..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
: : คนขายฝัน # ๓ : แรกรับบรีฟ : :


Photo by courtesy of flickr.com - Will Lion


อันว่าโฆษณาที่เราทั้งหลายได้เห็นกันบ่อยๆ ทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ บิลบอร์ด หรือสื่อดิจิทัลนานาประเภท ล้วนแล้วแต่มีองค์ประกอบในทางสร้างสรรค์หลักๆ อยู่สามส่วน คือ

- ภาพ
- คำ
- เสียงประกอบ

อันนี้ว่ากันพื้นๆในเชิงผลผลิต (Output) ก่อน... ยังไม่ได้นึกไปถึง Outcome ที่อาจจะมีคนโฆษณาช่างจินตนาการทั้งหลายคิดว่ามันจะต้องมีสิ่งที่เราเรียกว่า "บุคลิกของแบรนด์"(Brand Personality) หรืออะไรเท่ๆ ทำนองนั้น...

โฆษณาบางชิ้น อาจจะไม่มีภาพอะไรเลย ก็มีแต่คำพูดเต็มหน้ากระดาษ หรือบางชิ้นอาจจะไม่มีคำพูดอะไรเลยซักคำ มีแต่ภาพ แต่ในการคิดงาน ทีมงานก็ต้องมีทั้งครีเอทีฟที่ชำนาญการด้านการคิดภาพ (ซึ่งมักจะเป็นคนมีพื้นฐานทางศิลปะ หรือวาดรูปได้ด้วย) กับครีเอทีฟที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนคำ (น่าจะเป็นคนที่มีความรู้ด้านภาษาและการเขียนเป็นอย่างดี)...



Photo by courtesy of flickr.com - Will Lion
Wonderbra
Art Director: Julien Hablainville
Copywriter: Julien Sens
Published: December 2007
โฆษณายกทรงยี่ห้อ "วันเดอร์บรา"...
แม้ไม่มีมือเหลือให้ถือร่ม ก็ไม่เปียกฝน...
ภาพอย่างนี้ แรงพอจนไม่ต้องมีคำบรรยาย...



ในการคิดงานโฆษณาที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย (Start from scratch) ตัวแทนจากเอเจนซีจะต้องไปรับบรีฟจากลูกค้า โดยฝ่ายบริหารงานลูกค้าอาจจะเดินทางไปที่ทำงานของลูกค้า (นานๆ ทีลูกค้าอาจจะนึกสนุกมาบรีฟที่เอเจนซี.. แต่น้อยมาก..มันอาจจะมีผลเชิงจิตวิทยารึเปล่าไม่แน่ใจนะ..ทำนองว่า อยู่ที่ออฟฟิศใคร คนนั้นดูจะถือไพ่เหนือกว่านิดๆ รึเปล่า...) บางทีครีเอทีฟที่สนิทๆ กับลูกค้าก็อาจจะไปด้วย... แต่โดยปกติทั่นมักจะไม่ค่อยไปกัน เพราะถือว่าเป็นหน้าที่หลักของเออี...

การบรีฟงานก็ยากบ้าง ง่ายบ้างแล้วแต่โจทย์ ถ้าเป็นการบรีฟงบประมาณประจำปี ก็เรื่องใหญ่หน่อย เพราะเกี่ยวข้องกับเงินหลายๆ ล้าน สิบล้าน หรือร้อยล้าน แล้วแต่ความใหญ่เล็กของแบรนด์...

ลูกค้าที่ดีก็จะเตรียมโจทย์เพื่อการบรีฟงานมาอย่างดี เพื่อให้เอเจนซีทำงานได้อย่างตรงจุด ถ้าลูกค้าทำการบ้านมาไม่ดีพอ ก็อาจจะถูกเอเจนซีสบประมาทได้ง่าย (ภาษาครีเอทีฟปากจัดใช้คำว่า Spike ได้เลย)...



