..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
: : ทุกรูปล้วนมีเรื่องราว : :



...Every Picture Tells a Story...

เคยได้ยินประโยคนี้มานานแล้ว... แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพียงสำนวนภาษาอังกฤษ
เพิ่งรู้ว่าเป็นชื่อเพลงหนึ่งของคุณปู่ร็อด สจวร์ต จะไพเราะหรือไม่ประการใดไม่อาจทราบได้เพราะไม่เคยฟังซักที...

ภาพทุกภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด หรือภาพประดิษฐ์จิตรกรรมประเภทใดก็ตาม
ล้วนมีเรื่องราวและความเป็นมาที่อาจจะน่าสนใจบ้าง ไม่น่าสนใจบ้าง
เป็นผลผลิตของการค้นพบใหม่ เป็นข้อมูลข่าวสาร
หรืออาจจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งจากความทรงจำ...

เราเองก็มีภาพจากวันวารที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อย...

ในยามที่ยังนึกไม่ทันว่าจะหาเรื่องอะไรดีมาลงบล็อก...แต่คันไม้คันมือนึกอยากขีดๆ เขียนๆ ตามประสาคนชอบเขียน
ได้การละ... จับภาพประดามีในสต๊อก...มาทำยำใหญ่ แกงโฮะ หรือตำซั่วก็แล้วแต่จะจินตนาการดีกว่า...
เสมือนเป็น "คลังภาพและความทรงจำ" อือม์...เข้าท่าเนาะ... (ในความคิดของเรา)...
ก็เพราะว่าทุกรูป ณ แต่ละขณะ ล้วนมีที่มา และเรื่องราวน่ารำลึกและจดจำ
เราจึงอยากบันทึกไว้เป็นที่ระลึกถึงทุกสิ่งที่ผ่านตาเข้ามาในชีวิต...



: : ความทรงจำหมายเลขหนึ่ง : :
...My Box of Chocolate...




...ลำดับความทรงจำ...
(จากซ้ายไปขวา ตามเข็มนาฬิกา
และม้วนเข้าข้างในแบบ spiral)


...รูปที่ ๑...
พี่ชายลงทุนเป็นม้าส่งเมืองให้เราขี่เล่นที่แฟลตในลอนดอน...
ตอนนั้นเราอายุราวๆ สามหรือสี่ขวบ พี่ๆ วัยรุ่นแล้วแต่ก็สามัคคีกันดีอยู่...
ช่วงปิดเทอมใหญ่ที่เมืองไทย บ้านเรามักจะยกโขยงกันไปอังกฤษ
เพราะพี่ชายสองคนเรียนอยู่ที่นั่น และพ่อก็เช่าแฟลตไว้สำหรับให้ลูกๆ มาพักเวลาสุดสัปดาห์...
เราชอบอังกฤษมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ไป (ครั้งแรกสามขวบ)
อาจจะเป็นเพราะชอบนั่งเครื่องบิน...555...
สมัยก่อนไปอังกฤษต้องแวะเติมน้ำมันไม่ต่ำกว่าสามครั้ง ที่นิวเดลี การาจี เตหะราน และแฟรงค์เฟิร์ต...
ขึ้นๆ ลงๆ อย่างหนุกหนานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทั้งเครื่องบินและตัวเรา...
เหตุผลอีกอย่างที่ชอบ... เพราะที่อังกฤษ เป็นเมืองสวย สงบ อากาศดีและน่าอยู่...ในความคิดของเรา
สมัยก่อนประเทศนี้มีคนต่างชาติน้อย มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนบริทิชแท้ๆ ผมทองผิวซีดๆ
คนไทยมีไม่กี่คน อินเดียก็แทบจะไม่มีเลย พวกยุโรปตะวันออกแทบจะนับคนได้
ต่างกับยุคนี้อย่างเหลือเชื่อ ที่ปรากฎว่าอังกฤษกลายเป็นแกงโฮะของคนนานาชาติ โดยเฉพาะเหล่าอินตะระเดียทั้งหลาย
ในอังกฤษมีสวนสาธารณะสวยสงบสะอาด ให้เราไปวิ่งเล่น ไปปิคนิค
อากาศก็เย็นสบาย ชนบทก็ร่มรื่นน่าอยู่ ไปไหนๆ ก็มีแต่ดอกไม้ต้นไม้
เมืองนี้จึงเป็นความผูกพันที่ต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่วัยเยาว์...

