------- ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ก้าวย่างสำคัญของวงการโทรทัศน์ไทยกับการจัด "เรท" รายการทีวี (1) ------
ผมนั่งเขียนข้อเขียนนี้ตอนห้าทุ่ม หลังจากกลับมาจากบ้านที่พิษณุโลกพร้อมกับฟังข่าวต้นชั่วโมงในวิทยุว่า วันที่ 1 ธันวาคมนี้จะเริ่มมีการประกาศใช้ เรทติ้ง กับรายการทีวีทุกช่องทุกรายการ
น่าเสียดายว่าตอนที่ผมได้ยิน ผมมีโอกาสฟังแค่เพียงหัวข้อข่าวเท่านั้น (เพราะเป็นช่วงสรุปข่าวประจำวันตอนห้าโมงเย็น) กลับมาถึงหอก็ไปร้านเนตเพื่อค้นข่าวแต่ท้ายที่สุดก็ลืมเสียอย่างนั้น เพราะดันมัวแต่เข้าไปอ่านบล็อกชาวบ้านพร้อมกับปรับปรุงเวบ myspace ของค่ายเพลง ฮก ลก ซิ่ว นิดหน่อย
ดังนั้นข้อเขียนนี้ผมเองก็ไม่รู้ครับว่าจะออกมารูปร่างหน้าตาแบบไหน เพราะผมแทบไม่รู้อะไรเลย (แล้วจะเขียนทำไม 555)
ก่อนอื่นก็คงต้องแสดงความยินดีกับวงการสื่อไทยที่สามารถก้าวย่างสู่ภูมิปัญญาขั้นที่สองของเจ็ดพิศดารได้เสียที ภูมิปัญญาไอ้ที่ว่านี้ก็คือการจัดระเบียบสื่อด้วยการใช้เรตติ้งนี้แหละครับ เรตติ้งที่ว่านี้มิใช่การให้คะแนนว่ารายการไหนดีให้สิบ รายการไหนแย่ให้ศูนย์ หรือว่าเรตติ้งจากจำนวนคนชมที่พวกเอเยนซี่โฆษณาเขาใช้ในการพิจารณาเวลาจะซื้อโฆษณารายการต่าง ๆ (วัดอย่างไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน)
เรตติ้งที่ว่านี้การให้คะแนนเหมือนกัน แต่มักจะออกมาในรูปตัวอักษร เรตติ้งเหล่านี้จะบอกครับว่ารายการเหล่านี้จัดอยู่ในเนื้อหาแบบใด และจัดไว้ให้คนกลุ่มไหนดู
ความจริงในทัศนะส่วนตัวของผม การจัดเรตติ้งแบ่งได้หลายแบบมาก ๆ ไม่ต่างอะไรกับเราแบ่งสัตว์ เราใช้เกณฑ์จำนวนขา วิธีการใช้ชีวิต ไปจนถึงความดีความงาม (เช่นพวกคนทำตัวเหมือนสัตว์ ไม่ก็หมานิสัยคนอะไรเทือกนี้) เรตติ้งเหล่านี้ก็เช่นเดียวกันครับ เราใช้เกณฑ์ว่าเป็นรายการรูปแบบไหน บันเทิง เพลง ข่าว สารคดี ฯลฯ มาแบ่งก็ได้ หรือจะแบ่งตามกลุ่มคนดูเป็นช่วงวัย เช่น รายการเด็ก รายการวัยรุ่น อะไรแบบนี้ แต่ที่ฮิตและถูกนำมาใช้กันมากโดยเฉพาะในการจัดเรตติ้งหนังของอเมริกาคือ การใช้เกณฑ์ความเหมาะสมของเนื้อหานั้นเอง
การแบ่งเรทหนังแบบอเมริกา เราก็คงรู้กันอยู่ว่ามี G, PG, PG-13, R และ NC 17 แต่ละอันผมไม่ขออธิบายนะครับเพราะคิดว่าน่าจะรู้กันอยู่แล้ว หนังพวกเรท R กับ NC17 ก็คือพวกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและเซ็กซ์รุนแรง พวกนี้เขามีวิธีการง่าย ๆ เวลาดูครับ สมมติมีคำว่า fuck หลุดออกมาหนึ่งคำ เจอเรท R แน่นอน แต่ถ้าชักโหดร้ายป่าเถื่อน ไร้ศีลธรรมกันมาก ก็เชิญรับ NC-17 ไป
ผมพิจารณาดูแล้วพบว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้ครับ การวัดจากปริมาณคำหยาบในเชิงปริมาณ (คือนับความถี่) รวมไปถึงการพิจารณาเชิงศีลธรรม (เชิงคุณภาพนั้น) มักไม่ปรากฎในหนังเรทตั้งแต่ PG-13 ลงไป แต่ความจริงแล้วเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ในนั้นบางทีมันอาจรุนแรงกว่าการด่า fuck ก็ได้
