Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
รู้อะไรดีๆ ก่อนมาเที่ยวอิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.4.2 ตอนอาหารมื้อค่ำ พาสต้า

อาหารจานแรกจะเป็นอาหารเส้นๆ ทั้งหลาย แล้วแต่เราจะเลือก เส้นสปาเกตตี้ และ พาสต้า (พาสต้าที่เราคุ้นในนามของมักกะโรนี) แต่เส้นที่นี้มีหลายหลายมาก ขึ้นอยู่กับรูปร่างของเส้น และรูปทรง ที่น่าแปลกก็ตรงที่ว่าส่วนผสมของแป้งที่ทำสปาเกตตี้ และพาสต้าทั้งหลายนั้นเป็นส่วนผสมที่เหมือนกัน แต่รูปร่างและรูปทรงทำให้ รสชาดของมันแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนพาสต้าเล็กๆ นิยมทำเป็นซุป เพื่อนๆ อาจจะสั่งเมนูง่ายๆ ถ้าชอบทานแบบครีมๆ หน่อย ก็ คาโบนารา เป็นเส้นผสมหมูสามชั้นคล้ายเบคอนแต่จะเล็กๆ ใส่ไข่ อันนี้เป็นต้นตำรับที่แท้จริง แต่ที่เห็นใส่ครีมเป็นการดัดแปลง carbonara มีประวัติที่ชาวอิตาเลี่ยนเล่าให้ฟังว่า คนที่เขาทำฟืน ทำถ่านกันสำหรับฤดูหนาวที่มีการตัดไม้มาทำฟืน เวลาทานอาหารกลางวันแบบเร่งรีบที่ไม่ต้องรอ ทำซอสให้ยุ่งยากจากมะเขือเทศ ก็จะเอากระเทียมใส่ น้ำมันมะกอก และ หมูสามชั้น หั่นเล็กๆ และนำเส้นพาสต้าลงไปคลุกๆ ใส่ไข่ลงไป เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก็เลยเป็นสูตรจากคนทำฟืนนั้นเอง ที่คำว่า CARBON มาจากคำว่า ถ่าน นั้นเองค่ะ

