิชาการ ผู้รู้ในเรื่องราวที่นำมาเสนอต่อผู้ฟัง


การจัดรายการวิทยุกระจายเสียง ขึ้นอยู่กับทักษะการคิด รวบรวมข้อมูล ทัศนคติต่อเรื่องราวต่างๆที่จะนำเสนออย่างไร การคิดบวก คิดลบ มีผลต่อการนำเสนอเป็นอย่างมาก ความรับผิดชอบต่อคำพูดที่ผู้ดำเนินรายการพูดต่อสาธารณชนเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองของเรา ผมเองได้สังเกตการใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงกันอย่างอิสระเสรี สุดโต่งทางความคิด อุดมการณ์ของตัวเอง ฉีกตำราวิชาการที่ผมเคยร่ำเรียนมาโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องหาความรับผิดชอบต่อสังคมจากผู้จัดรายการ พูดแล้วสังคมจะเป็นอย่างไรไม่สนใจ คิดแต่เพียงว่า เพื่อพวกพ้องของกูเป็นผู้ชนะเท่านั้น สังคมไทยปัจจุบันถึงได้แตกแยกเป็นนั่นสีใคร โน่นสีมึง และนี่สีกู

การเป็นผู้จัดรายการวิทยุกระจายเสียงนับจากกรมป่าไม้มาจนถึงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชในปัจจุบัน ได้เดินไปกระทบไหล่ผู้บริหารทุกระดับ ตั้งแต่รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้อำนวยการสำนัก กองต่างๆ เพื่อเจาะหาเรื่องราวมานำเสนอต่อสาธารณชน ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะรู้จักหรือคุ้นเคย อย่างน้อยก็เคยเห็นหน้า หน้าที่ที่ทำถึงจะมีอุดมการณ์ต่อวิชาชีพอย่างไรก็ตาม บางครั้งการนำเสนอก็ต้องระมัดระวังและเตือนตัวเองเสมอว่า เราเป็นนักประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่นักข่าว การเป็นนักประชาสัมพันธ์ก็คือทำหน้าที่นำเรื่องดีของหน่วยงานไปนำเสนอเท่านั้น เรื่องไม่ดีหรือไม่สู้ดีก็ต้องมองข้ามไปบ้าง อย่าให้อุดมการณ์ จิตวิญญาณนักนิเทศศาสตร์มันล้นทะลักเกินพอดีจนไม่เป็นผลดีกับตนเองในการที่จะต้องนำเสนอข้อเท็จจริง นำเสนอเรื่องจริง จนลืมว่าเรามีหน้าที่ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน ถึงกระนั้นแล้วก็ยังมีบางครั้งหลุดทำตามอุดมการณ์บ้างก็มี ยิ่งการอยู่ในหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบทรัพยากรป่าไม้ ธรรมชาติ สัตว์ป่า แล้วไปเห็นความบกพร่องความไม่ใส่ใจของใครก็ตาม ก็อดไม่ได้ที่อยากจะตะโกนให้โลกช่วยรับรู้ แต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะสังคมเขาเป็นเช่นนั้นเอง เราก็แค่ธุลีดินที่เพียงลมพัดผิวก็ปลิวละล่องหาทิศทางไม่เจอ ได้แต่ภาวนาให้ผู้มีอำนาจ บารมี ศักดิ์ใหญ่ ที่มีเจตนาดีต่อทรัพยากรได้มาเจอแล้วคิดอย่างที่เราหวัง ได้ช่วยขจัดปัดเป่าให้ปัญหานั้นหมดไปจากสังคม และหากไม่ได้ดังใจก็คงทำได้แค่ถอดถอนใจรำพึงกับตัวเองว่า กรมทั้งกรมไม่ใช่หน้าที่เราเพียงคนเดียว หากเราจะเอาทุกสิ่งอย่างให้ได้ดังใจไม่รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง ขืนเอากรมทั้งกรมมาใส่กะบาลตัวเองมีหวังก็คงบ้าไปแล้ว