...รูปที่ ๒ และรูปที่ ๔...
ช่วงโรงเรียนในลอนดอนปิดคริสต์มาส เพื่อนๆ กับเราไปเที่ยวยุโรปภาคพื้นทวีปกัน
จำได้ว่าไปกับทัวร์ท้องถิ่นชื่อว่า "คอสมอส" ถูกมากเลย ยี่สิบเอ็ดวันแค่สองหมื่นบาท
ได้ไปตั้ง 6 ประเทศ มีเบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ แล้วก็อิตาลี นั่งรถโคชกันจนก้นระบม
เหนื่อยแต่สนุกกันมาก แท็คทีมไปกันสี่สาว หนาวสุดสุดเพราะหิมะตกเกือบทุกที่ยกเว้นที่อิตาลี...
เสียดายมากที่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้เลย ที่ถ่ายมาก็มืดๆ มัวๆ ซะ...
รูปที่ ๒ คือระหว่างทางจากแฟรงค์เฟิร์ตไปเวียนนา รถโคชแวะจอดให้ลงไปเดินเล่นถ่ายรูป
รูปที่ ๔ ก็ในปารีสนั่นเองละ มาถึงเมืองนี้ ไม่ถ่ายกับหอนี้ได้ไงนิ...
นับเป็นทริปยุโรปครั้งแรกและครั้งเดียวของเรา (ยังไม่ได้มีโอกาสไปอีกเล้ย...)

...รูปที่ ๓, ๗ และ ๘...
รูปเราสมัยเยาว์วัยที่บ้านเราเองละแวกสุขุมวิท
หลังเดียวกับที่เราอยู่ในปัจจุบันนี้ละ แต่มีปรับโฉมไปบ้างเล็กน้อย...
เป็นบ้านเกิดที่พ่อเราออกแบบและสร้างเอง ใจกลางกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่ยุคสุขุมวิทยังมีน้องควายอยู่นั่นละ สมัยนี้ มีแต่ป่าตึกเบียดเสียดอยู่รอบๆ
เฉลียงหลังบ้าน...เป็นมุมโปรดของเรา...ชอบมานั่งทำการบ้าน
เล่นกับหมา หรือเล่นอะไรต่อมิอะไรของเราง่วนไป
พี่ๆ ไม่ได้อยู่เล่นด้วย เราก็อยู่ของเราคนเดียวได้ ไม่เห็นเป็นไร
ชอบซะอีก ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องง้อใคร
เหมือนเป็นลูกคนเดียว แต่ก็พอใจกับสิ่งที่เป็น ไม่เหงา ไม่ว้าเหว่แม้แต่น้อย
หมาในรูปที่ ๗ เป็นบ็อกเซอร์ชื่อ "ทอมมี่" ส่วนในรูปที่ ๘ เป็นวิปเป็ท ชื่อ "วิปปี้"
ทั้งสองตัวขี่กำปั่นเหาะจากเมืองปะกิดมาอยู่เมืองไทยอย่างอบอุ่นที่บ้านของเรา...
จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต...

...รูปที่ ๕...
ภูกระดึง...เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของเรากับเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน
แม้จะเป็นครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็มีคุณค่าทางจิตใจมาก
เราอยากกลับไปอีกสักครั้งจริงๆ แต่สังขารท่าทางจะไม่ไหวเป็นแน่แท้...เฮ้อ...

