ขยายความว่า ประเด็นคำว่า"วิชชาธรรมกาย" คำนี้ความจริงแล้ว เกิดจากการนำคำสองคำมารวมกันคือ ๑. "วิชชา" ๒. "ธรรมกาย" หลายๆท่านเมื่อใด้ยินคำว่า "วิชชาธรรมกาย" มักจะมองภาพว่ามันคือวิชาหนึ่งที่อุตริคิดขึ้นมาใหม่(หลายๆท่านพลอยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลัทธใหม่) เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วในหมู่ชาวพุทธว่า "อวิชชา" คือเหตุที่ทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ในภพสามนี้ ดังนั้นหากเราสามารถขจัดอวิชชาให้หมดไปจากใจเราใด้ ก็ต้อง อาศัยการเจริญภาวนา อันดำเนินตาม หลักมัชฌิมาปฏิปทา ในอริยมรรคมีองค์แปดประการ ดังนั้น "วิชชา" คือสิ่งที่ตรงข้ามกับ "อวิชชา" ซึ่งในส่วนนี้หลวงปู่วัดปากน้ำท่านอธิบายขยายความให้ทราบว่าว่า หากเราสามารถปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมกาย( กายธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในมนุษย์ทุกคน เพียงแต่เพราะว่าถูกกิเลสบดบังใจอยู่เลยทำให้มองไม่เห็นตัวตนคือธรรมกายที่แท้จริง ) ก็จะเกิดวิชชาขึ้นมา ดังที่มีตรัสอยู่ใน ---------------------------------- "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" ความว่า [๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ทุกขอริยสัจ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา(จักษุ) ญาณ ปัญญา วิชชา(บางท่านแปลว่า วิทยา) แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขอริยสัจนี้นั้นแล ควรกำหนดรู้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขอริยสัจนี้นั้นแล เราก็ได้กำหนดรู้แล้ว. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ทุกขสมุทัยอริยสัจ............----------------------------------------- ซึ่ง"วิชชา"ที่เกิดขึ้นนี้ จะเกิดมาจาก"ธรรมกาย" เพราะธรรมกาย มี "ธรรมจักษุ" จึงมีการเห็นเกิดขึ้นและเพราะการเห็นด้วย"ธรรมจักษุ" จึงทำให้เกิดความรู้ ที่ รู้ด้วย"ญาณ" (ไม่ใช่วิญญาณ) เมื่อมี"ญาณ" จึงเกิด "ปัญญา" เมื่อมีปัญญา จึงเกิด"วิชชา" และ"แสงสว่าง" จะพบว่า เมื่อ"เข้าถึงธรรมกาย"และ"เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมกาย"(เป็นธรรมกาย)แล้ว จะมี สิ่งที่เกิดขึ้นมา ๕ อย่างคือ ๑. จักษุ(ธรรมจักษุ) ๒. ญาณ ๓. ปัญญา ๔. วิชชา ๕. แสงสว่าง ซึ่งหากอธิบายในขั้นของการปฏิบัติจะพบว่า ทั้ง ห้า อย่างนี้จะเกิดขึ้นพร้อมกัน และเกื้อกูลกันทั้งหมด และเมื่อ ห้าอย่างนี้เกิดขึ้น ความไม่รู้(อวิชชา)ก็จะดับไป เราจะเห็นทุกอย่างถูกต้องตรงไปตามความเป็นจริง(ไม่ต้องใช้สมองคิดเลย เพราะเลยระดับของการใช้สมองคิดแบบกายเนื้อแล้ว) ซึ่งปกติตาเนื้อของเรานั้นจะมีขอบเขตการรับรู้ที่จำกัด แต่"ธรรมจักษุ" จะมีขีดความสามารถรู้เห็นใด้ทุกอย่างที่ต้องการตลอดทั้งภพสาม (รวมถึงนิพาน)ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง นรก สวรรค์ อดีต อนาคต ดังนั้น ในทางพระพุทธศาสนาจึงมี "วิชชา๓" , "วิชชา๘" , "อภิญญา๖" , "ปฏิสัมภิทาญาณ๔" เป็นต้น ดังนั้นหลวงปู่ท่านเลยเรียกสรุปว่า "วิชชาธรรมกาย" ซึ่งโดยนัยยะก็คือ"ความรู้อันเกิดจากการเห็นแจ้ง(เพราะเห็นจึงรู้ตามนั้น) ของธรรมกาย" และหากจะให้เข้าใจง่ายๆสำหรับผู้ที่ยังใหม่ก็คือ วิชชาธรรมกาย ที่สอนนั้น แท้จริงแล้ว ก็คือ "วิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึง ธรรมกาย ที่มีอยู่แล้วภายในตัวของมนุษย์ทุกคน" นั่นเอง ปล.หลวงพ่อท่านเคยบอกว่า อาศัยอนัตตา(กายเนื้อ)เข้าสู่อัตตา(กายธรรม) ภาพจำลองลักษณะของพระธรรมกาย   Create Date : 11 มีนาคม 2548 15 comments Last Update : 26 สิงหาคม 2553 5:18:25 น. Counter : 1578 Pageviews. Share Tweet

มารับเรียนรู้ธรรมมะ   โดย: zaesun 11 มีนาคม 2548 23:13:47 น.

