Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
"เด็กหอ" ความเหงา ความโดดเดี่ยว และการไร้ตัวตนอันแสนเหลือทนของชีวิต

อาจช้าไปนิด แต่คงไม่ช้าเกินไปที่จะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ "เด็กหอ"

ก่อนอื่นต้องบอกกันว่าข้อเขียนชิ้นนี้จำเป็นต้องพูดถึงความลับของหนัง ผมนั่งนึกทั้งคืนว่าจะเขียนอย่างไรดีไม่ให้หลุดเนื้อเรื่องสำคัญออกไป แต่คิดเท่าไรอย่างไรก็นึกไม่ออก ก็พี่ท่านเล่นมีปมอันบอกไม่ได้เสียแต่กลางเรื่อง

ใครยังไม่ได้ดูเลี้ยวกลับเสียก่อนครับ


หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องที่สองที่ผมได้ดูในโรง โรคความเบื่อการดูหนังจะรุกไล่ผมไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่งได้เมื่อคืนวันพุธ ได้ฟังหนังหน้าไมค์ ซึ่งพี่ย้ง ผู้กำกับ ได้มาให้สัมภาษณ์ ฟังแล้วก็เลยยิ่งอยากดู

ผมเลือกไปดูที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า ช่วงสี่โมงครึ่ง เพราะคิดว่าคนคงน้อยกว่าไปดูแถวสยาม ที่ไหนได้ คนล่อไปครึ่งโรง ที่สำคัญมีแต่คนมาเป็นคู่ดูหนังกระหนุงกระหนิงกันมีความสุข ไอ้เรามาดูคนเดียวเสมอ หลอกตัวเองว่าดีแล้ว ไม่ต้องรอใครดี แต่ใจจริงนั้นชอกช้ำยิ่งได้เห็นใครเขานั่งกันประหนึ่งเขาพิงกัน ยิ่งชวนให้อกตรม.....

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ขอข้ามเนื้อเรื่องไปเลยละกัน เพราะยังไงคนที่เข้ามาอ่านตรงนี้ก็น่าจะดูกันหมดแล้ว

เราชอบหนังเรื่องนี้ในแง่ของการเลือกธีมและคอนเซปท์ แม้หน้าหนังจะบอกว่าเป็นหนังผี แต่ความจริงหนังเรื่องนี้ เป็นหนังดราม่า ว่าด้วยเรื่องของ ชาตรี (หรือ ต้น)เด็กชายถูกส่งตัวให้ไปเรียนโรงเรียนประจำ เราไม่ค่อยเห็นหนังไทยเรื่องไหนที่จับเอาเรื่องชีวิต (แบบจริงจัง) มาผสมกับเรื่องผี เพราะหนังไทยส่วนใหญ่ ไม่เรื่องตลกกับผี ก็เรื่องรัก ไม่งั้นก็เลยไปหนังแบบฆาตกรรม

เราคิดว่าพี่ย้งสะท้อนคอนเซปท์ 'การไร้ตัวตน' ได้อย่างชัดเจน ชาตรีคิดและรู้สึกตัวอยู่เสมอเหมือนว่าเขาเป็นพวกที่อยู่ตัวคนเดียว ทั้งโลกไม่มีใครมองเห็น เป็นคนชายขอบของครอบครัว ชายขอบของโรงเรียน และชายขอบของโลกใบนี้

การสะท้อนการไร้ตัวตนที่ชัดเจนอะไรจะดีไปกว่าการสร้างตัวละครที่ไม่มีใครเห็นขึ้นมา ตัวละครอย่างวิเชียรเลยเกิดขึ้น ทั้งสองล้วนไม่มีตัวตนในสายตาคนอื่น วิเชียรตายแล้ว คนในโลกนี้คงไม่มีใครได้เห็นอีก ในขณะที่ชาตรีมีตัวตนทว่าก็เหมือนไม่มี

จากเริ่มแรกที่กลัว ชาตรีเริ่มเข้าใจความรู้สึกของวิเชียรทีละเล็กทีละน้อย ในที่สุดเขาก็เป็นเพื่อนกัน