แต่ถ้าต้องการซอสมะเขือเทศกับเนื้อ หรือ ปลาทูน่าก็รสชาดดีเช่นกัน ซอสมะเขือเทศคลุกเคล้ากับพาสต้าหรือสปาเกตตี้นั้น ไม่ใช่เป็นซอส คัชชัพ อย่างที่เรานึกกันว่าเป็นซอสมะเขือเทศ แต่ที่นี้ วิธีการทำซอสคือมะเขือเทศสด ตั้งไฟกับน้ำมันมะกอกและกระเทียม ปรุงรสด้วยเกลือ และรอจนกระทั้งมะเขือเทศสุกจนได้ที่กลายเป็นซอสที่รับรองเลยว่าคนที่ไม่ชอบมะเขือเทศจะเปลี่ยนใจไปเลย หรือจะเป็นอีกเมนูที่ขึ้นชื่อ สำหรับผู้ที่ชื่อชอบอาหารทะเล คือ พาสต้ากับหอยลายนั้นเองค่ะ ก็มาจากคนทางฝั่งทะเลคิดสูตร คือ Spaghetti di Vongole ส่วนมากจะสั่งเป็นเส้นสปาเกตตี้ เรียกว่า สปาเกตตี้ ดิ วองโกเล คือ หอยลาย แต่จะคล้ายหอยลายบ้านเราแต่ไม่เหมือนที่เดียวค่ะ หรือ จะเป็น Frutta di Mare (ฟรุ้ตตา ดิ มาเร) คือ รวมมิตรทะเลนั่นเอง Mare คือ ทะเล ให้ออกเสียงกระดก ลิ้นด้วยนะค่ะ เพราะ ถ้าออกเป็น Male คือ จะแปลว่า ไม่สบาย จะทำให้คนรับสั่งอาหารจะงง ไปตามๆ กันนะค่ะ
หลากหลายเมนู เพราะส่วนใหญ่บางร้านเขาจะไม่มีภาษาอังกฤษกำกับไว้ ศัพท์ ที่จะง่ายๆ ในการสั่งอาหารคือ
- Pomodoro (โปโมโดโร) มะเขือเทศ ถ้าเมนูอันไหนมีคำนี้แน่ใจได้เลยว่ามีมะเขือเทศแน่ๆ
- Funghi (ฟุ้งกี) เห็ด
- Uovo (อูโอโวะ) ไข่
- Melanzane (เมลันซาเน่) มะเขือม่วง
- Patate (ปาตาเต้) มันฝรั่ง
- Verdura (เวรดูรา) ผัก
- Zuppa (ซัปป้า) ซุป
- Aglio e olio (อาโย) คือ กระเทียม e คือ และ โอโยะ คือ น้ำมันมะกอก
- Tonno (โตนนะ) Tuna คือ ปลาทูน่า
- Salmone (ซาลโมเน่) Salmon คือ ปลาแซลมอน
- Frutti di Mare (ฟรุ๊ตตี้ ดิ มาเร) รวมมิตรทะเล
- Formaggi (ฟอรมารจิ) คือ ชีส
- Pesce (เปสเญ่) คือ ปลา
- Carne (คารเน่) คือเนื้อต่าง ต้องระวังออกเสียงดีๆ ต้องมีตัว ร ให้ชัดๆ เพราะ ถ้าไม่ออกเสียง “ร” ให้ชัดเจน คำว่า Cane (คาเน่) แปลว่า หมา เดี๋ยวเขาจะนึกว่าเรามาจากเวียดนามค่ะ
- Maiale (มายาเล) คือ เนื้อหมู
- Gamberetto, Gamberi (กัมเบเรตโตะ) คือ กุ้ง
- Calamaro (คาลามาโร) คือ ปลาหมึก
- Pollo (โปลโล) คือ เนื้อไก่
- Capra (คาปรา) คือ เนื้อแพะ
- Coniglio (คอนิโย) คือ เนื้อ กระต่าย รสชาดเหมือนเนื้อไก่
- Cavallo (คาวาลโล) คือ เนื้อม้า
- Tacchino (ตัลคลิโน) คือ เนื้อ ไก่งวง
- Manzo (มานโซ่) คือ เนื้อวัว
- Salsiccia (ซาลซิชา) คือ ไส้กรอกที่มีเนื้อๆยัดไส้ เหมือนไส้อั่ว หรือ ไส้กรอกอิสาน
- Filetto (ฟิลเลตโต) เหมือน ฟิลเล่ย์ คือ การไสลด์
- Insalata (อินซาลลาต้า) คือ สลัด
- Mista (มิสต้า) คือ การผสม รวมๆ กันหลายอย่าง
- Vino (วีโน) คือ ไวน์
- Birra (บิรร่า) คือ เบียร์

หรือจะเป็นเมนูสิ้นคิดง่ายๆ คือ พาสต้า กระเทียมกับพริก เรียกว่าคือ Spaghetti Aglio, olio e peperonchino

