แม่...ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล


เคยไหมเวลาที่ผิดหวัง เสียใจที่สุดในชีวิต คนที่เราคิดถึงที่สุดคือ..แม่ แล้วเคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่าทำไม?


แม่ชอบเล่าให้ฟังว่าเราเลี้ยงยากมาก จริงๆยากตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์เลย

แม่แพ้ท้องเราจนคลอดเราออกมาเลย มันเลยมีผลทำให้เราตัวเล็กกว่าเด็กปกติ

และต้องนอนรักษาตัวในอยู่ในตู้อบ และให้อาหารทางสายยาง

มันคงเป็นภาพที่ทรมานใจคนที่เป็นแม่ที่สุดในชีวิต

พอผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์แม่ก็พาเรามาอยู่บ้าน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหมอ เราไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ต้องใช้ความพยายามแค่ไหน

ในการประคับประคองชีวิตน้อยๆ ให้แข็งแรง ให้เป็นปกติเหมือนทารกคนอื่น

แต่ แม่.. สุดยอดจริงๆ


ตอนเล็กๆ เราเห็นแม่เป็นเหมือนผู้ยิ่งใหญ่

คนที่สามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างมาให้เรา ไม่ว่าเราอยากได้อะไรแม่จะต้องไปหามาให้

ตอนเล็กๆ มีคนมาอยู่บ้านมากมายทั้งลูกป้า ลูกลุง น้าสาวและครอบครัว แต่พวกเราไม่เคยอดเลยแม่แต่ครั้งเดียว

ทั้งๆที่ แม่ เป็นคนเดียวที่หาเงินเข้าบ้าน

บางครั้งเวลาสิ้นเดือนทีแม่ก็จะไปห้างไดมารู ซื้อแฮมเบอร์เกอร์มาให้ทั้งบ้านกิน จำได้ว่ามันอร่อยมาก

ยิ่งถ้าวันไหนแม่พาไปด้วยมันจะยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ


แม่รักฉันมาก และอยากให้ฉันมีอนาคตที่ดี

แม่ส่งฉันเรียนโรงเรียนเอกชน ซึ่งฉันไม่รู้เลยว่ามันแพงมาก และให้เงินค่าขนมเยอะเท่าๆกับเพื่อนๆ

แม่คงจะกลัวว่าฉันจะเสียใจ ถ้าฉันได้แต่มองดูเพื่อนๆซื้อขนม

แม่จะคอยปั่นจักรยานมาส่งฉันขึ้นรถเมล์ที่หน้าหมู่บ้านทุกเช้า และมารับฉันที่หน้าหมู่บ้านทุกๆเย็น

แม่ค้าขายของหน้าหมู่บ้าน หรือแม่กระทั่งคิวมอเตอร์ไซด์รู้จักเรากันหมด

ขนาดฉันเข้าวิทยาลัยแม่ก็ยังนั่งรถเมล์จากบางกะปิ มานนทบุรีเพื่อมารับเรา

เราเรียนอยู่ที่วิทยาลัยได้สองเทอมก็ลาออกและตัดสินใจมาศึกษาต่อเมืองนอก

แม่นำเงินทั้งหมดที่มี และอาจจะหยิบยืมใครอีก ซึ่งมันยังเป็นความลับจนถึงทุกวันนี้

มาใช้ทุนคืนให้ทางวิทยาลัย ซื้อตั๋วเครื่องบิน และให้เงินติดตัวเรา


การที่เราได้มาอยู่เมืองนอกทำให้เราห่างกันออกไป

สมัยก่อนการโทรศัพท์ไปเมืองไทย แพงและไม่สะดวกเหมือนทุกวันนี้

นานๆถึงจะได้โทรหากัน โทรก็ครั้งละไม่เกินสอง สามนาที

การเขียนจดหมายจึงเป็นวิธีเดียวที่ส่งความคิดถึงหากันได้

ช่วงสองปีแรกเขียนจดหมายเดือนละฉบับ ถึงสองฉบับ พอนานๆไป ก็กลายเป็นสองเดือน สามเดือนครั้ง

การได้กลับไปเมืองไทยในปีแรกที่มาอยู่เมืองนอกจึงเป็นเหมือนน้ำมันที่ทำให้เรามีพลัง และกำลังใจ

แต่เราก็ไม่สามารถกลับไปหาแม่ได้ทุกปี จนเรียนจบ


แม่ไม่เคยทำให้เราไม่สบายใจ ไม่เคยเล่าถึงความลำบาก หรืออาการป่วยไข้

แม่เคยเผลอพูดออกมาว่า แม่เหงา และแอบร้องร้องไห้เพราะความคิดถึง

นี่ฉันช่างไม่รู้เลยว่าแม่ช่างเสียสละแม่กระทั่งความสุขของแม่เพื่ออนาคตของฉัน

คงไม่มีใครบนโลกนี้ที่รักฉันอย่างไม่มีเงื่อนไขเท่าแม่ของฉันแล้ว

หลังจากเรียนจบและได้งานทำที่ดี จึงทำให้มีโอกาสที่จะไปเยี่ยมแม่ทุกๆปี

แต่ความห่างเหินและการเติบโตในเมืองนอกแบบตัวคนเดียวมันทำให้ฉันเปลี่ยนไป

ฉันแข็งกระด้าง เย็นชา และอวดรู้ ซึ่งแม่ก็จะทนทุกครั้งเวลาที่ฉันทำเสียงดังใส่ หรือแสดงความรำคาญ

