|
|
|
|
|
|
วิสัยทัศน์เรื่องเทคโนโลยีของอดีตผู้นำไทย ทักษิณ ชินวัตร ( 3 )
21. กลายเป็น Learning Organization องค์กรจะปรับเปลี่ยนจาก functioning organization เป็น process-oriented organization และในที่สุดก็กลายเป็น learning organization ระบบการบริหารจะไม่เป็น hierarchy อีกต่อไป จะเป็นลักษณะของเครือข่ายที่เป็น node แต่ละระดับการบริหารทุกคนจะเป็น node และจะ โยงใยกัน ข้ามไปมากันได้ ไม่มีการมาบอกกันว่าคนนี้มา ข้ามหัวอีกต่อไป organization เกือบจะเหมือนกันหมด เป็นลักษณะ networking หมด เพราะฉะนั้นใครกำลังทำ ธุรกิจอยู่ ให้รีบไปปรับ organization ของตัวเอง แต่จะปรับ ได้อย่างนั้น ต้องมี digital nervous system ของตัวเองที่ แข็งแรง ระบบการไหลของข้อมูลต้องดี ไม่เช่นนั้นจะไป networking ไม่ได้
22. อย่าต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ผมอาจจะพูดอะไรที่เร็ว แต่ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มาแน่นอน Change before you are forced to change.อย่าไป resist มัน ต้องพยายามขี่บนจรวดลำนี้ให้ได้ ไม่ใช่พอเห็น จรวดมา ไปด่าจรวด ไม่ได้นะ ต้องขึ้นขี่เลย เราจะได้ไปเร็ว ด้วย ขี่แล้วก็ต้องเกาะให้แน่น ประเดี๋ยวจะร่วง
23. การติดต่อสื่อสารคือปัจจัยสำคัญ communication ก็ยังจะเป็น key factor ที่จะทำให้ flow ของ information ไปได้ดี มันจะสอดคล้องกับที่เรียกว่า Network organization becoming learning organization. เพราะฉะนั้นระบบ communication ก็จะเป็นหัวใจสำคัญ จะ ไม่มีคำว่า centralized หรือ decentralized อีกต่อไป จะเป็น networking organization หมด ทุกอย่างจะอยู่ที่ nervous system ของ organization นั้นหมด
24. รัฐต้องเป็นผู้นำในการปรับตัว เรามาดูภาครัฐกับการเมืองบ้าง รัฐต้องเป็นผู้นำในการปรับตัว ให้เข้ากับ post information age ในปี 2000 เรายังไม่ได้ เตรียมตัวอะไรกันเลยนะครับ เพราะเราใช้ปี 2543 เราเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย Y2K เป็นคู่แข่งซิป YKK หรือเปล่าก็ยัง ไม่แน่ใจ รัฐบาลจะต้องเป็นตัวนำครับ ต้องเป็นรัฐบาลประเภท open and internetworked government คือ เราต้อง พยายามเปลี่ยนรัฐบาลปัจจุบันที่เป็น very analogue government ให้เป็น digital ให้มากที่สุด กระทรวงทบวงกรมทุกแห่งต้องมีอินทราเน็ตเป็นของตัวเอง ต้อง cross กันเป็นเอ็กซ์ทราเน็ต แต่การกลายเป็นอินทราเน็ต ของประเทศไทย ตรงนี้ต้องทำเร็วเราถึงจะทันโลก
25. รัฐบาลต้องสามารถสร้างและใช้ Network ถ้าเราคิดว่าไม่ทำตรงนี้ เราก็จะล้าหลังไปเรื่อยๆ อีกหน่อยเรา จะแข่งกับเวียดนาม พม่าก็กำลังจ่อเข้ามา ผมเสียใจมากที่เรา ยิ่งทำกันไปกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐต้องรีบ สร้าง networking ต้องรีบสร้าง digital nervous system และ ต้อง transform รัฐบาลให้ไปสู่การเป็น internetworked government ให้ได้ รัฐบาลต้องสามารถสร้าง และใช้ network เพื่อเชื่อมโยงกับประชาชนและสังคมให้ได้