...รูปที่ ๖...
รูปนี้ถ่ายไว้ตอนไปฝรั่งเศสกับคนข้างตัว
ไปกี่ทีๆ ก็ไปช่วงปิดคริสต์มาส ข้อดีคือหนาว..ชอบๆ เราไม่รังเกียจความหนาว
แต่ที่แย่คือรูปดำปึ๊ดปื๋อ รูปนี้เป็นหนึ่งในวันที่ปารีสมีแดดสวยๆ ให้ถ่ายรูปได้มั่ง

...รูปที่ ๙...
รูปนี้ที่บริเวณริมทะเลเมืองพลีมัธ ในแคว้นเดเวิน ตอนไปเยี่ยมคนข้างตัวที่เรียนอยู่เมืองสวยริมทะเล
ไปพลีมัธทีไรก็ต้องมาเดินเล่นถ่ายรูปแถวๆ นี้ อากาศริมทะเลเย็นชื่นใจ หนาวยะเยือกสะใจดี

...รูปที่ ๑๐...
เรากับแม่ที่สนามบินฮีทโธรว์ ลอนดอน กำลังรอขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย
อากาศหนาวจนเราต้องใส่โคทหนา ตัวกลมเป็นหมีเลย...
สมัยก่อนฮีทโธรว์ยังไม่มีหลายๆ เทอร์มินัลอย่างในปัจจุบัน
แม้จะมีเพียงเทอร์มินัลเดียว แต่กว้างขวาง สะดวกสบาย
ไม่แออัดอย่างฮีทโธรว์สมัยนี้ ที่สนามบินอาไร้..แน่นเอี้ยดยังกะตลาดนัด



: : ความทรงจำหมายเลขสอง : :
...Every Picture Tells a Story...




...ลำดับความทรงจำ...
(จากซ้ายไปขวา ตามเข็มนาฬิกา
และม้วนเข้าข้างในแบบ spiral)


...รูปที่ ๑...
ตอนเรียนอนุบาล เราเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแสดงนาฏศิลป์
เรื่อง "สังข์ทอง" ที่มีเจ้าเงาะกับรจนา ตอนเสี่ยงพวงมาลัย
เนื่องจากหน่วยก้านเราออกจะทะมัดทะแมงและไม่เป็นหญิงๆ สักเท่าไหร่
เราจึงได้รับเลือกให้รำเป็นเจ้าเงาะ คู่กับเพื่อนชื่อกุ๊กไก่ที่รำเป็นรจนา
ไปแสดงสดในรายการโทรทัศน์ช่อง ๙ สมัยก่อนไม่มีบันทึกเทปหรอก
จำได้ว่าเราไม่ชอบหัวเจ้าเงาะเพราะมันอับๆ และทึกทักว่าหายใจไม่ออก
ครูก็เลยใจดีอนุญาตให้ครอบหัวเจ้าเงาะไว้บนหัว (เหมือนสวมหมวก)
ที่ตลกคือรำๆ ไป หัวเจ้าเงาะก็มักจะตกลงมาครอบหัวเราอยู่เรื่อยๆ
เราก็ไม่ย่อท้อที่จะผลักมันขึ้นไปบนหัวทุกทีซิน่า...(ดื้อซะ)...

...รูปที่ ๒...
รูปนี่เป็นช่วงมัธยมปลาย เพื่อนๆ และเราเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษของบริษัทเชลล์
เป็นรายการสดทางโทรทัศน์อีกนั่นละ ถามสดตอบสด รู้แพ้รู้ชนะกันเดี๋ยวนั้นเลย
เพื่อนอีกสองคนที่ไปด้วยกัน มี "ณัฏฐา" จากห้องวิทย์...
ตอนนี้เป็นแพทย์หญิงคนเก่งอยู่โรงพยาบาลทางใต้..ไม่รู้ย้ายไปไหนละยัง
แล้วก็ "จารุวัฒน์" จากห้องศิลป์คำนวณ ตอนนี้เธอไปเป็นมาดามท่านกงสุลใหญ่อยู่ซิดนีย์นู่น...
แล้วก็เราเองจากสายศิลป์ภาษา... ตอนนี้มาทำงานปุเลงๆ ตะลอนๆ อยู่นี่ละ
การแข่งขันในปีนั้น รู้สึกว่ารอบสุดท้ายพวกเราจะชนะเลิศนะ..ถ้าจำไม่ผิด...(แฮ่ๆ...แกร่จาง...จำม่ายด้ายละ)
ไว้เจอเพื่อนที่ไปแข่งคราวนั้นจะต้องถามให้'เฟิร์มอีกที..เดี๋ยวหน้าแตก...

