Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
มาล้างพิษให้ร่างกายเรากัน

มาล้างพิษให้ร่างกายเรากัน

ร่างกายของเราประกอบด้วยส่วนของร่างกายที่เราสามารถจับต้องและมองเห็นได้ อีกส่วนเป็นส่วนของจิตใจ และการไหลเวียนของพลังงานต่างๆ ในส่วนนี้เราไม่อาจจะมองเห็นได้ การมีสุขภาพที่ดีจำเป็นจะต้องบำรุงรักษาในทั้ง 2 ส่วนทั้งร่างกายและจิตใจ หนึ่งในกระบวนการบำรุงรักษาที่สำคัญ คือ การทำความสะอาดที่เราเรียกว่า "ล้างพิษ"

เราสามารถล้างพิษได้ใน 5 ทาง คือ
1.กินเพื่อล้างพิษ
2.อดเพื่อล้างพิษ
3.สวนลำไส้เพื่อล้างพิษ
4.ฝึกลมปราณเพื่อล้างพิษ
5.ฝึกสมาธิเพื่อล้างพิษทางจิตใจ

สารพิษก็คือ สารที่ทำลายสุขภาพ ในทางอายุรเวทได้อธิบายว่าร่างกายของเราประกอบด้วยธาตุ ทั้ง 5 หากส่วนใดส่วนหนึ่งถูกรบกวนจะเกิดสารพิษ
"อามะ" อุดตันในร่างกาย และการไหลเวียนของพลังงาน ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น จากมุมมองของแพทย์สมัยใหม่ สารพิษ คือ

- Oxidized-LDL โคเลสเตอรอล ที่เป็นต้นเหตุของเส้นเลือดอุดตัน
- น้ำตาลในเลือด หากว่ามีปริมาณสูงจะก่อให้เกิด อัลดีไฮด์ ที่เป็นอันตรายต่อเส้นเลือดในระบบประสาท และเซลล์ของร่างกาย
- สาร Complex antigen-antibody ที่เป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้
- ของเสียโปรตีนจากเซลล์ที่ตายแล้ว อันเนื่องจากการอักเสบ, การตายของเนื้อเยื่อใจกลางของมะเร็ง, คีโมบำบัด และรังสีบำบัด
- อนุมูลอิสระ ที่เกิดจากการออกซิเดชั่น
- สารพิษที่เกิดในลำไส้ เกิดจากการบูดเน่าของไขมันและโปรตีน

ดีท็อกซ์ ย่อมมาจากคำเต็ม ๆ ว่า Detoxification ซึ่งเป็นวิธีการนำเอาสารพิษออกจากร่างกาย หรือที่คนไทยมักเรียกสั้น ๆ ว่า "การล้างพิษ" แต่เดิมแพทย์แผนโบราณใช้วิธีการดีท็อกซ์หรือสวนล้างลำไส้ เพื่อรักษาโรคหรือการเจ็บป่วยอะไรก็แล้วแต่ อย่างคนป่วยเป็นไข้ก็ควรให้คนไข้ถ่ายอุจจาระออกมา ครั้นระบายออกมาแล้วอาการไข้ลดลง

คำว่า "ดีท็อกซ์" คือการเอาสารพิษออกจากร่างกาย หลายคนจึงสับสนว่าการสวนล้างลำไส้คงเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการสวนล้างลำไส้คือ การเอาน้ำใส่เข้าไปในลำไส้แล้วล้างอุจจาระออกมา คนจึงคิดว่าการสวนล้างลำไส้อาจเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยเอาสารพิษออกจากร่างกาย เหตุนี้คำสองคำนี้จึงถูกใช้ปะปนกันมาโดยตลอด