26. ต้องติดตั้งอินเตอร์เน็ตในระดับตำบล ผมเคยประกาศว่าผมจะติดตั้งอินเตอร์เน็ตในระดับตำบล ให้ทุก ตำบลมี homepage ของตัวเองให้ได้ เพื่อสามารถเชื่อมโยง ระหว่างตำบลได้หมด แล้วก็ให้เด็กบ้านนอกที่อยู่ในตำบลบ้านนอก นี่แหละ มีความสามารถ access information ได้เท่ากับเด็กที่ กรุงเทพฯ เป็นการลดช่องว่างการเข้าสู่ข้อมูลระหว่างคนในเมือง กับคนในชนบทให้น้อยลง เพราะถ้าไม่แก้ไขมันจะกลายเป็น ช่องว่างที่เป็นปัญหามากขึ้น เราต้องพยายามทำในลักษณะก้าว กระโดด ให้เด็กชนบท สามารถเข้าสู่ข้อมูลได้เท่ากับเด็กกรุงเทพฯ หรือเด็กนิวยอร์ค อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่ถ้าเราใช้มันให้เกิด ประโยชน์ มันก็จะลดช่องว่าง แต่ถ้าไม่ใช้มัน มันจะเป็นตัวที่เพิ่ม ช่องว่างให้หนักยิ่งกว่าเก่า
27. ต้อง Modernize ประเทศไทย ต่อไปเรื่องระบบภาษี การให้บริการต่างๆแก่ประชาชน หรือการ เลือกตั้ง การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ต้องอาศัยผ่าน nervous system ไม่เช่นนั้นช่องว่างระหว่างรัฐบาลกับประชาชน จะมากขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลจำเป็นต้อง modernize ตัวเอง ถึงเวลา ปี 2000 ต้อง modernize ประเทศไทยแล้วครับ
28. เราต้องเป็น Knowledge Economy มาดูเรื่องของเศรษฐกิจ เราต้องเป็น knowledge economy คือระบบการกระจายการตัดสินใจต้องลงไปยังระดับล่างให้ มากที่สุด เพื่อให้คนที่มีความรู้ สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น กับข้อมูลที่มัน flow ไป และจัดการกับระบบ process ภายใต้ระบบของ digital nervous system ที่มันเป็นไป จะต้องพัฒนาคนให้มีความรู้ทางด้านนี้ให้มากขึ้น ต่อไปเรื่อง ของ bits จะกลายเป็นสินค้าแล้ว เพราะมัน digitize ทั้งหมด Bits becoming goods. ทุกอย่างจึงเป็นสินค้าหมด อะไรก็ แล้วแต่ ต้อง convert เป็น digital หมด การ convert ต้อง ระวังด้วยนะครับ พรรคการเมืองบางพรรคมีปัญหาเรื่อง DAAD (การแปลง digital เป็น analogue และการแปลง analogue เป็น digital) เป็นเรื่องของ converter ที่ไม่ work
29. นายหน้าจะหมดอาชีพ เศรษฐกิจข้างหน้า middle man จะมีปัญหาครับ ถ้าพวกเขา ไม่รู้จักคำว่า add value พวกเขาจบเลย ทำไม นายลี กวนย ูถึงโวยเรื่องอินเตอร์เน็ตเหลือเกิน โวยว่าอยากให้เด็กเอเชีย นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอทั้งวันเหรอ โวยเพราะอะไร เพราะสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ร่ำรวยจากการเป็นนายหน้า อินเตอร์เน็ตจะ ทำให้นายหน้าหมดอาชีพ เว้นแต่นายหน้านั้นจะเข้าใจวิธี add value
30. คิดจะก้าวกระโดด ต้องคิดแบบ Digital แล้วต่อไปข้างหน้าจะเป็นลักษณะของ innovation-based economy อย่างที่ผมพูดว่ามันจะมี break through new technology ตลอด เพราะฉะนั้นคนเรา จึงต้องมี R&D คือมีสมองที่ breakthrough ไปเรื่อยๆ วันนี้ เราเอาของเก่าที่แข่งขันกันมาเป็น 10-20 ปีทิ้งไปเลย เราต้องเขียนโปรแกรมใหม่ กระโดดไปข้างหน้าเลย สร้าง สิ่งใหม่ขึ้นมา อย่าไปเอาโปแกรมเก่า ๆ มาดัดแปลง เพราะ convert ไม่ทันแล้ว ถ้าคิดจะก้าวกระโดด ต้องคิดแบบ digital
..........................................................................
ที่มา ......//www.blognone.com/node/4566
Create Date : 26 มีนาคม 2551 |
Last Update : 26 มีนาคม 2551 17:00:44 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1357 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nakamuk วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:19:57:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|