|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
: : ลาเวนเดอร์ : ความไม่วางใจ : :
..ลาเวนเดอร์สีม่วง ที่สวนคิว...
เราเคยได้ยินชื่อ "ลาเวนเดอร์" มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ... จำได้ว่า เคยเห็นแป้งหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ของแม่ เป็นกระป๋องโลหะ มีสีม่วงๆ กลิ่นหอมเย็นๆ ไม่หอมฉุนรุนแรง ... ต่อมาสมัยทำงาน งานของเราเกี่ยวข้องการเลือกสีใช้งาน ก็จะมีแถบสีที่เรียกว่า "แพนโทน" (Pantone) ที่จำแนกสีเป็นระดับสีและหมายเลขไว้ชัดเจน เราก็จะชื่นชอบสีในระดับสีม่วงอ่อนๆ อมครามนี้มาก บางทีก็ได้ยินเขาเรียกกันว่า ม่วงลาเวนเดอร์ ...สวยเย็นตาอย่างที่เราชอบเลยละ ...
แต่เราก็ไม่เคยเห็นต้นลาเวนเดอร์ด้วยตาของตนเองจริงๆ สักที เพิ่งจะมีโอกาสได้ไปเจอต้นลาเวนเดอร์เป็นครั้งแรกที่สวนคิว (อีกนั่นแหละ)เมื่อปีก่อน ... แม้จะเป็นพุ่มเล็กๆ แทรกอยู่ตามแปลงพืชหลายชนิด... ไม่ได้ไปเห็นทุ่งลาเวนเดอร์สวยงามอย่างในหนังสือท่องเที่ยวหรือในหนัง... แต่ก็ประทับใจในความสวยงามพลิ้วลมของช่อดอกลาเวนเดอร์จริงๆ...
...วันนี้ก็เลยอยากเขียนถึงดอกไม้สวยหอมน่ารักที่มีชื่อว่า "ลาเวนเดอร์" ค่ะ...
ว่าตามโพย "คู่มือดอกไม้ป่าแห่งบริเทนและยุโรป" (Wild Flowers of Britain and Europe) ลาเวนเดอร์นี่มีสองอย่าง คือ "ลาเวนเดอร์สามัญ" (Common Lavender) ที่มีลักษณะดังรูปแรก คือเป็นพุ่มแหลมๆ มีดอกที่ปลายกิ่งสีม่วง กับ "ลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส" (French Lavender) ... แต่บางทีเราเคยเห็นในรูป ที่ชนบทฝรั่งเศสก็มีทุ่งลาเวนเดอร์สามัญเยอะแยะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะแถวๆ โพรวองซ์ (Provence)
..ลาเวนเดอร์สามัญ..ที่สวนคิว..
Common Lavender Lavandula angustifolia ลาเวนเดอร์สามัญ เป็นพืชทรงพุ่ม สูงเต็มที่ราวหนึ่งร้อยเซ็นติเมตร ก้านยาวเรียว มีแขนงกิ่งก้านแน่นหนาเต็มพุ่ม ใบเล็กแหลมเรียว ดอกเป็นช่อเล็กๆ ที่ปลายกิ่ง สีม่วงอย่างที่บางคนว่าค่อนไปทางสี "อินดิโก" คือจะออกแนวครามๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วงเวลาที่ผลิบาน คือเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ถิ่นที่พบ คือภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ว่ากันว่าลาเวนเดอร์เป็นพืชทนแล้ง ขึ้นในที่มีหินมีกรวดอะไรได้ดี
..ลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส..ที่สวนคิว..
French Lavender Lavandula stoechas ลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส ก็เป็นพืชทรงพุ่มสูงเต็มที่ราวหนึ่งร้อยเซ็นติเมตรคล้ายลาเวนเดอร์สามัญ ต่างกันที่รูปลักษณะดอก ทรงใบ และกลิ่น รวมทั้งฤดูที่บานด้วย ... ดอกของลาเวนเดอร์ฝรั่งเศสจะมีลักษณะดังในภาพ คือเป็นหัวๆ มีกลีบสีม่วงบานช่วงบน ใบก็เป็นช่อสั้นๆ ไม่เรียวยาว กลิ่นก็จะคล้ายยูคาลิตัสและหอมแรงกว่า ที่สำคัญจะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน ... คือก่อนลาเวยเดอร์สามัญไปหลายขุม...
ตามตำราพฤกษศาสตร์ของสมาคมพฤกษศาสตร์คิว ... บอกไว้ว่า ลาเวนเดอร์ เป็นพืชลำต้นทรงพุ่มที่สุดรักของละแวกเมดิเตอร์เรเนียน มีการนำลาเวนเดอร์ไปใช้ในบุหงา (Potpourri) การจัดแจกันดอกไม้ การทำอาหาร (กินได้ด้วยนะ) และตกแต่งในสวน
สำหรับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของลาเวนเดอร์ คือน้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากดอกสดของลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะลาเวนเดอร์อังกฤษ (English lavender) และก็ได้มีการนำน้ำมันลาเวนเดอร์ไปใช้ในทางสมุนไพร หรือสุวคนธบำบัด (Aromatherapy) กันมาก
เอ...ในเมื่อมีการใช้ประโยชน์จากลาเวนเดอร์ จนมีการปลูกดอกไม้ชนิดนี้เป็นทุ่งเป็นฟาร์มกันทั่วไป แล้วจะยังถือว่าดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ป่าอีกละหรือ ... อือม์ ... เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ยุคนี้ ควรจะจัดว่าลาเวนเดอร์อยู่ในประเภทดอกไม้ในแปลงสวนไปแล้วหรือเปล่า ... แต่เท่าที่เราได้ไปหาข้อมูลมา ลาเวนเดอร์เคยเป็นดอกไม้ป่ามาก่อนจริงๆ ... เป็นพืชพื้นถิ่นในโซนที่เป็นเทือกเขาแถบเมดิเตอร์เรเนียน ชอบแดดจ้า และโตได้ดีในที่หินๆ... (แต่ไหงไปมีชื่อเสียงที่เกาะอังกฤษได้ล่ะ) ... ปัจจุบัน ลาเวนเดอร์เติบโตอยู่ทั่วไปทางยุโรปตอนใต้ ออสเตรเลีย รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
..สตรียุคเอลิซาบีธาน..นิยมนำลาเวนเดอร์มาอบร่ำเครื่องใช้ในบ้าน..
