คิดถึงนิปปอนมารูวันที่เก้า เทียบท่าภูเก็ต
คิดถึงนิปปอนมารูวันที่เก้า เทียบท่าภูเก็ต ค่ำคืนที่ผ่านมานอนหลับไม่สนิท หลับๆตื่นๆ อยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็อดที่จะแง้มม่านหน้าต่างดูบรรยากาศข้างนอกว่าถึงหรือยังประเทศไทย ท้องฟ้ายังมืดมิดมีเพียงแสงสว่างจากสปอร์ตไลท์บนดาดฟ้าเรือที่สาดส่องไปในท้องทะเลกว้าง เสียงเครื่องยนต์ขนาดยักษ์ของนิปปอนมารูครางกระหึ่มสม่ำเสมอ ใจจดจ่อว่าพรุ่งนี้จะถึงประเทศไทยแล้ว ถึงจะไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิดของผมและเพื่อนๆพีวายไทยเกือบทุกคนยกเว้นไอ้อิฐ ซึ่งเป็นเด็กภูเก็ตโดยกำเนิด แต่พวกเราก็รอเวลาว่าเมื่อไรจะถึงเสียที พวกเราใช้ชีวิตในต่างแดนกันมาก็แปดวันเข้าไปแล้ว หลายคนไม่เคยจากบ้านมานานขนาดนี้ รวมทั้งผมด้วย ความเหงามันคอยสะกิดใจในยามว่างจากกิจกรรมบนเรือนิปปอนมารูอันใหญ่โต โอ่อ่าหรูหราลำนี้แล่นไปท่ามกลางมหาสมุทรที่เวิ้งว้างมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเล มันยิ่งทำให้คิดถึงบ้านอย่างจับใจ ฟ้าไม่ทันสางถึงแล้วประเทศไทยที่รัก ตลอดเวลาที่จากบ้านไปยังต่างแดนเนิ่นนานวันอย่างนี้ทำให้เข้าใจเลยว่าความรักในแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนนั้นเป็นอย่างไร ไม่มีแผ่นดินไหนอีกแล้วที่จะมีความสุขเหมือนอยู่ในบ้านเราถึงแม้ข้าวปลาอาหารการกินอยู่ในต่างแดนจะอุดมสมบูรณ์เพียงใดแต่ก็ไม่สุขใจเท่ากินข้าวกับน้ำพริกที่บ้านเรา ทันทีที่ฟ้าสางพอเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวบ้างก็รีบกุลีกุจออาบน้ำอาบท่าแต่งตัวมารอพิธีเคารพธงชาติที่ลาน sport deck ก่อนใคร นำกล้องส่องทางไกลมาส่องชมวิวเกาะภูเก็ตจากบนเรือ สวยเหลือเกิน น้ำทะเลสีฟ้าสดใส หาดทรายขาวสะอาด ตึกรามบ้านช่อง โรงแรม รีสอร์ท เรียงรายตลอดแนวยาวของหาด แสงไฟยังคงระยิบระยับแข่งกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องแสงระเรื่อสีทองเจิดจ้า เรือท่องเที่ยว เรือประมงจอดนิ่งสนิทเรียงราย นึกภูมิใจว่า เอาแค่น้ำทะเล ตึกรามบ้านช่อง หรือแม้กระทั่งเรือประมงของไทยเราก็งดงามกว่าชาติอื่นๆแล้ว วันนี้ไม่มีไทยพีวายคนไหนตื่นสายสักคน ทุกคนต่างมารอบนลานSport Deck ด้วยความตื่นเต้น ชุลมุนวุ่นวายกับการถ่ายรูปกันยกใหญ่ วันนี้ไทยทำหน้าที่เชิญธงชาติไทยและของประเทศสมาชิกขึ้นสู่ยอดเสา การเชิญธงชาติในแต่ละท่าเรือ เมื่อเรือเทียบท่าประเทศใด ประเทศนั้นจะเป็นผู้แทนทำพิธีเชิญธงชาติโดยธงชาตินั้นจะประดับบนเสาธงต้นกลางของแถวเสาธงที่ตั้งเรียงรายบนชั้นลอยของลาน Sport Deck 07.40 น.