|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Funny Games :: สุดยอดหนัง "ใจร้าย" ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
*** บทความชิ้นนี้มีการเปิดเผยเนื้อแรกนิดหน่อย แต่คิดว่าไม่เป็นปัญหาหรอก เพราะอย่างไรถ้าคุณยังไม่ได้ดู คุณก็จินตนาการไม่ออกหรอกว่ามันใจร้ายขนาดไหน
น่ายินดีเสียเหลือเกินที่ Funny Games เวอร์ชั่นรีเมคของไมเคิล ฮาเนเก จะได้ฉายในประเทศไทย แถมยังเป็นการฉายในวงกว้างตาม โรงภาพยนตร์ต่างจังหวัดก็มีให้ดู เมเจอร์ซีนีเพลกซ์พิษณุโลกบ้านของผมเองก็ยังมีโปสเตอร์ติดไว้เท่าเทียมกับ Iron man
ฮานาเก ผู้กำกับชาวออสเตรียท่านนี้ จัดการรีเมคหนังของตัวเอง จากเดิมที่มีแต่นักแสดงโนเนมและพูดภาษาเยอรมันให้กลายเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวูดพูดภาษาอังกฤษ แถมแสดงนำโดย นาโอมิ วัตต์
ผลงานของฮานาเกที่ผ่านตาคนไทยไปล่าสุดได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง Hidden (หรือ Cache) ซึ่งสะท้อนความรุนแรงหลายระดับทั้งระดับบุคคลไปถึงระดับโครงสร้างสังคมได้อย่างชวนช๊อค ฉากไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ทำเอาคนดูกรี๊ดลั่นโรงก็มี ผมเองที่เอาสาวไปดูด้วยถึงกับอึ้งอ้าปากค้างไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นเช่นนี้ (ฉากไฮไลท์นี้เป็นอีกฉากที่บอกไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่บางทีถึงคุณรู้คุณก็กรีดร้องอยู่ดี)
นอกจาก Hidden ยังมี The Piano Teacher หนังของคุณครูเปียโนผู้จิตผิดปกติ มีพฤติกรรมที่บอกได้คำเดียวว่าสุดแสนทรามมาก แต่พอเจอเหตุการณ์ร้ายดั่งที่ตนฝันไว้ เธอก็กลับรับไม่ได้ เป็นอีกเรื่องที่ดูเข้าใจง่าย และชวนช๊อคน้อยกว่า Hidden และ Funny Games
Funny Games เป็นหนังเรื่องที่ 4 ของฮาเนเก โดยออกฉายในปี 1997 ในได้รับเสียงตอบรับในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เป็นอย่างดี โดยก่อนฉาย ฮาเนเกกล่าวว่า ขอให้ดูภาพยนตร์ของเขาด้วยความกระอักกระอ่วนใจ และผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้ชมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าตนกำลังตกอยู่ในนรกนานกว่าสองชั่วโมง
เนื้อเรื่องเริ่มต้นเมื่อครอบครัวพ่อแม่ลูกและหมาเดินทางไปตากอากาศ อยู่ดี ๆ ก็มีชายร่างอ้วนเข้ามาในบ้านบอกว่าเพื่อนบ้านของเขาให้มาขอไข่ไปทำอาหาร เรื่องราวดำเนินไปสไตล์น้ำผึ้งหยดเดียว พ่อหนุ่มร่างอ้วนทำไข่แตก แถมทำโทรศัพท์ตกน้ำ ทำเอาคุณแม่บ้านหัวเสีย เลยไล่ให้ออกจากบ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ก็เลวร้ายขึ้น เมื่อตัวพ่อบ้านดันไปตบหน้าหนึ่งในสองนั้น
แล้วชีวิตของทั้งสามคนและหนึ่งตัวก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกเลย
ทั้งสามถูกดึงเข้าไปเล่นเกมส์ที่เดิมพันด้วยชีวิต โดยสองหนุ่มอ้วนผมตั้งเกณฑ์ไว้ว่าถ้าอยู่ได้ถึงเที่ยงของอีกวัน ทั้งสามก็จะรอด ทว่ากฎกติกาทั้งหมดของเกมล้วนแต่กำหนดขึ้นโดยเจ้าอ้วนผอมสองตัวนี้ทั้งนั้น
ลองคิดคร่าว ๆ ว่าถ้าเราเล่นเกมที่กติกาแปรเปลี่ยนตามใจเจ้าของเกม เราจะมีวันชนะไหม
นับแต่ผมดูหนังมายังไม่เคยเจอหนังเรื่องไหนที่ใจร้ายเท่าเรื่องนี้มาก่อน ฮานาเกเล่นกับสิ่งที่ทำให้มนุษย์อยากดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข สิ่ง ๆ นั้นคือ ความหวัง