ทำไม พระพุทธรูปถึงต้องเป็นรูปแบบนี้ครับ ไม่เห็นเหมือนตามวัดปกติ เลย หรือ ว่า design ขึ้นมาใหม่ครับ   โดย: งับๆๆ IP: 203.144.187.18 11 มีนาคม 2548 23:50:19 น.

ภาพที่เอามาลงในนี้ คือภาพจำลองลักษณะของ"พระธรรมกาย"หรือกายที่แท้จริงของเราในระดับโลกุตระที่มีอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุกๆคนครับ พระธรรมกายจะมีลักษณะใสๆบริสุทธิ์ สว่าง พระธรรมกายนี้เราสามารถเห็นใด้ทุกคน หากใจของเราสงบ หยุดนิ่ง สะอาด และบริสุทธิ์ และใจมีความละเอียดเท่ากับพระธรรมกาย ก็จะเห็นพระธรรมกายใด้   โดย: Jherora 11 มีนาคม 2548 23:57:38 น.

แล้ว072คือรัยหรือ   โดย: อลัม IP: 58.10.234.162 11 กันยายน 2549 21:04:02 น.

แวะมาเยี่ยมค๊าบบบ :-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-: อนุโมทนาบุญด้วยนะค๊าบบ   โดย: ChasteGriffin 30 กันยายน 2549 3:39:32 น.

072 หมายถึง ศูนย์กลางกาย ฐานที่เจ็ด เหนือสดือสองนิ้วมือ ครับ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dmc&month=03-2005&date=12&group=9&blog=1   โดย: ผ่านมา IP: 218.168.185.211 18 ตุลาคม 2549 17:32:53 น.

เราไปวัดกับครอบครัวของแฟนทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน โดยส่วนตัวนั้น เราได้เข้าวัดธรรมกายตั้งแต่อายุประมาณ15 โดยการเข้ามาเป็นอาสาสมัครกับอาจารย์ที่โรงเรียน ตั้งแต่นั่งสมาธิ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ที่เรามักจะเห็นดวงแก้วกลม ๆ ใสๆ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เมื่อนั่งสมาธิ แต่เราไม่ได้ใส่ใจเลย จนเมื่อต้นปีเราบอกกับแม่แฟนว่า เราเห็นดวงแก้วมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แม่แฟนบอกว่าจงรักษาดวงแก้วนี้ไว้ให้ดี และมีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ เรานั่งสมาธิโดยมองเห็นองค์พระ แต่ว่ายังเป็นสีเทา ๆ และหันหลังให้เรา เรารู้สึกประหลาดใจ แต่องค์พระก็หายไป ผ่านไปอีกหลายวัน เรานั่งสมาธิอีก ตอนนี้เราได้เห็นองค์พระแล้ว ใสกว่าเดิมและนั่งหันหน้ามาทางเรา นี่คือสิ่งที่เราได้พบเจอมานั่นเอง   โดย: ศรัทธา IP: 61.7.149.35 30 ตุลาคม 2550 15:59:23 น.

ขอบคุณค่ะ   โดย: น้องอ้น IP: 203.113.61.197 5 มกราคม 2551 19:55:17 น.

ลองมาปฎิบัติตามท่านดูก่อนไหมคะ ดีไม่ดีค่อยว่ากัน กล้ารึปล่าว?   โดย: ปลายิ้ม IP: 124.157.136.120 5 กันยายน 2551 11:55:12 น.

ทุกศาสนาสอนให้คนเปงคนดี อ่านแล้ว หากไม่เข้าใจ อยากเรียนรู้ก็ต้องลองปฎิบัติดู ว่าดีจริงไหม พิสูจน์ได้นะ แต่ว่าสีที่ใช้นี้ปวดตามากมาย ขอบอก ช่วยแก้ไขด้วยนะ ขอบคุณนะ   โดย: บุญญา IP: 124.122.157.194 26 กันยายน 2551 18:30:43 น.

