Modern Dog :: Love Me Love My Life อัลบั้มบุกเบิกโพสต์ร๊อคแห่งประเทศไทย
เพียงแ่ค่เริ่มต้นวันแรกของเดือนพฤษภาคม ฝนก็เท่กระหน่ำทั่วกรุงเทพฯ จนสงสัยว่ากำลังเดินอยู่ในลอนดอนหรือเปล่า
วันนี้วันหยุดสำหรับเอ็กซ์และใครหลาย ๆ คน เกิดเป็นลูกจ้างผู้ใช้แรงงานมีดีกว่าข้าราชการแค่ได้หยุดในวันแรงงาน เขาัตัดสินใจไปเดินเล่นแถวสยามดูสาวคลายเครียดแทนการอุดอู้อยู่ในหอดีกว่า แต่แล้วฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาอีกรอบจนทำให้เขาเปลี่ยนใจขลุกตัวอยู่ที่หอเหมือนเดิม
ฝนตกแบบนี้ นั่งคิดอะไรไปเรื่อย อยู่ดี ๆ ก็คิดถึงวันคืนเก่า ๆ ภาพอดีตไหลเวียนผ่านความทรงจำราวกับภาพยนตร์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และแล้วภาพเหตุการณ์หนึ่งก็ปรากฎขึ้นมาในหัว
บ่ายวันหนึ่งราว ๆ หกปีที่แล้ว เขาฝ่าฝนออกไปซื้อเทปที่หน้ามอ. เหตุด้วยอ่านข่าวในอินเตอร์เนทว่าโมเดิร์นด็อกชุดใหม่วางแผงแล้ว ใจหนึ่งอยากจะขี่มอเตอร์ไซค์ทยานออกไปให้เร็วที่สุด แต่สมองก็ห้ามไว้เกรงด้วยจะไปตายเป็นผีเฝ้าหน้ามอ.
เอ็กซ์กลับมาห้องเรียนที่แสนเย็นฉ่ำเกินความจำเป็น ร่างกายเปียกปอน ในกระเป๋าเสื้อมีม้วนเทปหน้าปกรูปแฟกซ์ เขาเปิดดูอย่างช้า ๆ แต่ไม่มีข้อมูลอะไรให้ดูเท่าไร แม้แต่เนื้อเพลงพลิกแล้วพลิกอีกก็ไม่เจอ
โมเดิร์นด็อกออกอัลบั้มชุดแรกในปี 2537 ก้ับค่ายเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก(ในขณะนั้น)ที่ชื่อว่า Bakery Music โด่งดังพอสมควรกับเพลง บุษบา ร๊อคสุดมันส์ และ เพลงสุดเพราะอย่างก่อน ส่วนเพลงอื่น ๆ ก็เป็นร๊อคชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น กะลา บางสิ่ง เธอ ทุเรียน ฯลฯ ในขณะนั้นพวกเขายังเป็นแค่นิสิตจุฬาฯ อยู่เลย
สี่ปีต่อมา พวกเขาออกงานชุดที่สองโดยสมาิชิกเหลือเพียงสาม แนวดนตรีข้ามฟากมายังเกาะอังกฤษ ผสมทั้งเพลงร๊อคมันส์ ๆ อย่าง รูปไม่หล่อ ติ๋ม ขอบคุณ ขอ เข้ากับเพลงแนวทดลองหลอน ๆ ลอย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลึกซึ้ง ที่จริงในใจ เกือก ฯลฯ
นักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่า งานของโมเดิร์นด็อกมักนำเทรนด์เสมอในประเทศไทย พวกเขาไม่เคยทำเพลงตามศิลปินคนใดในประเทศนี้ และอัลบั้มชุดที่สาม "Love Me Love My Life" คงเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าจริงหรือไม่
เอ็กซ์กลับถึงหอ เขาอาศัยอยู่หอของมหาวิทยาลัย ห้อง ๆ หนึ่งอยู่กันสามคน ไม่ใหญ่โตเท่าไรนัก แต่ก็พอเพียงและอบอุ่น เขามักออกไปยืนดูวิวดอยสุเทพจากหลังห้องบ่อย ๆ พร้อมกับคิดในใจว่าจะมีมหาวิทยาลัยไหนในประเทศไทยที่วิวดีขนาดนี้
