ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
ไปไหว้พระพม่า

วันที่ 25 ทีมงานตื่นกันสายหน่อยเพราะรู้ว่ายังไงก็ยังข้ามแดนไปฝั่งพม่าไม่ได้ เราแวะทานโจ๊กรองท้องกันในตลาด อ.แม่สอด ก่อนจะไปรอทำบัตรผ่านแดน วันนี้พวกเราไปรอทำบัตรผ่านแดนที่สำนักงานทำบัตรผ่านแดนของราชการโดยตรง เพราะรู้มาว่าที่นี่เปิดทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ส่วนจุดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวในตลาดใกล้กับด่านนั้นเป็นของเอกชนที่รับจ้างมาอีกต่อหนึ่ง เขาเปิดสายกว่าครึ่งชั่วโมง และคิดค่าธรรมเนียมแพงกว่าอีกด้วย
เมื่อวานเราทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวกันคนละ 50 บาท เขาใช้วิธีถ่ายสำเนาบัตรประชาชนแล้วตัดหน้ามาแปะลงในเอกสาร ดูไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร ส่วนวันนี้ทำบัตรกันแค่คนละ 30 บาท แถมใช้ระบบ on-line มีรูปถ่ายขึ้นมา print ให้อัตโนมัติ

แต่แม้จะทำบัตรผ่านแดนได้ไวขึ้น แต่อูตองทูนลูกค้าของเราก็โทรเร่งยิกๆ จนผมต้องบอกว่าวันนี้ไม่ต้องขับรถข้ามฝั่งมารับ เดี๋ยวพวกเราจะเดินข้ามฝั่งกันเอง ทำเอาลูกทีมหน้างอคออ่อนกันเป็นแถว
แหม.. กับแค่เดินข้ามสะพานแค่นี้ยังเหนื่อย แล้วชีวิตนี้จะทำมาหากินอะไรได้เนี่ย ?



สะพานมิตรภาพไทยพม่าเป็นเส้นทางคมนาคมติดต่อระหว่างสองประเทศครับ
เป็นที่น่าสังเกตว่า 6 โมงเช้าพวกพม่าข้ามมาฝั่งไทยกันได้แล้ว แต่คนไทยยังข้ามไปไม่ได้ครับ เพราะฝั่งไทยเปิดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวตอน 8 โมง นี่เป็นเหตุให้วันรุ่งขึ้นคณะของเราต้องสร้างวีรกรรมเป็นพวกลักลอบเข้าเมือง เพราะต้องเข้าไปพม่าตั้งแต่ตีสี่ จนเกิดเรื่องหวาดเสียวเอาไว้เล่าฮาเฮกันวันหลัง




ดูบรรยากาศแม่น้ำเมยยามเช้ากันครับ
แม่น้ำเมยนี่คนพม่าเขาเรียกว่าแม่น้ำตองยิน เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับพม่า ฝั่งไทยเป็น อ.แม่สอด จ.ตาก ฝั่งพม่าเป็น จ.เมียวดี แม่น้ำสายนี้เป็นร่องอยู่ระหว่างแนวเขาสองลูก ฝั่งไทยคือแนวเขาถนนธงชัย ส่วนฝั่งพม่าเป็นแนวเขาดอนะต่อง เป็นแม่น้ำที่ไม่ลึกครับ เพราะมีทรายที่ถูกชะล้างมาจากยอดเขาไหลมาสะสมเป็นระยะๆ ต้องขุดรอกกันบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเดินข้ามกันได้สบายๆ
แม่น้ำเมยเป็นแม่น้ำที่แปลกแบบฝืนความเคยชิน เพราะน้ำไหลผิดธรรมชาติจากใต้ไปเหนือทุกฤดูกาล สายน้ำจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำสาลวินแล้วจึงไหลลงทะเล
มองดูที่ริมฝั่งแม่น้ำเห็นห่วงยางดำๆ ไหมครับ นี่เป็นพาหนะข้ามแดนของพม่า ชาวพม่าจำนวนหนึ่งไม่ยอมผ่านแดนให้ถูกต้องเพราะมีค่าใช้จ่าย แต่ใช้วิธีนั่งห่วงยางลากข้ามแม่น้ำข้ามไปข้ามมาแบบนี้ เรียกว่าทำกันหน้าตาเฉยเลย




