สังคมที่อบอุ่น....เกิดขึ้นได้จากการแบ่งปัน
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 กันยายน 2555
 
 
กรรมเก่าของพระพุทธเจ้า

กรรมเก่าของพระพุทธเจ้า

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ในการใช้ชีวิต ที่ต้องดำเนินผ่านความทุกข์

ยากลำบากต่าง ๆ และหลายท่าน ก็ต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่ทำไว้ใน

อดีต

แม้พระมหาโมคคัลลานะ สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ก็ยังถูกทุบจน

ร่างกายแหลกเหลว เพราะชาติก่อนเคยทุบตีพ่อแม่ไว้

ไม่มีใครหนีพ้นผลของกรรม   ฉะนั้น ทุก ๆ ครั้งที่จะเริ่มทำกรรม ทาง

กาย วาจา และใจ ขอให้สร้างเป็นบุญ สร้างเป็นกุศลอย่างเดียว

เพราะบุญเท่านั้น เป็นที่พึ่งของสัตว์ในปรโลก




ในพระไตรปิฏก มีพุทธภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า "สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็น

ของตัว มีกรรม เป็นตัวให้กรรมเนิด มีกรรมเป็นตัวเกี่ยวข้อง

มีกรรมเป็น ที่พึ่ง สัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม จักได้ผล

กรรมนั้นแน่นอน...."

และว่า " ไม่ว่าจะไปอยู่กลางอากาศหรือหนีไปอยู่กลางทะเล จะช่วยให้

คุ้มครองให้พ้นจากบาปกรรมได้ไม่มีเลย "

จากพุทธภาษิตนี้ พระพุฒโฆษาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์อรรถกถาพระวินัย

ได้นำมาเขียน สรุปไว้ในผลงานของท่านว่า


       "ขึ้นชื่อว่าผลกรรมแล้วไม่มีใคร สามารถห้ามได้ นั้นก็

หมายความว่า  คนเราเมื่อทำอะไรลงไปแล้วไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม

ถึงคราวที่ความดีความชั่ว จะให้ผลนั้นย่อม ไม่มีใครห้ามได้ แม้

พระพุทธเจ้า ของเราเองก็ทรงห้ามไม่ได้"

ความจริงข้อนี้ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกเล่มที่ 32

(ขุททกนิกาย อปทาน) ซึ่งในพระไตร ปิฏกเล่มนี้ มีกล่าวไว้ว่า ...

พระพุทธเจ้าได้ตรัสเล่าถึงกรรมเก่าที่มาให้ผลแก่พระองค์กรรมเก่า

ที่ตรัสเล่านั้นเป็นกรรมเก่าที่ทำไว้ในอดีตชาติ เมื่อครั้งยังเป็นปุถุชน

แล้วมาให้ผลใน ชาติปัจจุบันถึงแม้ว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็น

พระพุทธเจ้า แล้วก็ยังไม่พ้นไป จากผลของ กรรมเก่านั้นซึ่งนำมา

สรุปกล่าวได้ดังนี้



กรรมเก่าอย่างแรก คือ แกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำ

พระองค์ตรัสเล่าว่า ชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นคนเลี้ยงโค

ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคแวะดื่มน้ำข้างทาง เกรงจะชักช้าจึงไล่แม่โค

ไม่ให้ดื่มน้ำ ด้วยการแกล้งเอาไม้กวนน้ำให้ขุ่น บาปกรรมในชาตินั้นส่ง

ผลมาถึงชาตินี้

แม้จะได้ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ส่ง ผลให้พระองค์กระหายน้ำแล้ว

ไม่ได้เสวยสมปรารถนาทันที เมื่อคราวใกล้จะเสด็จ ดับขันธ ปรินิพพาน



กรรมเก่าอย่างที่สอง คือ กล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง


พระองค์ตรัสเล่าว่า เป็นกรรมเก่าทำไว้ในหลายชาติในอดีตดังนี้ ในชาติ

หนึ่ง พระองค์เกิดเป็นนักเลง ชื่อ "ปุนาลิ"

