Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton)

Fashion: ใครบ้างหิ้วประเป๋าหลุยส์ แต่ไม่ทราบประวัติเลย และเคยสงสัยเรามาหาคำตอบกัน

เมื่อพูดถึงแฟชั่นกระเป๋าหนัง คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของหลุยส์ วิตตอง หรือที่บ้านเราเรียกกันสั้น ๆ ว่า กระเป๋าหลุยส์ หรือ LV หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton)เป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องหนังอันดับแรก ๆ ของโลกโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จำพวกกระเป๋า ที่โด่งดังมาจากฝรั่งเศส

รุ่นแรก หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ปี 1854 (
พ.ศ. 2397) ช่างทำหีบผุ้ก่อตั้ง Louis Vuitton เริ่มจากการผลิตและจำหน่ายหีบซื่งเป็นกิจการส่วนตัว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากชายที่ชื่อ Louis Vuitton Malletier นายหลุยส์ วิตตอง มัลติแยร์ ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่า Louis Vuitton กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้นำชื่อ และ นามสกุลตัวเเรกมาเป็น ชื่อยี่ห้อที่ผลิต คือ LV นำมาไขว้กัน สังเกต การตั้งชื่อเเบนด์ต่างๆ ทางยุโรป โดยเห็นได้ชัดคือ อิตาลี และฝรั่งเศส จะนิยมตั้งเป็นชื่อตัว ของผู้ก่อตั้งหรือเป็นชื่อสถานที่ที่ผลิต เป็นต้น

วิตตองเปิดตัวในอุตสาหกรรมเครื่องหนังครั้งแรกด้วยหีบใส่ของที่แหวกแนวออกมาจากหีบใส่ของทั่วไปในยุคนั้นซึ่งจะมีลักษณะเป็นหีบฝาโค้ง ทำให้ไม่สามารถวางซ้อนกันได้ แต่หีบใส่ของของวิตตองนั้นทำออกมาเป็นลักษณะแบนราบ ซึ่งทำให้สามารถวางซ้อนกันขึ้นไปได้ และง่ายในการขนส่งเดินทาง หีบใส่ของของวิตตองได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

แน่นอน เมื่อหีบแบบใหม่ของวิตตองเป็นที่นิยมอย่างมาก บรรดาผู้ผลิตเจ้าอื่น ๆ พากันเลียนแบบหลุยส์ วิตตอง หันมาผลิตหีบใส่ของแบบเดียวกันออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงการลอกเลียนแบบ หลุยส์ วิตตองจึงจัดการเปลี่ยนดีไซน์อีกครั้งโดยครั้งนี้ทำออกมาเป็นลักษณะลายทางสีเบจและสีน้ำตาล หลังจากนั้นในปี 1885 (พ.ศ. 2428) บริษัทหลุยส์ วิตตองก็เปิดร้านในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นร้านแรก ตั้งอยู่บนถนนออกซ์ฟอร์ด และหลังจากนั้นไม่นาน หลุยส์ วิตตองก็เปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีชื่อว่า แดณ์เมียร์ แคนวาสซึ่งประดับโลโก้เขียนว่า marque L. Vuitton dpose ซึ่งแปลได้ว่า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของหลุยส์ วิตตอง ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หลุยส์ วิตตองผู้ก่อตั้งได้เสียชีวิตลงในปี 1892 บริษัทหลุยส์ วิตตองสืบทอดต่อไปยัลูกชายของเขา จอร์จ วิตตอง ซึ่งวางแผนจะพาบริษัทไปสู่ความเป็นระดับโลกต่อไป ปี 1893 จอร์จเริ่มจากการนำสินค้าของหลุยส์ วิตตองไปเปิดตัวในงานแสดงสินค้าระดับโลกในชิคาโก สหรัฐอเมริกา ในป 1896 เขาก็เปิดตัวลาย Monogram Canvas และจดลิขสิทธิ์ไว้ทั่วโลกซึ่งช่วยแก้ปัญหาการปลอมแปลงสินค้าได้ในระดับหนึ่ง ส่วนตัวจอร์จเอง เขาออกเดินทางไปสหรัฐอเมริกาและนำสินค้าของหลุยส์ วิตตองไปขายในเมืองใหญ่ ๆ ของสหรัฐ เช่น นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และชิคาโก เป็นต้น

ในระหว่างที่จอร์จขึ้นเป็นผู้บริหารบริษัท หลุยส์ วิตตอง ได้เปิดตัวกระเป๋าใหม่หลายแบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบล้วนแล้วแต่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ในที่สุด ในปี 1913 หลุยส์ วิตตองก็ได้สร้างอาคารของตนเองบนถนน ฌอง อลิเซย์ ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าที่เกี่ยวกับการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น

