Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
6 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 

ก้าวที่สองของการทำวิทยานิพนธ์กับการสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ จะรอดหรือจะพังเดี๋ยวก็คงได้รู้กัน

ก่อนอื่นขอถอนหายใจดัง ๆ และแรง ๆ สักเฮือก

เฮ้อ...........

ถอนหายใจนี้ไม่ได้เซ็งชีวิตอะไรนะครับ แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกว่าในที่สุดกูก็ได้สอบหัวข้อวิทยานิพนธ์เสียที

ก่อนอื่นบอกกันก่อน ผมทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "บทบาทพระสงฆ์กับการดำเนินกิจกรรมวิทยุชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่" นะครับ หลายคนอ่านแล้วคงงงว่าทำอะไรฟ่ะ ก็บอกคร่าว ๆ สรุปใจความว่า เดี๋ยวนี้เจ้าวิทยุชุมชนนี้ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดนี้ ก็มีที่พระสงฆ์ท่านเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ที่ อ.เมืองเชียงใหม่มีตั้งสองแห่งแหนะ ก็ศึกษาสามประเด็นใหญ่ครับว่าท่านมีนโยบาย การบริหารและการผลิตรายการอย่างไรบ้าง แล้วก็เอาไปเปรียบเทียบกับฆราวาส

อันนี้เรื่องเข้าใจง่ายและจับต้องได้พอควรแล้วนะครับ อย่างเพื่อนผมคนหนึ่งทำเกี่ยวกับ ตรรกะในการไปงานแสดงสินค้า เห็นชื่อหัวข้อมันจะเป็นลม

เมื่อวันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่าวันที่ 18 ธันวาคมมีสัมมนาพระสงฆ์กับวิทยุชุมชนที่เชียงใหม่พอดี (โอกาสทอง) ก็เลยว่าจะขึ้นไปเก็บข้อมูล แต่ถ้าหากยังไม่ได้สอบหัวข้อก็เกรงว่าที่ทำมาจะกลายเป็นศูนย์

อาจารย์ที่ปรึกษาผมท่านก็เลยอนุญาตให้ผมสอบได้ น้ำตาแทบไหลนองนิเทศฯ จุฬาฯ พร้อมอยากตะโกนดัง ๆ ว่า "กูได้สอบแล้วโว้ย"

วันนี้เป็นวันประชุมภาควิชา ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาจะยื่นเรื่องเข้าไปที่ประชุมภาค เพื่อแต่งตั้งกรรมการฯ โดยสอบถามจากอาจารย์แต่ละท่านว่าสนใจหัวข้อนี้ไหม ใครสนใจก็จะรับเป็นกรรมการ

ก่อนหน้าที่จะประชุม ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเขามาทักว่า "เป็นไง ตื่นเต้นไหม" (ผมเป็นผู้ช่วยอาจารย์อยู่ที่ภาควิชา เลยเจออาจารย์ทุกท่านบ่อย) ปากก็บอกไปครับว่าไม่ตื่นเต้น แต่แท้ที่จริงก็ลุ้นมิน้อยว่าจะได้ใครเป็นกรรมการ...

เพราะถ้าดันได้อาจารย์ที่ท่านมักมีความเห็นไม่ตรงกันก็จะพลอยซวยจบช้าได้

การประชุมสิ้นสุดลงประมาณบ่ายโมงตรง (ประชุมกันยาวมาก) ผมไม่ทันรู้ผลทันทีเพราะได้รับมอบหมายให้ไปคุมเด็กทำแบบฝึกหัด กลับมาประมาณบ่ายสาม อาจารย์ที่ปรึกษาผม (ผศ.โอฬาร) ก็เข้ามาที่ห้องธุรการภาคพอดี พร้อมกับบอกข่าวว่า มี อาจารย์สองตั้ง 4 คนแหน๊ะ