การบ้านที่จะช่วยให้เอเจนซีเข้าใจโจทย์ได้ดี ก็มักจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและคู่แข่ง ยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ไลน์ของสินค้า (Product line หมายถึง สินค้าชนิดต่างๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกัน) งบประมาณที่เคยใช้และที่วางแผนว่าจะใช้ในปีต่อๆ ไป....

เอเจนซีที่ดีก็จะเตรียมการบ้านมาเหมือนกัน คือต้องเตรียมข้อมูลของแบรนด์ที่เราดูแลมาอย่างดีรวมทั้งคู่แข่งด้วย... ทั้งชิ้นงานโฆษณา งบประมาณที่ใช้ไป เรทติ้งการชมสื่อต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ (เขียนไปเขียนมาชักจะยาว...ขอรวบรัดสั้นๆ เท่านี้ก่อน...)

หลังจากได้บรีฟมาแล้ว ทีมเออีและวางแผนกลยุทธ์จะต้องนำโจทย์จากลูกค้ามาตีโจทย์ให้ออกก่อนว่า ลูกค้าต้องการอะไร สินค้าและแบรนด์มีจุดเด่น จุดขาย และอรรถประโยชน์อะไรบ้างที่เราจะดึงมาเป็น "ข้อความสื่อสาร" (Communication message) ในเอเจนซีใหญ่ๆ เราจะต้องทำเป็น "กลยุทธ์ของงาน" (Strategy Paper) ที่จะใช้บรีฟครีเอทีฟ งานจะออกมาหัวหกก้นขวิด จะดีจะชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับไอ้เจ้าเปเปอร์นี้ละ...

แต่ในเอเจนซีขนาดกลางถึงเล็ก (อย่างที่เราเข้าไปเริ่มทำงานนี้) การทำงานง่ายกว่ามาก... เออีได้บรีฟมาก็เรียกครีเอทีฟเข้าห้องกันเลย (ห้องประชุมจ้า...) บรีฟกันไป กัดกันไป (เดี๋ยวจะมีตัวอย่างบทสนทนาให้ดู...) หลังจากนั้นทีมครีเอทีฟก็จะรับงานไปคิดกันต่อ โดยต้องมีการประชุมกันอีกมากมายหลายครั้ง...รวมทั้งจะต้องมีการ "สุมหัว" กลุ่มเล็กๆ อีกนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งครีเอทีฟก็คิดกันเอง บางวันเออีก็แอบมาฟังด้วย กว่างานจะออกจากคอกซีดีไปถึงมือวิชวลไลเซอร์ (คนวาดสตอรีบอร์ดและเลย์เอาท์)...



Photo by courtesy of flickr.com - Kind Design


เราเข้าเอเจนซีมาแบบไม่มีประสบการณ์ (ได้ไงไม่รู้...นับว่าโชคดีมาก เพราะส่วนใหญ่เขาจะรับแต่คนมีพื้นมาก่อนทั้งนั้น) เข้ามาปุ๊บนายก็จับเข้ามานั่ง "บรีฟงาน" (Briefing session) อันเป็นการประชุมเริ่มแรกก่อนจะนำไปสู่ขั้นตอนการคิดงานหรือระดมสมอง (Brainstorm) ในเวลาต่อไป...

...บทสนทนาต่อไปนี้ จำลองมาจากการประชุมบรีฟงานโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายระยะสั้นของน้ำอัดลมแบรนด์หนึ่งที่เอเจนซีเราเป็นตัวแทนโฆษณาอยู่ ณ เวลานั้น... เพื่อให้บทโต้ตอบเหล่านี้ลื่นไหลตามธรรมชาติ อาจมีภาษาอังกฤษปะปนอยู่บ้าง ต้องขออภัย... เราได้พยายามใส่คำไทยเข้าไปแทนที่บ้างแล้ว... (ซึ่งจริงๆ ปนเปมากกว่านี้เยอะ) และขอไม่พาดพิงถึงชื่อสินค้าจริงๆ ตามมารยาทนะจ๊ะ...