สูตรของหนังฮอลลีวูดตระกูลทริลเลอร์ ให้ความหวังกับคนดูเสมอ ให้คนดูได้ลุ้นว่าตัวละครที่เขาดูอยู่นั้นจะเอาตัวรอดจากน้ำมือฆาตกรได้หรือไม่ อย่างเรื่อง Scream นี้ผมก็ดูแล้วหัวใจจะวาย และสุดท้ายผู้กำกับก็ใจดีทำให้ความหวังของคนดูยังคงดำเนินต่อไป
ทว่าผู้กำกับเหล่านั้นคงไม่มี ไมเคิล ฮานาเก รวมอยู่แน่ เพราะฮานาเกให้ความคนดูอยู่ทุกช่วงของภาพยนตร์แต่สุดท้ายแล้วกลับทำลายมันทิ้งเสียยับเยิน ขอยกตัวอย่างแรกที่คิดว่ารู้ไปก็เท่านั้น
ปกติภาพยนตร์ทริลเลอร์ทั้งหลาย สัตว์เป็นตัวละครสำคัญที่คนเอาใจช่วย บางเรื่องเจ้าสัตว์เลี้ยงน่ารักพวกนี้ก็มีช่วยให้เจ้าของได้รอดจากเงื้อมมือของฆาตกรสุดโหด ดังนั้นเราแทบไม่เคยเห็นน้องหมา น้องแมว ฯลฯ ตายในภาพยนตร์ประเภททริลเลอร์เลย ฮานาเกเองก็ให้ความหวังกับคนดูเช่นกัน เมื่อเริ่มแรกไปได้สักพัก เกิดเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล ผู้พ่อถูกไม้กอล์ฟตีที่เข่ากลายเป็นคนพิการทันที ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกต่างหวังให้เจ้าหมาแสนรู้มาช่วย แต่แล้วเหยื่อรายแรกก็กลับกลายเป็นเจ้าน้องหมานี้เอง ทำลายความหวังที่วางมาเสียหมด
เรื่องต่อจากนั้นจะเป็นเช่นไร ผมไม่สามารถบอกได้เพราะเดี๋ยวไม่ลุ้น แต่ขอบอกก่อนว่าขนาดผมรู้เรื่องว่าจะเกิดอะไรมาก่อนแล้ว ก็ยังช๊อคไม่หายไม่ต่างอะไรกับที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ฮานาเกมีวิธีสร้างความลุ้นระทึกไม่เหมือนใคร ใน Funny Games เขาจัดวางคนดูไว้ในสถานะผู้คอยชมเกมโชว์นี้แบบริงไซต์ชิดขอบจอ โดยฮานาเกให้ตัวละครตัวผอมคอยหันมามีปฎิสัมพันธ์กับคนดูอยู่เรื่อย ๆ อาทิเช่น หันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ (ภาพที่สองด้านบน) หรือการคุยกับคนดูว่า "ทำไมผมถึงทำเรื่องนี้ไม่ได้" เป็นต้น
ปกติเทคนิคนี้จะใช้ต่อเมื่อทำให้คนดูรู้สึกแปลกแยกออกไปจากหนัง ไม่เอาอารมณ์ไปร่วม เหมือนเป็นผู้นั่งดูอยู่ห่าง ๆ อารมณ์คนดูจะไม่เท่ากับตัวละคร ส่งผลให้พิจารณาเรื่องได้มากขึ้น เทคนิคแบบนี้แทบไม่เห็นเลยในหนังแบบฮอลลีวูดที่เน้นเรื่องของอารมณ์เป็นหลัก
ทว่าหนังเรื่องนี้กลับทำให้คนดูอารมณ์พุ่งพล่านไปกว่านั้น โดยเฉพาะอารมณ์กระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงตรงไหน แถมการได้นั่งริงไซต์ยิ่งทำให้เห็นอะไรมากขึ้น พลอยทำให้ความหวังที่จะให้ตัวละครรอดก็สูงมากขึ้นเท่าตัว ทว่าเมื่อถูกทำลายก็ยิ่งทำคนดูอารมณ์ผิดหวังสุดชีวิต
ผมเอาหนังเรื่องนี้ (เวอร์ชั่นแรก) ให้น้อง ๆ ที่รู้จักหลายคนดู ทุกคนกลับมาพร้อมเสียงเดียวกันว่า "ทำไมถึงทำแบบนี้ หรือไม่ก็ ทำแบบนี้ได้ยังไง" ซึ่งเป็นตอนจบสุดท้ายที่ช๊อคคนดูและทำลายความหวังของคนดูพังลงครืน
ฮานาเกต้องการสะท้อนความรุนแรงในสังคม โดยเฉพาะความรุนแรงผ่านสื่อที่ซึมเข้าสู่ทุกโครงสร้างของสังคม ไม่ต้องแปลกใจที่ใครดูหนังของเขาแล้วจะมีแต่คำด่ามากกว่าคำชม แต่ฮานาเกถือว่าคำด่าเหล่านั้นคือคำสรรเสริญเพราะมันได้ทำหน้าที่บรรลุตามต้องการแล้ว