จอร์จ วิตตองเสียชีวิตลงในปี 1936 ทิ้งบริษัทให้แกสตัน หลุยส์ วิตตองเป็นผู้สืบต่อ

ในช่วงปี 1945 2000 ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของหลุยส์วิตตองจะใช้หนังเป็นหลัก ตั้งแต่กระเป๋าสตางค์ใบเล็กไปจนถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มีการแก้ไขแบบของ Monogram Canvas ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้สามารถใช้กับกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าขนาดเล็กได้ เสียงตอบรับต่องานกระเป๋าหนังของหลุยส์ วิตตองยังคงเป็นไปด้วยดีกระทั่งในปี 1977 พวกเขาก็มีรายได้ถึง 70 ล้านฟรังซ์ (14.24 ล้านดอลลาห์สหรัฐ) ในปีถัดมา หลุยส์ วิตตองก็บุกตลาดเอเชียโดยการเปิดสาขาในประเทศญี่ปุ่นที่เมืองโตเกียว และโอซาก้าตามมาด้วยไต้หวันที่เมืองไทเปในปี 1983 และเกาหลีใต้ที่โซล ในปี 1984

ในที่สุด ในปี 1987 หลุยส์ วิตตองก็รวมตัวกับสองผู้นำอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย Moet et Chandon และ Hennessy ผู้ผลิตแชมเปญ และคอนยัค กลายเป็น LVMH ซึ่งรายได้ของหลุยส์ วิตตองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทันทีและในที่สุดหลุยส์ วิตตองก็สามารถมีร้านสาขากว่า 130 สาขาทั่วโลกภายในปี 1989 เมื่อเข้าสู่ยุค 1990s หลุยส์ วิตตองก็พร้อมจะก้าวสู่ยุคใหม่ Yves Carcelle ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานบริษัทหลุยส์ วิตตองและนำพาหลุยส์ วิตตองสู่ตลาดจีนโดยการตั้งร้านที่โรงแรมพาเลสในกรุงปักกิ่ง พร้อม ๆ กับการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ขยายขอบเขตจากกระเป๋าไปสู่สินค้าอื่น ๆ มากขึ้น

แน่นอนว่าหลุยส์ วิตตองไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ ในปี 1997 หลังเปิดตัวคอลเลคชันปากกาของตนเองเป็นครั้งแรก บริษัทหลุยส์ วิตตองก็ได้เชิญดีไซเนอร์ชื่อดัง มาร์ค จาคอบบ์และเจมานั่งแท่นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ในปีถัดมาก่อนที่หลุยศ์ วิตตองจะขายปีกสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าพร้อม ๆ กับการเปิดตัวกระเป๋า Monogram Verris สมุดภาพ LV และหนังสือชุด Louis Vuitton City guide

ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 หลุยส์ วิตตองก็ครองโลกอุตสาหกรรมกระเป๋าหนังเป็นผลสำเร็จหลังจากตบเท้าสู่ตลาดแอฟริกาโดยการเปิดสาขาใหม่ที่มาราเคช ประเทศโมรอคโคในปี 2000 แต่พวกเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลุยส์ วิตตองยังคงเดินหน้าเต็มกำลังโดยการดึงนักออกแบบชั้นนำอีกหลาย ๆ คนมาร่วมงานเพื่อผลิตสินค้าแบบใหม่ ๆ ต่อไปทั้งสตีเวน สเปราต์ ทาคาชิ มุราคามิ พร้อมทั้งเดินหน้าขยายสาขาในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปซึ่งล่าสุด หลุยส์ วิตตองเพิ่งเปิดสาขาใหม่ในกรุงลอนดอนอีกสาขาหนึ่งซึ่งกล่าวกันว่าเป็นร้านที่หรูหราที่สุดในลอนดอน ณ ขณะนี้

อักษร L V ดาว และดอกไม้ (ลายโมโนแกรมมีอายุตั้ง 114 ปี แล้วทุกวันนี้ก็ยังนิยมอยู่) Damier Canvans อนุมัติออกมาปีนี้เช่นเดียวกัน
Canvas โดย จอร์จ วิตตอง (George Vuitton) ทายาทรุ่น 2 หลังจากนายหลุยส์ เสียชีวิต ลูกชายก็ต้องการให้ แบรนด์ไปสู่ทั่วโลกจึงออกแบบลายดอกไม้ขึ้นมา ที่ Chicago World's Fair ในปี1893

จากปีค.ศ.1896เป็นต้นมาหีบ หลุยส์ วิตตอง ในลวดลาย โมโนแกรม ก็สำแดงคุณภาพอันพิเศษให้เป็นที่ประจักษ์ยากจะหาใครเหมือน ก็คือความทนทานคุ้มราคานั่นเอง ด้วยหีบส่วนใหญ่ที่มีน้ำหนักมากมักชำรุดเสียระหว่างเดินทาง หากแต่หีบนามนี้กลับมีความทนทานมากกว่า โดยเฉพาะตามขอบมุมที่มักถูกกระทบกระแทกจนช้ำชอก ได้รับการป้องกันด้วยการหุ้มมุมด้วยโลหะและตอกหมุดเย็บตะเข็บเป็นอย่างดี โครงข้างในก็เบาและมั่นคงมีการใช้ซับในที่น่าดู ไม่เหม็นกลิ่นหนังที่อับชื้นและหากมีการชำรุดก็ส่งซ่อมได้โดยง่าย ยิ่งทำให้สินค้าชื่อนี้เป็นที่นิยมเป็นทวีคูณ