"คุณ ว. ว่างหรือยัง เชิญห้องประชุมเลยนะ..." นายเดินไปที่คอกคุณ ว. ครีเอทีฟไดเรคเตอร์หนุ่มหน้ามน (ในยุคนั้น..) ที่ทำหน้าที่เป็น "อาร์ต ได" (ผู้กำกับศิลป์) ไปในตัว เรียกเข้าห้องประชุมเองเลย อย่างนี้คุณ ว. ทำไรอยู่ก็น่าจะวางมือไว้ก่อนละ...

"ญ. รู้จัก คุณ ว. หรือยัง คุณ ว. จบสถาปัตย์แล้วก็ไปต่อแพรตต์ แต่ไม่ยอมทำงานสร้างบ้าน เคยทำงานเป็นสถาปนิกที่นิวยอร์ค สิงคโปร์ แต่ตอนนี้เบื่อละ...มาเป็นครีเอทีฟไดเรคเตอร์" ...นายแนะนำให้เรารู้จักกับคุณ ว. เราไหว้.. เพราะดูท่าทางว่าตะแกจะอาวุโสกว่าเราพอสมควร แม้ว่าจะดูหน้าเด๊ก เด็ก...แบบอาตี๋หน่อยๆ คุณ ว. ตัวสูงโย่งและผอมๆ สวมแว่นสายตา เป็นคนพูดน้อย ดูฉลาดและใจดี...

"คุณ ว. นี่ผู้ช่วยของดิชั้น ชื่อ ญ. จบอังกฤษมา ภาษาดีเชียว จะให้มาช่วยเขียนก๊อปปี้ให้ดิชั้น แล้วเป็นเออีให้ดิชั้นด้วย" นายแนะนำเรากับคุณ ว. ซึ่งไม่ตอบว่าอะไร ได้แต่ยิ้มมุมปากนิดๆ ตามสไตล์ ตอนแรกเรายังคิดในใจว่า อื้อฮือ...ตานี่ดูหยิ่งจัง แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เลย คุณ ว. เป็นคนที่ใจดีและนิสัยดีมาก ยังคบหาพูดจากันดีมาจนถึงทุกวันนี้...

"คุณ ว.... ลูกค้า...(ชื่อบริษัท)... จะทำแคมเปญหน้าร้อน โปรโมชั่นน้ำส้ม บ. เหมือนเดิมแหละคุณ เขาอยากเพิ่มยอดขายให้ได้อีกห้าสิบเปอร์เซนต์เป็นอย่างน้อย" (น้ำส้ม บ. ที่ว่านี่เป็นน้ำอัดลมประเภทน้ำสี แบรนด์เล็กๆ แบรนด์หนึ่ง ในตลาดน้ำอัดลม การทำตลาดให้กับสินค้าที่เป็นนัมเบอร์ทู นัมเบอร์ทรีนี่นับว่ายากและโหดหินพอสมควร...)

"แล้วมันจะไปขายได้ยังไงละคุ้ณ...แชร์เข้ามีอยู่เท่าไหร่กัน เดิมขายได้เดือนละพันขวด จะขายให้ได้พันห้าร้อยขวด มันจะไหวเรอะ..." (แชร์=มาร์เก็ต แชร์ (Market Share) คือส่วนแบ่งตลาดที่น้ำส้ม บ. ขายได้ในตลาดน้ำส้ม)

"เอาเถอะน่า...โจทย์มันมาอย่างนี้ เรามีหน้าที่ช่วยเขาก็ต้องทำให้มันน่าจะบูสต์ยอดขายได้ละ ..." (บูสต์=Boost คือการเร่งให้กระฉูด...ทำนองนั้น)



"แล้วงบเขาให้มาเท่าไหร่ละ"

"งบโปรดักชั่นล้านเดียว มีทีวีกับพรินท์แอด แล้วก็ฟลายเออร์ งบมีเดียห้าล้าน สามเดือนช่วงซัมเมอร์นะ..."