...รูปที่ ๓...
รูปนี้เป็นที่ระลึกวันสำคัญอีกวันหนึ่งในชีวิตเรา...สมัยก่อนบัณฑิตมีน้อย (กระมัง)...
วันรับพระราชทานปริญญาในยุคนั้น จึงเป็นวันรื่นเริงแบบสบายๆ ของนิสิตผู้กำลังจะจากลา
ตั้งแต่เช้า เรากับเพื่อนๆ ได้เดินตระเวนถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ที่คณะนู้นคณะนี้
ประเดี๋ยวๆ ก็ย้อนกลับมาที่คณะ วิ่งรอกถ่ายรูปกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แบบตามสบาย
เที่ยงๆ ก็เตรียมเข้าหอประชุมกัน รับเสร็จออกมาก็ถ่ายรูปต่ออีกรอบ
วันรับปริญญาจึงได้บรรยากาศที่ครบเครื่องเบ็ดเสร็จดีมากๆ
ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่เข้าใจว่าปริมาณบัณฑิตมีมาก จึงต้องมีการรับทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย
ตารางกิจกรรมอาจจะปรับเปลี่ยนไป บัณฑิตคงต้องเร่งๆ รีบๆ ไม่มีเวลามาเจ๊าะแจ๊ะเม้าท์แตกกันสักเท่าไหร่
แต่ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่เรายังเก็บคุณค่าและความหมายของวันสำคัญวันนี้ไว้ในใจ
...ก็ถือว่าเป็นวันแห่งความทรงจำดีดีอีกวันหนึ่งในชีวิตเรา...

...รูปที่ ๔...
รูปนี้ถ่ายที่ใกล้ชายหาดบ้านบางมะนาว อำเภอเมือง นราธิวาสนู่น...
ไปทำงานเสร็จก็เลยแวะชมทะเลสักนิดหนึ่ง ชายหาดเขาก็เงียบสงบสะอาดตาดีนะ
เงียบจนบางทีก็รู้สึกหวาดๆ เหมือนกัน ดีว่ามีพี่ๆ ตชด. อยู่กับคณะด้วย...
จะมีน่าแปลก (นิดหน่อย) ที่มีสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านที่เดินไปเดินมาตามชายหาด
ซึ่งไม่ยักกะเป็นเป็นน้องตูบ (มุสลิมส่วนมากมักจะไม่ค่อยเลี้ยงสุนัขกัน)
แต่เป็นน้องแพะ... ร้องแบะๆๆๆ..เดินกันขวักไขว่...

...รูปที่ ๕...
รูปนี้ก็เราเอง ที่บ้านพักริมทะลที่พัทยา ชลบุรี เป็นบ้านเก่าที่พ่อออกแบบสร้างไว้ริมทะเล...
เป็นบ้านสองชั้นแบบเพิงหมาแหงน รับลมทะเลเย็นสบายทั้งวัน..ไม่มีแอร์ แต่สบ๊ายสบาย...
สมัยก่อนน้ำทะเลยังใส มีปลานกแก้วตัวโตว่ายน้ำทะเลมาถึงหน้าบ้าน
ตามชายหาดก็มีหอยเสียบ หอยตลับฝังตัวอยู่ในทราย
เรามีกิจกรรมเอาตะแกรงลวดไปครูดทรายเก็บหอยมาผัดกิน..สดอร่อยจริงๆ
เมื่อโตขึ้น ความเจริญมาถึง ชายหาดแถวนี้ไม่น่าอยู่อีกต่อไป
...ภาพของบ้านพัทยาจึงเป็นเพียงความทรงจำ...

