Eragon นักรบมังกรกู้แผ่นดิน

นิยายสุดดัง อลังการตำนวนกำลังจะกลายเป็นหนังส่งท้ายปี 2006 (2549) นี้นั้นก็คือ
ERAGON - นักรบมังกรกู้แผ่นดิน รูปแบบของเนื้อเรื่องนั้นเป็นแนว Fantasy ที่มีเรื่องของ
การต่อสู้แบบยุคกลาง มังกร เวทย์มนตร์  ซึ่งอาจจะมีกันถึง ไตรภาค กันทีเดียวเลย
(ดูแล้วอาจจะมีแนวไปใกล้เคียงกับ Lord of The Rings) ได้มาเป็นเกม style action arcade มันส์ๆ
โดยที่ผู้เล่นจะรับบทเป็นเด็กหนุ่มชื่อ Eragon อายุ 15 ที่อยู่ในบ้านที่ค่อนข้างยากจน อยู่กับ ลุง และ ลูกพี่ลูกน้อง

วันหนึ่งขณะไปล่าสัตว์ Eragon ได้ไปพบเจอกับ หินสีแปลกๆ และได้เข้าไปดู
จึงรู้ว่านั้นคือไข่ของมังกรที่ได้ฟักตัวขึ้นมา Eragonได้เก็บมาเลี้ยง และตั้งชื่อมันว่า Saphira (ซาฟิร่า)

Galbatorix เป็นกษัตริย์ปกครองดินแดน Alagaesia (ชื่อของดินแดนนี้) ผู้เคยเป็นนักขี้มังกรที่
โด่งดังในอนาจักร ได้เสียมังกรไป จึงต้องออกตามหามังกรตัวใหม่
ดังนั้นเพื่อตามหา Galbatorix จึงได้ส่งพวก Razac ออกเพื่อตามหามังกรตัวใหม่

เมื่อเข้าเกมจะเล่าเรื่องถึงจุดที่ Eragon ได้เริ่มต้นเที่ยวเล่น ซึ่งฉากนี้จะเป็นฉากฝึกหัด (Tutorial)
ในการใช้ทักษะต่างๆของเกม เช่น การฟันดาบต่างๆ การใช้ธนู และการปีนป่าย
โดยที่การปีนป่าย ห้อยโหนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกม แต่ก็ไม่ยากเย็นนัก เพราะแค่กดกระโดดจับก็สามารถปีนป่ายได้แล้ว

การต่อสู้ด้วยการฟันต่างๆจะใช้ 2 ปุ่ม ซึ่งถ้ากดเป็นระยะ ก็จะสามารถทำท่าทางที่แตกต่างกันออกไป
แล้วยังสามารถร่วมกับปุ่ม กระโดด ได้ ก็จะกลายเป้นกระโดดฟัน กระโดดแทง
นอกจากนี้ยังมี ธนู คู่ใจ ซึ่งเป็นอาวุธระยะไกลที่ช่วยเหลือเรากำจัดศัตรูที่อยู่ ไกลๆได้

สำหรับ eragon แล้ว ความสามารถพิเศษเนื่องจากเป็นนักรบมังกรนั้นก็คือ มีเวทย์มนตร์
ตามเนื้อเรื่องของเกม eragon มีเวทย์ด้วยการค้นพบโดยบังเอิญ เพราะฉนั้นคุณจะไม่ได้เวทย์ดีๆใช้ในตอนแรกๆแน่
จึงจะต้องเล่นไปตามเกม และในขั้นแรกๆ คุณจะได้เวทย์ควบคุมสิ่งต่างๆระยะไกลได้ (แต่ใช้ได้ในเฉพาะบางที่)
สามารถใช้หอก ยิงแทงศัตรู ตายในครั้งเดียว เมื่อผ่านฉากไป eragon จะได้เรียนเวทย์พลังจิต
ที่สามารถดึงศัตรูและผลักศัตรู นั้นมีประโยชน์อย่างมาก
ซึ่งถ้าผู้เล่นใช้กับศัตรูที่อยู่บนพื้นที่กว้างๆ ก็จะทำให้ศัตรูเสียจังหวะ และสามารถโจมตีได้ง่าย
และถ้าอยู่บนพื้นที่แคบๆ หรือ หน้าผา จะสามารถผลักศัตรูให้ตกลงไปได้เลย โดยไม่ต้องโจมตีให้มาก
ธนูธรรมดาสามารถเพิ่มพลังเวทย์ เข้าไปทำให้เป็นเหมือนธนูระเบิด ยิงแล้วศัตรูล้มกันเป็นกลุ่มได้ด้วย
นอกนั้นยังมีเวทย์จุดไฟ เวทย์ป้องกันชั่วคราว และเรียก Saphira มาช่วยโจมตีในบางฉากได้ด้วย

ถึงแม้เวทย์จะดีเด่นเพียงใด แต่ก็มีข้อจำกัด ดังนั้นการใช้เวทย์ จึงไม่สามารถใช้ได้บ่อยๆได้
โดยที่จะต้องรอพลังงาน แถบน้ำเงินขึ้นให้เต็มก่อน ซึ่งจะขึ้นเร็วต่างกัน ขึ้นกับการใช้เวทย์อะไรไปก่อนหน้านี้