เส้นพาสต้า มีหลากหลาย มากมาย ที่ส่วนผสมไม่แตกต่างกัน แต่ เส้นและรูปร่าง รูปทรงรวมทั้งขนาดจะต่างกันมีผลต่อ การปรุงและซอสที่ใช้จะทำให้ได้รสชาดออกมาแตกต่างกัน จึงอยากจะแนะนำคร่าวๆ จากหลากหลายเส้นจนทำให้จำไม่ได้ แต่โดยหลักๆ ก็จะมีดังต่อไปนี้เพื่อการจำที่ง่ายๆ ไม่สับสน และจะได้เพลิดเพลินกับพาสต้าค่ะ
รายการ ลักษณะของเส้น พาสต้า List of Pasta เส้นยาวๆ จะมีหลายขนาด การต้มเส้นพาสต้า มีหลักอยู่ว่า ให้ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่เกลือลงไปเล็กน้อยและหลังจากนั้นให้เติมเส้นที่จะต้มลงไป เวลาในการต้มจะระบุไว้ที่ห่อผลิตภัณฑ์ หรือถ้าไม่ทราบให้ดูจากการขยายตัวของพาสต้าจะเริ่มใส และให้ลองชิมดู ปกติจะต้มไม่ให้นิ่มมากเพราะเมื่อนำมาผสมกับซอสแล้วมักจะนำเส้นลงไปคลุกกับซอสให้เข้ากัน จะทำให้ความร้อนทำให้เส้นนิ่มขึ้นไปอีก
เส้นสปาเกตตี้ ยากที่จะกล่าวว่าต้นตำรับดั้งเดิมมาจากที่ไหน ในประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า อาจจะได้มาจากเมืองจีนทำเส้นบะหมี่ โดยการเดินทางของ มาร์โคโปโล ในปี 1295 แต่ การทำพาสต้านั้นก็มีมาก่อนหน้าแล้วและการทำเส้นสปาเก็ตตี้นั้นต่างกับการทำเส้นบะหมี่อย่างที่มาร์โคโปโล อธิบายไว้ หรือ อีกนัยหนึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากชาวอาหรับที่มีการปรุงอาหารด้วยแป้งบนหิน ในสมัยก่อน แต่อย่างไรถ้ากล่าวถึงสปาเก็ตตี้ ก็เป็นที่อื่นไม่ได้นอกจากที่อิตาลี


- Spaghetti คือ เส้นสปาเกตตี้ ทั่วไปมีหลายขนาด อยู่ที่ เบอร์ เรียงตามขนาดเบอร์เล็กไปใหญ่ค่ะ ถ้าเป็นที่ทำกันตามร้านอาหารบางยี่ห้อจะเขียนกำกับไว้ว่า resturante (เรสตูรานเต้) คือสำหรับร้านอาหารนั่นเองค่ะ
- Capellini คือ เส้นที่เหมือนเส้นหมี่ คำว่า capelli แปลว่า เส้นผม
- Bucatini คือ เส้นที่มีรู เหมือนหลอดดูดน้ำ ที่เรียก bucatini คำว่า Buca จะมาจาก bocca (บอคคา) แปลว่าปาก คือ ต้องใช้ปากดูดเส้นๆ นั้นเองลองสั่งมาทานดูแล้วจะได้รู้ว่า เออ จริงนะ Bocca จริงๆ
ต่อไปเป็นเส้นแบนๆ แต่ยังคงเป็นเส้นยาวอยู่
- Fettuccine (เฟสตูชินี่) จะเป็นเส้นที่ผสมด้วยไข่ เหมือนบะหมี่แบน
- Lasagne (ลาซานย่า) เป็นแผ่นใหญ่ๆ เหมือนแป้งเกี้ยว ทานเป็นชั้นๆ Lasagne จะใช้เวลาในการทำนาน คือต้องเข้าไปอบ และค่อนข้าง rich ความหมายของ rich ในที่นี้คือ มีความมันของชีสและความเข้มข้นมาก อาจจะเลี่ยนได้ สำหรับคนที่ไม่ชอบ จะมีหลายไส้ ไม่ว่าจะเป็นผักหรือ เนื้อ
- Linguine (ลิงกัวนี่) คือเส้นแบนๆ เหมือนเส้นสปาเกตตี้ แต่แบนออก คำว่า lingua แปลว่าลิ้น คือลักษณะเหมือนลิ้น เป็นรากศัพท์การออกเสียงด้วยลิ้น ที่ ใช้เรียกว่า ภาษา Language นั่นเอง
- Tagliatelle (ไตยาติลเล) เส้นที่คล้าย Fettuccine แต่จะกว้างกว่าและบางกว่าจะทำเป็นก้อนๆ เหมือนบะหมี่ คือเวลาทำเป็นแผ่นยาวๆเขาจะม้วนๆ เป็นโรล แล้วใช้มีดตัดๆ พอคลี่ออกมาก็จะเป็นเส้นยาวๆ แล้วก็จะแยกเป็นกองๆ (Taglio) แปลว่า ตัด
ต่อไปเป็น พาสต้า ที่ตัดสั้นๆ ที่เราคุ้นเคยว่ามักกะโรนี แต่ ที่จริงคือ พาสต้า ที่ทานกับซอส ไม่ใช้ซุป
- Ditalini (ดิตาลินี่) คือ เส้นที่เป็นเหมือนกับ หลอดที่หั่นเป็นท่อนๆ เล็กๆ เหมาะสำหรับทำซุป แบบมักกะโรนีมากกว่า ส่วนมากจะทำเป็นซุป เรียกว่า Minestra มิเนสตร้า
- Penne (เปนเน่) จะเห็นอยู่ในเมนูส่วนใหญ่เป็นเส้นเหมือนหลอด ใหญ่ๆ ตัด เฉียงๆ มีร่องขีดๆ รอบนอกทั่วพาสต้า จะมีหลายแบบ ตัดตรงและตัดเฉียง
(การตัด กับ การที่มีร่องกับไม่มีร่อง จะทำให้รสชาดต่างกันมากถ้าเป็นส่วนผสมของซอสมะเขือเทศจะเข้าไปในร่อง เวลาทานจะทำให้ได้รสชาดของซอสได้มากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับซอสที่เป็นส่วนผสม)
- Fusilli (ฟูซิลลี่) เส้นพาสต้าเป็นเกลียวๆ อันนี้ ซอสจะเข้าไปอยู่ระหว่างร่องเกลียวอร่อยมาก
- Gomito (โกมิโตะ) คือ ที่เราเอามาทำเป็นมักกะโรนี มีรูปร่าวคล้ายข้อศอก คำว่า gomito แปลว่าข้อศอก