...รูปที่ ๖...
รูปนี้เป็นรูปตอนไปทำงานที่สกลนคร จังหวัดสำคัญในอีสานเหนือ ห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร
เราถ่ายกับกลุ่มแม่บ้านตัดเย็บเสื้อผ้าบ้านโพนทอง และคณะทำงานที่ไปด้วยกัน
ภาคอีสานหน้าฝน เย็นฉ่ำฝนแสนสบาย ไม่ได้ร้อนแล้งอย่างที่ใครๆ คิด
ยิ่งยามฝนตก ลมทุ่งพัดโบกโบยมาชื่นใจ...
เป็นภาพชีวิตที่เรียบง่ายอย่างที่คนเมืองไม่มีโอกาสเช่นนี้

...รูปที่ ๗...
รูปนี้ถ่ายที่อุทยานธรรมชาติวิทยา อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรีนี่เอง
เราร่วมคณะทำงานที่สำนักงานไปจัดทำกิจกรรมการปลูกป่ากับเด็กนักเรียนในพื้นที่
เพื่อทดแทนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจากการบุกรุกถางป่า (อันไม่หยุดยั้ง)
ต้นไม้เล็กๆ หนึ่งต้นที่เติบโตในป่า...น่าจะมีส่วนช่วยให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นได้
...บ้างไหมนะ...

...รูปที่ ๘ และ ๙...
สาวผมยาวสลวยสวยเก๋ เก๊กหน้าถ่ายรูปแถมทำท่าน่ารักนั้น... ไม่น่าเชื่อว่าคือตัวข้อยเอง...
ทำมั๊ย...ทำไมถึงได้แอ๊บแบ๊วได้ขนาดนั้นเนี่ยตรู...เฮ้อ...อนาถใจตัวเองยิ่งนัก
รูปแรกเสื้อแดงถ่ายที่ลอนดอน ไปเดินเล่นกับเพื่อนสาวในหอ ขอถ่ายรูปกลางถนนละแวกแคมเดนทาวน์
รูปเสื้อลายดำขาวเหมือนทางม้าลายนั่น... (ทำไมเบ๊อะได้ขนาดนี้หนอเรา...)
ถ่ายที่เมืองพลีมัธโดยคนข้างๆ ในวันที่ยังเป็นเพื่อนผู้รู้ใจกันอยู่...

...รูปที่ ๑๐ และ ๑๑...
สองตูบในปัจจุบันของเรา คือคุณนายดุ๊กดิ๊กและสุดหล่อมิกกี้...
เออ...สองตูบในวัยเด็กของเราก็สีน้ำตาลตัว ขาวตัวเหมือนกัน อยู่บ้านนี้เหมือนกัน...
ไม่เหมือนอยู่อย่างอีตรงตูบ ณ วันนี้เป็นพันธุ์ "มิดโรด" ทั้งคู่เลย...

...จบแล้วคร้าบ...ภาพเล่าเรื่องจากความทรงจำ...
กว่าจะเฒ่าชะแรแก่ชราได้ที่...
คงมี "คลังภาพ" มาให้เขียนถึงกันอีกไม่มากก็น้อย...

...สุขสันต์วันอาทิตย์แสนสบายค่ะ...





...บันทึกวันสีเหลือง...
..๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒..



กระรอกน้อยในสวนหลังบ้าน
สองสีเหมือนตูบเราเลย


เขียนว่าบันทึกวันสีเหลืองแต่ขอเขียนถึงกิจวัตรในวันสีแดงคือเมื่อวานนี้
(วันอาทิตย์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒) เป็นอีกวันที่ได้ทำอะไรเยอะแยะหลายอย่างจริงๆ (ยุ่งยิ่งกว่าวันทำงานเสียอีก...)

เช้า ... พาลูกสาวไปหาหมอที่สมิติเวช ด้วยอาการไอ ปวดหัวและเป็นไข้
หมอเลยจับตรวจไข้หวัด ๒๐๐๙ ซึ่งต้องรอผล ๔๐ นาที ... เอาลูกกลับมาส่งบ้าน... แวะไปเอาขนมของกินที่ร้านอาหารใกล้บ้าน
แม่บ้านผัดบวบใส่กล่องให้มากินในรถเพราะวันนี้วิ่งรอกแต่เช้าและไม่มีเวลานั่งกินเป็นที่เป็นทาง