ปัจจุบันผมได้เป็นดีเจตามที่ฝัน ถึงแม้จะไม่ใช่ภาพของ ดีเจ ในความคิดของผมก็ตาม ภาพดีเจในความคิดของผมนั้นจะต้องนั่งควบคุมการเปิดแผ่นวางแผ่นไปพร้อมๆกับพูดพร่ำอยู่หน้าไมค์ สื่อสารกับผู้ฟังที่อยู่หน้าเครื่องรับวิทยุ แต่ไม่เป็นไรก็คล้ายๆกัน ถึงจะไม่สดก็ได้ทำหน้าที่ที่เรียกว่า ดีเจ เหมือนกัน ผมมีหน้าที่จัดรายการวิทยุกระจายเสียงของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายการ “เรื่องเล่าจากป่า” ออกอากาศทุกวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 17.30-18.00 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร เอเอ็ม 1386 กิโลเฮิร์ต สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมประมงจังหวัดระยอง เอฟเอ็ม 100.75 เม็กกะเฮิร์ต จังหวัดเชียงราย เอฟเอ็ม 103 เม็กกะเฮิร์ต ทุกวันศุกร์ เวลา 14.30 น. จังหวัดร้อยเอ็ด เอฟเอ็ม 101.6 เม็กกะเฮิร์ต ทุกวันจันทร์ เวลา 15.30-16.00 น. และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเพื่อการศึกษา จังหวัดจันทบุรี เอเอ็ม 927 กิโลเฮิร์ต ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 06.30-17.00 น.

ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมาจาก "ป่าเขาลำเนาไพร"มา "สาระดีที่อุทยาน" และ "เรื่องเล่าจากป่า" ในปัจจุบัน ผมรับผิดชอบทุกเรื่องทุกขั้นตอน ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ หาเรื่อง สัมภาษณ์ ตัดต่อ จัดทำเป็นรายการวิทยุแต่ละตอนๆ ด้วยความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่นำเรื่องราวต่างๆ ตามวาระสำคัญของหน่วยงาน เหตุการณ์ บุคคล และเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน กลุ่มผู้ฟังซึ่งผมถือว่าเป็นลูกค้าของผม มาเล่าสู่กันฟังในรูปแบบของการไปสัมภาษณ์ สนทนากับท่านเหล่านั้น มาถ่ายทอดให้ผู้ฟังกลุ่มเป้าหมายได้ฟัง หลายท่านที่ผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์เป็นบุคคลที่น่าสนใจ เป็นคนของสังคม อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา คุณวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจใหญ่เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ประธานมูลนิธิอมตะ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมก็ยังจะทำหน้าที่นี้ต่อไปก็เพียงเพื่อหวังให้การถ่ายทอดความคิด อุดมการณ์ที่เต็มเปี่ยม ผ่านบทพูดที่กลั่นมาจากแก่นแท้ของใจคงทำให้เกิดแนวร่วมทางความคิดได้บ้าง ถือว่าได้ทำตามฝันของตัวเองแล้ว และจะยึดมั่นอุดมการณ์ เพื่อฝากความดีเอาไว้บนแผ่นดินนี้ จะทำฝันตัวเองให้ดีที่สุด จะทำให้สุดกำลังมันสมองสติปัญญา ตกผลึกมาเป็นผลงาน โดยมีอุดมการณ์เป็นเสาเอก

แก้วเก้า




Create Date : 30 เมษายน 2554
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 10:45:17 น. 4 comments
Counter : 1561 Pageviews.

 
ยาวจังเลยนะจ่ะ อิอิ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 30 เมษายน 2554 เวลา:23:20:51 น.  

 
ขอบคุณ ตะวันเจ้าเอย ยาวแต่ก็อ่านจนจบใช่ไหม?


โดย: story_dnp วันที่: 30 เมษายน 2554 เวลา:23:45:32 น.  

 
สู้สู้


โดย: chai_zone วันที่: 30 เมษายน 2554 เวลา:23:48:01 น.  

 
ขอบคุณครับ chai_zone ยังเขียนไม่จบนะเนี่ยะ อ่านไปแก้ไปพลาง


โดย: story_dnp วันที่: 1 พฤษภาคม 2554 เวลา:1:22:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

story_dnp
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/flower01.gif
New Comments
Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add story_dnp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.