ต่อไปเป็น พาสต้า ที่เป็นรูปเป็นร่าง อย่างที่เรานำมาทำมักกะโรนี และ อื่น ที่หาได้ง่ายตามร้านอาหาร ในรายการอาหาร
- Macaroni มักกะโรนี คือเส้นที่ เป็นรูปร่างคล้าย gomito แต่ยาวกว่า
_ Conchiglie (คอนคลียี) ลักษณะเป็นเหมือนเปลือกหอยเชลล์
- Farfalla (ฟารฟาลล่า) ลักษณะเป็นเหมือนโบว์ แต่จริงๆ เขาเรียกว่า ผีเสื้อ คำว่า farfalla คือ ผีเสื้อ
- Fiori (ฟิโอริ) คือ ดอกไม้ รูปร่างเป็นดอกไม้ และ fiori ก็แปลว่าดอกไม้
- Rotelle (โรเตลเล่) รูปร่างเหมือนวงล้อ เช่นคำแปลว่า วงล้อ
พาสต้าที่ใช้เวลา เพียงเล็กน้อยในการทำให้สุก
- Alfabeto (เอลฟาเบโต้) พาสต้า ที่เป็น Alphabet คือ ตัวอักษร
- Stelle (สเตลเล่) พาสต้า รูปดาว Stella แปลว่า ดาว
- Tortelloni (ตอรเตลโลนี่) เหมือนเกี้ยวบ้านเรา ห่อด้วยไส้ต่าง ไม่ว่าจะเป็น ผัก หรือ เนื้อ ทานกับซอส หรือ มีซุป จะได้รสชาดอยู่แล้วจากไส้ด้านใน เมนูจานนี้จึงไม่ค่อยปรุงแต่งซอสมากนัก คำว่า Torte จะแปลว่าเค้ก เพราะกรรมวิธีในทำจะเหมือนการทำขนม
- Gnocchi (จีนอคคลี) คือ พาสต้าที่มีส่วนผสมของมันฝรั่ง รูปร่างคล้ายครองแครง จานนี้จะหนักมากเพราะมีส่วนผสมของมั่นฝรั่ง



