Group Blog All Blog
|
โอบกอดท้องฟ้า อิงแอบธรรมชาติแห่งขุนเขา ณ ดอยม่อนแจ่ม ถึงวันนี้ ผมยังคงรู้สึกว่าเทศกาลปีใหม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน เสียงผู้คนกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่ ยังไม่เลือนหายไป แต่ในความเป็นจริงเวลาหมุนเวียนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึง ณ ขณะนี้ฤดูร้อนได้หวลกลับมาแล้ว ดอยสูงในเขตอำเภอแม่ริมแห่งนี้คือส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อีกหนึ่งโครงการหลวงที่ยังความผาสุขสู่ชาวเขาในพื้นที่อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยลักษณะของพื้นที่และคุณสมบัติทางธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ที่แห่งใด หลังจากโครงการหลวงเข้ามาซื้อพื้นที่ ดินแดนที่เคยเป็นป่ารกร้างอยู่บนสันเขาที่ธรรมชาติป่าเขาถูกย่ำยี่จากการแผ้วถางและปลูกฝิ่น ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มเป็นที่รู้จักและมีจำนวนผู้ที่มาเยือนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผืนดินที่ถูกทำลายก็พลิกฟื้น กลายเป็นแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาวนานาชนิดเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ อีกทั้งความสวยงามก็บังเกิดนำพานักท่องเที่ยวจากทุกแห่งหนเดินทางมาเพื่อจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันผุดผ่องและอากาศอันบริสุทธิ์ สำหรับนักเดินทางที่แสวงหาแหล่งพักผ่อนค้างแรมและท่องเที่ยวอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติแล้ว ม่อนแจ่มดูจะเป็นคำตอบที่ค้นหาได้ไม่ยากเลยจริงๆ ด้วยเหตุที่มีพื้นที่เป็นสันเขาอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้การเข้าถึงเป็นไปได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสการท่องเที่ยวแบบแคมปิ้งกำลังกลับมาได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผมใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่สู่ดอยม่อนแจ่มราว 45 นาที ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 เส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง ผ่านอำเภอแม่ริม จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงสายแม่ริม-สะเมิง แล้วไปเลี้ยวขวาที่บ้านโป่งแยกอีกไม่ไกล ราวๆ 6 กิโลเมตรก็สามารถมายืนอยู่บนพื้นที่สูงกว่าหนึ่งพันเมตรจากระดับน้ำทะเล มองไปเบื้องหน้า แลเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน ไกลสุดสายตาในวันที่ท้องฟ้าที่งดงามเหนือคำบรรยาย น่าเสียดายถ้าในวันที่ฟ้าเปิดและเป็นใจมากกว่านี้ คงจะมองไปได้ไกลถึงดอยหลวงเชียงดาวและทิวเขาในเขตจังหวัดเชียงราย เมื่อมองไปอีกด้านหนึ่ง เห็นทิวทัศน์ของท้องไร่แปลงปลูกพืชต่างๆของโครงการหลวงกว้างไกลสุดสายตา เป็นภาพที่งดงามอีกเช่นกัน บนยอดดอยม่อนแจ่มมีพื้นที่ไม่มากนักสามารถเดินชมได้จนทั่วได้อย่างสบาย เรียกว่าสามารถเดินทางมาเที่ยวในวันเดียวโดยไม่ต้องพักค้างแรม แต่หากต้องการที่จะหยุดเวลาไว้ช่วงหนึ่งเพื่อจะได้ซึมซับและดื่มด่ำบรรยากาศของยอดดอยและขุนเขา ดอยม่อนแจ่มมีที่พักไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง โดยส่วนใหญ่เน้นการพักค้างแรมในรูปแบบการแค้มปิ้ง เรียกว่าอาจจะไม่ได้หรูหราสะดวกสบายนักแต่ได้ความประทับใจกลับไปแน่นอน ถ้าได้มีโอกาสมาพักค้างแรมที่นี่ บรรยากาศในช่วงกลางคืนคงเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามีแต่ดาวพร่างพราว คงเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่วิเศษสุดจนยากจะลืมเลือนอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากการมาพักค้างแรมแล้ว สิ่งที่น่าสนใจซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ผุ้คนนิยมมาเที่ยวม่อนแจ่มคือการได้ ชมทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมแปลงพืชผัก ผลไม้และดอกไม้เมืองหนาว นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว การนั่งดื่มกาแฟหรือรับทานอาหาร บนกระท่อมไม้ไผ่ ที่อยู่ติดริมเขาพร้อมชมทิวทัศน์รอบด้านเป็นบรรยากาศที่ผู้คนไม่น้อยแสวงหา นอกจากนี้ยังมีศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงาน วิจัย ผักเมืองหนาวอีกด้วยเช่นกัน แม้แสงแดดในวันนั้นจะแรงจัด แต่ก็ยังมีสายลมเย็นพัดนำพาความเย็นมาเป็นระยะทำให้รู้สึกสบาย ช่วงเวลาดีๆที่ม่อนแจ่ม แม้จะไม่นานนัก แต่ก็ทำให้รู้สึกหายเหน็ดเหนื่อยกับภารกิจที่มีมากมายเลยเกินในเวลานี้ อย่างน้อยการได้มีโอกาสได้มาเที่ยว อยู่ไกลชิดธรรมชาติแบบนี้ก็ทำให้เกิดพลังกายและแรงใจในการกลับไปต่อสู้กับภารกิจที่รุมเร้า หากวันใดได้มีโอกาสผ่านมาบนเส้นทางสายแม่ริม สะเมิง ม่อนแจ่มจะเป็นหนึ่งในจุดหมายในทุกครั้งไปอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เป็นการกลับไปเพื่อมิให้ลืมภาพในวันที่ผันผ่านมา อำลาด้วยภาพสุดท้าย
ว้าว ! รูปงามแต้ๆ
โดย: ON THE WAY (MyEos50 ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2555 เวลา:11:38:07 น.
|
3KKK
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]
Link |