|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โอ้!!! เพลงนี้ ฉันมีความหลัง..................
เมื่อคืนผมฟัง Fat Radio ช่วงดึกมากกับดีเจโด๋วช่วงชั่วโมงเพลงจี๊ดๆๆๆๆๆ ฟังเพลงที่แต่ละคนโทรเข้ามาขอพร้อมบอกเรื่องราวครั้งอดีตอันฝังใจแล้วจี๊ดจริง ๆ ผมว่าใคร ๆ ก็มีเพลงจี๊ดประจำใจนะครับ ผมมานึกดูว่าถ้าผมจะเล่าเรื่องเพลงจี๊ดของผมบ้างจะมีเพลงอะไรบ้างหนอ คิดไปคิดมาเปลี่ยนใจดีกว่า เอาเป็นมาเล่าเรื่องเพลงที่ผมมีความหลังดีกว่า
แต่ความหลังในที่นี้ไม่ใช่ว่าอกหักเพ้อรักแล้วเพลงนั้นมันดังพอดีนะครับ ความหลังในที่นี้ประมาณว่าในช่วงนั้น ๆ เพลงเหล่านี้มีเหมือนอยู่เป็นแบคกราวด์ให้กับชีวิตของผม ผมว่าชีวิตเราทุกคนต้องมี Sound track ผมก็ว่านี้แหละซาวด์แทรกซ์ชีวิตผม 555
ขอเอาแต่เพลงไทยละกันนะครับ เพราะเพลงฝรั่งรวมไปถึงเพลงญี่ปุ่นที่ฟังในตอนอดีตผมมีแต่เทป ริปเอามายาก (เห็นผมเป็นเด็กแนวแบบนี้ เมื่อก่อนผมนิยมและเชี่ยวชาญเพลงแนว Black Contemporary มากเลยนะครับ เพลงพวกผิวดำร้องเสียงเวอร์ ๆ ประสานเสียงกันระงมนี้ชอบมาก)
ช่วงเป็นเด็ก ม.ต้น นอกจากเพลง R&B และ Soul ของคนดำแล้ว ผมเริ่มฟังเพลงไทยที่แปลกออกไปจากตลาด ตั้งแต่ ม.2 ถึง ม.3 ผมกับเพื่อนใช้ระบบซื้อแล้วแลกกันฟัง เพราะแม้ว่าเทปจะม้วนแค่เจ็ดสิบบาท แต่ก็ถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับเด็ก ๆ มัธยมต้นบ้านนอกอย่างผม ยุคนั้นหลายคนคงจำได้ว่านี้คือยุค Alternative ครองเมือง เทปออกมากันให้พรึบ วงมากหน้าทยอยกันออกมาเจ๊ง เพลงที่ฝ่ากระแสคลื่นล้มเหลวมีไม่กี่วง แล้วหนึ่งในนั้นคือ งานของ นครินทร์ กิ่งศักดิ์
ผมรู้จักพี่ป้างครั้งแรกจากการดูชาร์ตเพลงใน Nation Junior อัลบั้มของพี่เขาขึ้นอันดับหนึ่งหลายเพลงและเป็นเวลายาวนาน ผมก็เกิดความสงสัยไม่น้อยว่าตานี้คือใคร ชื่อก็ไม่คุ้น เพลงก็ไม่เห็นเคยเปิดในวิทยุ (แถวบ้านผมตอนนั้นคีตาครองตลาด) ผมตัดสินใจไปซื้อเทปแกมาฟัง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้ฟังเพลงของพี่ป้าง ผมก็ปวารณาตัวเป็นสาวกแกตั้งแต่นั้นมา เอาง่าย ๆ ว่ามีเทปทุกม้วนนะครับ
สบายดี ประตู อยากเด็ก ที่ว่าการอำเภอ เอื้อมไม่ถึง ฯลฯ ล้วนอยู่ในสมองผมอยู่นานหลายปี นี้เป็นอัลบั้มที่เปลี่ยนโลกทัศน์ในการฟังเพลงของผมพอสมควร อย่างน้อยความสนใจในรายการเพลงแกรมมี่ก็ลดลง
ยุค ม.ปลาย การฟังเพลงเน้นไปแต่ที่เพลงโหด โดยเฉพาะฟัง J-Rock ตามขนมนิยมในขณะนั้น การฟังเพลงไทยห่างหายไปพอควร เรียกได้ว่าแทบไม่ได้หยิบเพลงขึ้นมาฟังไปพร้อม ๆ กับการล่มสลายของยุคอัลเตอร์เนทีฟบ้านเราที่เน้นปริมาณแต่คุณภาพไม่ค่อยตามมาเท่าใดนัก
ขึ้นปีหนึ่ง ผมเรียนที่เชียงใหม่ แม้ว่าด้านเพลงจะไม่เจริญเท่ากรุงเทพฯก็ตาม แต่ก็ยังพอมีคนรู้ให้ได้พอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเพลงอยู่ไม่น้อย ผมขึ้นปีหนึ่งใหม่ ๆ เป็นคราวแรกที่ paradox วางขายชุด Summer และ Silly Fool วางขายงานชุด Mint