มือซ้ายจับเทปยัดเข้าไปในเครื่องเล่นเทปคู่ชีัพ มือขวาถือบุหรี่พร้อมจุดดูด ฝนยังตกหนักไม่มีทีท่าว่าจะซาเลยแม้แต่น้อย หมอกขาวพัดผ่านบดบังดอยสุเทพมิด พร้อม ๆ กับที่ควันขาวจากบุหรี่ค่อย ๆ ลอยเผาผลาญตัวมันเองอย่างช้า ๆ
เพียงเพลงแรก "เวตาล" เอ็กซ์ก็พบกับภาวะอึ้งไปทันที เพราะมันช่างต่างกับเพลงร๊อคโปรโมตที่เคยผ่านมาของโมเดิร์นด็อก ทั้ง บุษบา และ รูปไม่หล่อ เสียงร้องซ้ำ ๆ ในท่อนฮุคสร้างความหลอกหลอนมากกว่าจะชวนกระโดด แต่เมื่อฟังบ่อย ๆ เสียงกลองและกีตาร์กลับเร่งเร้าให้เขาสนุกไปกับเพลง
เขาเร่งเสียงขึ้น ยังไม่ทันจบเพลงแรก เพลงที่สองก็ตามมาติด เสียงกีตาร์ผสมเสียงสังเคราะห์ลอย ๆ ท่วงทำนองที่ติดหูช่วยทำให้รู้สึกเหมือนตื่นจากฝันร้าย
เนื้อเพลง "very good" เอ็กซ์มารู้เรื่องและเข้าใจเมื่อเวลาผ่านมาพอสมควร ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนเหรียญสองด้าน มีทั้งดีและร้าย อยู่ที่เราเลือกจะมองมากกว่า สิ่งดี ๆ บางเวลาก็กลับแย่ และสิ่งแย่ ๆ บางเวลาก็กลับดี
มันเป็นธรรมดาของโลก!!! เอ็กซ์คิดได้ แต่หลายครั้งที่เขาเองก็ยังปลงไม่ตกกับเรื่องหลาย ๆ เรื่องโดยเฉพาะเรื่องน้องโอ๊ต แฟนสาวรุ่นน้องที่พึ่งเลิกกันไป เพียงด้วยเหตุผลว่าเขาไม่รวยพอสำหรับเธอ เอ็กซ์อยากบอกน้องโอ๊ตได้รู้เหมือนกันว่าบางทีความจนมันก็มีดีนะเฟ้ย
บุหรี่มวนที่สองถูกจุดอย่างช้า ๆ พร้อมกับเพลงที่สามที่ชื่อแปลก ๆ ว่าอีสานคลาสสิค โมเดิร์นด็อกให้สัมภาษณ์ต่อมาว่า ชื่อเพลงนี้สื่อถึงอารมณ์ที่ปวดร้าวและแสนทุกข์ระทมราวกับอยู่ในดินแดนแห้งแล้ง เอ็กซ์ฟังเพลงนี้อย่างตั้งใจเพราะเสียงกีตาร์ต้นเพลงดึงดูดสมาธิจากเขา
เขาพยายามฟังเนื้อแต่ก็ยังไม่เข้าใจเนื้อหา โมเดิร์นด็อกเก่งนักกับการเขียนเนื้อแบบไม่มีเรื่องราว ไม่มีตัวละคร คล้ายกับเอาวลีมาร้อยเรียงแล้วให้คนฟังตีความเอาเอง เขาคิดเอาเองว่าเพลงนี้คงเหมือนกับชีวิตเขาในตอนนี้ดี โดยเฉพาะท่อนที่ว่า
"รู้ทุกอย่างแก่ใจว่าสิ่งเหล่านั้นได้เพียงเท่านี้ สุดท้ายที่มีจะเป็นอย่างไร สมควร เข้าใจ" เอ็กซ์ก็พึมพัมกับตัวเองว่า การเข้าใจบางอย่างมันก็ยากจริง ๆ
เพลงที่สี่เป็นเพลงบรรเลงชื่อว่า Happiness is ทำนองไพเราะแต่ว่าเหงามาก โมเดิร์นด็อกใช้เสียง ambient อาม่าพูดโทรศัพท์ซึ่งบังเอิญทางวงบันทึกไว้ได้ เสียงของอาม่าที่เฝ้ารอคอยลูกกลับมากินข้าวที่บ้าน เป็นเพลงที่ยิ่งฟังยิ่งเหงาจับใจ ยิ่งใครอยู่ไกลบ้านแล้วอาจมีเสียน้ำตา
