"เรื่องเล่าจากป่า" เป็นชื่อของรายการวิทยุกระจายเสียงที่ผมเองเป็นผู้ผลิตรายการและผู้ดำเนินรายการ หรือจะเรียกว่าผู้จัดรายการก็ได้ ตามที่นิยมเรียกกันอย่างนั้น แต่ผู้อาวุโสในวงการวิทยุกระจายเสียงท่านหนึ่งให้ความเห็นไว้ว่าผู้จัดรายการนั้นคือเจ้าหน้าที่ของสถานีที่มีหน้าที่เรียงร้อยรายการให้ตรงตามเวลาและนโยบายของสถานีวิทยุกระจายเสียงนั้น ดังนั้นผู้ที่ทำหน้าที่พูดปาวๆ หน้าไมค์ สัมภาษณ์คนโน้น คนนี้ เปิดเพลง สปอตต่างๆ บางคนทำเองทั้งหมด เราจะคุ้นเคยกันว่า ดีเจ (disk Jocking) นั่นเอง ซึ่งมิใช่ผู้จัดรายการในความเห็นของท่าน อาจจะค้านกับที่เราคุ้นเคย
รายการเรื่องเล่าจากป่าเป็นรายการของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกอากาศประจำอยู่ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 14.30-15.00 น. และขอความอนุเคราะห์จากกรมประมงด้วยความคุ้นเคยกับท่านผ.อ.ท่านหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปอบรมนักจัดรายการวิทยุรุ่นเดียวกัน ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์เวลาให้ทั้ง3สถานีคือ ประมงระยอง FM100.75 MHz ประมงเชียงราย FM103 MHz และที่กรุณาอย่างยิ่งที่คือ ประมงร้อยเอ็ด FM 100.6 MHz ด้วยไมตรีจากหัวหน้าสถานีและเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามเนื่องจากติดช่วงมหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ ที่ผ่านมาทำให้การติดต่อระหว่างสถานีต่างๆ ขาดตอนไป โดยเฉพาะสถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร AM 1386 KHz ต้องปิดการ on air ไปร่วมสองเดือนเหมือนกัน เพิ่งจะเปิดส่งกระจายเสียงเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง ยังหวั่นใจอยุ่เหมือนกันว่ารายการเรื่องเล่าจากป่าจะยังคงอยู่หรือไม่อย่างไร คงจะต้องออกไปสำรวจและเชื่อมความสัมพันธ์กับสถานีประมงทั้ง 3 สถานีอีกครั้ง
รายการเรื่องเล่าจากป่า เป็นการนำเอาเรื่องราวจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาเล่าสู่ให้คุณผู้ฟัง ประชาชนทั้วไปได้ทราบเรื่องราวของธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า ซึี่งเป็นเรื่องรอบตัวเราที่จะต้องตระหนักให้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่ส่งผลกระทบกันถ้วนทั่วที่เพ่ิงผ่านไปก็คือมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทย ผมเชื่อว่าชั่วอายุคนรุ่นนี้ไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อนแน่ แล้วก็ยังหวั่นใจกันต่อไปว่าปีหน้าน้ำจะมากันอีกหรือไม่ บางคนพูดกันว่าจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาคงเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ทุกฝ่ายคงต้องเตรียมการกันอย่างเต็มที่ ถ้าน้ำจะมาอีกคงไม่หนักเท่านี้ ถ้าไม่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเสียเหลือเกิน ผมคิดอย่างนั้น ก็ภาวนาขออย่ามาอีกเลย นี่ยังไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ซึนามิที่สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปมากมายมหาศาล ผุ้คนล้มตายนับหมื่นคน หลายเหตุการณ์เป็นสัณญาณบอกว่า โลกเราไม่ปกติแล้ว เมื่อปลายเดือนมีนาคม 54 ถึงเดือนเมษา หน้าร้อนแท้ๆ กันได้ไหม ในกรุงเทพอุณหภูมิ 13 องศา เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเรา กับโลกใบนี้ ที่มนุษย์เรา อณูเพียงเล็กๆ บนจักรวาล หรือ เอกภพนี้ ฤาจะไปเอาชนะธรรมชาติได้ หากเราไม่ดูแลธรรมชาติ
ทุกวันนี้กลุ่มประเทศต่างๆ ได้เริ่มรวมตัวกันบันทึกข้อตกลงต่างๆร่วมกันว่าจะไม่ทำร้ายทำลายโลกใบนี้กันให้มากกว่านี้อีกแล้ว ด้วนสนธิสัญญาต่างๆ เช่น พิธีสารเกียวโตที่เพิ่งจะต่อวาระ2 แม้จะมีบางประเทศมหาอำนาจของโลกยังไม่ได้เป็นภาคีสมาชิก แต่ทุกประเทศก็ต่างหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นถึง การปลดปล่อยก๊าซที่ไปทำลายชั้นบรรยากาศของโลก มีการตั้งกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ต่อไปประเทศที่ปลูกป่ามากๆจะนำไปแลกเป็นมูลค่าเม็ดเงินทดแทนจากประเทศพัฒนาแล้วที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนในการดูแลโลกใบนี้ ในขณะเดียวกันใครตัดไม้ทำลายป่า จะไม่ได้โดนคดีป่าไม้ซึ่งโทษรุนแรงไม่ทำให้มอดไม้เข็ดขยาด ต่อไปจะต้องมีการคำนวนเป็นมูลค่าความเสียหายต่อการทำลายธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคมโดยรวม ซึ่งก็เริ่มมีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว แต่บังเอิญเป็นชาวบ้านธรรมดา ที่ยังไม่รู้กฎหมายบ้านเมืองใหม่ที่จะต้องนำมาบังคับใช้ให้เกิดผลต่อไป เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติของโลกใบนี้ให้ยาวนานทีสุด
ท่านครับ "เด็ดดอกไม้ยังสะเทือนถึงดวงดาว"ได้ ไฉนเลยตัดต้นไม้มนุษย์มิคงสูญพันธุ์หรอกหรือ?
เคยคิดว่า เราคนเดียวพูดจะทำอะใรได้
แต่ก็ดีใจทุกครั้ง ที่ปากเดียวของเราที่เสนอให้คนเห็นคุณค่าของต้นไม้
แม้เพิ่มสำนึกได้เพียงคนเดียว ก็อาจเพิ่มจำนวนได้อีกเรื่อยๆเหมือนอมีบา
ดีใจทุกครั้งที่เห็นคนรักป่า รักต้นไม้
ขอบคุณค่ะ
มีอะใรให้ช่วยปชส. รบกวนบอกด้วยค่ะ