...ในหนังสือ "ภาษาของดอกไม้" (The Language of Flowers by Shiela Pickles) ได้เขียนถึงลาเวนเดอร์ไว้ว่า...
นานนับร้อยปีมาแล้ว ที่ชาวตะวันตกนิยมนำความหอมของลาเวนเดอร์มาใช้ในครัวเรือน เช่น อบร่ำลิ้นชักเก็บผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอน ผสมในสบู่และน้ำหอม (โอดิโคโลญจ์) วางในตู้เสื้อผ้าเพื่อไล่แมลงกินผ้า หรือแขวนในที่ลมพัดผ่านเพื่อให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ขจรขจายในบรรยากาศ ...
ตามคติความเชื่อ งูพิษตัวเล็กที่เรียกว่า แอสพ์ (asps) มักจะชอบนอนอยู่ใต้พุ่มลาเวนเดอร์ (จะเป็นเพราะหลงใหลความหอมหรือเปล่าน้า...) ดังนั้น คนก็เลยไม่ค่อยจะวางใจในพืชชนิดนี้สักเท่าไหร่ อันเป็นที่มาของความหมายของดอกไม้ชนิดนี้ว่า ความไม่วางใจ (Distrust)
For centuries Lavender has been used in the home to scent linen chests, perfume soap and eau de Cologne, and as a herbal cure. The Elizabethans scattered it on the floor to scent their houses and to deter moths and insects.
According to folklore, small poisonous snakes known as asps like to lie under the lavender bushes. So people grew to distrust the plant, and the language of Lavender came to express exactly that sentiment.
สำหรับภาพวาดเทวนิยายเกี่ยวกับ "ภูตพฤกษา" (Flower Fairies) ศิลปินอังกฤษ Cicely Mary Barker ได้วาดภาพนางฟ้าลาเวนเดอร์ไว้ด้วย...สวยน่ารักเชียว...
..ภูตพฤกษา..ลาเวนเดอร์เฟรี่..
And still she slept an azure-lidded sleep, In blanched linen, smooth, and lavender'd, While he from forth the closet brought a heap Of candied apple, quince, and plum, and gourd; With jellies soother than the creamy curd, And lucent syrops, tinct with cinnamon; Manna and dates, in argosy transferr'd From Fez; and spiced dainties, every one, From silken Samarcand to cedar'd Lebanon.
The Eve of St. Agnes. JOHN KEATS. 1795-1821
..ลาเวนเดอร์ของชาวบ้าน...ยืมภาพเขามาลงค่ะ..
นอกจากจะนำมาทำเป็นเครื่องหอมและบุหงาแล้ว ลาเวนเดอร์ยังคุณสมบัติทางแพทย์สมุนไพรอันน่าทึ่ง ... น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ใช้บำบัดอาการต่างๆ ได้หลายชนิด ... เช่น นอนไม่หลับ ผมขาวผมร่วง ความวิตกกังวล ความเครียด และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบางชนิดได้ด้วย (อันนี้คงต้องปรึกษาแพทย์กันละเนอะ..) ... น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ยังอาจนำไปผสมกับน้ำมันชนิดอื่น เพื่อใช้ในการนวด ฝังเข็ม หรือกดจุด ... (ตำราเขาว่างั้น ..เราก็ยังไม่เคยลอง ...ดมกลิ่นหอมๆ ก็ช่วยให้สบายใจอยู่ละ)
ในเรื่องของสี...โอ้..ไม่น่าเชื่อว่ามีหลากหลายระดับสีของลาเวนเดอร์เสียด้วยนะ ... สีลาเวนเดอร์ เป็นหนึ่งในชื่อเรียกระดับของสีม่วง ก็ใช่แล้วละ ... มีที่มาจากต้นลาเวนเดอร์นี่เอง สีม่วงแบบนี้ อาจจะเรียกว่า "ฟลอรัล ลาเวนเดอร์" (floral lavender) ระดับสีของลาเวนเดอร์ไล่ตั้งแต่สีม่วงอมชมพู สีม่วงไวโอเล็ต ไปจนถึง สีม่วงครามอมน้ำเงิน
..จบแล้วค่ะ..(จริงๆ ที่ค้นข้อมูลมา มีอีกนั่นแหละ แต่ตาจะปิดแล้ว..คงต้องขอราตรีสวัสดิ์กันละ)..
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 29 มกราคม 2553 16:17:56 น. |
|
13 comments
|
Counter : 13117 Pageviews. |
|
|
|
โดย: endless man วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:07:57 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:3:23:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:34:46 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:58:36 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:38:45 น. |
|
|
|
โดย: ก้อนหิน (cator ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:05:12 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:34:59 น. |
|
|
|
โดย: ไมค์ IP: 223.207.122.49 วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:10:53 น. |
|
|
|
โดย: arthitchan IP: 180.180.219.85 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:14:44 น. |
|
|
|
โดย: sasithon IP: 115.87.148.211 วันที่: 16 สิงหาคม 2556 เวลา:19:14:35 น. |
|
|
|
โดย: pink IP: 114.109.44.235 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:53:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|