Funny Games เป็นตัวอย่างอันดีของคำว่า ภาพยนตร์มีมากกว่าความบันเทิง หากมีโอกาสโปรดลองชมดู แล้วคุณจะพบว่าประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ของคุณแปรเปลี่ยนไป แล้วคุณจะไม่พบหนังเรื่องไหนที่ใจร้ายเท่าหนังเรื่องนี้อีกแล้ว
ป.ล. เข้าฉายในประเทศไทย 1 พฤษภาคม 2551 นี้ ป.ล.2 คุยกับ Merveillesxx ต่อบอกว่าพอหนังฉาย เดี๋ยวมีคนในพันทิปมาโพสต์ด่าแน่ ฮานาเกคงดีใจที่มีเหยื่อให้บรรลุเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก
Create Date : 25 เมษายน 2551 |
Last Update : 25 เมษายน 2551 13:26:27 น. |
|
24 comments
|
Counter : 2569 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:15:23:01 น. |
|
|
|
โดย: haro_haro วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:15:57:06 น. |
|
|
|
โดย: printcess of the moon IP: 222.123.152.62 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:17:57:23 น. |
|
|
|
โดย: pick IP: 202.41.167.246 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:18:54:19 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:4:31:34 น. |
|
|
|
โดย: Special Ed. วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:21:36:23 น. |
|
|
|
โดย: SoundSynDrome IP: 124.120.134.186 วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:8:16:41 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:11:33:03 น. |
|
|
|
โดย: ลีน่าร์ IP: 124.120.10.20 วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:18:02:02 น. |
|
|
|
โดย: soundsyndrome IP: 124.120.128.219 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:33:35 น. |
|
|
|
โดย: metee IP: 158.108.28.179 วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:10:25:09 น. |
|
|
|
โดย: อาร์ต IP: 125.25.19.164 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:10:24:14 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า IP: 203.130.145.98 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:22:20:24 น. |
|
|
|
โดย: jonykeano วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:19:23:18 น. |
|
|
|
โดย: ไม่พอใจ IP: 10.0.3.148, 110.164.162.46 วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:19:54:28 น. |
|
|
|
โดย: หนัง Fai Fai IP: 223.206.187.191 วันที่: 30 พฤษภาคม 2555 เวลา:1:31:19 น. |
|
|
|
โดย: ขอแจม IP: 223.204.131.35 วันที่: 19 สิงหาคม 2555 เวลา:12:46:39 น. |
|
|
|
|
|
|
I will see U in the next life.
|
|
|
|
|
|
ได้ดู Hidden แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอินมากมายนัก แถมลืมๆ เรื่องไปซะเนี่ย.. สไตล์ของเขาน่าสนใจทีเดียว แต่ไม่ได้ปลาบปลื้ม
สงสัยต้องไปหา The Piano Teacher มาดูซะหน่อย..
กำลังนึกถึงเรื่อง Seven หรือ Irreversable ซึ่งทำลายสุนทรีย์ของคนดูเช่นกัน สูตรนี้ใครๆ ก็ทำได้ หากแต่วิธีเล่ามาให้ถึงตรงนั้น มันมีชั้นเชิงและชวนติดตามขนาดไหน
ที่ไม่ค่อยปลื้มหนังแนวนี้ ก็เพราะมันล้วนอาศัยความรุนแรงเป็นพื้น พี่หมีเหนื่อยกับหนังแบบนี้มาเยอะมากก ถึงมากที่ซู้ดด
กำลังนึกย้อนยุคกลับไป หนังแบบ The Sound of Music มันไม่มีให้ดูแล้วหรือไง?