ได้กล่าวตู่ (ใส่ร้าย) พระัปัจเจกพระพุทธเจ้าพระนามว่า "สุรภี" ว่าทำ

ผู้หญิงท้อง ตายจากชาิตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ ไปเกิดอยู่ในนรกนาน

แสนนาน เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส เกิดมาในชาตินี้ แม้จะได้

ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ส่งผลให้

พระองค์มาถูกนางสุนทริกา กล่าวตู่ว่าพระองค์ได้ร่วมรักกับนางจนตั้ง

ครรภ์ ต่อมาในชาติหนึ่ง มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก

พระองค์ได้ทรงกล่าวตู่พระเถระชื่อ "นันทะ" พระสาวถองค์หนึ่ง

ของพระพุทธเจ้าด้วยเรื่องทำนองเดียวกัน ตายจากชาตินั้น

บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานนับหมื่นปี เกิดมา ในชาตินี้

แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

เศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ส่งผลให้พระองค์ถูก นางจิญจมาณวิกา

กล่าวตู่ว่าพระองค์ได้ร่วมรักกับนางจนนางตั่งครรภ์อีกเช่นกัน



กรรมเก่าอย่างที่สาม คือ ฆ่าน้องชายต่างมารดา


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นลูกเศรษฐี บิดา

ของพระองค์มีภรรยาหลายคน


ภรรยาคนหนึ่ง มีลูกชายพระองค์เกรงว่าทรัพยสมบัติส่วนหนึ่งจะถูกแบ่ง

ไปให้แก่น้องชายต่างมารดานั้นจึงลวงน้องชายไปฆ่าที่ซอกเขาแล้วเอา

หินทับไว้ ตายจากชาิตินั้นบาปกรรมส่งผลให้ไปเกิอยู่ในนรกนานปี เกิด

มาในชาิตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้าแล้ว  เศษกรรมที่ยังหลง

เหลืออยู่ก็ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินกระทบนิ้ พระบาทจน

ห้อ พระโลหิต



กรรมเก่าอย่างที่สี่ คือ จุดไฟดักทางพระปัจเจกพุทธเจ้า


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นเด็กแซนซน

วันหนึ่งขณะเล่นอยู่กับเพื่อนเด็ก เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งกำลัง

เดินมา จึงชวนกันจุดไฟดักทางเพื่อมิให้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้

ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน

เกิดมาในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เศษกรรมยังหลง

เหลืออยู่ก็ ส่งผลให้พระองค์ถูกไฟไหม้ที่พระบาท



กรรมเก่าอย่างที่ห้า คือ ไสช้างจับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาิติหนึ่งในอดีต คราวที่โลกว่างจากพระพุทธเจ้า

มีพระปััจเจกพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก พระองค์เกิดเป็นควาญช้าง

วันหนึ่งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งบิณฑบาตแล้วเกลียดจึงไสช้าง

ให้จับ พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น ตายจาก ชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไป

เกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เกิดมาในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระ

พุทธเจ้า เศษกรรมที่ยังหลงเหลือ อยู่ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัต

ยุยงพระเจ้าอชาตศัตรู ให้ปล่อยช้างนาฬาคีรีมาแทงพระองค์



กรรมเก่าอย่างที่หก คือ นำทหารออกศึก

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาิติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นแม่ทัพนำทหาร

ออกรบฆ่า ข้าศึกตายเป็นจำนวนมากด้วยหอก ตายจาก ชาตินั้น

บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เสวยทุกขเวทนาอย่าง

แสนสาหัส เกิดมาในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า

เศษกรรมที่ยังหลงเหลือ อยู่ก็ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตชักชวน

นายขมังธนูผู้ดุร้ายมาฆ่า



กรรมเก่าอย่างที่เจ็ด คือ เห็นคนฆ่าปลาแล้วชอบใจ (ข้อนี้แสดงให้

เห็นว่า เพียงแค่เราดีใจ ที่เห็นคนทำบาป  แค่นั้นกรรมก็ตกกับเรา

แล้ว)