บรรยากาศถนนในเมียวดียามเช้า




งานเปิดตัวสินค้าวันที่สองมีแขกร่วมงานเป็นบรรดาภรรยาของผู้หลักผู้ใหญ่ฝั่งเมียวดี แล้วก็มีครอบครัวของปลัดอำเภอเมียวดีมาร่วมงานวันนี้ด้วย เห็นท่อนบนหล่อๆ แบบนี้ ท่อนล่างท่านปลัดนุ่งโสร่งนะครับ




แล้วก็มีทหารมาลิ้มลองกาแฟของเราด้วย สังเกตดีๆ จะเห็นว่าทหารเท้าเปล่าครับ เป็นเพราะเพิ่งออกมาจากวัดเจดีย์ทอง




คนพม่าดื่มกาแฟโดยมีอาหารแกล้ม วันก่อนเห็นในร้านกาแฟเขาแกล้มด้วยซาลาเปา แต่ในงานนี้ใช้ขนมหน้าตาแบบนี้ครับ โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด ถามแล้วได้ความว่าเป็นขนมตาล เขาทำก้อนใหญ่มากแล้วเอามาซอยเป็นชิ้นบางๆ อร่อยกว่าขนมตาลไทยครับ ของไทยใส่ตาลเยอะจนเหลือง กลิ่นแรง และหวานจัด แต่ขนมตาลพม่าจะหอมอ่อนๆ และรสชาดกลมกล่อมกว่า




แหม่มคนนี้ถูก pritty ลากเข้ามาดื่มกาแฟแล้วตัวเองก็หายไปชวนชิมกับคนอื่น ผมเลยไปนั่งชวนแหม่มคุยเสียหน่อย แหม่มบอกว่าเป็นคนอังกฤษแล้วย้ายไปอยู่แคนาดา วันนี้มาเที่ยวเมียวดี 1 วัน แหม่มเข้าใจว่าผมเป็นหม่องต้องรีบบอกว่าผมเป็นคนไทย เป็นพ่อค้านำสินค้ามาขาย แหม่มแกตาโตบอกว่าเธอมาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะ เธอเพิ่งไปเชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน แล้วลงมาแม่สอด และข้ามมาเที่ยวเมียวดีแค่วันเดียว
แหม่มชิมกาแฟแล้วยิ้มแป้นบอกว่าอร่อย ก็เลยฝากให้แหม่มเอาไปกินต่ออีก 1 ถุง
เมื่อวานคุณ tuk บอกว่าเพิ่งเห็นหน้าคนใส่แว่นชัดๆ วันนี้ให้เห็นชัดขึ้นมาอีกหน่อยแล้วกัน คนที่สองคือแหม่มชาวแคนาดา คนถัดไปชื่อ อูตองทูน เป็น Distributor ในพม่า คนสุดท้ายคือ อูยุงยิง คนที่พาไปงานแต่งงานเมื่อวาน




เด็กๆ ชอบกาแฟกันเป็นพิเศษ คนหนึ่งดื่มกัน 3-4 แก้ว แล้วยังถือซองยกกระดกเป็นขนมอีก แม่สาวน้อยพม่านัยน์ตาแขกคนนี้พอเห็นกล้องก็รีบ action ทันที




เอารูปหน้าวัดเจดีย์ทองมาให้ดูครับ อยู่ตรงนี้สองวันไม่ได้ย่างเท้าเข้าไปในวัดเลย




เสร็จงานก็ไปทานอาหารที่ร้านเดิม ถ่ายรูปหน้าร้านมาให้ดูครับ




เดินไปหลังร้านพวกแม่ครัวพอเห็นหน้าก็ยิ้มแฉ่งทักทายว่ามาอีกแล้ว อันนี้เดาเอาครับ เพราะฟังภาษาพม่าไม่ออก ดูกันแต่รูปแม่ครัวครับ อาหารเป็นอาหารไทยไม่มีอะไรแปลก