ฉากที่จะว่าประทับใจที่สุดในเกมเลยก็ได้ จากการที่ เป็นนักรบแห่งมังกร ก็ควรจะต้อง ขับ/ขี่ มังกรได้น่ะสิ
จะมีอยู่บางฉากของเกมที่ให้ขับขี่ saphira แต่เป้าหมายอาจจะแตกต่างกันไป เช่น ฉากแรกเป็นฝึกหัด
การขับ saphira นั้น สามารถ ยิงธนูวิเศษ / พ่นไฟเผา / แล้วยังมี Turbo Speed เพื่อทำให้บินเร็วได้ด้วย
แต่ข้อแม้ในการขับนั้นจะต้องไม่ชน หรือไม่โดนศัตรูยิง

เกมสามารถเล่นได้ 2 คนพร้อมกัน โดยที่คุณอาจจะเล่นบน Keyboard เดียวกัน
(อาจจะนั่งเบียดกันไปสักหน่อย) หรือถ้ามี Gamepad ดีๆก็ร่วมกันเล่นก็ยังได้
เพราะเกมจะบอกให้ตอนเข้าเลยว่า คุณควรจะใช้ Gamepad ในการเล่น
และปัญหาหลักๆของเกม ก็คือการไม่สามารถปรับเปลี่ยนปุ่ม ในการเล่นสำหรับ Keyboard

เนื่องจากเกมต้องดำเนินเรื่องไปกันเป็นคู่ เมื่อเริ่มต้นเกมนั้นจะมี Brom มาด้วย
และเมื่อมีคนเล่นแค่คนเดียว Computer ก็จะเข้าควบคุมคู่ขาให้เอง ซึ่งค่อยข้างมีประโยชน์และฉลาดไม่น้อยหน้าเลย
จะเห็นจากการตามผู้เล่นนี่เอง ไม่ว่าจะปีนป่ายยังไงก็จะทำตาม และการต่อสู้นั้น ก็มักจะวิ่งรับหน้าศัตรูให้
ซึ่งเปิดโอกาศให้ผู้เล่นได้ใส่เวทย์ หรือช่วยการโจมตีก็ได้ หรือ ถ้ากำลังโจมตีศัตรูอยู่ก็จะมาช่วย Action ด้วย

เกมจะใช้ระบบ Checkpoint เมื่อตาย จึงจะย้อนกลับมายัง Checkpoint ก่อนหน้านั้น ซึ่งไม่สั้นมาก
และระหว่างด่าน เซฟแยกกันไปได้

Graphic ภาพอยู่ในระดับที่ละเอียดพอสมควรสำหรับฉากที่งดงามในแต่ละพื้นที่ แต่ตัวละครต่างๆของ Model ค่อนข้างซ่ำซาก
เกมไม่มีระบบ Physic เวอร์ๆ หรือ Shader เวอร์ๆให้กินเครื่องหนัก
มุมกล้องของเกมจะตามผู้เล่นไปตามเกมที่วางไว้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ผู้เล่นอาจจะอึดอัด
สำหรับ Cut Scene - Movie อาจจะค่อนข้างดูไร้ระดับ เพราะเกมใช้ 2D Animation มาผสมปนกัน
(ไม่ใช่ ฉากในส่วนของภาพยนตร์แต่อย่างใด)

Sound ไม่มีสิ่งพิเศษ ให้ประทับใจสักเท่าไร เพราะ Sound Effect ใช้ความละเอียดค่อนข้างต่ำ
ดนตรีประกอบส่วนหนึ่งในภาพยนตร์

ข้อดีหลักๆของเกม

• การขับขี่มังกรที่น่าตื่นเต้น ถึงแม้จะมีฉากเหล่าไม่มาก
• เพื่อนร่วมทางที่ควบคุมด้วย AI ฉลาดพอสมควร

ข้อเสียสุดๆของเกม

• ไม่สามารถเปลี่ยนปุ่มบังคับของ Keyboard ได้ เหมาะสำหรับการใช้ Gamepad
• ไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองกล้องได้
• เมาส์ไร้ประโยชน์ (เกมไม่ใช้เมาส์ แม้แต่เมนูหลัก)
• Graphic และส่วนของ Model ที่ซ้ำซาก
• CutScene ไม่แจ่ม (ซึ่งควรจะกดปุ่มข้ามๆไป และไปดูที่ภาพยนตร์มากกว่า)

สรุป โดยรวม Eragon เป็นเกมที่เล่นได้สบายๆ ไม่ยากเย็น ผสมระหว่างการต่อสู้ แก้ไขปัญหาเล็กน้อย
ให้ผ่านเป็นฉากๆไป ซึ่งจะได้อารมณ์กว่านี้หากได้รับชมภาพยนตร์ไปด้วย

จึงสรุปได้คะแนนระดับ ปลานกลาง (Medium) : 3/5 points

Create Date : 25 ธันวาคม 2549		6 comments
Last Update : 25 ธันวาคม 2549 13:53:10 น.
Counter : 13222 Pageviews.
Share Tweet