“ตายตามลิขิต”   (The   die  is  cast)

คือชื่อหัวข้อรายงานชิ้นหนึ่งที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Tokarev

หรือในชื่อไทยว่า “ปลุกแค้นสัญชาติคนโหด” ซึ่งคนที่ทำรายงานชิ้นนี้

เป็นลูกสาวของตัวเอกในเรื่อง และได้เสียชีวิตลง

จนเป็นฉนวนเหตุให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์นี้

โดยเนื้อหาได้สอดคล้องกับหลักศาสนาพุทธที่ว่า

เมื่อได้กระทำสิ่งใดลงไปแล้ว ย่อมได้รับผลของการกระทำ

อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือ “กฎแห่งกรรม” นั่นเอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ นำแสดงโดย นิโคลัส เคส

ซึ่งรับบทเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่เพียบพร้อม

แต่มีเบื้องหลังความเป็นมาที่ไม่ค่อยดีนัก และเป็นพ่อที่มีลูกสาวเพียงคนเดียว

ต่อมาลูกสาวสุดที่รักได้ถูกจับตัวไปโดยไร้สาเหตุและวี่แววของคนร้าย

ไม่ใช่การปล้น ไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ ไม่มีการติดต่อกลับมาใดๆ ทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบเหตุจูงใจเลย แต่ก็ได้พยายามสืบหาร่องรอยอยู่

ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของตัวเอกในเรื่อง ที่เป็นคนใจร้อน วู่วาม

และโมโหร้าย   ทำให้อดีตหัวหน้าของเขาได้ตักเตือนในวันทำพิธีศพว่า

ให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวสืบหาด้วยตัวเอง

แต่คนเป็นพ่อย่อมอยู่เฉยไม่ได้ เขาได้ร่วมมือกับเพื่อนสนิทสองคน

ออกค้นหาร่องรอยด้วยวิธีในแบบของพวกเขา แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย

จนวันนึงมีคนพบศพลูกสาวของเขาในสภาพถูกยิงตาย

ทำให้เขาแค้นใจมาก   จึงออกตามล่าหาตัวการ

โดยพุ่งเป้าไปที่แก๊งค์รัสเซียที่เคยมีเรื่องราวกันในอดีต

เพราะหลักฐานจากกระสุนปืนที่ใช้ยิงนั้น  

เป็นปืนของพวกมาเฟียรัสเซียที่มักจะใช้กัน

เขาและเพื่อนจึงใช้วิธีระรานแหล่งทำมาหากินของพวกรัสเซียไปทั่ว

เหวี่ยงแหทำลายไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาผู้ก่อเหตุ จนนำมาซึ่งความไม่สงบสุข

หนึ่งในเพื่อนสนิทได้ถูกจับตัวไปและถูกทรมานจนตาย

อดีตหัวหน้าก็พลอยเดือดร้อนเกิดเรื่องทะเลาะกับพวกรัสเซียจนถูกยิงตาย

เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งก็ถูกเขาเค้นถามบางอย่างจนเกิดโทสะ

เผลอแทงเพื่อนจนตาย

ในที่สุดก็รู้ว่าลูกสาวของเขาไม่ได้ตายด้วยน้ำมือแก๊งค์รัสเซีย

แต่เป็นเหตุสุดวิสัยที่เพื่อนชายของลูกสาวทำปืนลั่นในขณะที่

นำออกมาเล่นกัน เพื่อนชายคนนี้จึงได้สร้างเรื่องว่าลูกสาวของเขา

ถูกจับตัวไป สร้างหลักฐานที่เกิดเหตุว่ามีคนบุกเข้ามา

มีการต่อสู้ทำลายข้าวของ และไม่สามารถจดจำอะไรเกี่ยวกับ

คนร้ายได้เลย

เมื่อได้ฟังคำสารภาพหมดทุกอย่าง จึงได้รู้ตัวว่าทำพลาดไป

ที่ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งค์รัสเซีย จนก่อให้เกิดความเดือดร้อน

วุ่นวายแก่ตัวเองและคนอื่นๆ   จึงตัดสินใจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย

ชดใช้ความผิดที่ก่อไว้ทั้งหมด

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเลยตั้งแต่ต้นถ้าหากว่า

ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อหลายปีก่อนนั้น   ตัวเขาและเพื่อนสนิททั้งสองคน

ซึ่งยังเป็นเด็กวัยรุ่นไม่ได้ก่อเหตุเอาไว้ แต่เพราะว่าทั้งสามคน

(อยู่ในแก๊งไอริช) ได้ร่วมกันดักปล้นเงินของแก๊งรัสเซีย

และได้ฆ่าพี่ชายของหัวหน้ามาเฟียคนปัจจุบันแต่ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้

โดยทั้งสามคนสาบานร่วมกันว่าจะปิดเป็นความลับตลอดไป

เลยทำให้เกิดสงครามระหว่างแก๊งไอริชและแก๊งรัสเซียในตอนนั้น

เมื่อการกระทำผิดในอดีตคือเหตุแล้วส่งเป็นผลในปัจจุบัน

เมื่อถึงเวลาต้องชดใช้   จึงได้มีเหตุให้ลูกสาวได้ถูกฆ่าตาย

ทำให้เขาและเพื่อนคิดว่าน่าจะเป็นการฆ่าเพื่อล้างแค้น

จากฝีมือแก๊งรัสเซีย จึงเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมา

แล้วก็เป็นเหตุให้ความลับที่ปิดมานานถูกเปิดเผย

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเนื้อหาได้ตรงกับหลักศาสนาพุทธ

ในแง่ที่ว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง”

ไม่ว่าจะทำไว้นานเท่าใด ไม่ว่าจะปกปิดไว้มิดชิดแค่ไหน

สุดท้ายตัวเองก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้นอยู่ดี

ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ไม่ว่าจะเกิดในรูปแบบไหน

และบทสรุปของเรื่องนี้ ก็เป็นไปตามหัวข้อรายงานฉบับนั้น

“ตายตามลิขิต”   (The   die  is  cast)

ขอบคุณภาพประกอบจาก :

//en.wikipedia.org/wiki/Tokarev_%28film%29

Create Date : 27 มิถุนายน 2557
Last Update : 1 กรกฎาคม 2557 12:31:30 น.		0 comments
Counter : 3461 Pageviews.
Share Tweet