เราชอบฉากที่เขาเฉลยในช่วงกลางเรื่องว่าวิเชียรเป็นผี (และเราคิดว่าหลาย ๆ คนคงชอบเช่นเดียวกัน) เราคิดว่าฉากนี้เป็นฉากที่ใส่เข้ามาได้ประสิทธิภาพที่สุดในหนังเรื่องนี้ ที่สำคัญเราไม่ค่อยเห็นฉากที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ในหนังไทยมากนัก

เริ่มฉากด้วยการจัดฉายหนังกลางแปลงเรื่อง "ผีกัดอย่ากัดตอบ" (ซึ่งพี่ย้งเอาน้องนิเทศมาเล่นหมดเลย เพราะไม่มีเงินซื้อลิขสิทธิ์ ที่สำคัญในนั้นมีน้องก้อยเล่นด้วย น่ารักคร้าบ) ในเรื่องนี้ถึงฉากที่ผีอาละวาด ตัวละครทั้งหลายสู้ไม่ได้ จึงหนีโดยการเอามืดปิดจมูกกลั้นลมหายใจ โดยเชื่อว่าถ้ากลั้นลมหายใจแล้ว ผีจะมองไม่เห็น เด็ก ๆ ทุกคนก็ทำตาม

ทันใดนั้นภาพก็ฉายให้เราเห็นจากมุมสูง ว่าในลานฉายหนังนั้นมีเพียงแค่วิเชียรและชาตรีสองคนเท่านั้น เนื่องจากเด็กคนอื่นปิดจมูกกลั้นลมหายใจกันหมด

ใช่แล้ว วิเชียรเป็นผี เป็นการเฉลยตัวละครว่าเป็นผีที่เลิศในระดับเดียวกับที่บรู๊ซ วิลลิสเก็บเหรียญไม่ได้ใน The Six Senses

อีกจุดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ คือหนังสร้างปมพร้อมปูเรื่องให้เราเห็นอดีตของตัวละครหลักสามตัว ไม่ว่าจะเป็น ชาตรี วิเชียรและครูปราณี ทุกอย่างที่ปรากฎในหนังสัมพันธ์กันและที่สำคัญมีเหตุมีผลสำคัญให้ใส่มันลงไป มิใช่ว่าอยากใส่ก็ใส่ เราคิดว่าการที่ตัวละครทั้งสามตัวมีเบื้องหลังชีวิตซึ่งทำให้คนดูเข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น ยิ่งทำให้คนดูคล้อยตาม

อีกฉากที่เราชอบ คือฉากที่ทั้งสองตัวละครเดินหนีโรงเรียน กล้องถ่ายตัวละครออกมาเห็นแต่เงาที่ถูกบีบเหมือนกับเป็นมนุษย์ต่างดาว มันสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของทั้งสองว่าเขาคือคนอื่น เขาคือคนที่ในสังคมไม่เคยเห็นตัว

อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ชอบในหลาย ๆ จุด เพราะเรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้อารมณ์ไม่สุด อาจด้วยผู้กำกับไม่ต้องการให้คนดูเครียดจนเกินไป เลยต้องมีการเบรคอารมณ์ โดยส่วนตัวของเรา เราชอบหนังที่ดูแล้ว เดินออกจากโรงแล้ว อารมณ์ต่าง ๆ ยังคงติดลึกอยู่ในความรู้สึก ประหนึ่งว่ามันได้ตอกย้ำเข้าไปในจิตใจอย่างแน่นสนิท

เราว่าตั้งแต่ไคลแมกซ์ หนังยังพาอารมณ์ไปไม่ถึง เราไม่รู้ว่าคนอื่นคิดเช่นไร แต่เราดูเราก็รู้ว่ายังไงเสีย ชาตรีย่อมต้องช่วยวิญญาณของวิเชียร ต่อการจมน้ำแบบไร้วันจบสิ้นได้ เราเดาได้ว่ายังไงก็ช่วยได้ ไม่มีอุปสรรคอันใดให้ต้องฝ่าฟันเอาใจช่วย