ไปถึงโรง'บาล ระหว่างรอที่จอดรถก็กินผัดบวบไปพลาง (สมเพชตัวเองเล็กน้อย)
พอจอดรถได้ก็ต้องขึ้นไปรอหน้าห้องหมออีกพักใหญ่ ... ช่วงนี้มีคนป่วยเยอะจริงๆ ไอโขลกๆ กันรอบตัว
เราเลยต้องใส่ผ้าปิดปากมันซะสองชั้นเลย (ไม่อยากเสี่ยงกับไวรัส ... เห็นเด็กคนนึงทั้งขากทั้งไอเต็มพื้นแล้วสยอง)

เจอหมอบอกผลเทสต์ไข้หวัดลูกเป็นลบ ตกลงเป็นแค่คออักเสบธรรมดา ... ค่อยยังชั่ว ... จ่ายตังค์ทั้งค่าตรวจค่ายาไป 2,700.-
บึ่งรถเอายากลับมาให้ลูกที่บ้าน แล้วขับรถออกไปซื้ออุปกรณ์วาดรูปที่ลูกสั่งซื้อ มีสีซากุระสิบกว่าขวดกับพู่กันสามอัน แวะซื้อน้ำยาอัดกลีบรีดผ้าให้แม่บ้าน กลับบ้านได้ซะที..เฮ้อ

บ่ายแล้วละ ... เปิดคอมฯ เขียนบล็อก Every Picture Tells a Story ต่อ ... เขียนค้างไว้ยังไม่จบเพราะรูปเยอะ ... เสร็จแล้วก็เริ่มจัดสมบัติบ้า ... จริงๆ มีเหตุผลก็คือจะหาซองใส่แบตโทรศัพท์มือถือซึ่งทำหายไปในกองสมบัติมาอาทิตย์กว่าแล้ว หาเท่าไหร่ๆ ก็ยังไม่เจอ แบตใหม่ๆ ตั้งสามก้อน.. เฮ้อ

หาของไม่เจอก็มาจัดแฟ้มโปสการ์ดดีกว่า ... ว่าแล้วรื้อโปสการ์ดกล่องมาจัด
เนื่องจากคนข้างๆ ซื้อซองและเมานท์แบบใส่แสตมป์แผ่นใหญ่มาให้สำหรับใส่โปสการ์ด
จัดโปสการ์ดเพื่อนๆ ใส่แฟ้มได้สองแฟ้มโตๆ จนเกือบเสร็จ แล้วก็ประดิษฐ์ภาพปก ซึ่งต้องใช้วิธีตัดปะจากนู่นนิดนี่หน่อย
เดี๋ยววันนี้ต้องไปซื้อแฟ้มเพิ่มสำหรับมาทำสแครปบุ๊ค เพราะเราเอาแฟ้มที่เตรียมไว้ทำสแครปบุ๊คมาใส่โปสการ์ดเต็มหมดซะแล้ว ...

เคยมีเพื่อนๆ ในบล็อกถามถึงหน้าตาแฟ้มใส่โปสการ์ด ก็เลยขอนำมาลงให้ดูกันตรงนี้เลย
จริงๆ แล้วจะต้องใส่ชื่อผู้ส่ง และบันทึกคอมเมนท์อะไรนิดๆ หน่อยๆ ของเรา แต่ต้องใช้เวลาประดิษฐ์ ... เลยขอติดไว้ก่อน



ส่วนวันนี้คือวันจันทร์ ... เขาประกาศให้เป็นวันหยุด (อีกแล้ว) หยุดยาวไปถึงวันพุธที่ ๘ กรกฎาคมแน่ะ
วันนี้คุณพ่อคุณลูกที่ไปกาญจน์ก็จะกลับมากันละ ส่วนพรุ่งนี้จะมีโปรแกรมอะไรยังไงคงต้องรอดูกันอีกที เพราะบ้านนี้ดูจะเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลา ... ไม่ไปไหนก้ออ่านหนังสือ เขียนบล็อก จัดข้าวของ (เยอะจริงจริ๊งของที่จะต้องจัดเนี่ย... ของที่บ้านยังไม่พอ เรายังขนเอกสารจากออฟฟิศกลับมาจัดที่บ้านอีกแน่ะ)

...สุขสันต์วันสีเหลืองสดใสนะคะ...