ผมยกตัวอย่างการ์ตูนอย่าง Tom and Jerry ละกัน ทุกคนเคยดูนะครับการ์ตูนเรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก แค่แมววิ่งไล่หนู โดยที่หนูจะแก้เผ็ดด้วยความเจ็บปวดต่าง ๆ ไว้ต้อนรับน้องทอม แมวผู้โชคร้าย ใครมาจัดเรทหนังเรื่องนี้รับรองว่าได้เรท G คือดูได้ทุกเพศทุกวัย เด็กดูคนเดียวได้โดยไม่ต้องมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ
ใครจะคิดครับว่าไอ้หนังการ์ตูนแบบนี้แหละที่หลุดลอดจากการจัดเรทนี้จะเป็นอาวุธที่เสี้ยมสอนสำนึกให้เด็กชอบความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว ยิ่งดูมากเข้า ๆ มันก็ยิ่งซึมเข้าไป ค่อย ๆ เปลี่ยนพฤติกรรมช้า ๆ บางทีมาแสดงออกตอนโต หลายท่านอาจคิดแย้งในใจว่าเป็นไปได้อย่างไร นี้มันการ์ตูนนะโว้ย เออ ถ้าเป็น การ์ตูนโรคจิตแบบ Happy Tree Friends ก็ว่าไปอย่าง
ผมว่าการ์ตูนอย่าง Happy Tree Friends นี้ยังน่ากลัวน้อยกว่าอีก ที่น่ากลัวน้อยกว่าเพราะว่ามันชัดแจ้งเด่นชัดเจนนะครับว่าการ์ตูนมันโหด แต่การ์ตูนแบบ Tom and Jerry นี้เป็นความรุนแรงที่ดูแล้วขำ เราไม่ค่อยรู้สึกสงสารทอมเท่าไรเวลาโดนแก้เผ็ดแรง ๆ ใคร ๆ ดูก็เอาใจช่วยเจอรี่ ไม่เห็นมีใครเชียร์ทอมบ้างเลย (หรือมีผมก็ไม่รู้)
การ์ตูนแนวนี้สะท้อนภาพความคิดรุนแรงหลายอย่างออกมานะครับ อาทิเช่น หากใครทำร้ายเรา เราก็อย่าปล่อยให้โดนฝ่ายเดียว แต่ต้องการหาหนทางแก้เผ็ดด้วยความรุนแรงกลับไป ซึ่งไอ้ความคิดนี้น่ากลัวนะครับ หนังหลายเรื่องสะท้อนออกมาแล้วว่าคนบนโลกใบนี้โดยเฉพาะอเมริกาเป็นพวกใครแรงมาข้าแรงไป ผิดกับคนไทยที่ส่วนใหญ่ถ้าไม่ร้ายแรงเราก็ปล่อย ๆ ไปให้อภัยไม่ถือโทษเอาผิดเขา (ลองดูหนังอย่าง Bowling for Columbine หรือ A History of Violence ดูนะครับ) นอกจากนั้นเด็กที่ถูกปลูกฝังแบบไม่รู้ตัวมานี้จะเข้าใจว่าโลกใบนี้การใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ผิดอะไร มีเรื่องอะไรใช้กำลังเข้าว่า ต่อยก่อนค่อยถาม จนนำไปสู่การใช้กำลังเพื่อการแก้ปัญหาอย่างกับย้อนไปอยู่ยุคหิน Primitive ที่ใช้หินทุบหัวกัน
ความจริงเรื่องความรุนแรงมันแฝงอยู่ในหนังทุกแนว รายการทีวีเกือบทุกช่อง (การที่เราหัวเราะตลกเวลาโดนตีหัวก็เป็นการเสพความสนุกบนความรุนแรงผู้อื่น) แต่ที่ผมหยิบเอาการ์ตูนขึ้นมาพูดเพราะว่าเรามักมองข้ามไปครับ ด้วยเห็นว่ามันคงไม่มีพิษภัย แต่หารู้ไม่ว่านั้นคือลูกอมอาบยาพิษดี ๆ นี้เอง
ยังไม่ได้พูดถึงการจัดเรทรายการทีวีไทยเลย เอาไว้คราวหน้ามาว่ากันต่อนะครับ
ป.ล. ขอแสดงความเสียใจต่อวงการภาพยนตร์ที่สูญเสียผู้กำกับผู้ยิ่งใหญ่อีกคนอย่าง Robert Altman ครับ
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2549 |
|
24 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2549 11:01:44 น. |
Counter : 1299 Pageviews. |
|
|
|
ส่วนตัวแล้วผมว่าก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะสำหรับบ้าเนรา
ส่วนจะได้ผลดีมากดีน้อยแค่ไหน ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
แล้วก็ค่อยๆปรับให้เข้าที่เข้าทางตามสถานการณ์ทางสังคมบ้านเราน่ะนะ