การทานเส้นสปาเกตตี้มี วิธีการทานนะค่ะ คือ จิ้มด้วยส้อมขึ้นมาเล็กน้อยแล้วหมุนๆ ซ้อมจนเส้นทั้งหมดรวมตัวกันแล้วก็ใส่เข้าปากเลยค่ะ ไม่ได้แบบตัดขึ้นมาแล้วดูดๆ เข้าปากแบบบะหมี่นะค่ะ ส่วนข้าว หรือ risotto ก็ใช้ส้อมทานค่ะ เพราะช้อนจะทานพวกเป็นน้ำๆ ลองใช้ส้อมทานข้าวดูนะค่ะ รสของปลายซ้อมจะโดนที่ริมฝีปากจะได้อรรถรสแปลกไปอีกแบบจากการทานด้วยช้อนค่ะ

จะเห็นได้ว่า คำศัพท์แต่ละคำของจะมีความหมายในตัวโดยรากศัพท์ มาจากภาษาลาติน บางคำศัพท์จะเหมือนกับภาษาอังกฤษให้สังเกตดีๆ ก็สามารถเดาออกได้ แต่บางคำก็ต่างกันไปเลย

ร้านอาหารที่นี้ ให้สังเกต จากคำว่า coperto โคเปอร์โต๊ะ คล้ายๆ เหมือนค่าปูโต๊ะ นะค่ะ ร้านอาหารส่วนใหญ่จะมี ราคา ต่อหัวประมาณ 1-2 euro นะค่ะ
บางคนอาจจะบอกว่าปูทำไม เราไม่เอา อิอิ แต่ การปูของเขา คือ บางร้านจะเป็นกระดาษสวยๆ ปูให้เป็นเซต พอกินเสร็จเขาก็จะขยำทิ้งทั้งหมดนะค่ะ หรือ แม้จะเป็นผ้าปู เขาก็จะเอาออกเปลี่ยนให้คนที่มานั่งใหม่ทันที ก็เลยเป็นค่าบริการนะค่ะ ถ้าเป็นเรานะ ไม่เปื้อนคงไม่เปลี่ยน แต่ เขาเปลี่ยนทุกครั้ง น้อยมากที่จะไม่เห็นเปลี่ยน และ รวมเป็นค่าขนมปังด้วยค่ะเพราะ ถ้าเราไปนั่งสั่งอะไรก็แล้วแต่ ขนมปังจะมาก่อนเลยค่ะ หรือ ถ้าเป็นร้านพิซซ่าจะเป็นเหมือนขนมปังขาไก่ ส่วนซอสต่างๆ น้ำมันมะกอก เขาก็จะวางให้เป็นขวดๆ เป็นอย่างชนิดเข้มข้นด้วยค่ะ เรียกว่าไม่หวงกันเลย เขาก็เลยคิดเพื่อไว้ และบางครั้งที่เห็นเป็นน้ำมันสีออกเหลืองๆ คือน้ำมันพริก ที่เขาใส่พริกไว้ กับน้ำมัน เหมาะสำหรับคนชอบราดน้ำมันบนพิซซ่า หรือ บน พาสต้า จะออกเผ็ดๆ อ๋อ ที่สำคัญสำหรับคนไทยนะค่ะ ถ้าอยากได้พริก ขอได้นะค่ะ
ใช้คำว่า
Mi Scusi peperoncino picante per favore?
มี สกูซซี่ เปปเปอรอนชิโน ปิคานเต้ เปอร์ ฟาเวอรเร่
ขอโทษ พริก เผ็ดๆ ด้วยความกรุณา