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นลูกชาวประมง

อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาแล้วเกิดความสนุก

ยินดีสนุกสนาน มาเกิดในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้่าแล้ว บาป

กรรมก็ยังส่งผลให้พระองค์รู้สึกปวดพระเศียรเมื่อคราวที่พวกเจ้าศากยะ

พระประยูรญาติของพระองค์ ถูกพระเจ้าวิฑูฑภะกษัตริย์แห่งแคว้น

โกศลยกทัพบุกสังหาร



กรรมอย่างที่แปด คือ ด่าพระสาวกของพระพุทธเจ้า


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นคนปากกล้าด่า

ว่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าผุสสะ (พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 17 ใน

จำนวนพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่ปรากฏพระนามในคัมภีร์พระพุทธ

ศาสนาฝ่ายบาลี) และพูดแดกดันทำนองว่าให้ท่านเหล่านั้นได้ฉันแต่ข้าว

ชนิดเลว อย่าให้ได้ฉันข้าวดีๆอย่างข้าวสาลีเลย

ตายจากชาตินั้นบาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน มา

เกิดในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้่าแล้วบาปกรรมก็ยังส่งผลให้

พระองค์ได้รับนิมนต์จากพราหมณ์เวรัญชาให้ไปจำพรรษาในเมืองเวรัญ

ชา

ครั้นพระองค์เสด็จไปถึงก็เกิดข้าวยากหมากแพง ทำให้พระองค์ต้อง

เสวยข้าวชนิดเลว(ข้าวแดง)อยู่นานถึง 3 เดือน



กรรมอย่างที่เก้า คือ มีส่วนร่วมในการจัดมวยปล้ำ


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นคนจัดมวยปล้ำ

มาเกิดในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วบาปกรรมยังส่งผลให้

พระองค์มีโรคประจำตัวพระองค์คือ ปวดพระปฤษฏางค์ (ปวดหลัง)



กรรมอย่างที่สิบ คือ เป็นหมอยารักษาคนไข้ตาย


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นหมอยารับ

รักษาลูกชายเศรษฐี โดยวิธีให้ถ่ายยา จนลูกชายเศรษฐีตาย ตายจาก

ชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรก มาเกิดในชาตินี้แม้จะได้

ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วเศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ส่งผลให้

พระองค์เกิดพระโรคปักขันทิกาพาธ(โรคท้องร่วง) หลัีงจากเสวยสุกรมัท

ทวะก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน



กรรมอย่างที่สิบเอ็ด คือ เยาะเย้ยพระพุทธเจ้า


พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นชายหนุ่มชื่อ

"โชติปาละ" วันหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากัสสปะ (พระพุทธเจ้า

พระองค์ที่ 26 ในจำนวนพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่ปรากฏพระนามใน

คัมภีร์พระพุทธศาสนาฝ่ายบาลี) แล้วกราบทูลทำนองเย้ยหยันว่า ทำไม

จึงได้ตรัสรู้ช้าต้องบำเพ็ญพียรอยู่นานกว่าจะตรัสรู้ได้

มาเกิดในชาตินี้ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่ แต่

ด้วยผลกรรมนั้นจึงส่งผลให้พระองค์หลงทางในการแสวงหาโมกธรรมจน

ต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา อันทำให้พระองค์ต้องประสบกับทุกข์

ทรมานอย่างแสนสาหัสกว่าจะตรัสรู้ได้


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือกรรมเก่าที่ไม่ดีของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ตรัส

