Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
โกจิเบอร์รี่หรือ “เก๋ากี้” ผลไม้ดีๆ เพิ่มพลังให้ดวงตา

ถ้าเอ่ยชื่อผลไม้ทรงรีสีแดงส้มชื่อ โก จิเบอร์รี (Koji berry) หลายคนคงส่ายหน้าไม่รู้จัก ใบ้ให้อีกนิดว่าเราคุ้นเคยกันดีในเมนูอาหารจีนอยู่บ่อยๆ พรั่งพร้อมด้วยสรรพคุณมากมายโดยเฉพาะบำรุงสายตา และเมื่อได้เห็นของจริงแล้วก็จะทราบในทันที เพราะแท้จริงแล้วโกจิเบอร์รี่ก็คือ “เก๋ากี้” เจ้าเม็ดสีแดงๆ ที่เราเห็นจนชินตาในหลากหลายเมนูอาหารจีนนั่นเอง

ไม่ว่าคุณจะรับประทานฟักต้มน้ำแกง ขาไก่ตุ๋น กระเพาะปลาผัดแห้ง หรือ หน่อไม้ผัดแห้ง คุณก็จะเห็น เก๋ากี้ ทั้งสิ้น ด้วยเพราะสรรพคุณที่มากมายโดยเฉพาะเรื่องการบำรุงสายตา ยิ่งสมัยนี้ทั้งแสงแดด หรือ แม้แต่รังสีจากคอมพิวเตอร์ ก็ล้วนแต่มีผลกับดวงตาทั้งสิ้น เก๋ากี้นี้เป็นที่รู้จักมาช้านาน ในตำราจีนระบุว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา ป้องกันแสงที่ทำลายดวงตา บำรุงประสาท ทำให้หลับสบาย บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืดตาลาย ตาบอดกลางคืน และยังช่วยลดน้ำตาลในเลือด เรียกว่าสรรพคุณครอบจักรวาลจริง ๆ

ในเก๋ากี้พบกระอะมิโน 18 ชนิด และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง แคลเซียม เจอมันเนียน เซเรเนียม ฟอสฟอรัส วิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า เอ บี 2 เบต้าแคโรทีน นอกจากนั้น ยังมีพอลิแซ็กคาไรด์ 4 ชนิด คือ LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4 ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยในการนำโกจิเบอร์รี่มารักษาหรือยับยั้งการเติบโตของมะเร็ง และที่คุณผู้หญิงฟังแล้วน่าจะชอบเป็นพิเศษคือ เก๋ากี้ยังมีคุณสมบัติช่วยชะลอวัย (Anti-Aging) อีกด้วย

หากเชื่อในหลักการ ‘ทานอาหารให้เป็นยา’ ก็น่าจะลองหาเก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่ติดตู้เย็นไว้เป็นอาหารประจำบ้าน สถานที่ที่หาซื้อได้ นอกจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายแบบซองเรียบร้อยแล้ว ตามร้านขายยาจีนย่านเยาวราชก็เป็นอีกแหล่งใหญ่ที่มีให้เลือกมากมายหลายร้าน แบ่งขายตามน้ำหนัก ราคาย่อมเยา แต่ก่อนซื้อถามคนขายสักนิดว่าเป็นพันธุ์หวานหรือพันธุ์เปรี้ยว เพราะจะมีผลต่อรสชาติของอาหารที่เราจะปรุง

ลองปรุงสี่เมนูเก๋ากี้นี้ที่เราแนะนำ

1. นำเก๋ากี้ประมาณหนึ่งกำมือ หรือ 6-12 กรัม มาต้มจนเปื่อยแล้วกรองเอากากออก ใช้ดื่มแทนน้ำชา หรือรินผสมกับชาจีนก็ได้

2. ใส่เก๋ากี้ในเมนูกับข้าว ฟักต้มน้ำแกง ไก่ตุ๋น กระเพาะปลาผัดแห้ง แต่ใส่แค่พอประมาณ เพราะหากใส่มากเกิน จะทำให้อาหารมีรสเปรี้ยวได้

3. นำเก๋ากี้มาทำเป็นเมนูอาหารว่าง เช่น โกจิอบแห้ง โกจิสามรส หรือเลาะเอาเนื้อมาทำแยม

4. นำเก๋ากี้มาสกัดเป็นน้ำผลไม้เข้มข้น ข้อนี้อาจทำเองยากสักหน่อยยกเว้นแต่มีเครื่อง FREEZE CONCENTRATION ถ้าหาซื้อแบบเข้มข้นติดบ้านไว้จะสะดวกกว่า ยามอ่อนล้า ผสมน้ำแข็งดื่มสักแก้ว จะทำให้กำลังวังชากลับคืนมา

หากเป็นช่วงที่ต้องใช้สายตาและสมองเต็มพิกัด เช่น อ่านหนังสือสอบ หรือ ทำงานสำคัญ ๆ ลองเลือกโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้ที่อุดมด้วยสารอาหารมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในวันที่อ่อนล้าสำหรับคุณ


ที่มา : goodfoodgoodlife



Create Date : 22 กันยายน 2557
Last Update : 22 กันยายน 2557 11:21:55 น. 0 comments
Counter : 3377 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

akeros
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add akeros's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.