ทำไปเถอะไม่หลงทางหรอก แล้วจะไดคำตอบเองที่มีคุณค่ามหาศาล ขอบอก   โดย: เชื่อมั่น IP: 125.27.115.6 5 ตุลาคม 2552 19:31:30 น.

เมื่อคุณฝึกได้แล้ว คุณจะรู้ว่าตรงไหนที่คุณคู่ควร ต่อไปไม่รุ่น 7000 แล้ว จะมีคนที่พบความสุขแล้วจะมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขอบอก   โดย: เชื่อมั่น IP: 125.27.115.6 5 ตุลาคม 2552 19:36:34 น.

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สำหรับท่านที่เข้าถึงความสุขแห่งธรรมกาย   โดย: เทวัญ IP: 67.228.166.110 7 ตุลาคม 2552 9:46:28 น.

เป็นกำลังใจให้คุณเทวัญรุ่น7พัน ลูกหลานหลวงปู่สดทั้งนั้นที่มาบวชกัน กลับมาสู่หมู่คณะแล้วขอให้มีกำลังใจต่อไป เมื่อสมัยดิฉันเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง ดิฉันก็รู้สึกว่าที่วัดคนเยอะค่ะ ได้เข้ามาสมัยสภาหลังคามุงจากหลังเก่า (ที่หนังสือพิมพ์พากันลงข่าวว่าเป็นที่เก็บอาวุธน่ะค่ะ) ต่อมาคุณแม่ก็ต้องนั่งรถจากต่างจังหวัด เข้ามายืนจับมือข้าวต้มมัดกับผู้นำบุญ ทำเป็นรั้วคนหลาย ๆ ชั้น เพื่อกันไม่ให้ตำรวจถือปืนกรูเข้ามาในวัดนะคะ และเคยทราบไหมคะว่า คนบนรถบัสที่มาวัดต้องแอบเก็บเสื้อขาวไว้ในกระเป๋า แล้วใส่เสื้อสี ตีกลองร้องเพลงบนรถ เพื่อไม่ให้ตำรวจสกัดรถบัสของพวกเราผู้มาวัดพระธรรมกาย พวกเราผ่านเหตุการณ์กันมาหลายรูปแบบ แต่เราต้องช่วยกันเผยแพร่พระธรรมของพระพุทธเจ้าค่ะ พวกเราเกิดมาเพื่อช่วยหลวงพ่อนะคะ พวกเราเกิดมาเพื่อช่วยหลวงพ่อค่ะ   โดย: กมกม IP: 192.168.10.14, 125.25.131.92 17 กุมภาพันธ์ 2553 20:55:30 น.

พระพุทธเจ้าตรัส สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา อนัตตา คือ อะไร ได้แก่ อัตตา อัตตภาพ ร่างกาย อนึ่ง อัตตา จิต อัตตภาพกับจิตนี้ เป็นอัตตา แต่ร่างกายเป็นสิ่งก่อรูปมาจากธาตุ ๔/๖ ดิน-น้ำ-ไฟ-ลม-อากาส-วิญญาณ จึงย่อมแตกสลายไปเป็นธรรมดา แยกไหลไปสู่สภาพเดิม ดินไปสู่ดินเป็นต้น ฉะนั้นสภาพเดิมก็ไม่เป็นอัตตา ถูกแยกสลายไปเป็นอณู ปรมาณู อณู-ปรมาณู มีคงอยู่ในโลกเสมอมา จนมีคนค้นพบ จึงว่าร่างกายไม่เป็นอัตตาแท้ ส่วนจิต มีส่วนประกอบเรียกว่าเจตสิก รูป-เวทนา -สัญญา-สังขาร-วิญญาณ คำว่าวิญญาณในร่างกายกัยวิญญาณในจิตต่างกันนะ จิตเป็นอัตตา ครองบุญ/บาป/สภาพมิใช่บุญมิใช่บาป ไปจุติอุบัติในชาติภพอื่น ๆ ในจิตนี้มีกิเลสอาสวะติดไปด้วย จนกว่าจะเข้าถึงพระธรรมกาย กิเลสอาสวะจึงถึงการประหานเด็ดขาด(ประหาน-มิใช่ประหาร)เหมือนสนิมถูกกำจัดจากเหล็ก หรือ เพชรที่ได้รับการจรนัยดีแล้วฉะนั้น จิตนี้เป็นอนัตตาและธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตา เพราะไม่มีอัตตาเป็นเพียงแต่นามธรรม แต่จิตหมดจดกิเลสอาสวะเป็น จิตบรมสุข เป็นนิพฺพานํ ปรมํ สุขํ   โดย: กวี ธมฺมกวิอุบาสก IP: 61.7.169.79 20 กรกฎาคม 2553 21:00:42 น.