|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
หอพระสุลาลัยพิมาน : มุขกระสันแบบจีน - หอพระแบบไทย . . . ในวังหลวง
.
.
.
.
.
.
ในบรรดาบ้านไทยของผู้มีอันจะกิน มักจะนิยมมีห้องที่สำคัญอยู่ 2 ห้อง
ได้แก่ "ห้องพระ" ห้องหนึ่ง ใช้เป็นห้องสำหรับเก็บวัตถุมงคลที่เคารพบูชา
ของเจ้าของบ้าน เช่นพระพุทธรูป และยังใช้เป็นที่สวดมนต์ ไหว้พระด้วย
อีกห้องหนึ่งคือ "ห้องเก็บอัฐิ" ของบรรพบุรุษ ซึ่งบางบ้านจะเก็บไว้เคารพ
บูชาเป็นการแสดงกตัญญุตา
ในสมัยแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระบรมมหาราชวัง ทรงมีพระบรมราชโองการให้
สร้าง "หอพระเจ้า" ไว้ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
ตรงข้ามกับพระที่นั่งราชฤดี และนี่คือ "หอพระ" ของพระบรมมหาราชวัง ใช้
ประดิษฐานปูชนียวัตถุ เช่น พระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปสำคัญต่างๆแห่ง
สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า และต่อมาภายหลังได้รับการเรียกขนาน
นามว่า "หอพระสุลาลัยพิมาน" นอกจากพระบรมสารีริกธาตุแล้วยังมีพระ
พุทธรูปสำคัญ เช่น พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตองค์น้อย)
พระชัยนวโลหะ พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล พระพุทธปฏิมากรห้ามสมุทร
พระพุทธบุษยรัตนจักรพรรดิพิมลมณีมัย(พระพุทธรูปแก้วผลึกเพชรน้ำค้าง)
พระนิรันตราย เป็นต้น และในเทศกาลสงกรานต์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เคยเสด็จมาสรงน้ำพระพุทธรูป
สำคัญที่หอพระสุลาลัยพิมานแห่งนี้เป็นประจำ
ที่คู่กับหอพระสุลาลัยพิมานและอยู่ตรงข้ามกัน คืออยู่ทางทิศตะวันตกของ
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ใช้เป็นที่เก็บพระโกศพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรม
ราชบุพการี เรียกว่า "หอพระธาตุมณเฑียร"
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในเป็นการผสมผสานของ
ศิลปะไทยกับจีน ตัวอาคารเป็นอาคารทรงไทยขนาดเล็กชั้นเดียว ยกพื้นสูง
3 เมตร ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดยาวจากทิศเหนือไปใต้ มีพระทวารทางเข้า
ทางเดียวหลังคามุงกระเบื้องดินเผาเคลือบสี ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์
นาคสะดุ้ง ประดับกระจกสีทอง หน้าบันจำหลักไม้ลายกระหนก เครือวัลย์ลง
รักปิดทอง ลายพุดตาลใบเทศ ซุ้มพระทวารและพระบัญชรเป็นซุ้มทรงอย่าง
เทศ ปั้นปูนลายดอกไม้ ลงรักปิดทอง พื้นปูด้วยเสื่อหวายเนื้อละเอียดแบบ
จีน ตรงกลางปูทับด้วยพรมแดง ภายในหอพระด้านเหนือ ตั้งพระแท่นบูชาทำ
ด้วยไม้จำหลักลายประดับกระจก ประดิษฐานปูชนียวัตถุต่างๆ และมีแท่น
จำหลักลายปิดทองตั้งเขาก่อ เป็นรูปเขาไกรลาส ภายใต้แท่นตั้งนาฬิกา
แบบโบราณ
..................................................................