โดยประมาณนั้นค่ะ ต้องย้ำ picante molto ปิคานเต้ โมโต้ คือ เผ็ดมากๆ นั่นเองค่ะ แต่ถ้าแนะนำ สำหรับคนที่ชอบทานเผ็ดๆ เอาพริกติดตัวไปด้วยดีกว่า เพราะบางร้านพริกที่คิดว่าเผ็ดๆ ไม่เผ็ดเอาเสียเลย หรือบางร้านเขานำพริกสดมาให้ในจานสวยงาม แต่มีพริกเม็ดโต เม็ดเดียวเหมือนพริกชี้ฟ้าไม่เผ็ดเอาเสียเลยค่ะ ที่ร้านซุปเปอร์จะมีขายแบบเป็นพริกแห้งบรรจุขวดเล็กๆ พกพาสะดวก ให้สังเกต คำว่า Intero คือ เข้มข้น คำนี้จะเห็นได้บ่อย จะใช้กำกับกับกับพริก หรือ นม ที่ มีไขมันเข้มข้น พริกมีหลากหลายค่ะ ที่เผ็ด ก็มาจากแถบคาริเบียน มีหลายสีหลายแบบ คล้ายพริกหยวกก็มี โดยการทานแบบพริกหยวกคือนำไปทอดในกระทะแล้วโรยเกลือกับน้ำมัน การเก็บพริกที่นี้จะร้อยแขวนไว้ในครัวค่ะ ดูแล้วแปลกตาดี บางบ้านฝั่งหนึ่งเป็นกระเทียมอีกฝั่งเป็นพริก แม้กระทั่งนำพริกเป็นส่วนผสมในชีสหรือไอศครีมก็มีค่ะ เห็นไม่ค่ะว่าฝรั่งก็ทานเผ็ดเป็นเหมือนกัน



เห็นกันแบบนี้เเล้ว คนที่ชอบรสจัดจ้าน จี๊ดจ๊าดไม่ต้องกังวลแล้วนะค่ะ แต่แค่หน้าหนาวพริกสด คงหายากเอาการ แต่ก็มีร้านขายเครื่องเทศ อาหาร ที่เป็นร้านบังคลาเทศก็มีพริกค่ะ เผ็ดเหมือนๆ กัน อาหารไทยก็ไม่ต่างจากอาหารอิตาเลี่ยนเท่าไหร่ คนที่คิดถึงอาหารไทยสามารถปรับเปลี่ยน วัตถุดิบจากที่นี้ได้ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากจำเป็นจริงๆ เช่นพวก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดที่ หาได้จากร้านจีนที่เเช่เเข็ง ใน ย่าน วิคตอเรีย ที่ในโรมค่ะ นอกนั้นถ้าต้องการสดๆ ตรงจากไทย ต้องรอทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนจะมี ตลาดไทย คือ คนไทยจะมาพบปะกัน มีของไทยจำหน่าย รวมทั้งอาหารไทย เป็นกลุ่มๆ ที่สวนสาธารณะ ที่ EUR ค่ะ

เห็นแบบนี้เเล้วก็ ไม่ต้องคิดถึงอาหารไทยเท่าไหร่เเล้วค่ะ เพียงแต่ติดที่ว่า ราคาค่อนข้างสูงกว่า เวลาที่เราไปซื้อวัตถุดิบจากอิตาลีที่จำหน่ายในเมืองไทย เเพงมากกว่าหลายเท่าเลยค่ะ

ส่วนบางร้านกระดาษเช็ดปากสวยมาก เป็นลวดลาย เหนียว เช็ดกันก็ไม่ขาด เห็นแล้วอยากเก็บเป็นผ้าเช็ดหน้า เคยสะสม ลายน่ารักๆ ไว้ด้วยเพราะถ้าไปซื้อ 20 เเผ่นตก ประมาณเกือบ 200 บาทนะค่ะ

