|
๑๘. บุญขวนขวายงานที่ควร
บุคคลบางคนไม่ได้ใช้ทรัพย์ให้ทาน แต่มีความศรัทธา ออกความคิด ออกแรง ช่วยเหลืองานบุญต่างๆ ช่วยปรากาศงานบุญ กวาดลานวัด ถูพื้น ขัดศาลา ล้างห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ ตัดแต่งต้นไม้ในวัด เป็นต้น เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดบุญได้ทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นบุญที่เกิดจากการขวนขวายในงานที่ควร ตัวอย่างง่ายๆ เช่นบุรุษคนหนึ่งที่เพียงแค่ช่วยชี้บอกทางให้คนไปรับทานจากทานบดีได้ถูกที่ เพียงเท่านี้ก็ยังได้บุญใหญ่ไปเสวยทิพย์สมบัติเป็นเทวดา
ในอดีตกาลเมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนอันตรธานไปแล้ว มีมหาเศรษฐีเจ้าของโรงงานทอผ้าแห่งหนึ่งในโรรุวนครชื่อ อสัยหะ ท่านเศรษฐีเป็นคนใจบุญจึงตั้งโรงทานให้ทานแก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก และยาจก เป็นประจำทุกวัน เศรษฐีมอบหมายให้บุรุษคนหนึ่งทำหน้าที่ดูแลการให้ทาน แต่บุรุษผู้นี้ไม่มีความศรัทธา เมื่อมียาจกมาขอทานเขาจะหลีกไปยืนไกลๆ ทำอาการบุ้ยปาก เวลาให้ทานก็ทำมือหงิกๆ ทำตาทะเล้น ส่วนบุรุษอีกผู้หนึ่งเป็นช่างหูกอาศัยอยู่ข้างเรือนเศรษฐี เป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์อะไรจะให้ทานได้ แต่ก็เป็นคนมีศรัทธา ทุกวันจะมีคนมาที่เรือนของเขาถามทางไปโรงทานของเศรษฐี ช่างผูกผู้ยากจนก็มีความยินดียกมือขึ้นชี้บอกทางให้ และอวยพรให้คนเหล่านั้นโชคดีมีความสุข เมื่อทำกาละแล้ว อสัยหเศรษฐีไปอุบัติเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จากผลของการเป็นทานบดีให้ทานด้วยความศรัทธา บุรุษผู้ดูแลการให้ทานนอกจากไม่ศรัทธาแล้วยังไม่ขวนขวายในงานที่ควร เขาจึงไปเกิดเป็นเปรตน่าเกลียดน่ากลัว มีปากเบี้ยว นัยน์ตาถลน และมือหงิกงอ จากผลกรรมที่เป็นผู้ให้ทานด้วยอาการอย่างนั้น ส่วนช่างหูกผู้ยากจนไปเกิดเป็นรุกขเทวดา มีมือวิเศษที่เมื่อเหยียดออกจะมีอาหารทิพย์ทุกอย่างปรากฏ ซึ่งเกิดขึ้นจากการชี้บอกทางไปโรงทานของเศรษฐีแต่เพียงอย่างเดียวนั่นเอง
ดังนั้นจึงไม่ควรคิด ไม่ควรเสียใจ หรือท้อใจ ว่าเราไม่ใช่เศรษฐีหรือคฤหบดีผู้มีทรัพย์มาก จะมีปัญญาหาทรัพย์มาทำบุญให้ทานได้ที่ไหน จริงอยู่ว่าบุคคลใดให้ทานย่อมได้บุญ หากไม่มีทรัพย์ให้ทานด้วยตนเอง เพียงแค่ชักชวนคนอื่นให้ทำบุญให้ทานก็ยังได้บุญ เพราะนี่ก็เป็นการขวนขวายในงานที่ควร ดังเช่นกุลบุตรอีกผู้หนึ่ง
ในอดีตกาล ๗๐,๐๐๐ กัป ล่วงมาแล้ว ครั้งนั้นเป็นพุทธกาลของพระพุทธเจ้าสุเมธะ มีกุลบุตรผู้หนึ่งบวชในพระศาสนาได้ ๗ พรรษา แล้วสึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ สึกแล้วได้ทำหน้าที่ปัดกวาดบริเวณรัตนเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บุรุษนี้เป็นคนไร้ทรัพย์ ไม่อาจทำบุญให้ทานได้ด้วยทรัพย์ของตนเอง แต่เพราะเคยบวชเรียนมาก่อนจึงรู้ว่าการชักชวนผู้อื่นให้ทำบุญย่อมได้บุญด้วย เขาจึงคอยประกาศชักชวนคนอื่นว่า ท่านทั้งหลายจงมาบูชาพระบรมสารีริกธาตุกันเถิด บูชาแล้วจะมีอานิสงส์ใหญ่ได้ไปสวรรค์ กุลบุตรชักชวนผู้อื่นอย่างนี้ตลอดชีวิต เมื่อทำกาละแล้วผลบุญได้ส่งผลให้เขาไปอุบัติเป็นเทพบุตรในดาวดึงส์ มีวิมานตระการตา มีเทพธิดาแวดล้อม จุติแล้วก็ท่องเที่ยวอยู่ระหว่างสวรรค์และมนุษย์ไม่ตกต่ำกว่านี้ จนถึงพุทธกาลปัจจุบัน เศษของกุศลกรรมครั้งนั้นก็ยังส่งผลให้เขายังเป็นเทพบุตรอยู่ในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
Create Date : 27 กันยายน 2552 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 11:38:23 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1606 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:19:20:28 น. |
|
|
|
โดย: พ่อระนาด วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:22:44:48 น. |
|
|
|
โดย: พ่อระนาด วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:18:45:25 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:20:33:39 น. |
|
|
|
โดย: พ่อระนาด วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:21:09:50 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:2:31:50 น. |
|
|
|
โดย: Prettymaew วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:2:40:13 น. |
|
|
|
โดย: nui IP: 124.122.93.154 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:19:06:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|
มีความสุขทุกๆ วันนะครับ และขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมที่ blog ด้วยครับ