ท่าเรือภูเก็ต ผู้คนไม่มากนัก ไอ้อิฐบอกว่า คนที่นี่เขาไม่สนใจหรอกว่าที่นี่มีอะไร อาจจะแปลกใจบ้างที่เห็นเรือสำราญลำเขื่องสวยงามเข้ามาเทียบท่าซึ่งอาจจะไม่มีมาบ่อยครั้งนัก ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยว เต็มไปด้วยธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว 09.30 น. พิธีต้อนรับโดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ (สยช.) สมาคมเรือและพี่ๆ XPY มาต้อนรับอย่างอบอุ่น เสร็จจากพิธีต้อนรับคณะเยาวชนโครงการเรือทั้งหมดก็ขึ้นรถบัสไปทัศนศึกษาสถานที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต เริ่มจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต จากนั้นไปต่อที่หาดสุรินทร์ ผมไม่เคยเห็นหาดทรายที่ไหนทรายขาวสะอาดอย่างนี้นอกจากที่เกาะเสม็ดจังหวัดระยอง อดภูมิใจในความสวยงามของหาดทรายสวยงามของเมืองไทยที่อวดสายตาต่างชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ พีวายหญิงไทยหลายคนแทบจะกระโจนเข้าใส่แม่ค้าส้มตำหลังจากที่เจอแต่อาหารเลี่ยนๆกันมาหลายวัน จากนั้นก็พากันขึ้นไปยังยอดเขารังเป็นยอดเขาจุดชมวิวเมืองภูเก็ต มองเห็นทะเลและหาดทรายในมุมสูง ที่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งจิบกาแฟชมวิวกันที่นี่ นอกจากนั้นไปชมพิพิธภัณฑ์หอยมีจำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากเปลือกหอยทะเลนานาชนิดแต่ราคาค่อนข้างแพง จากนั้นนั่งรถต่อไปยังจุดชมวิวแหลมพรหมเทพ เคยเห็นแต่ในหนังสือ อ.ส.ท.ที่แม่ซื้ออ่านเป็นประจำที่ลงพิมพ์ไว้สวยงามชวนให้คิดว่าสักครั้งอยากมาชมสถานที่จริง วันนี้ได้มาเห็นแล้วเหมือนพรหมเทพสร้างไว้จริงๆ ภาพต้นตาลสองต้นยืนตระหง่านอยู่ไกลๆ สุดปลายแหลม เหมือนในหนังสือที่ผมเคยคิดว่าเป็นภาพในจินตนาการเสียมากกว่าคงไม่มีอยู่จริง เสียดายว่าไม่ได้เดินลงไปยังศาลาที่ตั้งเดียวดายสุดปลายแหลมนั้นเพราะเวลาน้อย จุดนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดไม่แพ้ที่แห่งใด 17.00 น.พิธี welcome ceremony โดยท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุรศักดิ์ เทียมประเสริฐ คนที่ผมขานนามสกุลท่านผิดตอนที่สอบมาโครงการเรือนี่แหละท่านมาเป็นประธานกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนโครงการเรือเยาวชนทั้ง 7 ชาติ พิธีจัด ณ ที่แห่งหนึ่งเป็นใต้ถุนอาคารไม้ทรงโบราณ น่าจะเป็นสถานที่สำคัญ ที่หนึ่งของจังหวัดภูเก็ต อากาศร้อนอบอ้าวและพวกเราใส่สูททำให้หงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อไปเปรียบเทียบกับประเทศอินโดนีเซียที่เขาจัดในอาคารโอ่อ่า ติดแอร์เย็นฉ่ำ แต่ภูเก็ตไทยเราก็กินขาดเรื่องวิวทิวทัศน์ ถ้าเป็นฝรั่งจะชอบแบบopen air นี้เสียมากกว่า18.00 น. งานเลี้ยงต้อนรับจัดที่โรงแรมหรูในจังหวัดภูเก็ต โดยท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต และจากสมาคมเรือเยาวชน การแสดงบนเวทีที่นี่คณะเยาวชนไทยเราจัดแสดงการรำมโนราห์โดยน้องแกะสาวน้อยจากพัทลุง ต่อด้วยการร้องเพลงประสานเสียงเพลงรักกันไว้เถิดของพวกเราพีวายไทยทุกคน งานเลี้ยงเลิกราก็ปาไป 5 ทุ่ม พวกเรากลับไปนอนที่เรือนิปปอนมารูหลับผล็อยเพราะเพลียมาทั้งวัน วันนี้เป็นวันที่พวกเราอบอุ่นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเรือมาได้แปดเก้าวัน เพราะที่นี่คือแผ่นดินไทย
Create Date : 06 มกราคม 2556 |
Last Update : 26 มกราคม 2556 23:07:09 น. |
|
10 comments
|
Counter : 3107 Pageviews. |
|
|