ถึงจะเขียนไม่เก่งแต่ก็ฝันอยากเป็นนักเขียนกับเค้าบ้าง อิอิอิ

 
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 ตุลาคม 2552
 

ตะลุยเคนยา ตามล่าบิ๊กไฟส์ ตอนที่1

เตรียมตัวเตรียมใจก่อนไปเคนยา


ความที่ผมเป็นคนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวผจญภัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้ไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจทั้งในเมืองไทยเอง และในต่างประเทศ ก่อนจะเดินทางก็มักจะค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อวางแผนเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆล่วงหน้าเสมอ สนใจอ่านหนังสือหลายประเภทจากผลงานจากนักเขียนที่ผมชื่นชอบหลายๆท่านโดยเฉพาะสารคดีเชิงท่องเที่ยวและบันทึกการเดินทาง จนทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ เปลี่ยนจากผู้อ่านมาเป็นผู้เขียนบ้าง แต่ก็ยังไม่มีเรื่องใดน่าประทับใจและยาวพอที่จะเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือออกมาเป็นเล่มๆได้ จนกระทั่งผมได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศเคนยา ประเทศที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวสูง มีจุดเด่นทางด้านการท่องเที่ยวแบบซาฟารี ถึงแม้ในอดีตจะเคยเป็นประเทศศูนย์กลางการค้าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุด แต่ทุกวันนี้กลายเป็นประเทศที่สำนึกในการอนุรักษ์มากที่สุด เมื่อกลับมาแล้วเกิดรู้สึกว่าหากไม่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวออกไปเป็นตัวหนังสือแล้วคงน่าเสียดายแย่

หากพูดถึงประเทศเคนยา นอกจากนักผจญภัย นักถ่ายทำสารคดีแล้ว คงจะเป็นประเทศท้ายๆในการจัดอันดับตามความคิดประเทศที่อยากไปของคนส่วนใหญ่ กลัวคิดว่าเป็นประเทศที่อันตราย ผู้คนไม่เป็นมิตร โรคก็เยอะ ค่าใช้จ่ายก็สูง หนังสือเล่มนี้อาจจะเปลี่ยนความคิดของคุณผู้อ่าน ทำให้ประเทศเคนยาขยับอันดับขึ้นมาหรืออยู่ในใจคุณบ้าง ผมจะพาคุณผู้อ่านออกเกมส์ไดร์ไปตามล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าคือ สิงโต แรด ช้าง ควายป่า และเสือดาว แวะชมทะเลสาปสีชมพูที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ กระทบไหล่ชาวมาไซนักรบในชุดแดง ทุ่งหญ้าสะวันนาอันกว้างใหญ่ไพศาล เหตุการณ์น่าตื่นเต้นต่างๆ แต่งชุดซาฟารี เตรียมกล้องไว้ให้พร้อม แล้วกระโดดขึ้นรถตามผมมาเลยครับ

บนสายการบินเคนยาแอร์เวย์ ขณะที่ผมกำลังเดินหาที่นั่งอยู่นั้น ผมเห็นชายชาวตะวันตกคนหนึ่งมองมาทางผม ทำหน้าไม่สู้ดีนักเหมือนจะให้ช่วยเหลืออะไรบางอย่าง ตอนแรกคิดว่าเค้าคงจะไม่สบายหรืออย่างไร ผมถามว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือมั้ยครับ เค้าทำท่าปิดจมูกแล้วใช้สายตาให้ผมมองตามเค้าไปทางด้านข้าง ก็เห็นชายชาวเคนยาคนหนึ่งนั่งอยู่ คราวนี้เค้าไม่ต้องอธิบายผมก็เข้าใจแล้วครับ นั่นก็คือกลิ่นตัวของชายคนนั่นนั่นเอง ตลบอบอวลไปทั้งลำจนอยากร้องเพลง “ไม่อยากหายใจ” ไปเลย นับว่ากลิ่นตัวเค้านั้นร้ายกาจมากทีเดียวครับ