ผมเองในคราแรกไม่ค่อยปลื้มงานของพาราดอกซ์เท่าไรเพราะเมทผมใช้ระบบเปิดยัดเยียดให้ฟังจนไม่รู้สึกว่ามันเพราะ ผมมาชอบพาราดอกซ์มาก ๆ ก็ตอนออกชุด On the Beach แล้วพอมาตามฟังแล้วอยากฟังจริง ๆ แล้วก็หลงในมนต์ของ Summer แบบเต็มเปา ส่วน Mint นั้นผมปลื้มมาก ๆ โดยเฉพาะเพลงหน้า B ที่เสียงแกโหยหวนได้ใจมาก ผมจำได้ว่างานเปิดหอที่ มช. ทุกห้องต้องเปิดเพลงของสองวงนี้ เรียกได้ว่า เดินไปห้องไหนก็ได้ยินแต่เพลงของสองวงนี้ ฟังจนเอียนครับ แต่อย่างไรผมก็รู้สึกว่านี้เป็นเพลงที่วนเวียนในชีวิตผมขณะนั้นเหลือเกิน
มาขึ้นปีสองผมหลงอยู่ในห้วงเพลงของ Smallroom โดยเฉพาะอัลบั้ม Smallroom 002 ฟังได้ทุกวัน ยิ่งฟังยิ่งเห็นว่าเพราะ ออกจะรู้สึกแปลกใจด้วยที่ว่ามีเพลงแบบนี้บนแผ่นดินไทยด้วยหรือ ส่งผลให้ผมหาเพลงแบบนี้ฟังตามเวบ โดยเฉพาะ coolvoice นี้ถือว่ามีคุณูปการต่อผมมากมาย มาช่วงปลาย ๆ ของการศึกษาปีสอง ผมก็ได้รู้จักกับงานเต็ม ๆ ของอวสานเซลส์แมน นับแต่นั้นการฟังเพลงไทยของผมก็เปลี่ยนไปทันที
ซีดีอวสานเซลส์แมนเป็นซีดีแผ่นแรกในชีวิตที่ผมซื้อ ฟังแล้วก็มีแต่อึ้ง อึ้งและอึ้งในความเจ๋งของมัน ผมต้องใช้การอัดซีดีลงเทปเอาครับ เพราะผมไม่มีเครื่องเล่นซีดี แล้วก็ฟังทั้งวันทั้งคืน จากการฟังอวสานเซลส์แมนได้ต่อยอดให้ผมฟังเพลงอื่น ๆ ได้รู้จักเพลงไทยนอกกระแสอื่น ๆ มากขึ้น
ช่วงแก่ ๆ แล้ว (หมายถึงประมาณปีสี่) ผมหันกลับมาชอบดนตรีเต้นรำรวมถึงพวก Chill out ก็ฟังทั้งฝรั่งและไทยนะครับ ที่ฟังบ่อย ๆ ก็คงเป็นงานของ The Photo Sticker Machine รวมไปถึงงานเดิม ๆ ที่เคยซื้อมาเช่น Funky Wah Wah อะไรเทือกนั้น เปิดประชันกับ Hyper ที่น้องเมทผมชอบฟังมาก (ผมเกลียดวงนี้)
พอจบมา ได้มาอยู่กรุงเทพฯ ก็มีอะไรให้เปิดหูเปิดตาเยอะขึ้น จนได้ไปเจอวง Goose เข้า แค่นั้นแหละครับ ผมก็ได้รู้ว่า ไอ้เพลงแบบนี้นี้เองที่เราเฝ้ารอมานาน เพลงเสียงกีตาร์แตก ๆ แต่เมโลดี้สวยมาก นับแต่นั้นมาผมก็หาฟังเพลงแนวนี้มาเรื่อย ๆ ตอนนี้กำลังรองานของ อัศจรรย์จักรวาล กับ Desktop Error อยู่ครับ คาดว่าคงเยี่ยมไม่แพ้ Goose เป็นแน่
นี้ก็เป็นเพลงในความหลังที่แฝงในแบคกราวด์คร่าว ๆ เลือกเพลงเหล่านี้มาให้ฟังกันสักหกเพลงดังนี้
1.นครินทร์ กิ่งศักดิ์ : เอื้อมไม่ถึง (Live) 2.Paradox : ฤดูร้อน 3.Silly Fool : บั้นท้าย 4.Death of a Salesman : มีฉันมีเธอ 5.The Photo Sticker Machine : เหตุการณ์ 6.Goose : ลั่นทม
ใครฟังครบทุกเพลง ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
Create Date : 17 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 17 ตุลาคม 2549 16:25:27 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1413 Pageviews. |
|
|
|
โดย: deckanddrumandrockandroll (Mesia_82 ) วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:17:22:21 น. |
|
|
|
โดย: ปืนกลสตรอแหลเบอร์รี่ IP: 192.150.249.114 วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:18:49:11 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:5:43:14 น. |
|
|
|
โดย: Replica Mulberry Handbags IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:0:11:18 น. |
|
|
|
|
|
|
I will see U in the next life.
|
|
|
|
|
|
Paradox : ฤดูร้อน
Silly fool : บั้นท้าย
Death of a Salesman : มีฉันมีเธอ
The Photo Sticker Machine : เหตุการณ์
Goose : ลั่นทม