ส่วนที่มีอิทธิพลของศิลปะจีนเข้ามาสอดแทรก ได้แก่
1. ลายพุดตานใบเทศที่หน้าบันแกะไม้ปิดทอง ดอกพุดตานทางจีนเรียกว่า
"ฝูหรุง" (芙蓉 ) นิยมนำมาตกแต่งเป็นลายประดับ จะเห็นบ่อยๆในเครื่องลายคราม
2. ซุ้มพระทวาร (ประตู) และซุ้มพระบัญชร (หน้าต่าง) เป็นซุ้มลายปูนปั้น
"อย่างเทศ" ตอนบนเป็นรูปทรงคล้ายแจกันดอกไม้ ลงรักปิดทอง
3. บานพระบัญชรด้านนอกเขียนลายทองบนพื้นแดงเป็นลาย "นกไม้" (花鳥)
และเขาไกลาสตัดเส้นสีดำ ด้านในเขียนลายทองบนพื้นแดง เป็นรูปม่าน
แหวก 2 ข้าง แขวนเครื่องมงคลอย่างจีน
4. บานพระทวารด้านนอก เป็นรูปขุนนางจีน 2 คน ส่วนด้านในเป็นรูปม่าน
แหวกแขวนเครื่องมงคลแบบเดียวกับบานพระบัญชร
5. ภายในหอพระด้านทิศเหนือ มีพระแท่นสูงทำด้วยไม้จำหลักปิดทอง ตั้ง
"เขาก่อ" เป็นรูปเขาไกลาส ภายใต้แท่นตั้งนาฬิกาแบบโบราณ
6. พื้นหอพระปูด้วยเสื่อหวายเนื้อละเอียดแบบจีน (ในอดีตปูด้วยเสื่อที่มา
จากเมืองจีน)
7. มุขกระสัน (คือส่วนที่เชื่อมระหว่างพระที่นั่งไพศาลทักษิณ กับ หอพระ)
เป็นส่วนที่เป็น "แบบจีน" มากที่สุด ตั้งแต่หลังคา เสา ราวบันไดทางขึ้น
ตลอดจนกระถางบัวศิลาจำหลักลวดลาย เป็นแบบศาลเจ้าจีนทั้งสิ้น มีตุ๊กตา
สตรี 1 คู่ เฝ้าตอนบนเหนือบันได ราวบันไดมีมังกรคู่ เชิงบันไดเป็นสิงโตคู่
ทางเข้าหอพระจากมุขกระสัน มีตุ๊กตาชาย-หญิงเฝ้า บันไดเตี้ยๆ 3 ขั้นมีปลา
มังกรกระเบื้องเคลือบประดับอยู่ 1 คู่
ทางเข้ามุขกระสันด้านหลัง เป็นช่องประตู มีตุ๊กตาจีนผู้ชาย 1 คู่ เฝ้าอยู่
ลายเขียนบนผนังภายในมุขกระสันเป็นรูปเครื่องบูชาต่างๆบนชั้นและกี๋แบบ
จีน มีทั้งแจกันดอกไม้ พานผลไม้ กระถางธูป เต็มพื้นที่ผนัง
หอพระสุลาลัยพิมานนี้ ได้รับการปรับปรุงปฏิสังขรณ์ใหม่เกือบทั้งหมดใน
สมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งพระราชนิยมแบบจีนนี้ไม่เคยปรากฏในรัชกาลก่อน จึง
สันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะอิทธิพลที่ทรงค้าสำเภากับจีนนั้นเอง
เชิญชมรูปได้เลยครับ . . . . . . .
1
ทางเข้ามุขกระสันด้านหน้าหอพระสุลาลัยพิมาน
2
ประตูด้านหลังหอพระสุลาลัยพิมาน
3
ด้านข้างของหอพระสุลาลัยพิมาน
4
ซุ้มทรง "อย่างเทศ" ที่พระบัญชร
5
พระทวารด้านในเขียนภาพเครื่องมงคลแบบจีน
6
เขาก่อและนาฬิกาด้านหลังในหอพระสุลาลัยพิมาน
7
ปลามังกรกระเบื้องเคลือบประดับหน้าทางเข้าหอพระสุลาลัยพิมาน
8
ทางเข้ามุขกระสันด้านหลังหอพระสุลาลัยพิมาน
9
ตุ๊กตาจีนผู้ชาย 1 คู่ เฝ้าเป็นทวารบาล
10
อัฒจันทร์ทางขึ้นมุขกระสันด้านหลังหอพระสุลาลัยพิมาน
11
ตุ๊กตาจีนผู้หญิง 1 คู่ ยืนตรงเหนือบันไดทางขึ้นมุกกระสันด้านหลังหอพระสุลาลัยพิมาน
12
การตกแต่งภายในมุขกระสัน (1)
13
การตกแต่งภายในมุขกระสัน (2)
14
ภาพขยายลายตกแต่งบนผนังภายในมุขกระสัน
.......................................................