แล้วตอนที่ชาตรีกำลังจะฟื้น น้ำหยดหนึ่งกระทบลงบนหน้า ชาตรีค่อย ๆ ฟื้น แต่กลับปรากฎว่าน้ำนั้นคือน้ำมูกของเจ้าอาจารย์เพ้ง หัวหน้าแก๊งค์เด็ก ใคร ๆ ต่างก็หัวเราะกันทั้งโรง อาการลุ้น ๆ (ที่แม้มีอยู่น้อยนิด) ก็พลันหายไปทันที

เราคิดว่าตรงไคลแมกซ์ที่ไม่อารมณ์ไม่ถึงจุดยังพออภัยได้ แต่กับฉากน้ำมูกไหลเฟอะเต็มจมูกนี้มันเกินรับจริง ๆ

หนังสรุปเรื่องด้วยการให้ชาตรีได้หันกลับมามองตัวเองว่า เขาโดดเดี่ยวและไร้ตัวตนจริงหรือ และเมื่อเขาผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มา ทำให้เขารู้ว่าการที่ใครคนหนึ่งจะไร้ตัวตนจากสังคม มันอยู่ที่ตัวเขาเองรู้สึกกับคนอื่นเช่นไร.....

หากมองว่าตัวเองไม่มีใครก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ตัวตนของตน แต่หากเปลี่ยนความคิดให้ความรักความเข้าใจผู้อื่นก่อนและอย่างสม่ำเสมอ ตัวเราฤาจะหายไปดั่งอากาศ

หนังเรื่องนี้เราให้ผ่าน เราไม่เห็นหนังผีไทยสร้างบรรยากาศได้ชวนอึดอัดเช่นนี้มานาน ที่สำคัญเป็นการกล้าผสมเอาหนังแบบดราม่าให้เข้ากับหนังผี ซึ่งหาดูได้ยากในวงการหนังไทย แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็ให้อภัยได้

สุดท้ายเราคิดว่าฉากดูหนังเรื่อง "ผีกัดอย่ากัดตอบ" จะกลายเป็นหนึ่งในฉากคลาสสิคของวงการหนังไทยแน่นอน

ป.ล. วันนี้กะว่าจะไปดู Invisible Wave รับสมัครสาว ๆ ไปดูด้วย 5555 แต่ไปกับผมต้องทำใจหน่อย เพราะไม่กินขนม กินน้ำ พูดคุยในโรงหนัง

ป.ล. 2 เพลงที่เปิดอยู่นี้คือ เพลง หาย โดย อ้วน อาร์มแชร์ จาก Compilation Ghost Noted by SO :: ON






Create Date : 03 มีนาคม 2549
Last Update : 3 มีนาคม 2549 15:35:33 น. 24 comments
Counter : 3401 Pageviews.

 



ยังไม่ได้ดูเลย....แต่อยากดูนะ



โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:15:33:28 น.  

 
รีบไปนะครับ เดี๋ยวออกก่อน (แต่หนังทำเงินดีขนาดนี้คงไม่ออกเร็วละมั้ง เผลอ ๆ หนังไพรรีพินาศเข้าทีหลังจะออกก่อนเสียด้วยซ้ำ)

แต่ Invisible Wave นี้น่ากลัวกว่า ออกไวแน่ ๆ เลย


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:15:37:12 น.  

 
อ่านข้ามนะ
เผื่อจะดูหนังเรื่องนี้

พี่คิดว่า คำพิพากษาของมหาสมุทร คงยืนโรงไม่นาน
ควรรีบไปดู และควรดูโรงที่ไม่พากษ์ อย่างมาบุญครอง
พารากอน อย่าไปสนใจมัน แพงเหลือเกิน


โดย: grappa วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:15:52:23 น.  