เล่าไว้อย่างเปิดเผย พระไตรปิฏกบอกว่าพระองค์ตรัสเล่า

ให้พระสาวกจำนวนมากที่มาเฝ้าพระองค์ฟังขณะที่ประทับนั่งอยู่บนพื้น

หินแก้ว ในละแวกป่าใกล้สระอโนดาตเชิงป่าหิมพานต์ ณ ที่นั้นนอกจาก

จะได้ตรัสถึงกรรมเก่าที่ไม่ดีแล้วพระองค์ก็ทรง ตรัสถึงกรรมเก่าที่ดีซึ่ง

เป็นปัจจัยให้พระองค์ได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไว้ด้วยนั่นคือ ถวายผ้า

เก่าแก่พระ พระองค์ตรัสเล่าว่าในชาติหนึ่งในอดีตนั้นพระองค์เกิดเป็นคน

ยากจนเห็นพระสาวกของพระพุทธเจ้ารูปหนึ่งซึ่งถืออยู่ป่าเป็นวัตรแล้ว

เลื่อมใสจึงถวายผ้าห่มเก่าผืนเดียวที่ตัวเองมีอยู่แก่ท่านพร้อมกันนั้นก็ได้

ฟังเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากพระสาวกรูปนั้นแล้วเกิดเลื่อมใสยิ่งขึ้น

จึงตั้งจิตปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกการเริ่มต้นปรารถนาแต่

ครั้งนั้นของพระองค์ส่งผลให้ทำความดีมาอย่างต่อเนื่องจนมาได้ตรัสรู้

เป็นพระพุทธเจ้าในชาตินี้

เรื่องราวที่กล่าวมานี้ย่อมชี้ให้เห็นว่ากรรมที่ทำแล้วไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม

ย่อมคอยโอกาสให้ผลอยู่ตลอดเวลาตราบที่ผู้ทำกรรมยังเวียนวายตาย

เกิดแม้ชาติสุดท้ายจะได้บรรลุอรหัตผลแล้ว แต่โดยเหตุที่ยังมีชีวิตอยู่

ซึ่งชีวิตนี้เกิดมาจากกรรมเก่าฉะนั้นยังคงต้องได้รับผลอยู่ดี

พระพุทธเจ้าของเราเองก็เช่นกัน แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

แต่กรรมเก่าก็ยังหาโอกาสให้ผลอยู่เป็นระยะ

กรรมเก่าบางอย่างก็ให้ผลมาแล้วแต่ยังมีเศษเหลืออยู่ แต่กรรมเก่า

บางอย่างก็ยังมิได้ให้ผลมาเลยและมาให้ผลเต็มในชาตินี้

เห็นไหมว่ากรรมยิ่งใหญ่ขนาดไหนพระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เราเข้าใจ

ให้ถูกต้องและการแก้กรรมที่ดีนั้นก็คือ ไม่ทำความชั่วทำแต่ความดีแล้ว

จิตของเราก็จะพบกับความสุขสมบูรณ์แล.


อาจารย์ยบรรจบ บรรณรุจิ จากหนังสือ พ้นโลก ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 เดือน

มีนาคม พศ. 2535

ที่มา..//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12639779/Y12639779.html
(เนื้อหาจริง และไม่ถูกปรับแต่ง โปรดอ่านจากความคิดเห็นที่12และคำอธิบายตั้งแต่ความคิดเห็นที่ 24 เป็นต้นไป เพื่อความกระจ่างในเนื้อความค่ะ)




Create Date : 15 กันยายน 2555
Last Update : 15 กันยายน 2555 11:01:31 น. 1 comments
Counter : 2954 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ


โดย: herepin วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:11:19:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

jintean
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




สาวช่างฝัน ราศีกันย์ ขยันหาโปรเจคใหม่ๆมาเปลี่ยนแปลงชีวิต ชอบสิ่งท้าทาย ชอบความหลากหลาย รักสัตว์ แต่ไม่รักเด็ก ( เพราะไม่ใช่นางงาม ) ชอบลักษณะของเป็ด ( เพราะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง ) ไม่ชอบเผด็จการ ชอบทำอาหาร ( แต่ไม่ค่อยมีฝีมือ ) ถ้าว่าง...เชิญมาคุยกันนะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ
New Comments
[Add jintean's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com