จากปากต่อปากคำต่อคำในที่สุด หลุยส์ วิตตอง ก็กลายเป็นสินค้าฝรั่งเศสที่ขายดีที่สุดในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นสินค้าที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เลยแต่ก็เป็นสินค้า ที่มียอดขายมากที่สุดจากร้านเล็กๆในมหานครปารีส ปัจจุบัน หลุยส์ วิตตอง มีบูติคที่เปิดจำหน่ายสินค้าของตนในทุกเมืองสำคัญของโลกกว่าร้อยแห่ง ยิ่งเปิดมากยอดจำหน่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองที่ หลุยส์ วิตตอง เริ่มเพิ่มแบบและเพิ่มสีสันให้ลูกค้าเลือกได้มากขึ้น และมีการใช้กลยุทธ์ในการจำกัดจำนวนและถิ่นฐานของผู้ซื้อ กลับกลายเป็นการกระตุ้นยอดขาย ให้บรรดาผู้ที่นิยมในสินค้าชื่อนี้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ เพื่อซื้อหามาเป็นสมบัติของตนให้จงได้ อย่างไม่รู้สึกเสียดมเสียดายในเงินทองที่ต้องจ่ายออกไปแม้แต่ทั้งที่สินค้า ของ หลุยส์ วิตตอง เป็นสินค้าราคาสูงหากแต่ด้วยคุณภาพที่ทนทานคุ้มราคา ทำให้สินค้านี้เป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสิ่งแสดงรสนิยมและฐานะ นอกเหนือไปจากการเป็นนักเดินทางผู้มากด้วยประสบการณ์เช่นเมื่อสองศตวรรษที่ แล้ว


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย กระเป๋าถือทุกใบจะต้องพับได้ 1 ทบ เนื่องจากเวลาเย็บผ้าซับในจะเย็บทาบไปกับหนังโดยการขึงให้ตึงทั้งจากด้านบน ลงล่างและซ้ายไปขวา เชือกที่ต่อจากหูหิ้วก็จะขดอยู่ล่าง ไม่ต้องกังวลว่าตะเข็บกระเป๋าจะฉีกขาดตรงก้นกระเป๋าก็จะติด bottom tack ป้องกันไม่ให้ผ้าด้านล่างสัมผัสกับพื้นโดยตรง ดั้งนั้นเมื่อพับกระเป๋าจึงไม่ต้องกลัวว่าหนังจะปริหรือหักงอ ลาย Monogram และ Damier ไม่ได้ใช้หนังวัวแต่ใช้ผ้าฝ้ายทอจากเส้นด้ายอียิปต์ซึ่งผ่านการเคลือบด้วยกรรมวิธีพิเศษ ส่วนพวกด้ามจับจะเป็นหนัง ส่วนลาย Epi และลายอื่นๆ จะใช้หนังวัว กระเป๋า หลุยส์ จะไม่กลายเป็นขยะถึงพังก็ซอ่มได้ ถ้าเบื่อก็มีร้านมือ 2 รับซื้อ 1ใน 3 หรือ 40 % ของคนญี่ปุ่นมีกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง

ความเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton

จำนวนที่ผลิตออกมาจะเท่ากับขายออกไป และจะหยุดผลิตเมื่อขายได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ (เพราะถ้าผลิตออกมามากเกินไปจะดูเป็นของธรรมดาที่ใครๆ ก็มี)

ควบคุมการกระจายสินค้าด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านบริษัท หรือร้านขายส่ง จะขายให้เฉพาะร้านที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการเท่านั้นโดยมีร้านที่บริหารโดยตรงของแต่ละพื้นที่ในโลกเป็นศูนย์กลางตั้งร้านบูติกในเมืองหลักโดยใช้อัตรา 1 ร้านต่อประชากร 1 ล้านคน และจำกัดให้มีสินค้าแบบเดียวกันเพียง 1 ถึง 2ชิ้นเท่านั้น

ไม่มีการโฆษณาออกทีวี ,ไม่มี Second Line, ไม่มีส่วนลด (เป็นแบรนด์เดียวในประวัติศาสตร์ 156 ปีที่ผ่านมายังไม่เคยขายสินค้าลดราคาแม้แต้ครั้งเดียว),ไม่มีของแถมไม่ขายเป็นเซ็ต , ไม่มี Outlet ,ห้ามออกใบอนุญาต(License)ให้ใครผลิต ไม่ตั้งราคาเป็นเศษ ตั้งเป็นตัวเลขกลมๆ (ไม่ต้องใช้ตัวเลขหลอกล่อก็มีคนมาต่อแถวซื้อ)

เรียบเรียงข้อมูล โดยแป้งร่ำ
ที่มา หลากหลายใน internet





Create Date : 16 ธันวาคม 2555
Last Update : 16 ธันวาคม 2555 18:33:22 น. 0 comments
Counter : 2425 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PinePh
Location :
Rome Italy, Bangkok Thailand, AMS Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




I dont have anything to say much about myself...if you want to know more please check it out!!!
Friends' blogs
[Add PinePh's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.