|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
: : ๒๑ ปีแล้วหรือนี่... : :
๘ มีนาคม ๒๕๕๑ คือในปีนี้ เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันแต่งงาน ๒๑ ปีของเรา... ฟังดูเชยๆ เนอะ แต่มันคือความจริง...
ความจริง ครอบครัวเราก็ไม่ค่อยจะจัดงานฉลองเทศกาลอะไรพวกนี้สักเท่าไร ยกเว้นวันเกิดลูกที่เขาอยากจะมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ประมาณว่าเป่าเทียนแล้วกินขนมเค้กกัน ของขวัญพ่อแม่ก็ไม่ได้ให้ เพราะถือว่าเพิ่งให้ของขวัญคริสต์มาส-ปีใหม่ไปแล้ว...
ส่วนวันเกิดผู้ใหญ่บางทีวันเกิดตัวเองเรายังลืม... มานึกขึ้นได้อีกทีก็บ่ายโข เรียกว่าเป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยโรแมนติกกันนัก เนื่องจากเราคิดตรงกันว่า เราไม่จำเป็นต้องมาเน้นความสำคัญกันเฉพาะวันใดวันหนึ่ง ทุกๆ วันก็เป็นวันพิเศษเพียงพอแล้วในความรู้สึกดีดีต่อกัน (ว่าเข้านั่น...)
แต่ที่วันนี้เราอยากบันทึกอะไรนิดๆ หน่อยๆ ไว้เป็นที่ระลึก ด้วยเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ปี ๒๕๕๑ นี้เป็นปีที่เราแต่งงานมาครบยี่สิบเอ็ดปีแล้วแน่ะ...
นับจากพรุ่งนี้ ก็จะวันแรกของการเริ่มต้นปีที่ยี่สิบสองของเรา (แต่ถ้าจะนับรวมเวลาตั้งแต่ที่รู้จักกัน ต้องบวกเข้าไปอีกสองปีจ้ะ) เอ... แล้วทำไมต้องคิดจะมาบันทึกในปีที่ ๒๑ ไม่บันทึกในปีที่ ๒๐ ซึ่งเลขสวยกว่าตั้งเยอะ อ๋อ.. ก็เพราะเดือนมีนาคมปีที่แล้วเรายังไม่มีบล็อกกับเขาเลยจ้ะ เพิ่งจะมาอินเทรนด์เอาเมื่อปลายๆ ปีนี่เอง...
พบกันครั้งแรกในประเทศที่มีสะพานนี้
ยี่สิบกว่าปีฟังดูนานเนอะ คิดแล้วก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมแต่งงานเร็ว (ตอนแต่งอายุยังไม่ถึงสามสิบซึ่งนับว่าเร็วสำหรับยุคนี้ ที่เพื่อนๆ น้องๆ คนรู้จักของเรา ส่วนใหญ่อายุยี่สิบห้าเพิ่งจะเรียนจบโทกันเอง ยังไม่เจอคนถูกใจบ้าง เจอแล้วต้องสร้างตัวกันอยู่บ้าง เห็นกว่าจะแจกการ์ดกันก็ปาเข้าไปสามสิบ)...
แปลกใจอีกอย่าง คือเราสองคนสามารถอยู่ด้วยกันมานานโดยไม่ค่อยได้มีเรื่องราวขัดแย้งกันในระดับหนักหนาสาหัสสักเท่าไรเลย แต่เรื่องขัดใจเล็กน้อยจุกจิกมันต้องมีบ้างอยู่แล้วเป็นธรรมดา
ทะเลยังมีวันที่สงบเงียบ วันที่มีคลื่นลม นับประสาอะไรกับชีวิตคน...
วันนี้ เดือนนี้เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เป็นวันแห่ขันหมาก หมั้น และรดน้ำสังข์กันที่บ้านเราเองแถวบางนา เรายังจำได้ว่าเราแจกของชำร่วยรดน้ำเป็นกระแตดอกพุดเล็กๆ เกาะบนกิ่งแก้ว...
แล้ววันรุ่งขึ้นเป็นงานเลี้ยงรับรองที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท.. ของชำร่วยเป็นขันทองเหลืองใบเล็กๆ ห่อผ้าโปร่ง เอาเคล็ดว่าโลหะมันน่าจะ Long-lasting just like love!!!...
ที่น่าตลกคือวันเดียวกันนั้นเอง เพื่อนสนิทในมหา'ลัยอีกคน ก็เกิดจะมาจัดงานเลี้ยงแต่งงานวันเดียวกับเราโดยไม่ได้นัดหมาย ที่โรงแรมหรูหราแห่งหนึ่ง เหล่าอาจารย์และเพื่อนฝูงที่รักใคร่กันก็เลยต้องวิ่งรอกสองโรงแรมด้วยความเต็มใจเพราะสหายคนหนึ่งบอกในภายหลังว่า งานแต่งของเพื่อนหรูหรากว่ามากมาย...
เอาเถอะ... ตามสะดวกเพื่อนเถอะจ้ะ เผอิญว่าเราเป็นคนประเภท Live a simple life มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว งานทุกอย่างจัดให้ถูกต้องเรียบร้อยตามประเพณีไทยก็แล้วกันน่า เราไม่ค่อยจะยึดติดเรื่องอัฏฐบริขารสักเท่าไหร่ จริงๆ นะ ไม่ใช่องุ่นเปรี้ยว...