ส่วนการไปนั่งที่บาร์ ที่เขาเก็บเพิ่มถ้าเป็นทานกาเเฟ ธรรมดา ก็ต้องเข้าใจค่ะ เพราะโดยมาก คนอิตาเลี่ยน จะยืนทานกัน ที่เคาท์เตอร์ คุยๆ กัดคอนเนตโต้ แล้วดื่มกาเเฟ เขาเลยไม่นั่งกัน โต๊ะก็เลยมีจำกัด ก็เลยอาจจะคิดตังค์เพิ่ม แต่ถ้าเป็นมีที่นั่งด้านนอก มีคนนั่งหลายคนอยู่ สั่งเขาก็คงเพิ่มเป็นค่านั่ง ไม่มากน้อยเท่ากัน กับค่า coperto ค่ะ แต่เขาไม่ค่อยคิดตังค์เท่าไหร่นัก

ของเขาที่นี้ส่วนมากจะ ไม่มี service charge นะค่ะ จะเป็น ค่าปูโต๊ะ เเทนบางที่ก็ไม่คิด ราคาดูได้จากที่เมนูค่ะ COPERTO แต่ที่ BAR เขาจะไม่ได้เขียนบอกนอกจากจะเป็น Bar ที่มีที่นั่งเป็นเรื่องเป็นราวด้านนอกที่ขายอาหารด้วยเขาก็จะมีในเมนูนะค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ Bar มักไม่คิดตังค์ค่ะ
เวลาไปนั่งโต๊ะอาหาร พนักงานจะเข้ามาถาม ว่าจะรับอะไรไหม เราอาจจะฟังไม่ค่อยถนัดเพราะคนอิตาเลี่ยนพูดเร็ว คือ คำที่มี ตัว R คือ ร จะกระดกลิ้นจน คนไทยที่ภาษาไทยมีคำควบกล้ำ และ ตัว ร เขินไปตามกันเพราะ ชัดเจนมาก
เราจะใช้การสั่งอาหาร ว่า il menu per favore ( อิล เมนู เปอร์ ฟาเวอเร่)
จากนั้น ก็อ่านรายการตามเมนูไปเลยค่ะ ถ้ามีภาษาอังกฤษกำกับก็จะง่ายต่อการสั่ง เมืองท่องเที่ยว คนอิตาเลี่ยนจะพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้า บางร้านไม่ได้ เราก็ ลุยเลยค่ะ สั่งด้วยการชี้เมนู เลย
คนอิตาเลี่ยนโดยมากจะเวลาคุยกันหรือ สนทนา จะออกรสชาดมาก ทั้งเสียงและท่าทาง น่ารักดีค่ะ เราสามารถเข้าใจบทสนทนาได้จากท่าทาง นั่นเอง อย่างเช่น ถ้าทานอาหารแล้วอร่อย ให้นำนิ้วชี้ จิ้มลงไปที่แก้ม แล้วหมุนไปมาก จะเหมือนกับบอกว่า บวนโน่ Buono อร๊อยอร่อย อาจจะต้องจำนะค่ะเพราะเมื่อขณะทานอาหาร บางครั้ง พนักงานจะเข้ามาถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง เรียบร้อยดีไหม อาจจะได้ยินว่า Tutto e posto? ตู๊ดโตะ เอะ ปอรสโต หรือ คำว่า Come? โคเมะ เป็นอย่างไรบ้าง เราก็ บอก OK หรือ ทำนิ้วชี้อย่างที่บอกเขาก็จะเข้าใจโดยเฉพาะมาถามตอนกำลังเคี้ยวเนื้อในปากก็จะตอบลำบาก วิธีนี้ได้ผลค่ะ








Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 5 มีนาคม 2554 7:19:46 น. 0 comments
Counter : 4798 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

PinePh
Location :
Rome Italy, Bangkok Thailand, AMS Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




I dont have anything to say much about myself...if you want to know more please check it out!!!
Friends' blogs
[Add PinePh's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.