ตามปกติเขาจะมีกัน 3 คืออาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน ประธานและกรรมการอย่างละหนึ่งรวมเป็นสาม แต่หากมีอาจารย์ท่านอื่นสนใจเพิ่มเติมก็ขอเพิ่มได้ ไม่มีปัญหา เหมือนดั่งเช่นกรณีของผม

ก่อนหน้าจะเจออาจารย์ที่ปรึกษา ก็ได้มีโอกาสคุยกับท่านอาจารย์ย่า (รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์) อ.ย่าก็บอกว่า หัวข้อคุณมีแต่อาจารย์ท่านสนใจเป็นอันมาก แถมคุย ๆ ไป อาจารย์ก็ถามว่าเคยทำงานวิทยุมาก่อนหรือ ผมก็เล่าไปตามจริงถึงประสบการณ์ ไป ๆ มา ๆ อาจารย์ท่านก็เลยจะชวนมาทำงานด้วย โอ้ย! กำลังรอเลยครับ

มีเรื่องน่าหนักใจนิดหน่อย คืออย่างที่กล่าวไปในตอนแรกว่าหากได้กรรมการที่ความคิดเห็นไม่ค่อยตรงกัน มักจะพลอยทำให้เด็กซวยไปด้วยเพราะไม่รู้จะเชื่อใครดี บางคนก็บอกว่าต้องทำอย่างนี้ แต่อีกคนบอกไม่ ทีนี้มันจะมีผลไปตอบสอบเล่มนู้นแหละครับ เพราะท่านอีกท่านเห็นด้วย แต่อีกท่านดันไม่เห็นตรงกัน คราวนี้แหละ 5555

อีกไม่กี่วันนี้ผมคงได้สอบหัวข้อละครับ ไม่รู้จะโดนฟันมาเท่าไร เพราะแค่วันนี้ในห้องประชุมก็ทักท้วงมาเล็กน้อยว่าการศึกษาพระสงฆ์น่าจะศึกษาที่ว่าเดิมทีพระท่านก็เทศน์แต่บนศาลา แต่เมื่อมาอยู่วิทยุ medium (สื่อ) เปลี่ยน เนื้อหารวมถึงวิธีการนำเสนอก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย

555 ดีแล้วครับบอกผมตอนนี้ ผมจะได้ไปเตรียมตัวทัน ไม่โดนฟันเยอะ

ตอนนี้ก็ได้เวลาสู้ต่อครับ ดู ๆ ไปมันจะสักเท่าไรกันเชียว จริงไหมครับ


ทุกทุกวัน ที่ผ่านมา ต้องไขว่คว้า หาสิ่งใด

ฉันยังอยู่ เธอยังอยู่ ฉันยังอยู่ เธอยังอยู่ ในหัวใจ

แม้บางสิ่ง แสนลำบาก แต่ฉันจะเดินต่อไป

แม้จะถูก หรือจะผิด ชีวิตคงไม่อ้างว้าง....

สักเท่าไหร่....






 

Create Date : 06 ธันวาคม 2548
20 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2548 20:31:29 น.
Counter : 722 Pageviews.

 

สู้ต่อไป ทาเคชิ
นายทำได้อยู่แล้น

 

โดย: grappa 6 ธันวาคม 2548 18:34:53 น.  

 

ขอบคุณครับพี่

 

โดย: I will see U in the next life. 6 ธันวาคม 2548 19:36:43 น.  

 

อ่ะนะ.. สู้ต่อไปอ่ะพี่ดอง

จะรอเห็นวันที่พี่ดองมาเป็นอาจารย์ที่แมสคอม มช.ของเรา

 

โดย: stubborn IP: 203.114.108.91 6 ธันวาคม 2548 20:10:34 น.  

 

^
^
^

พี่เริ่มงงกับคำพูดคนล่ะ

คือเจ๊นุกนิกบอกว่าเขาไม่อยากเด็ก มช.เอง

แต่วันนี้เจอน้อยหน่า ซึ่งชีพึ่งขึ้นไปเชียงใหม่แล้วเจอ อ.เอี้ยง

อ.ก็ถามมันว่าอยากมาสอน มช.ไหม (โฆษณา)

แล้วแบบนี้ยังไงกันหนอ

 

โดย: I will see U in the next life. 6 ธันวาคม 2548 20:13:18 น.  