"ล้านนึงนี่ทีวีซีอย่างเดียวก็จะไม่พอแล้วนะเจ๊... จะเหลือเงินที่ไหนไปถ่ายรูปทำพรินท์แอด ถ่ายกันเองมั้ยล่ะ ผมถ่ายให้แพ็คช็อตคิดซักหมื่นนึง..."

"เอาเหอะๆ... คุณ ว. อย่าเพิ่งบ่น อย่าเพิ่งแดก (ดัน)... นำเสนอแนวคิดกันไปก่อน พร้อมแผนซื้อสื่อโฆษณา ไม่แน่หรอก เผื่อเขาจะโยกงบกลางปีมาเพิ่มให้อีก"

"ฝันไปเหอะ... อย่าง ...(ชื่อบริษัทลูกค้า)... เนี่ยนะ ผมละเบื่อ...ไอ้ประเภทตั้งความหวังไว้สูงๆ แล้วกดงบซะ..." (จริงๆ แล้ว คุณ ว. แกไม่ได้จู้จี้อย่างนี้หรอก เราใส่สีตีไข่ไปงั้นเอง จริงๆ แกออกจะน่าร้ากกก.. แต่บทจะจิกด่าใครทีนึงก็แสบไม่ใช่เล่น...555...)

"คุณก็รู้นิสัยลูกค้าเรานี่หว่า... เอ้า..เอาไงอีก"

"ก็ว่ามาซิ เอา (สินค้า คือน้ำส้ม) ตัวไหนมั่ง"

"ก็เอาตัวเดียวนี่หละ น้ำส้ม บ. โปรโมชั่นสะสมฝาแลกของสามอย่าง มีเก้าอี้พลาสติกตัวเล็กๆ ลูกบอลชายหาด แล้วก็หมวก"

"อื้อฮือ...ของน่าได้จัง"

"เฮ้ย... "แอตติจูด" หน่อยซิคุณ ว.... เอาทีวีซี ซักสิบห้าวิ. สองเวอร์ชั่น พรินท์แอดลงไทยรัฐซักครึ่งหน้า ฟลายเออร์เอาอาร์ตเวิร์คเดียวกับพรินท์ก็ได้" (ฟลายเออร์=Flyer หมายถึง แผ่นปลิวสำหรับแจก)

"เขียนบรีฟมาอีกทีนะ เอาตัวสินค้ามาให้ผมด้วย จะได้คิดโปรดักท์ช็อตใหม่ พรีเมียมด้วยนะ" (พรีเมียม=Premium หมายถึงตัวของแถม)




.............จบการบรีฟ...............
.....ตอนต่อไป...อือม์...น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ......
.............บันไดขั้นแรกของก๊อปปี้ไรท์เตอร์...ประมาณนั้น..........

เชิญกดที่ลูกศรเพื่อฟังเพลง
Hang on a little tomato by Pink Martini ค่ะ..



MusicPlaylistRingtones
Music Playlist at MixPod.com






Create Date : 28 มีนาคม 2552
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 20:24:18 น. 14 comments
Counter : 3009 Pageviews.

 
โอ๊ะโอ๋ ดูท่าหนูจะพลาดบล็อกที่น่าสนใจไปหลายตอน

โผล่มาอ่านก็ตอนสามเข้าแล้ว

พี่แดงเขียนได้ถึงพริกถึงขิงมากเลยค่ะ

ตัวอย่างบทสนทนานี่ชัดมาก

เดี๋ยวหนูจะรีบตามอ่านสองตอนก่อนหน้าค่ะ



โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:16:10:02 น.  

 
งานหนังสือ หนูยังไม่ได้ไปเลยค่ะ

ตอนนี้ยังอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดอยู่เลย

เพราะกลับจากแม่ฮ่องสอนถึงกรุงเทพ

ก็เผ่นกลับบ้านยาวจนถึงบัดนี้

มีแผนว่าจะไปบ่ายวันจันทร์ค่ะ

เช้าวันจันทร์เริ่มเรียนซัมเมอร์แล้ว

ไหนๆ ก็ออกจากบ้านบ่ายคงไปต่องานหนังสือเลย


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:16:11:51 น.  

