ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2550

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2550

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
หอการค้าไทย
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade and Services Sentiment Index: TSSI) จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ TSSI ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม: SMEs
ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs ภาคการค้าและบริการในเดือนกรกฎาคม 2550 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ ณ ระดับ 41.8 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 43.6 โดยเมื่อพิจารณาแยกตามประเภทของกิจการ กิจการภาคการค้าส่งและค้าปลีกมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 41.6 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 43.2 และกิจการภาคบริการมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 42.1 ปรับตัวลดลงเช่นกันเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 44.0 จากค่าดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันสามารถพิจารณาได้ว่าผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั้งภาคการค้า และภาคบริการมีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ลดลงเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนที่ผ่านมา และมีความเชื่อมั่นในปัจจุบันในระดับที่ไม่ดีนักเนื่องจากค่าดัชนีที่ได้ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ในทุกประเภทกิจการ

สำหรับค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้าและบริการ ในเดือนกรกฎาคม 2550 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ ณ ระดับ 44.7 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 45.3 โดยเมื่อพิจารณาแยกตามประเภทของกิจการ กิจการภาคการค้าส่งและค้าปลีกมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ ณ ระดับ 44.2 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 45.4 และกิจการภาคบริการมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 45.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าดัชนีในเดือนมิถุนายนที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 45.2 จากค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้ามีความเชื่อมั่นปรับตัวในทิศทางที่ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการภาคบริการมีความเชื่อมั่นปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าในเดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการในทุกประเภทกิจการยังคงมีความเชื่อมั่นในระดับที่ไม่ดีนักเนื่องจากค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าของเดือนนี้ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ในทุกประเภทกิจการ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกิจการ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อกิจการในกลุ่มต่างๆ จะมีความแตกต่างกันในแต่ละประเภทของกิจการ โดยในกรณีของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคการค้าส่งทั้งในปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าของเดือนกรกฎาคม 2550 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกิจการในระดับสูงที่สุด ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รองลงมา ได้แก่ ต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวที่เพิ่มสูงขึ้น อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง ระดับค่าขนส่งที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และระดับราคาบริการสาธารณูปโภคโดยรวมตามลำดับ ภาคการค้าปลีกทั้งในปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าของเดือนกรกฎาคม 2550 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกิจการในระดับสูงที่สุด ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ รองลงมา ได้แก่ อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง ระดับราคาต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ระดับราคาค่าขนส่งที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และระดับราคาบริการสาธารณูปโภคโดยรวม ตามลำดับ ภาคบริการทั้งในปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าของเดือนกรกฎาคม 2550 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกิจการในระดับสูงที่สุด ได้แก่ ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และรองลงมา ได้แก่ อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง ระดับราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ระดับราคา บริการสาธารณูปโภคโดยรวม และระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลในเดือนนี้ผู้ประกอบการในทุกประเภทกิจการมีความกังวล ในส่วนของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลงในระดับสูงที่สุด และระดับราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นหลัก

Create Date : 08 ตุลาคม 2550		0 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2550 16:19:44 น.
Counter : 609 Pageviews.
Share Tweet