 

หัวข้อน่าสนใจมากเลยครับ

บังเอญผมก็สนใจเร่องพุทธสถาบันเสียด้วยซี

 

โดย: แจ้น 6 ธันวาคม 2548 23:30:51 น.  

 

หัวข้อทำเอาผมอึ้งเลยครับ
น่าสนใจดีครับ คุณ I willฯ
รอบรู้ขนาดนี้น่าจะทำได้อยู่เเล้ว
สู้ก็เเล้วกันนะครับ

 

โดย: Dark Secret 7 ธันวาคม 2548 0:19:59 น.  

 

แค้หัวข้อก็โหดแล้วนะคะ นี่ตอนทำวิจัยสงสัยจะสาหัส
แล้วตัวแปรนี่มีที่เชียงใหม่ที่เดียวเลยหรอคะ
มันจะทำให้ข้อมูลที่ได้สามารถใช้ประโยชน์กับพื้นถิ่น ที่มีวัฒนธรรมต่างได้รึเปล่าคะ
พอดีสงสัยใคร่รู้หนะคะ หรือแค่เก็บข้อมูลตัวอย่างก็ไม่รู้
เพราะเวลาทำทีสิสเสนอหัวข้อเขาให้เขียนประโยชน์ที่ได้รับด้วยนี่นา (หรือ ไม่เหมือนกันทุกที่ก็ไม่รู้)

ถามเอาความรู้หนะขอรับ มิได้มากวน

 

โดย: LUNATIC SPACE 7 ธันวาคม 2548 9:20:54 น.  

 

สอบให้ได้นะแก

เรื่องอาจารย์ชั้นก็งงๆ อยู่ เพราะเห็นยุพาคุยกะอ.จิ แกบอกว่าแกทาบทามนภัส มาเป็นอาจารย์ว่ะ

แต่ชั้นอยากให้แกมาเป็นอาจารย์ที่นี่

 

โดย: robin IP: 203.188.60.61 7 ธันวาคม 2548 11:53:43 น.  

 

ขอตอบเอมก่อนละกันนะครับ (เดี๋ยวเอาไปแปะในบล็อกต่อ)

ก่อนอื่นผมอธิบายสั้น ๆ ว่า ผมทำวิธี "เชิงคุณภาพ" ครับ เชิงคุณภาพในที่นี้คือต้องการ "เข้าใจ" ถึงปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะมีกี่ตัวแปรก็ช่างนะครับ ซึ่งต่างจากวิจัยเชิงปริมาณที่ต้องการศึกษาตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กัน (ตัวแปรต้น ตัวแปรตามนั้นแหละ)

อันนี้ส่วนใหญ่ก็น่าจะเข้าใจกันบ้างอยู่แล้ว

ทีนี้คำถามแรก

- ตัวแปรนี่มีที่เชียงใหม่ที่เดียวเลยหรอคะ

ผมคาดว่าวิทยุชุมชนที่ดำเนินการโดยวัดไม่ได้มีที่เชียงใหม่ที่เดียวแน่ แต่เหตุที่ผมศึกษาแต่เฉพาะที่เชียงใหม่ เขาเรียกกันว่าเป็นการกำหนดขอบเขตการวิจัยครับ

ในการวิจัยไม่ว่าเรื่องใดก็ตามเราต้องกำหนดว่า เราจะทำการศึกษาที่ไหน เก็บข้อมูลใช้เวลาเท่าใด เพื่อที่จะได้เป็นกรอบในการศึกษาไม่ให้เกินเลยไปกว่านั้น เพราะถ้ามากกว่านั้นมันจะศึกษาตายกันเลยครับ