 
โหะๆ อ่านแล้วชวนให้นึกเดาชื่อในใจ

ทั้งคุณว. ทั้งน้ำส้มบ. ^^


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:16:20:47 น.  

 
แต่บางทีการเข้ามาแบบไม่มีประสบการณ์ มันก็ดีอย่างนะคะ คือเหมือนเราจะคิดนอกกรอบจากคนอื่น และทำให้ได้ไอเดียแปลกใหม่ด้วย


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:16:23:49 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แดงมารูน emo

คิิดเหมือนน้องเจื้อยแจ้วเลยค่ะว่าพี่แดงเขียนบทสนทนาได้สมจริงมาก
ติดใจมาตั้งแต่เมื่อตอนที่แล้วละค่ะ อ่านเพลิน สนุกจริงๆเลย
นอกจากนี้ก็ยังแอบเดาไปด้วยอีกคนว่าอักษรย่อทั้งหลายเป็นใครมั่ง
ฮ่าๆๆ เหมือนอ่านข่าวบันเทิงในหนังสือพิมพ์ฺยังไงยังงั้นเลยค่ะ

-----------

การ์ตูนโร้ดรันเนอร์ (นกบิ๊บๆที่พี่แดงพูดถึง)
และการ์ตูนอื่นๆของ Looney Tunes รวมถึง Walt Disney
เอ็มก็ได้ดูบ่อยและชอบเหมือนกันค่ะพี่แดง
แต่มันไม่ติดตรึงในวัยเยาว์เท่าการ์ตูนที่เอ็มยกมาไว้ในบล็อก
เพราะเรื่องเหล่านี้มาฉายในทีวีทุกวัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันน่ะค่ะ

-------------

อยากไปงานหนังสือมั่งจังเลยค่ะ ถ้าได้ไปคงเดินอยู่ในนั้นได้เป็นวันๆ ^^

มีความสุขในยามเย็นนะคะพี่แดง



โดย: discipula วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:16:51:18 น.  

 
อ่านสนุกนะ

เพิ่งกลับจากเล่นแบดฯ

ก่อนไปอัพเรื่องร้านอาหารเสร็จก็เผ่นไปเลย

กะว่ากลับมาไปเม้นท์ตามบ้านเพื่อนๆ

ฮ่า ฮ่า กลับว่าง่วงนอนซะแล้ว คงจากที่อากาศร้อนมากด้วย

ไปนอนเก็บแรงก่อนน้า


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:17:43:31 น.  

 
ตอนยังไม่ได้อ่าน เห็นแต่รูปยังนึกอยู่เลยค่ะ
ว่าผู้หญิงคนนี้เอามือที่ไหนถือร่ม
อิอิอิ

แม่มารูนเล่าสนุกเหมือนละครเลยค่ะ
ลองแต่งนิยายเกี่ยวกับวงการนี้ดูดีมั้ยคะ

-------
หุหุหุ
แม่มอมเปลี่ยนแนว เลยนึกว่าไปผิดบล็อกตามๆ กัน
ขอเปลี่ยนอารมณ์หน่อยค่ะ
มือยังจับอะไรไม่ค่อยถนัดเลย


โดย: momster วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:18:51:23 น.  

 
ปอลอ
เคนโด้ไม่เคยดูนะคะ
ไม่แน่ใจว่าเกิดทันมั้ย

แต่การ์ตูนแคนดี้จอมแก่น แม็กกี้จอมมหัศจรรย์นี่ได้ดู
แม่มารูนคงไปอยู่อังกฤษแล้วมั้งคะตอนนั้น


โดย: momster วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:18:55:37 น.  