เอ็กซ์ฟังมาถึงเพลงที่ห้า "สิ่งที่ไม่เคยบอก" เพลงที่ฮิตที่สุดในอัลบั้มชุดนี้ เขาชอบเสียงกีตาร์หลัีงท่อนฮุคแรก รู้สึกเ่ท่ดี ห้าเพลงที่ผ่านมาเขารู้สึกคุ้นเคยกับเพลงนี้เป็นที่สุด อาจจะเป็นเพราะความป๊อบที่สุึดในบรรดาเพลงทั้งหมดแล้วมั้ง
ตอนนี้ตัวเขาเองก็มีเรื่องมากมายที่อยากจะบอกน้องโอ๊ต แต่ก็คงสายเกินไปที่จะบอก มันสายเกินไปที่จะกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง
เขาพลิกเทปสู่หน้า B เสียงโหยหวลบิดเบี้ยวลอยออกมาจากลำโพงทำเอาต้องจุดบุหรี่ขึ้นสูบอีกครั้ง ฝนเริ่มซาทำให้ได้ยินอะไรมากขึ้น โมเดิร์นด็อกทำเพลงนี้แบบแนวทดลอง โดยการเอาเพลง animal มาลดสปีดให้ช้าจนหนืดเหมือนเพลงแนว Dub ยิ่งฟังซาวด์ยิ่งบิดราวกับฝันร้าย เสียงกีตาร์ในช่วงกลางถึงท้ายยิ่งเป็นตัวเร่งพาลงไปทัวร์นรกขุมต่าง ๆ อย่างเร็วพลัน
เอ็กซ์คิดว่าถ้าเพลงต่อมาเป็นแบบนี้เขาคงเหนื่อยที่จะฟัง โชคดีโมเดิร์นด็อกใจดีใส่เพลงซาวด์อิเลคโทรนิคส์สดใส อย่างเพลง "Good Boy" เพลงนี้ได้ดีโน่ ลูกชายของสุกี้มาร้อง (แบบตั้งใจหรือเปล่าไม่รู้) แถมตอนสุดท้ายมีการเรอออกมา ทำเอาเอ็กซ์ตกใจไม่น้อยว่า เฮ้ย!!! มันมีแบบนี้ได้ด้วยหรือว่ะ เขาบทสัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า ดีโน่เกลียดเพลงนี้มาก ใครไปเปิดให้ฟังจะโกรธแบบสุด ๆ
เอ็กซ์คิด เป็นกูกูก็โกรธ เล่นเอาเสียงเรอมาใ่ส่ อายขายขี้หน้า โตมาจะเอาหน้าไปไว้ไหน
เพลงที่แปดเป็นสัญลักษณ์ ;) ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกว่าอะไร เสียงกีตาร์และกลองโยกอย่างเมามันส์ อารมณ์ค่อย ๆ พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนมาพีคในช่วงท้าย การร้องของพี่ป๊อดที่ซ้ำ ๆ กระหน่ำพร้อมกับเสียงกีตาร์และกลองซัดสาดกันไม่ลืมหูลืมตา เอ็กซ์รู้ตัวอีกทีก็ลงไปกลิ้งอย่างเมามันส์ที่พื้นเสียแล้ว
นักวิจารณ์หลายคนบอกว่าโมเดิร์นด็อกชุดนี้ลอกอัลบั้ม Kid A ของ Radiohead มา เขาเถียงในใจว่าเหมือนกันตรงไหน ถ้าแนวดนตรีแบบโพสต์ร๊อคก็คงใช่ เพราะในอัลบั้มนี้่มีการทดลองผสมเสียงอิเลคโทรนิคส์ สังเคราะห์เข้ากับดนตรีร๊อค รวมไปถึงโครงสร้างของเพลงที่มีรายละเอียดต่างไปจากเพลงร๊อคที่เราคุ้นหู เอ็กซ์มั่นใจว่า Kid A ฟังยากกว่าเยอะ อย่างน้อยโมเดิร์นด็อกก็มีเพลงป๊อบ ๆ ให้ฟังอย่าง สิ่งที่ไม่เคยบอก แล้ว Kid A มีเพลงไหนป๊อบบ้าง How to Disappear Completely หรือว่า Optimistic ดี ฟัง ๆ เพลงไหนก็ชวนหลอนไปเสียหมด