อย่างผมเลือกศึกษาเชียงใหม่ (ความจริงเลือกที่ไหนก็ได้นะครับ หรือจะเลือกทั่วประเทศเลยก็ได้ แต่หากศึกษาทั่วประเทศคงเรียนไม่จบตามกำหนด แม้เปอร์สุด ๆ แล้วก็ตาม) เนื่องจากว่า ผมจบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มา พร้อมกับเคยทำงานที่นั้น ดังนั้นผมพอรู้ลึกตื้นหนาบางของวงการวิทยุที่นั้น รวมถึงผมมี "connection" ที่นั้น

connection นี้สำคัญมากนะครับ ในการทำวิจัยที่คุณต้องไปสัมภาษณ์ชาวบ้านเขา (อย่าไปนึกถึงการวิจัยแบบวิทยาศาสตร์ที่อยู่แต่ในแล็บน่ะ)

เหมือนหลัก six degrees of seperation นั้นแหละครับ พอเรารู้จักคนนี้ คนนี้ก็รู้จักคนนู้น เราก็พอให้เขาติดต่อให้ได้

อย่างเพื่อนผมบางคนทำเรื่องเกี่ยวกับทีวี แต่ไม่มีใครรู้จักที่ทำงานทีวีเลย ส่งผลให้แทบลำบากมากกว่าจะติดต่อสัมภาษณ์ได้

มันก็เป็นด้วยประการละเช่นนี้ครับ

 

โดย: I will see U in the next life. 7 ธันวาคม 2548 11:58:47 น.  

 

คำถามที่สอง

- มันจะทำให้ข้อมูลที่ได้สามารถใช้ประโยชน์กับพื้นถิ่น ที่มีวัฒนธรรมต่างได้รึเปล่าคะ

การศึกษาครั้งหนึ่ง ๆ คงไม่สามารถเป็นตัวแทนคำตอบของทั้งหมดได้ครับ การศึกษาของผมก็คงเป็นการให้คำตอบแก่ปรากฎการณ์หนึ่งเท่านั้น ดังนั้นหากมีโปรเจคส์ที่ใหญ่ขึ้น ศึกษาระดับมหภาค (ทั้งประเทศเลย) น่าจะได้ผลที่ชัดกว่า แต่อย่างที่ผมว่าไว้ ถ้าทำไม่จบแน่ครับ

ดังนั้นในแต่ละการวิจัยเขาถึงมีข้อเสนอแนะอยู่ตอนท้ายครับ เอาไว้สำหรับผู้สนใจในเรื่องนี้ได้ศึกษาในประเด็นต่อ ๆ ไปเพื่อต่อยอดการวิจัยชิ้นนี้


- เรื่องการเก็บข้อมูล

อันนี้ไม่ยากครับ ส่วนใหญ่เราจะคิดและเห็นภาพแต่การเก็บข้อมูลด้วย "แบบสอบถาม"

แบบสอบถามนี้ส่วนใหญ่เราจะใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณนะครับ (นับความถี่ หาเปอร์เซนต์) ซึ่งการวิจัยเชิงคุณภาพไม่ต้องการเช่นนั้น เพราะเราต้องการเข้าใจ ดังนั้นคำถามที่เหมาะสมสำหรับการวิจัยของผมคือ การสัมภาษณ์เชิงลึก (ก็สัมภาษณ์แบบชี้ชัด ๆ ไปเลยครับท่าน)

คนที่มาให้ผมสัมภาษณ์ เขาเรียกว่า "Key informance" คือคนสำคัญที่สามารถตอบคำถามเราได้

ยกตัวอย่างสักนิด สมมติมีคำถามว่า "ตอนเด็ก ๆ ผมเป็นเด็กซนไหม" ถ้าเป็นวิจัยเชิงปริมาณ ก็ไปสอบถามใครก็ได้ ถ้าจากร้อยคน 99 คนบอกว่าตอนเด็ก ผมซน ผลสรุปการทดลองนั้นคือ ผมเป็นเด็กซน