ทานข้าวเสร็จก็บอกอูตองทูนว่าวันนี้ช่วยพาไปไหว้หลวงพ่อหมอดูหน่อย อูตองทูนบอกว่าหลวงพ่อนั่งสมาธิถึงบ่ายสอง จะพาไปเที่ยววัดอื่นก่อนก็แล้วกัน
วัดที่ไปเป็นวัดอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเมียวดี อูตองทูนบอกว่าชื่อ วัดไหดาว แต่จะเชื่อดีไหมเนี่ย อย่างวัดเจดีย์ทองนั่นส่วนใหญ่จะบอกว่าชื่อวัดฉ่วยมิวโจว หรือชเวมินโจว แต่อูตองทูนบอกว่าชื่อวัดพระยายี ชื่อไม่ได้ใกล้เคียงกับที่คนอื่นบอกเลย
ธรรมเนียมการเข้าวัดของพม่าต้องถอดทั้งรองเท้าและถุงเท้านะครับ ไม่ใช่แค่ถอดรองเท้าเฉยๆ ถอดทิ้งไว้ข้างหน้าตรงนี้เลย หน้าวัดมีตุ่มน้ำดื่มวางไว้ด้วย ตุ่มน้ำพวกนี้มีเยอะแยะ หน้าบ้านมีเกือบจะทุกบ้าน ริมถนนบางทีก็มีมาวางไว้





มองเห็นไกลๆ หน้าภูเขาโน่นคือ อ.แม่สอดครับ เราข้ามมาไม่ไกลนัก




พระพุทธรูปในศาลาด้านหลังเจดีย์





ภาพเจดีย์ประธานครับ รูปทรงเจดีย์ในพม่าคล้ายๆ กันไปหมด ว่ากันว่านี่เป็นรูปทรงเจดีย์ที่คล้ายพระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มากที่สุด




ได้เวลาบ่าย 2 โมง ก็เตรียมอพยพไปวัดต่อไป ปรากฏว่าคนขับรถอีกคันหนึ่งหายตัวไป อูตองทูนโทรตามจนรู้ว่าเขามีภารกิจด่วน ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่วิ่งรับส่งเรามา 2 วัน บางทีก็ขึ้นมาขับตุ๊กๆ ให้เรานั่งจะเป็นถึงนายตำรวจฝีมือดี เรียกว่า กัปเต็งโซววิน กัปเต็งเป็นยศประมาณนายพันครับ กัปเต็งคนนี้เป็นมือปราบยาเสพย์ติด แต่ละปีจับยาบ้าได้เป็นจำนวนมากจนนายอำเภอแม่สอดของเรายกนิ้วให้ ทหารไทยที่เคยโดนตัดหัวก็ได้กัปเต็งคนนี้จับฆาตกรจนได้ เรียกว่าฝีมือเยี่ยมจริงๆ ถ้าเป็นตำรวจไทยเหรอ หุหุ..
อูตองทูนเล่าว่ากัปเต็งโซววินเป็นนายตำรวจตงฉิน มีคนเสนอสร้างบ้านใหม่หลังใหญ่ให้ มีสินบนให้ แต่กัปเต็งไม่รับ ทุกวันนี้จึงเป็นแค่นายตำรวจจนๆ แถมต้องระวังตัวแจจากพวกที่ต้องการกำจัดแก แต่นายเขาก็ดีครับ ไว้ใจกัปเต็งมากจนได้คุมพื้นที่ถึง 3 จังหวัดเลยทีเดียว
กัปเต็งโซววินไปจับยาบ้าแล้วต้องเปลี่ยนคนขับรถ แล้วมุ่งหน้าไปอีกวัดหนึ่งชื่อว่า วัดชูฮินดา