 
พี่ grappa วันนี้ผมเช็ครอบ

คืนวันศุกร์เหลือสองรอบ หกโมงเย็นกับสามทุ่มสี่สิบห้า

คืนวันเสาร์เหลือเที่ยงคืน

อะไรวะนี้


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:15:59:55 น.  

 
เดี๋ยวรอลงแผ่นจะไปหามาดูค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าโรงหนังเลย


โดย: อพันตรี วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:16:06:45 น.  

 
อ่ะ จริงหรือ
อะไรกัน หนังยังไม่ทนพ้นสามวันอันตรายเลยนะ
น้องชาติหน้าเช็คของโรงไหน
โอย ตกใจๆ


โดย: grappa วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:16:09:23 น.  

 
ของ SFX มาบุญครองครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:16:15:11 น.  

 
เมื่อวานไปดูเด็กหอมา

ชอบฉากโรงหนัง"เฉลิมกว้าง"มากค่ะ

หนังชีวิตเรื่องเยี่ยมอีกเรื่อง
ใครพลาดไปเสียดายแทน



โดย: keyzer วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:17:14:36 น.  

 
..รอดูหนังแผ่น..


โดย: jingsija วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:19:35:07 น.  

 
ยังมะมีเวลาไปดูเรยยยคับ
ผมก็เด็กหอเหมียนกัน ฮี่ ๆๆๆ

ปล. วันนนี้ผมอารมณ์ดีคับ


โดย: little-joe วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:19:48:42 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลย อยากดูมาก แต่ไม่ได้ดูในโรงแน่ๆอะค่ะ


โดย: concubine วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:20:13:34 น.  

 
อ่านแล้วก้อน่าดูนะค่ะ นานๆหนังไทยจะทำหนังแนวนี้สักที่


โดย: asariss วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:0:06:06 น.  

 
สวัสดีครับ นานๆจะเห็นคุณเขียนบล๊อคเกี่ยวกับหนังซะที... ถือเป็นหนังที่โอเคเรื่องหนึ่งครับ...แม้จะยังมีข้อติอยู่บ้าง


โดย: ตี๋หล่อมีเสน่ห์ วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:0:10:06 น.  

 
สวัสดีครับพี่ตี๋หล่อฯ

คือนาน ๆ ได้เขียนบล็อกเรื่องหนังเพราะผมเองไม่ค่อยได้ดูหนังนะครับ เดี๋ยววันนี้จะเขียนเรื่อง Invisible Wave ต่อ ครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:11:22:19 น.  

 
ต้องข้ามไปก่อนค่ะ

รอโอกาสจะไปซิวแผ่นมาดูก่อนเนาะ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:16:24:29 น.  

 
แถมให้อีกเม้น

ก่อนอื่นต้องรอแผ่นออกก่อน

อีกนานเลยอ่ะ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:16:25:58 น.  

 
คำพิพากษาฯ มันฉายแต่ กทม รึเปล่าคับ?


เด็กหอนี่คลั่งมากๆ .... เข้าใจนะว่าหนังดี
แต่มัวแต่คลั่งน้องเคิลจนไม่มีเวลาไปคลั่งตัวหนังดีๆ แล้ว แหะๆ

น้องเคิลน่ารัก

วิเชียร ท้าชน !!!!


ถ้าเป็นอย่างที่พี่บอกจริงฟ้าก็ดีใจนะ คือ ผกก. กั๊กอารมณ์ไว้ก่อนแล้ว
เพราะไม่ชอบหนังที่ทำให้อารมณ์สะเทือนใจค้างจนเกินไปน่ะ
ไม่ไหวๆ มันหดหู่ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี
แค่นี้วันๆ ก็นั่งเฝ้าน้องเคิลจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว T_T


โดย: IP: 203.113.50.10 วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:18:03:20 น.  

 
คำพิพากษาฯ มันฉายแต่ กทม รึเปล่าคับ?


เด็กหอนี่คลั่งมากๆ .... เข้าใจนะว่าหนังดี
แต่มัวแต่คลั่งน้องเคิลจนไม่มีเวลาไปคลั่งตัวหนังดีๆ แล้ว แหะๆ

น้องเคิลน่ารัก

วิเชียร ท้าชน !!!!