การดีท็อกซ์ก็เพื่อทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรก ของเสีย กากอาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ให้หมดไป เวลาของเสียต่าง ๆ ถูกขับออกมาไม่หมดจะตกค้างที่ลำไส้ บางครั้งของเสียเหล่านี้จะเกาะติดอยู่ตามผนังของลำไส้จนเป็นตะกรัน ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อร่างกายที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายไม่ออก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ ผายลมบ่อยๆ ปวดท้อง ท้องเสีย ปากเปื่อย ปากเหม็น กลิ่นตัวแรง คันตามผิวหนังเป็นแผล เป็นฝี ปวดหัว เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อและกระดูก บางคนอาจเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งริดสีดวงทวาร มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ

การสวนล้างลำไส้
ตับที่แข็งแรงและลำไส้ที่สะอาดเป็นสิ่งจำเป็นต่อการล้างพิษ ดังนั้นเราจึงควรที่จะทำความสะอาดลำไส้ วิธีการทำความสะอาดลำไส้มี 2 วิธี คือ

- การสวนลำไส้ใหญ่ระดับบนเน้นการสวนด้วยน้ำอุ่น
- การสวนล้างลำไส้ใหญ่ระดับกลางด้วยสารบางอย่าง เช่น กาแฟ หรือสมุนไพร

การสวนลำไส้จะต้องกระทำควบคู่ไปกับการกินอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพในแต่ละระยะการอด การออกกำลังกายที่ฝึกปราณอย่างเช่นชี่กงหรือโยคะ การทำสมาธิ เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูสุขภาพเป็นไปอย่างครบถ้วน

ประโยชน์ของการสวนล้างลำไส้
การกินโปรตีน ไขมัน แป้งที่ขัดสี อาหารที่มีกากใยน้อย ทำให้การทำงานของลำไส้ไม่ดีและเพิ่มสารพิษ เป็นจุดเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วยบางประการ ซึ่งอาการเจ็บป่วยดังกล่าวสามารถบรรเทาได้ด้วยการสวนลำไส้ โรคที่สามารถบรรเทาได้ด้วยการทำสวนล้างลำไส้มี


ดีท็อกซ์มีประโยชน์อะไรบ้าง

ทำความสะอาดลำไส้ และแบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย ลดการสะสมสารพิษ และเมื่อสารพิษต่าง ๆ ถูกชะล้างออกไป ลำไส้ก็จะทำงานได้ตามปกติ

ทำให้ร่างกายสดชื่น เมื่อร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70 เปอร์เซ็นต์ การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายจะดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ถ้ามีของเสียตกค้างที่ลำไส้มากจะทำให้ลำไส้อ่อนแอลง แต่เมื่อล้างลำไส้แล้วจะช่วยให้กล้ามเนื้อลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น กำจัดของเสียได้มากขึ้น ทำให้ไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษในลำไส้

ทำให้ลำไส้มีขนาดปกติ เพราะถ้ามีของเสียอุดตันในลำไส้ จะทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติและจะทำให้รูปร่างของลำไส้เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีอาการบวมหรือโป่ง แต่เมื่อสวนล้างลำไส้เอาสารพิษออกไป จะช่วยให้รูปร่างของลำไส้กลับมาเป็นปกติตามธรรมชาติ

ทำให้ระบบการทำงานในร่างกายดีขึ้น เพราะตามปกติแล้วอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทุกส่วนจะทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้ผ่านจุดตอบสนอง ฉะนั้น เมื่อได้สวนลำไส้จะช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้และส่งผลให้ร่างกายโดยรวมทำงานได้ดี เช่น ตับ ถุงน้ำดี ไต ตับอ่อน และต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ

ดีท็อกซ์ด้วยกาเเฟ
การใช้กาแฟซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ตับขยายตัว แล้วตับนั่นแหละ จะทำหน้าที่ขับสารพิษออกมาได้ดีขึ้น
ซึ่งตามทฤษฏีเชื่อว่าเมื่อลำไส้ดูดซึมกาแฟ ต่อจากนั้น จะส่งต่อไปยังตับ แล้วตับซึ่งเป็นอวัยวะทำลายสารพิษ จะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายต่อไป
การสวนกาแฟนับเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสบาย สามารถกระทำได้ด้วยตนเอง เหมาะที่จะทำร่วมกับการอดเพื่อสุขภาพ, ชี่กง, โยคะ, การทำสมาธิ