วัดนี้เป็นวัดใหม่ครับ กำลังสร้างเจดีย์ประธาน




ด้านขวาของเจดีย์เป็นกุฏิเจ้าอาวาส ข้างหน้าเป็นที่แขกมานั่งรอคิว หลวงพ่อจะออกจากสมาธิมารับแขกตอนบ่ายสอง เจ้าอาวาสวัดนี้แหละครับที่เป็นหมอดูด้วยญาณที่ร่ำลือกันว่าแม่นมาก นักธุรกิจและนายทหารพม่านับถือกันมาก ถ้าหลวงพ่อบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ แต่ถ้าบอกว่าอย่าทำคนที่โดนทักจะหยุดทันทีไม่มีข้อแม้ เชื่อกันขนาดนั้น
ไปถึงเราก็ลัดคิวกันเลย เพราะทางย่างกุ้งโทรมาขอคิวให้




นี่ไงหลวงพ่อ เป็นพระพม่าที่นุ่งห่มจีวรสีเปลือกมังคุดเข้ม ท่านดูดวงโดยถามแค่ว่าเกิดวันอะไร อายุเท่าไหร่ แล้วก็ทายเลยโดยไม่ต้องถาม อูตองทูนเป็นล่ามแปลให้ ท่านทายเรื่องหลักๆ ให้คนละนิดหน่อย แต่ทุกคนก็บอกว่าแม่นดี ของผมท่านก็บอกถูกว่าเคยทำธุรกิจอะไรสักอย่างแล้วเลิกไป ก็ถูกครับ ทำแล้วเลิกเพราะโดนโกง ชอกช้ำแต่ก็ภูมิใจเพราะคนที่โกงผมรวยระดับร้อยล้านเกือบๆ จะพันล้าน คนเราก็เท่านี้ บุญเก่าสร้างมาดี แต่ดันมาสร้างกรรมใหม่ หรือมองอีกทางคือกรรมเก่าที่เราโกงเขาไว้ คิดแล้วก็ไม่เคยเสียดาย ผ่านแล้วก็ผ่านไป ก้มหน้าก้มตาทำกรรมใหม่ของเราให้ดี
ท่านทายอนาคตให้บอกว่าปีนี้ Lucky ต้องรอพิสูจน์ครับ ท่านให้รอดูไม่นานแค่ 3 เดือนเท่านั้น ดูดวงเสร็จท่านก็จดว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ดวงดีเร็วขึ้น ท่านให้ผมไหว้พระเช้าวันอังคารด้วยส้มโอ 5 ชิ้น ส้มเขียวหวาน 7 ชิ้น แอปเปิ้ล 9 ชิ้น และมะละกอ 11 ชิ้น ใส่จานเดียวกันถวายพระพุทธรูปในบ้าน และให้เอาร่มกับรองเท้าไปถวายภิกษุที่เกิดวันเสาร์ ไม่ต้องทำตามผมนะครับ เพราะคนอื่นที่เกิดวันอังคารเหมือนกันท่านก็ไม่ได้ให้ทำแบบนี้ ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน
รูปนี้ขออนุญาตท่านแล้วครับจึงถ่ายรูปมา




นมัสการลาหลวงพ่อมาแล้วก็เดินทางกลับแม่สอด วันนี้พาทีมงานไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างที่เป็นร้านต้นตำรับ ทีมงานฮือฮากันมากว่าร้านสวยจริงๆ เพราะร้านสวยบรรยากาศดีมากนี่แหละ สมัยก่อนเมื่อผมขับรถกลับจากเชียงใหม่มากรุงเทพ ยังหาเรื่องแวะเข้าแม่สอดเพื่อไปทานอาหารร้านนี้ ยอมเสียเวลาไป 1 วัน กับค่าโรงแรมคืนละ 900 บาทไปอีกคืน เป็นอาหารใจครับ
ถ่ายรูปไม่ค่อยเป็น รูปเบลอไปหมด กล้องเก่าแล้วด้วย เอามาให้ดูรูปเดียวครับ




งานเหลืออีกวันครับ พรุ่งนี้จะย้ายสถานที่จัดงานไปริมถนนใหญ่ และต้องสร้างวีรกรรมเข้าเมืองพม่าตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปดูชาวพม่าเขาเดินเพื่อสุขภาพกัน แต่คงต้องมาเล่าหลังปีใหม่ครับ





Create Date : 30 ธันวาคม 2552
Last Update : 30 ธันวาคม 2552 9:23:15 น. 7 comments
Counter : 1747 Pageviews.