วิถีชีวิตของเราออกจะเรียบๆ เหมือนทางเดินในสวนอย่างนี้ละจ้ะ ทางมีคดเคี้ยวบ้าง มีต้นไม้ขวางทางบ้าง ต้องเรียนรู้ที่จะหลบหลีก หาทางแก้ไขกันไป
ย้อนกลับมานึกว่ามันน่าจะมีปัจจัยอะไรอยู่สักสองสามอย่างที่เป็น Key Success Factors (KSF) ของการที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้ยาวนานถึงยี่สิบกว่าปี...
และถ้าอยากจะให้ชีวิตคู่ survive ต่อไปอย่างต่อเนื่องจนถึงปีที่สามสิบ สี่สิบ ห้าสิบ... หรือพูดเชยๆ ว่า อยู่กันจนเป็นคุณปู่คุณย่าของลูกๆ หลานๆ เราควรจะมีความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างคนสองคนที่มาจากต่างครอบครัวและการเลี้ยงดูอย่างไรบ้าง
แต่เราเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนเจ้าหลักการหลักเกณฑ์ จริงๆ แล้ว โดยธรรมชาติ เราค่อนข้างจะเอนเอียงไปทาง Think Out of the Box เสียมากกว่า ฉะนั้น เจ้าตัว KSF ของเราดังต่อไปนี้ อาจจะดูไม่เป็นไปตามมาตรฐานของความน่าจะเป็น ก็ไม่เป็นไรนะ ถือว่าเป็นปกิณกะ จิปาถะ นานา "อสาระ" ไว้อ่านเล่นเพลินๆ ก็แล้วกัน...
- มีความเหมือนในความต่าง: ไม่มีใครคิดเหมือนกันไปหมดทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อย เราต้องมีความชอบร่วมกันในอะไรบางอย่าง เช่น คนหนึ่งไม่ชอบอ่านหนังสือ อีกคนไม่ชอบดูทีวี แต่ทั้งคู่ชอบหนัง sci-fi เหมือนกันอย่างนึงก็ยังดี...
- มีความอดทน ให้อภัย เสียสละ: (ฟังดูเหมือนเป็นภารกิจสามัคคีเพื่อชาติยังไงยังงั้น) แต่ใช่เลยนะ ถ้าคนหนึ่งไม่อดทนเพียงพอ ยากที่จะอยู่ด้วยกันได้ หลายคนที่เรารู้จัก ไม่อยากทน ไม่รู้จะทนไปทำไม เลยเซย์กู๊ดบายกันไปเยอะแล้ว
- รับฟังความคิดเห็นและหาข้อสรุปให้ได้ : (ฮะฮ้า... อันนี้เหมือนกลยุทธ์ในที่ประชุมเลย) แต่จริงๆ นะ ถ้าไม่มีใครฟังใคร คนนึงจะทำอะไรไม่สนใจใคร เราว่าครอบครัวถึงกับพังได้ บางคนที่เรารู้จักมีปัญหาเรื่องเงินในบ้านก็จากสาเหตุนี้แหละ
- มองข้ามข้อเสียของอีกฝ่ายไปเสียบ้าง: ข้อนี้ก็สำคัญนะ เชื่อเถอะว่า Nobody's perfect แม้แต่ตัวเรา อย่าคิดว่าเราดีเกินไป เขาเลวเกินไป หรืออะไรทำนองนี้ ทุกคนนั่นแหละมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เหมือนๆ กัน
- ข้อสุดท้าย แต่น่าจะสำคัญที่สุด คือ มีความรัก : เพราะคนที่จะอยู่ด้วยกันก็ควรที่จะมีจิตใจผูกพันต่อกัน ความรักจะทำให้ต่างฝ่ายต่างก็มีน้ำใจ เอื้ออาทรต่อกัน จะทำอะไรก็นึกถึงอีกฝ่ายว่าจะทำให้เขาเสียใจหรือเปล่า ถ้าอยู่ด้วยกันแบบไม่ชอบหน้ากัน เหม็นหน้ากัน ก็คงจะอดทนไม่ไหว ให้อภัยกันไม่ไหวแน่ๆ
สรุปว่า ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ใจนั่นเอง อย่าไปยึดติดที่รูปแบบ หรือคุณสมบัติที่ต้องเพียบพร้อมอะไรมากมายนัก เรากับคนใกล้ตัวมีอะไรที่คล้ายๆ กันหลายอย่าง แต่รสนิยมและความแตกต่างกันก็มีเยอะ...
ถ้าจะให้คิดเชิงบวก ก็ถือว่าเป็นการเติมเต็มในสิ่งที่ขาดให้อีกฝ่ายหนึ่ง และยังเป็นการ Bring out the best จากอีกฝ่ายหนึ่งได้ด้วย ก็คงเป็นบันทึกเล็กๆ น้อยๆ จากใจ ในวันธรรมดาที่แอบพิเศษนิดหนึ่งวันนี้...
(เขียนเสร็จแล้วชักหิว คนใกล้ตัวเลยเสนอว่าเราไปกินข้าวต้มปลาซอยทองหล่อฉลอง Anniversary ของเรากันดีกว่า ซึ่งเราก็เห็นด้วยแฮะเพราะข้าวต้มร้านนี้อร่อยจริงๆ นะ ขอบอก...)
Create Date : 08 มีนาคม 2551 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 20:30:10 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1148 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ไอริน วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:0:14:42 น. |
|
|
|
โดย: SevenDaffodils (SevenDaffodils ) วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:22:10:42 น. |
|
|
|
โดย: แป๊ะย๊ง วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:15:03:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|