ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
 
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
๖. ให้ทานด้วยศรัทธา

การให้ทาน คือการสละทรัพย์สินสิ่งของของตนให้แก่บุคคลอื่น มุ่งหวังจะให้ผู้รับได้ประโยชน์และความสุขจากเมตตาจิตของตน การให้ทานเป็นวิธีการเริ่มสร้างสมบุญแบบง่ายๆ จะให้เป็นอาหารหรือปัจจัยใดๆ ก็ได้ จะให้แก่สัตว์หรือมนุษย์ด้วยกันก็ได้ จะถวายแก่ภิกษุสงฆ์หรือร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างวัดวาอารามอาคารสาธารณะ เหล่านี้ล้วนนับว่าเป็นการให้ทานทั้งสิ้น
แต่บางคนทำบุญให้ทานโดยขาดความศรัทธา ใครมาชวนให้ร่วมทำบุญให้ทานก็ทำไปเพราะเกรงใจ ขัดไม่ได้ บางทีจะทำน้อยก็กลัวเสียหน้าจึงต้องทำมากๆ แต่ทำแล้วก็ทุกข์ใจเสียดายทรัพย์ บางคนทำมากจนครอบครัวเดือดร้อน แม้ผ่านไปหลายวันหลายเดือนก็ยังรู้สึกเสียดายทรัพย์นั้นไม่หาย การทำบุญให้ทานลักษณะนี้แม้ใช้ทรัพย์มากเป็นแสนเป็นล้านก็ให้ผลน้อย อานิสงส์น้อย อาจน้อยกว่าผู้ที่ทำบุญด้วยทรัพย์เพียงสลึงหนึ่งด้วยซ้ำ
การทำบุญให้ทานที่ให้ผลมากอานิสงส์มาก ต้องเริ่มด้วยความศรัทธาซึ่งเป็นทรัพย์ภายใน ทานที่ให้ด้วยความศรัทธามากย่อมมีผลมากอานิสงส์มาก ดังเช่นทานของมหาเสนพราหมณ์ผู้ยากจนในกรุงราชคฤห์

มหาเสนพราหมณ์ เป็นคนยากจนอาศัยอยู่ในกรุงราชคฤห์ เขาเป็นสหายของวังคันตพราหมณ์บิดาของพระสารีบุตร พระสารีบุตรจึงมักบิณฑบาตไปที่หน้าเรือนเพื่อจะสงเคราะห์เขาบ่อยๆ มหาเสนพราหมณ์เป็นคนมีศรัทธาแต่ไม่มีทรัพย์หรือเครื่องไทยธรรมใดๆ เลย เขาจึงต้องคอยแอบอยู่ในเรือน ตั้งใจว่าวันหน้าถ้ามีเครื่องไทยธรรมดีๆ จึงจะถวายพระเถระ
ต่อมาวันหนึ่ง มหาเสนพราหมณ์ไปในที่บอกลัทธิของพวกพราหมณ์ ได้ข้าวปายาสกลับมาเต็มถาดกับผ้าสาฎกเนื้อหยาบอีกผืนหนึ่ง เมื่อถึงเรือนก็ระลึกถึงพระสารีบุตรว่าเราต้องการถวายไทยธรรมนี้แก่พระเถระ
ในขณะนั้น พระสารีบุตรออกจากฌานสมาบัติ เห็นว่าพราหมณ์ได้ไทยธรรมแล้วและมีศรัทธาจะถวายทาน ท่านจึงห่มผ้าและถือบาตรมายืนอยู่หน้าประตูเรือน
มหาเสนพราหมณ์เห็นพระเถระมา ปีติและศรัทธาก็เพิ่มทวีคูณ นิมนต์พระสารีบุตรให้เข้ามานั่งในเรือนแล้วนำข้าวปายาสมาถวาย พระสารีบุตรรับข้าวปายาสเพียงครึ่งหนึ่งก็เอามือปิดบาตร มหาเสนพราหมณ์กล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าวปายาสนี้ปริมาณเพียงพอสำหรับคนๆ เดียวเท่านั้น ข้าพเจ้าขอถวายทั้งหมด ขอท่านจงรับเพื่อสงเคราะห์ข้าพเจ้าในปรโลกด้วยเถิด”
พระสารีบุตรจึงรับข้าวปายาสนั้นทั้งหมดแล้วฉันอยู่ในเรือนนั้น เมื่อฉันเสร็จแล้ว มหาเสนพราหมณ์ได้นำผ้าสาฎกมาถวายพร้อมกล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ธรรมใดที่ท่านบรรลุแล้ว ข้าพเจ้าขอบรรลุธรรมนั้นเหมือนกัน”
พระสารีบุตรรับผ้าสาฎก กล่าวคำอนุโมทนาแล้วกลับไป
หลังจากถวายทานแล้ว มหาเสนพราหมณ์ก็ร่าเริงอิ่มเอมกับทานที่ตนเองได้ทำในยามตกยาก ต่อมาไม่นานมหาเสนพราหมณ์ก็ทำกาละไปเกิดในกรุงสาวัตถี ในตระกูลมีทรัพย์ที่อุปัฏฐากพระสารีบุตรเถระ ได้ชื่อว่า ติสสะ
ด้วยผลบุญจากการถวายทานด้วยความศรัทธาในชาติก่อน ทำให้ติสสะกุมารเป็นผู้มีลาภผลมาก ญาติและบิดามารดาได้จัดถวายทานภิกษุ ๕๐๐ รูป มีพระสารีบุตรเป็นประธานอยู่เนืองๆ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ วันเกิด วันเจาะหู นุ่งผ้าใหม่ หรือวันโกนจุก จนเมื่ออายุ ๗ ขวบ ติสสะกุมารจึงได้บวชเป็นสามเณรในสำนักของพระสารีบุตร
เมื่อบวชแล้ว สามเณรติสสะก็ยังเป็นผู้มีลาภมากเหมือนเดิม บวชแล้วออกบิณฑบาตเพียง ๒ วันแรก ก็มีคนถวายผ้าสาฎกให้จำนวนมากถึงพันผืน
วันหนึ่งในฤดูหนาว สามเณรติสสะจาริกไปวิหารแห่งหนึ่ง เห็นภิกษุผิงไฟอยู่เพราะความหนาว สามเณรบอกว่าพวกท่านควรจะห่มผ้ากัมพลกันหนาว ภิกษุเหล่านั้นกล่าวว่า สามเณรมีบุญมากจึงมีผ้ากัมพล ส่วนพวกเราจะมีผ้ากัมพลจากที่ไหน สามเณรติสสะจึงชวนภิกษุเหล่านั้นประมาณพันรูปบ่ายหน้าเข้าสู่นครสาวัตถี
ด้วยผลบุญของสามเณร คนนอกพระนครได้ถวายผ้ากัมพล ๕๐๐ ผืน และคนในพระนครถวายอีก ๕๐๐ ผืน ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ผ้ากัมพลครบพันผืนภายในวันเดียวนั้นเอง

การที่ลาภผลของติสสะสามเณรมีมาก เป็นเพราะผลจากการถวายทานเพียงนิดหน่อย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา ต่อมาภายหลังผลบุญนั้นได้มีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าได้สวรรค์สมบัติหรือพรหมสมบัติ เพราะสามเณรได้โลกุตรสมบัติ คือ บรรลุอรหัตผลได้อย่างรวดเร็วเพียงได้รับกรรมฐานจากพระศาสดา


Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 10:45:19 น. 1 comments
Counter : 1957 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ ที่ให้ธรรมทาน ค่ะ


โดย: บนเส้นทางกลับบ้าน IP: 118.175.86.113 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:20:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.