 
ถ่ายภาพเก่งมากเลย... แต่ละรูปดูมีชีวิตชีวา

ว่าแต่ ขนมตาลเค้าอร่อยสู้ของเราได้มั้ยครับ???

ยังไงว่างๆ แวะเข้ามาทักทายบ้างน้าาา จะได้เป็นเพื่อนกันครับ


โดย: oneshot วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:10:25:50 น.  

 
แวะมาสุขสันต์วันปีใหม่นะค้าบ พรุ่งนี้ก็จะได้หยุดงานแว้ว เดินทางไปเที่ยวก็ขอให้ปลอดภัย ปีใหม่หน้าที่การงานรุ่งเรือง รายได้ดีๆ ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง คิดอะไรสมปรารถนาทุกประการครับ


โดย: ไม่รวยสักที วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:12:19:01 น.  

 



สวัสดีปีใหม่ 2553

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่
ขอให้คุณอังคารและครอบครัว
สุข สดชื่น สมหวัง มีสุขภาพแข็งแรง
พบเจอแต่สิ่งดีๆ ตลอดปี 2553 และตลอดไปนะคะ



พม่าเคยไปเที่ยวมาประมาณ 2 ชม. เองค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:1:30:18 น.  

 
กรี๊ดดดด คุณอังคารคะ ชอบบล็อกนี้จังเลยคะ ถิ่นเก่าเลยคะ ชายแดนไทยพม่า ข้ามไปท่าขี่เหล็กต้องไปไหว้พระที่วัดท่านครูบาแสงหล้าคะคุณอังคาร ท่านเป็นพระไทยใหญ่ที่ประชาชนสองแผ่นดินให้ความเคารพ ดิฉันทำงานอยู่ตามชายแดนไทยพม่าแทบทุกจังหวัดเลยคะเกือบสิบปีอะคะ พอเห็นรูปแล้วคิดถึงความหลังเลยคะ ไปไทยเมื่อเดือนก่อนมีแวบไปแม่สายด้วยคะ ขอบคุณสำหรับบล็อกดีๆนะคะและสุขสันต์วันปีใหม่คะ


โดย: tanya tanya วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:3:56:22 น.  

 
..แวะมาเยือนส่งท้าย ณ ปลายปี
รับดิถีกาลเปลี่ยนเวียนมาถึง
รีบเร่งรุดมาส่งความคำนึง
ระลึกถึงส่งจิตมิตรสหาย

..ด้วยโอกาสวาระ ณ ปีใหม่
ขออวยชัยส่งสุขทุกข์สลาย
ขอเพื่อนพ้องน้องพี่สุขสบาย
ฤดีหมายสิ่งใดได้ภิรมย์..

..ความโศกเศร้าล่วงพ้นหล่นปีเก่า
อย่าได้เนาแผ้วผ่านสานสุขสม
ไร้ทุกข์โศกสลดเศร้าเหงาระทม
ให้รื่นรมย์สมฤทัยไร้โรคา..

..ขอปีนี้จงประสบแต่ความสุข
ปลดเปลื้องทุกข์โบยบินมิถวิลหา
ขอชีวาแช่มชื่นทุกเวลา
งานก้าวหน้าร่ำรวยอำนวยพร..


สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาส่งของขวัญค่ะ



โดย: พ่อระนาด วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:14:57:39 น.  

 
photo frames



น้องเฟห์ (รี่) ขอให้ ป้า ๆ น้า ๆ มีแต่ความสุข สมหวัง ตลอดปี และตลอดไปนะค่ะ


โดย: opleee วันที่: 1 มกราคม 2553 เวลา:0:32:34 น.  

 
คนใส่แว่นน่ะดูดีมาก ๆ ค่ะ

คิดอยู่เหมือนกันนะคะว่าทำไมเป็นบล็อกง่าย ๆ ของนายอังคาร งั้นเราก็เป็นสาวจันท์ ( ร ) กั้นโก่งค่ะ

ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างเขาก็มาเปิดสาขาที่เชียงใหม่นะคะ แต่ยังไม่เคยไปทั้งสองร้านเลยค่ะ



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:20:25:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.