แต่ถ้าเป็นเชิงคุณภาพ 99 คนที่ว่ามานี้จะไม่มีค่าเลย ถ้าอีกคนที่เหลือคือแม่ของผมซึ่งเลี้ยงผมมาทุกวัน แม่ผมเป็นคนที่คลุกคลี รู้ลึกรู้จริง ถ้าแม่ผมคนเดียวบอกว่าผมไม่ซน ก็ถือว่าเชื่อถือคำตอบนั้นได้

คำถามของวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพจะแตกต่างกันไปนะครับ แต่ละแบบแผนของวิจัยจะหาคำตอบที่แตกต่างกัน

ดังนั้น ของผม พระสงฆ์ท่านที่เป็นแกนนำในการดำเนินกิจกรรมวิทยุชุมชนเพียงสองรูปก็เพียงพอสำหรับคำตอบที่ผมต้องการแล้วครับ

สงสัยอะไรอีกถามได้นะครับ

 

โดย: I will see U in the next life. 7 ธันวาคม 2548 12:15:24 น.  

 

ถึงยุ้ย

ทำไมคนที่อยากเป็นตัวแทบสั่น ไม่มีใครเหลียวแลมั้งว่ะ กูละงง

 

โดย: I will see U in the next life. 7 ธันวาคม 2548 12:16:26 น.  

 

ขอบคุณก้าบบบ ว่าที่ อ.ดอง

 

โดย: LUNATIC SPACE 7 ธันวาคม 2548 12:48:35 น.  

 

เมื่อวานขอโทษครับ พอดียุ่งๆ (บวกกับเป็นหวัดด้วย มึนๆ) เลยลืมไปเลยว่าถามอะไรค้างไว้ เพิ่งมานึกได้เช้านี้เอง -_-"

แต่สรุปว่าทำได้แล้วใช่เปล่าครับ ?

เดี๋ยวถ้ามาที่ร้านแล้วไม่ลืม จะถามอีกทีละกัน :)

 

โดย: หน่อย SNC IP: 58.136.91.225 7 ธันวาคม 2548 13:35:19 น.  

 

ยังไม่ได้ครับพี่หน่อย

แต่ผมหลังไมค์ไปหาคุณกึ่งยิ่งกึ่งผ่าน เจ้าของลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วครับว่าผมเอามาแปะแล้วมันไม่โผล่

 

โดย: I will see U in the next life. 7 ธันวาคม 2548 14:36:07 น.  

 

 

โดย: โสมรัศมี 7 ธันวาคม 2548 21:23:39 น.  

 

"กูได้สอบแล้วโว้ย"...
..
..
ดูดีใจยิ่งกว่า.. "กูสอบได้แล้วโว้ย"..อีกแน่ะ

 

โดย: สาหร่าย (แร้ไฟ ) 8 ธันวาคม 2548 4:42:48 น.  

 

ดีใจด้วยที่จะได้สอบแล้ว
ผมยังหาหัวข้อใหม่ไม่ได้เลย เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เหนื่อยจัง เฮ้อ

 

โดย: strawberry machine gun 8 ธันวาคม 2548 9:54:48 น.  

 

คุณแร้ไฟหารู้อะไรเสียแล้ว

คือแถวนี้น่ะครับ ถ้าสอบยังไงก็ผ่าน (หมายถึงสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์นะ) แต่แก้มากแก้น้อยนี้อีกเรื่องหนึ่ง

แต่กว่าจะได้สอบนี้ดิ โอ้โฮ แทบอ้วกเป็นเลือด

 

โดย: I will see U in the next life. 8 ธันวาคม 2548 13:05:10 น.  

 

(เมื่อคืนปิดร้านหนีไปกินข้าวกับเพื่อนอีกต่างหาก เลยไม่ได้ดูให้ต่อเลย ขออภัย ... ไว้ค่อยถามอีกทีตอนที่เจอกันที่ร้านนะครับ แหะๆ) -_-"

 

โดย: หน่อย SNC IP: 58.136.88.107 8 ธันวาคม 2548 14:34:14 น.  

 

สู้ๆน๊า

 

โดย: oporr IP: 161.200.255.161 10 ธันวาคม 2548 14:29:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.