เช่นเวลาที่แม่แอบหย่องมาห้องนอน แล้วถามว่า สาวน้อยเช้านี้จะกินอะไรจ๊ะ

ฉันไม่เคยรู้เลยว่าแม่จะน้อยใจ และเสียใจมากเวลาฉันสั่งให้แม่ทำตามฉันเพราะฉันคิดว่ามันจะดีกับแม่

โดยฉันลืมคิดไปว่าความห่างเหินทำให้ฉันลืมแม่ของตัวเอง

ลืมว่าแม่เคยชอบอะไร อยากได้ หรือไม่ชอบอะไร

แต่แม่กลับไม่เคยที่จะลืมฉันแม้แต่วินาทีเดียว จำในสิ่งที่ฉันชอบ ในสิ่งที่ฉันเป็น


เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาฉันได้ทำความฝันของฉัน และของแม่ให้เป็นจริงแล้ว

ฉันตั้งใจว่าจะพาแม่มาอยู่ด้วย ได้ดูแลแม่ทำอาหารให้แม่ แล้วแม่ก็อยากมาเห็นหิมะ

มันเป็นการได้กลับมารู้จักกันอีกครั้งระหว่างแม่ กับลูก

ช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันมีทั้งสุข สนุกสนาน และเศร้าเคล้าน้ำตา

อยากบอกกันเพื่อนๆว่าคนมีอายุจะขี้น้อยใจ เวลาจะพูดอะไรกับท่านลองทวนประโยคที่จะพูดในใจซักสองรอบ

พูดช้าลงอีกซักนิด จะต่ออายุท่านได้อีกหลายปี

เราเผลอดุท่านเสียงดังเพราะเป็นห่วงท่าน ท่านนอนไม่หลับนอนร้องไห้ทั้งคืน เราเสียใจมาก

แต่คำพูดคน เมื่อพูดออกไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนได้


การได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งมันทำให้รู้ว่า การที่เราสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพิงแม่

ทำให้แม่ยิ่งรู้สึกด้อยค่าลงไป แม่คิดมาก และขี้น้อยใจ

แม่ที่เคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่มื่อตอนเราเด็กๆ กลับเปราะบางเหมือนแก้วเจียระไนที่ต้องทะนุถนอมอย่างดี

ถ้าแก้วใบแตกลงมันอาจจะไม่มีทางกลับมาสง่างามได้อีกเลย

ฉันได้รู้ซึ้งแล้วว่าสิ่งที่แม่ต้องการไม่ใช่เงินที่ฉันดิ้นรนหามา แม่ต้องแค่ ความรัก ความเอาใจใส่ และความเคารพ

เพราะไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร

ฉันก็คือลูกน้อยของแม่ที่ท่านเฝ้าฟูมฟักตั้งแต่เก้าเดือนในครรภ์ ทารกที่เคยอยู่ในตู้อบ จนเติบใหญ่

ระยะทางหรือกาลเวลาไม่สามารถทำให้ความรักของแม่ลดลง หรือจืดจางลงเลย

ฉันคิดว่าสายใยระหว่างฉันกับแม่ และความรักอันบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งเงื่อนไข หรือข้อแม้นใดๆของแม่

มันทำให้ฉันรู้ว่าเวลาที่ฉันผิดหวัง เสียใจที่สุดในชีวิต

ฉันจะสามารถกลับไปหาแม่ได้เสมอ แม่จะยังปกป้อง คุ้มครอง และกอดฉันด้วยความรักเสมอ


แล้วเพื่อนๆล่ะ คิดถึงใครเวลาที่ผิดหวัง เสียใจที่สุดในชีวิต

ถ้าคำตอบคือ..แม่

แล้ววันนี้เพื่อนๆทำอะไรให้ท่าน และเพื่อท่านแล้วหรือยัง









 

Create Date : 30 สิงหาคม 2558
1 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2558 17:02:41 น.
Counter : 1401 Pageviews.

 

แม่ เป็นผู้ที่มอบความรักให้เราอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีระยะเวลานะคะ
สำหรับแม่แล้ว ยังเห็นเราเป็นลูกตัวเล็กๆที่แม่รักและห่วงใยเสมอไม่ว่าเราจะเติบโตแค่ไหนก็ตาม
เรื่องราวน่าประทับใจมาก
ส่งกำลังใจให้น้องรินทร์ค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

Die Eule Diarist ดู Blog

------------------------

นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ

 

โดย: Sweet_pills 8 กันยายน 2558 0:39:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Die Eule
Location :
Hamburg Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Die Eule's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.