จะเห็นได้ว่าพระราชนิยมในสมัยรัตนโกสินทร์ในการออกแบบสร้าง
พระบรมมหาราชวัง ตลอดจนวังของเจ้านายต่างๆ ได้มีการพัฒนาไปตาม
กระแสความนิยมและปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากมาย การได้ศึกษาและอนุรักษ์
มรดกอันล้ำค่าเหล่านี้เพื่อให้คงดำรงสภาพที่สมบูรณ์แบบเดิมให้มากที่สุด
จะเป็นแหล่งเรียนรู้ ตลอดจนเป็นประจักษ์พยานแห่งความก้าวหน้าในด้าน
สถาปัตยกรรมที่ไทยเรามีมาแต่โบราณกาลและได้คลี่คลายวิวัฒนามาอย่าง
ไม่ได้หยุดนิ่ง
นี่คือความภาคภูมิใจในชาติไทย ในสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่ข้องเกี่ยวผูกพันจิตใจของประชาชนไทยตลอดมา
ผูกพันราษฎรทุกชาติภาษาในแผ่นดินไทยตลอดมา
เชื่อมต่อผสานความเป็นไทย-จีนให้กลมกลืนกันอย่างน่าชื่นชมยิ่งนัก
หนังสืออ้างอิง :
1. พระบรมมหาราชวัง, สำนักพระราชวัง. พิมพ์ครั้งที่ 1 โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช. 1 พย. 2547 (จัดพิมพ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลสมัยที่ทรงดำรงสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา ใน พศ. 2549)
2.สถาปัตยกรรมพระบรมมหาราชวัง, สำนักราชเลขาธิการ, พิมพ์ครั้งที่ 1 โรงพิมพ์กรุงเทพ (1984). เมย. 2531 (จัดพิมพ์เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อ 5 ธค. 2530 และ เนื่องในพิธีรัชมังคลาภิเษก 2 กค. 2531)
3. มรดกสถาปัตยกรรมกรุงรัตนโกสินทร์, สำนักราชเลขาธิการ, พิมพ์ครั้งที่ 1 โรงพิมพ์กรุงเทพ (1984). สค. 2537 (จัดพิมพ์ในวโรกาสมงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ 12 สค. 2535)
ปอลอ :
การเขียนสะกดมีปรากฏเป็น 2 แบบ คือ มีทั้ง "สุลาลัยพิมาน" และ "สุราลัยพิมาน"
.................................................................................................................
สำหรับเพลงวันนี้ขอเสนอเพลงจีนบรรเลงโดย เซี่ยเทา (谢涛) ด้วยกู่เจิ้ง(古筝) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงโปรดมาก ชื่อเพลง "彜族舞曲" มีเท็คนิกการเล่นแพรวพราว ไพเราะมากครับ
................................................
ขอเสนอฝีมือนักดนตรีชาวไทย ที่บรรเลงเครื่องดนตรีจีนคือ กู่เจิ้ง ไพเราะไปอีกรสชาตินึงครับ เพลงจากภาพยนตร์ "เดชคัมภีร์เทวดา" ผู้บรรเลงไม่บอกชื่อ บอกแต่ว่าเป็นมือใหม่และเล่นจะเข้มาก่อน โลโก้ฉากหลังเป็นตรามหาวิทยาลัยมหิดล (เสียงซู่ซ่าแทรกมากตอนเริ่มเพลงครับ)
................................................
อีกคลิปเป็นกู่เจิ้งบรรเลงเพลง "เกาซานหลิวสุ่ย" เป็นเวอร์ชั่นสำเนียงทางซานตุงโดยอาจารย์เกาจื้อเฉิง ไพเราะไปอีกแบบ นักดนตรีฝีมือฉกาจฉกรรจ์มาก
ขอบคุณ You Tube ที่นำเพลงไพเราะมาสู่เราเสมอมา
................................................
สวัสดีครับ
Create Date : 25 เมษายน 2554 |
Last Update : 31 มกราคม 2555 23:26:15 น. |
|
35 comments
|
Counter : 7160 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:6:49:03 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:9:33:48 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:9:47:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:14:24:53 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:14:52:13 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:17:46:15 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:22:25:38 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:22:48:45 น. |
|
|
|
โดย: น้องหมี (Bkkbear ) วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:22:56:29 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:8:30:55 น. |
|
|
|
โดย: matabamania วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:15:27:46 น. |
|
|
|
โดย: Polarbee วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:20:08:04 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:22:17:32 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:20:38:47 น. |
|
|
|
โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:21:03:40 น. |
|
|
|
โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:21:05:41 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:22:15:32 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:8:08:48 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:8:23:12 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 1 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:01:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:12:44 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:52:33 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:29:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:39:49 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:53:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:24:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:17:32 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:13:12 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:20:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:37:53 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:05:08 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:19:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:24:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]
|
◉ ภุมราท้าโลกกว้าง . . เกินฝัน
หวังวาดสู่สวรรค์ . . . . . เวิกโพ้น
แท้คืนสู่สามัญ . . . . . . มละตื่น
ยังฉงนงวยโงกโง้น . . . .โง่ตื้นลืมตาย ฯ
Dingtech :
ผมเป็นคนธรรมดา ธรรมดา มาจากบ้านนอก รักศิลปะทุกชนิด ทุกรูปแบบ ทุกสัญชาติ
รักชาติไทย รักประเทศไทย รักคนไทยทุกคน จงรักภักดี และ เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ไทย
ยินดีแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆทุกคนครับ
since 16 December 2009
|
|
|
|
|
|
|
|