เรื่องของความเป็นมิตรของคนที่นี่ก่อนเลย เวลาที่เดินไปไหนมาไหน

เขาก็จะทักกันด้วยคำว่า ฉ่าว ซึ่งแปลว่าสวัสดี แม้ว่าจะไม่รู้จักคนๆนั้นก็ตามที

และตอนเช้าเขาจะทักกันด้วยคำที่ว่า บอนโจโน่ ซึ่งแปลว่า อรุณสวัสดิ์

สามีบอกว่าคนที่นี่เป็นมิตร และชอบที่จะคุยกันหมายถึงว่า คุยกันได้นานๆ 

และไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนหรือเดินไปไหนจะเจอคนแก่(ชาย)นั่งอยู่ตามป้ายรถเมล์

บ้างตามร้านกาแฟบ้าง ก็เขาออกมานั่งคุยกันพบปะกัน ส่วนหนุ่มๆ

จะเป็นอะไรที่ไฟแรงมากๆ หมายถึงความแรงในการขับรถน่ะไม่ว่าจะ

เป็นรถยนต์หรือจะเป็นรถมอเตอร์ไซด์ก็ตาม ส่วนสาวๆที่นี่เขาจะน่ารักหน้าตาดีกัน

แทบจะทุกคนหรือว่าขี้เหร่แล้วสำหรับสายตาคนไทยอย่างเราก็ยังดูดีอยู่เลย

แต่จะไฟแรงเหมือนกัน คือไฟแรงในการดูดบุหรี่น่ะ เด็กๆที่นี่เขาจะมีจักรยาน

กันแทบจะทุกคน ปั่นเล่นกันตามประสาเด็ก  ที่ชอบที่สุดคือได้เห็นรถยนต์ที่น่ารักๆ

 มากมายเพราะที่นี่เขาจะนิยมใช้รถเก๋งคนเล็กๆ กันเช่น ๒ ประตูบ้าง หรือ ๔ ประตูบ้าง

 ออกแบบกันน่ารักกะทัดรัด แต่เรื่องการขับรถยนต์ของคนที่นี่ไม่ว่าจะเหยียบ

มาเร็วแค่ไหน เมื่อเจอคนที่กำลังจะเดินข้ามถนนจะต้องชลอให้คนเดินผ่านไปก่อน

เพราะเขาไม่อยากเสียค่าปรับที่สูงลิบลิ้ว ดีเนอะกฎหมายที่นี่คุ้มครองคนเดินถนนดี

ไม่เหมือนบ้านเราหรอกถ้าเดินไม่ดีก็บินล่ะกัน จับคนผิดได้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง 

ถนนหนทางที่นี่จะเป็นอะไรที่เล็กไม่มีหลายเลนเหมือนบ้านเรา บางแห่งเป็นวิ่ง

ทางเดียวและไม่ได้ใหญ่พอสำหรับรถใหญ่เลย คือรถเล็กวิ่งได้ ส่วนคนที่กำลัง

เดินอยู่จะต้องขึ้นไปยืนอยู่บนขอบบานกบของบ้านใดบ้านหนึ่ง

แต่รถที่ผ่านมาเขาก็จะเบาให้ด้วยน่ะไม่ได้ขับเร็วอย่างเหมือนบ้านเรา

แต่น่าเสียดายที่เรามาที่นี่แค่มาทำธุระนิดหน่อยแค่นั้นไม่ได้มาอยู่เลย

จึงต้องเดินทางไปในเมืองที่จะต้องไปอยู่เลยมีเรื่องเล่าเพียงแค่นี้เอง

เมืองกราวีน่าจะไม่ค่อยมีคนออกมาเดินมากนัก

กลางคืนก็จะจอดรถทิ้งไว้อย่างนี้แหละค่ะ

ตรงนี้คือที่หน้าสุสานมิคกี้พาเราไปเคารพหลุมฝังศพ

น้าจูเลียเขาขายดอกไม้กันตรงหน้าสุสานเลย

กล่องดำๆน่ะเครื่องคิดเงินมีใบเสร็จออกให้ด้วยน่ะ

ดอกสีแดงน่ะ ดอกหงอนไก่บ้านเราเลยค่ะ

นี่ไงล่ะเครื่องคิดเงิน ข้างๆน่ะมีแบตฯมาด้วย

แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่ออีกน่ะค่ะ

Create Date : 01 กันยายน 2553
Last Update : 1 กันยายน 2553 2:47:51 น.		0 comments
Counter : 403 Pageviews.
Share Tweet