วิธีการสวน
1. ผสมกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่นประมาณ 1,000-1,500 มิลลิลิตร ในบางคนอาจใช้น้อยกว่านี้ ในกรองกาเเฟออก (กาเเฟ สำหรับดีท๊อกซ์ก็เหมือนกาเเฟปกติ ไม่ต่างจากกาเเฟดีท๊อกซ์
2.ใส่ไว้ในขวดน้ำลิตรนั้นเเหละ เจาะ เป็นหูห้อยด้านบน ฝาจะเจาะนำสายยางสอดเข้าไป สามารถหาซื้อได้ตามร้าน ที่ขายอุปกรณ์ดีท๊อกซ์
3. เเขวนให้สูงและค่อยๆไม่เกิน 3 ฟุต นอนลงให้ยกก้นขึ้น แล้วจึงค่อยๆสอดท่อ ให้ใช้วาสลีนช่วย ค่อยปล่อยกาเเฟให้หมด พยายามอั้นจนสุดฤทธิ์ ห้ามไปถ่ายออกเด็ดขาด ทิ้งไว้สักประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนวดท้องวนไปทางขวา จากนั้นก็เริ่มไปปลดปล่อยได้เลย รับรอง หมดไส้หมดพุงจริงๆ อาจจะออกไม่หมดในครั้งเดียว แต่รับรองว่าสบายตัวจริงๆ

หรืออาจจะทำด้วยน้ำมะนาวก็ได้ แต่ด้วยกาเเฟ จะส่งผลต่อการทำงานในน้่ำดีของตับ เนื่องจากตับจะดูดซึมคาเฟอีนในกาเเฟ ไปช่วยในการทำงานที่ดีขึ้น

ดีท็อกซ์มีผลข้างเคียงมั้ย

ถ้าไม่ระมัดระวังอย่างเพียงพอ เราอาจรู้สึกเหนื่อยอ่อน ปวดหัว ไปจนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ อันมีผลมาจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน เพราะขาดสารอาหารอย่างปัจจุบันทันด่วน นอกจากนั้น ถ้าดีท็อกซ์นาน ๆ เราอาจขาดสารอาหารหรือแร่ธาตุบางอย่าง ทำให้ภูมิต้านทานของเราลดลง ยิ่งไปกว่านั้นการดีท็อกซ์ไม่ได้ช่วยเรื่องการลดน้ำหนักในระยะยาว เพราะแรก ๆ ที่น้ำหนักลดนั้นอาจเป็นเพราะเราสูญเสียน้ำ และไขมันในปริมาณมากอย่างปุ๊บปั๊บ แต่พอเวลาผ่านไปร่างกายจะเกิดโยโย่เอฟเฟ็กต์ หรือกลับมาอ้วนหลังจากเลิกดีท็อกซ์ไปแล้ว

เรามาเช็คกันว่า ระบบขับถ่ายของเราดีไหม ลองก้มมองสักนิดนะค่ะ ก่อนที่จะกดชักโครก
ถ่ายออกง่าย
กลมนิ่มยาว
ไม่เหม็น
ลอยน้ำ
สีเหลืองอ่อน

ลองดูนะค่ะ ว่าการล้างพิษในร่างของเราเอาเเบบไหนดี
เรียบเรียงข้อมล จาก Internet




Create Date : 27 สิงหาคม 2555
Last Update : 27 สิงหาคม 2555 17:13:02 น. 0 comments
Counter : 1206 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PinePh
Location :
Rome Italy, Bangkok Thailand, AMS Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




I dont have anything to say much about myself...if you want to know more please check it out!!!
Friends' blogs
[Add PinePh's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.