ถ้าเป็นอย่างที่พี่บอกจริงฟ้าก็ดีใจนะ คือ ผกก. กั๊กอารมณ์ไว้ก่อนแล้ว
เพราะไม่ชอบหนังที่ทำให้อารมณ์สะเทือนใจค้างจนเกินไปน่ะ
ไม่ไหวๆ มันหดหู่ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี
แค่นี้วันๆ ก็นั่งเฝ้าน้องเคิลจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว T_T


โดย: สาวแว่นเลี้ยวซ้าย IP: 203.113.50.10 วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:18:04:07 น.  

 
อยากดูเด็กหอ ตั้งแต่ได้รู้ว่าไปถ่ายที่โรงเรียนเก่า
เลยอยากดูมากๆ ใน ทีเซอร์ ก็แง้ม เรื่องที่คล้ายเรื่องเล่าของโรงเรียน กะว่าพรุ่งนี้จะพาตัวเองไปดูแล้วจะแวะมคุยครับ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกในวันเกิดผมครับ


โดย: tongdigy วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:19:48:44 น.  

 
ดูแล้วอย่าลืมมาคุยกันนะครับคุณโต้ง


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 5 มีนาคม 2549 เวลา:12:15:58 น.  

 
ถึงแม้ว่าจะเดาได้ว่าวิเชียรเป็นผีตั้งแต่เขาปรากฏตัวในสองฉากแรก (เพราะเขามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย อยู่ๆ ก็เข้ามาคุยกับต้น) แต่ก็รอดูอยู่ว่าเขาจะเฉลยอย่างไร

ฉากที่เฉลยในโรงหนังนั้นนึกไม่ถึงเลยครับ ขนาดรู้แล้วว่าวิเชียรเป็นผี แต่ตอนที่เห็นว่าในโรงหนังไม่เหลือใครสักคนยกเว้นวิเชียรนี่ ผมยังขนลุกเลยครับ


เรื่อง Invisible Waves ผมก็ไปดูมาแล้วนะ แต่ไม่ประทับใจน่ะครับ อาจจะเป็นเพราะตั้งความหวังไว้สูงเกินไป

ผมว่าตัวละครรอบๆ พระเอกตัวมันดูลอยๆ ไม่ค่อยมีที่มาที่ไปอย่างไรไม่รู้ เช่น บอส ป้ามาเรีย ฯลฯ อาจจะเป็นเพราะว่าประเด็นที่ต้องการนำเสนอเป็นเรื่องของคิโยจิเท่านั้นก็เป็นได้

สิ่งที่ผมไม่เข้าใจมากที่สุดก็คงเป็นการตามไปเก็บคิโยจิที่ภูเก็ตของลิซาร์ด ซึ่งผมว่ามันไม่ค่อยมีเหตุผลที่จะต้องไปปล้นเขาก่อน หรือรอเวลาหรือลีลามากกว่าจะลงมือฆ่าได้


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 5 มีนาคม 2549 เวลา:16:00:13 น.  

 
ชอบฉากเฉลยที่สุดเลย
ดูมันโดดเดี่ยวอ่ะ
บอกไม่ถูก

ชอบดี สนุกๆ


โดย: fakeplasticgirl วันที่: 6 มีนาคม 2549 เวลา:2:30:59 น.  

 
น่าสนใจตรงที่เป็นหนังผี + อารมณ์ดราม่าครับ
(ยังไม่ได้ไปดูนะนี้ แต่อ่านไปหมดแล้ว)



โดย: IP: 203.188.22.124 วันที่: 6 มีนาคม 2549 เวลา:3:03:46 น.  

 
ไม่ได้ดูในโรง
หามาดูจนได้
ดีสมราคาทีมแฟนฉัน ไม่มีความรู้มาก แต่ประทับใจครับเรื่องนี้


โดย: คนขับช้า วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:06:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.