 
สมัยนู้นบริษัทใช้เอเยนซี่ทำโฆษณา
นายส่งให้ไปสู้รบกับพี่เจ้าของ
เราได้ข้อมูลของนายมาก้อไปบรา บรา กับพี่คนนี้
พี่เค้าบอกว่า น้อยใจเย็นๆ
ฟังพี่ก่อน
พี่โดนนายของน้อยหักคอ
คือตกลงราคานี้แต่จ่ายจริงอีกราคา
แล้วใครผิดใครถูกละเนี่ย
ไอ้คนกลางมึน พูดไม่ออก
แต่น้อยกลับได้พี่คนนี้เป็นเพื่อนกันต่อมา


โดย: C&C_BamBoo วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:19:44:09 น.  

 
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบ้านน่ะค่ะ
...
ปล.ป่าวเกิดวันเสาร์ค่ะ


โดย: mutcha_nu วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:20:46:09 น.  

 
เข้ามานั่งอ่านด้วยความเพลิน
เก็บประสบการณ์ของนักโฆษณามืออาชีพครับ

emo


โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:22:15:27 น.  

 
มาอ่านก็ตอนที่สามแล้ว พู่ว่าเดี๋ยวต้องไปอ่าน
ย้อนจากตอนแรกกับตอน 2 แล้วล่ะคะ เพราะว่า
อ่านกันซะเพลินเลย ... แถมได้อารมณ์ด้วยค่ะ
เพราะว่าอ่านแล้วมีบทสนทนาจากคนทำงานจริงด้วยแล้ว
มันเลยทำให้เหมือนยกบรรยากาศตอนเข้าห้อง (ประชุม)
มาอยู่ตรงหน้าเลยเชียวค่ะ ...


พู่ว่าการทำงานโฆษณาไม่ว่าจะตัวไหน มันก็เป็นเรื่องยาก
ทั้งนั้นอ่ะคะ เพราะมันเป็นเรื่องของการขายไอเดีย
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องเดียว เพราวะระบบของการทำ
และก็เรื่องของรายละเอียดมันเยอะมาก ... เรียกว่ากว่าจะ
ทำให้เราออกมาเห็นผลงานก็เล่นเอาปาดเหงื่อ เสียน้ำลาย
กันหลายถังเหมือนกันนะคะพี่แดง


เพลงเพราะเช่นกันคะ ... เพลงแบบนี้อารมณ์เย็นๆ ของเช้า
วันอาทิตย์กำลังเหมาะเลยคะ อีกอย่างก็ฟังแล้วอยากเดิน
แบบกระย่องกระแย่งเพราะจะได้เข้ากับเพลง

...................




ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกน้ำ/ดิน นั้น พู่ว่ามันต้องมีโชคเล็กๆ
จริงๆ ล่ะคะ เพราะภาพที่พู่เอามาแปะไว้ที่บล็อกนั้น เป็นภาพวันที่
สองที่พู่อยู่ระยองนะค่ะพี่ เพราะวันแรกไปเตรียมกันเต็มๆ
เพราะมองฟ้าแล้วคิดว่ามันน่าจะได้เห็นน๊า พอไปนั่งรอถ่ายรูป
ก็ตกลงเรื่อยๆ จนมาถึงช่วง อ้าววววว เมฆมันมาจ่อริมขอบ
พอดี พอพระอาทิตย์ตกลงไปก็มีเจ้าเมฆบังเป็นได้เซ็งเลยคะ


ยังไงก็ขอให้โอกาสหน้าที่พี่แดงไปพักผ่อน เจอกับบรรยากาศ
สบายๆ แล้วได้เจอกับพระอาทิตย์ตกน้ำอีกครั้งนะคะ


โดย: JewNid วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:7:30:21 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แดง






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:7:31:42 น.  

 
โห...พี่แดงมาเป็นกลอนเลย

อิอิอิ

รู้แบบนี้ส่งให้พี่แดงด้วยดีกว่าครับ 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:8:46:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.