Create Date : 05 กรกฎาคม 2552
Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 8:37:00 น. 10 comments
Counter : 9789 Pageviews.

 
มาชมเรือ่งราวดีๆค่ะ ดูแล้วประทับใจนะคะ เรียงรูปสวยค่ะ ทุกรูปมีเรือ่งราวความเป็นมาที่น่าจดจำทีเดียว อ่านแล้วยิ้มตามเลยค่ะ


โดย: no filling วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:47:41 น.  

 
มาทำความรู้จักกันมากขึ้นผ่านภาพถ่ายค่ะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:49:09 น.  

 
Yes, piture tells a story, and makes us think about what happened in the past


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:53:19 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แดง ขอพักยกจากการีดผ้าสลับกะทำงานแวะมาแอ่วหาพี่แดงหน่อย สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ร้อนค่ะ ดีหน่อยเปิดหน้าต่างได้เพราะไม่มียุง

ชอบรูปเก่าๆสีขาวดำของพี่แดงมากๆเลยโดยเฉพาะตอนเป็นเด็กเล็กๆ อยากเห็นรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำแบบชัดๆ 555 ทำหน้าแป้นทะเล้นน่ารักมาก พี่แดงตอนเด็กๆนี่แก้มยุ้ยน่าหยิกมากเลยนะคะ ไว้หนูจะสแกนรูปสมัยทารกของตัวเองมาประจานมั่งดีกว่า ทำเป็นคลังภาพแบบนี้คงสนุกดีพิลึก

พี่แดงมารูนยังมีพลังในการขีดเขียนและบันทึกเรื่องราวได้อย่างคงเส้นคงว่าดีจริงๆ เริ่มมาเม้นท์ไม่ึค่อยทันละ หุหุหุ นอนหลับฝันดีดีเน้อเจ้า พรุ่งนี้ทำงานหรือเปล่าคะ^^


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:26:26 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แดง


พี่แดงเก็บภาพไว้ได้ดีมากเลยครับ
ที่บ้านผมเมือ่ก่อนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเก็บภาพถ่าย
ภาพสวยๆเลยไม่ค่อยมีหลงเหลือมาถึงผมเท่าไหร่
ทั้งๆที่เมือ่ก่อน
ผมก็เป็นมือวางอันดับต้นๆของโรงเรียน
เวลาแสดงละครหรือรำนะครับ 5555












โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:16:59 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่มารูน..

ได้รับโปสการ์ดจากสกลนครแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ทำงานเหนื่อยแล้วยังคิดถึงหนูด้วย (^0^)

ได้เห็นกรุภาพพี่แดงแล้ว เหมือนว่าได้ขยับเข้าไปรู้จักพี่แดงมากขึ้นอีกนิดนึงค่ะ.. พี่แดงตอนเด็กๆนี่แก้มยุ้ยเชียว คุณแม่ก็สวยจังค่ะ

รอชมอีกนะคะ เพลินดี




โดย: iamsquid วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:41:10 น.  

 
รูปเก่าๆเวลาหยิบขึ้นมาดูนี่ความทรงจำพร่างพรูเลยเนอะคะ


โดย: pim(พิม) วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:24:50 น.  

 
รูปถ่ายเป็นตัวช่วยบันทึกความทรงจำได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ หลายรูปเมื่อถ่ายเสร็จใหม่ ๆ ก็ยังไม่ได้สนใจ แต่พอได้กลับไปหยิบมาดู โดยเฉพาะตอนเด็ก ๆ ก็ทำให้เรายิ้มได้ทุกครั้งเลยนะคะ


โดย: ตะไคร้หอม วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:19:55 น.  

 
รูปเก่าๆของพี่แดงน่าสนใจจังค่ะ
ค่อยๆนั่งอ่าน ทำความรู้จักกับรูปในกล่องชอคโกแลตของพี่ :-)

สมุดเก็บโปสการ์ดของพี่เวลาไปเปิด และนั่งอ่านคงเพลิดเพลินใจกับรูปและข้อความของหลายๆคนนะคะ





โดย: SevenDaffodils วันที่: 10 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:17:42 น.  

 


โดย: 360D Gallery วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:19:29:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.