เอ็กซ์จุดบุหรี่ตัวที่สี่พร้อมกับ Bedroom เพลงรองสุดท้าย เริ่มต้นอย่างหลอน ๆ พอถึงกลางเพลงเสียงกีตาร์กับกลองก็กลับมากระำหน่ำอีกครั้ง แต่แล้วอยู่ดี ๆ เพลงนี้ก็หยุดไปดื้อ ๆ เอ็กซ์รีบกด stop เ็ช็คดูด้วยว่ากลัวเครื่องเล่นกินเทป แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาลองย้อนกลับไปฟังใหม่ ก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดิมคือ อยู่ดี ๆ เพลงนี้ก็ตัดไปดื้อ ๆ เลย เอ็กซ์อารมณ์ค้างไม่น้อยพรางคิดในใจว่าไหน ๆ แล้วพี่ ๆ ก็ต่อให้จบ ๆ เถอะครับ
เอ็กซ์ฟังผ่านมาเก้าเพลง คิดในใจว่าโมเดิร์นด็อก ช่างกล้าเหลือเกินที่ทำเพลงแบบนี้ ว่ากันตรง ๆ เลยคือเพลงของพวกเขามาก่อนเวลา ถ้ามาในยุคนี้อาจจะมีคนเข้าใจมากขึ้นไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสักเท่าไร
มาเพลงสุดท้าย "ในที่สุด" เป็นอีกเพลงที่ชวนเหงาเหลือเกิน เสียงกีตาร์โปร่งบอกกับเสียงพี่ป็อดช่างเข้ากับบรรยากาศหลังฝนตกใหม่ ๆ กับความเดียวดาย เอ็กซ์ัตั้งใจฟังเนื้อเพลง เขาอินเข้าแล้ว
ทุกอย่างมันจบลงแล้ว แต่ในใจเขารู้ดีเสมอว่ายังรักเธอไม่ลืมเลือน เขารู้ว่าทางตันมาถึงแต่ก็ยังหลอกตัวเองว่ายังรักเสมอ เรายังเป็นของกันและกัน
ทุกสิ่งที่เธอนั้นมีให้มา เอ็กซ์ยังคงเก็บไว้ในจิตใจเสมอไป แม้ว่าแท้ที่จริงแล้วเราสองคนจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เพลงเล่นไปเรื่อย ๆ น้ำตาเริ่มไหลจากดวงตา เอ็กซ์นอนลงร่ำไห้ซบหมอนอยู่ตามลำพัง ใช่แล้วไม่ว่าจะเป็นอย่างไรฉันก็ยังรักเธอเสมอ
Create Date : 02 พฤษภาคม 2550 |
|
20 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2550 12:21:26 น. |
Counter : 4598 Pageviews. |
|
|
|
เพลงมีให้ฟังทุกเพลง ลองไล่กด fwd เอาละกันครับ
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:08:07 น.
You are the Incredibly Strange People No.2
เขียนสนุกดีขอรับ....กะลังจะถามว่า X คือใครเลย 555
ตอน MD ออกชุดนี้ ชอบหลายๆเพลง แต่ไม่ชอบเพลง เวตาลเลยครับ..
แต่ภายหลังค่อยๆฟังตอน หงุดหงิด พลันพบว่า ชอบหลายๆ
ยังรอ ชุดใหม่ๆ หลังจาก ตาสว่างกับ งานชุดที่แล้วอยู่
โดย: แร้ไฟ วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:40:18 น.
You are the Incredibly Strange People No.3
ใช่ กำลังงงว่าเอ็กคือใคร
โมเดิร์นด็อกตอนที่ออกอัลบัมแรก ยอมรับเลยว่าแหวกแนวมาก ไม่เหมือนใครจริงๆ แล้วก็โดนมากด้วย
ชอบมาก
โดย: printcess of the moon วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:04:32 น.
You are the Incredibly Strange People No.4
ผมเห็นด้วยนะคุณสาหร่ายว่าเพลงมันเหมาะเอาไว้ฟังระบายตอนกำลังหงุดหงิดอยากทำลายข้าวของ
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:05:34 น.