ในแถวที่นั่งตอนกลางของเครื่องบิน หนุ่มไทย 4 คนกำลังนินทาแอร์สาวผิวเข้มของสายการบินเคนยาอยู่ หนึ่งในนั้นก็มีผมรวมอยู่ด้วย คนนั่งข้างๆผมตั้งข้อสังเกตและชี้ชวนให้ลองดูว่าแอร์สาวสายการบินเคนยานั้นมีผิวอยู่สองประเภทด้วยกัน ผมนึกสงสัยว่าต่างกันอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่า นั่นคือเค้าจะผิวดำมาก กับดำปิ๊ดปี๋ ผมก็ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่บางคนก็ดูออกสวยตามแบบฉบับบ้านเค้านั่นแหล่ะครับ แต่หน้าตาไม่ค่อยจะยิ้มแย้มซักเท่าไหร่

เหตุการณ์บนเครื่องบินก็ยังเป็น 4 คนไทยเช่นเดิมยังจ้อกันไม่หยุด เพราะว่าพวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่กำลังจะได้ไปเคนยา เราพึ่งจะมาพบและรู้จักกันเป็นครั้งแรกจึงต้องสร้างความคุ้นเคยกันหน่อย พวกเราทั้ง 4 คนนี้คือผู้โชคดี ที่ได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามทีมงานสารคดีของไทย สำรวจธรรมชาติ ชีวิตสัตว์ป่าในประเทศเคนยาเป็นเวลา 8 วันด้วยกัน โดยมีทีมงาน 3 คน สปอนเซอร์หลัก 1 คน และผู้สื่อข่าวอีก 2 คน รวมทั้งหมดก็ 10 คนพอดี

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือน เด็กบ้านนอกอย่างผมได้รับโทรศัพท์ที่เป็นเหมือนพรจากสวรรค์ เสียงปลายสายบอกว่าผมเป็นผู้โชคดีและขอแสดงความยินดี ที่ได้รับของรางวัลเป็นแพ็คเกจตะลุยเคนยาซาฟารี กับทีมงานนิตยาสารท่องเที่ยวชื่อดังที่จะไปถ่ายทำสารคดีที่ประเทศเคนยา ผมจะได้ไปสำรวจชีวิตสัตว์ป่าพร้อมกับทางทีมงาน ทันใดนั้นภาพฝูงสัตว์มากมายผุดขึ้นมาในสมองของผมทันที ม้าลายและฝูงวัวป่าไวดาบีสหลายพันตัวกระโจนข้ามแม่น้ำที่เต็มไปด้วยจรเข้ ตู้ม...ตัวแล้วตัวเล่ากระโดดลงไปเพื่อข้ามแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก จระเข้ขนาดยักษ์ก็งับตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าให้ กร๊วม...จระเข้กัดม้าลายโชคร้าย แม่น้ำทั้งสายแทบจะมองเห็นเป็นสีแดงฉาน ภาพเหล่านั้นเป็นภาพที่ผมคุ้นเคยจากสารคดี ต่อไปนี้ผมจะได้ไปเห็นของจริงกับตาตัวเองแล้วหล่ะครับ ทางทีมงานก็ได้แฟกส์เอกสารการเตรียมตัวหลายอย่างมาให้ สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ
1.หนังสือเดินทางที่ใช้ยื่นขอวีซ่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนมีหน้าเหลือ มากกว่า 3 หน้า
2.รูปถ่ายบัจจุบันขนาด 1-2 นิ้วจำนวน 3 รูป
3.หลักฐานการทำงาน (ภาษาอังกฤษ)
4.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง

ซึ่งโรคไข้เหลืองก็คือโรคที่เกิดจากยุ่งตัวร้ายนั่นเอง อาการของคนติดเชื่อคือ มีไข้สูงทันที ปวดหัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ตัวเหลือง ตาเหลือง ถ้ามีอาการมากอาจถึงตาย โดยประเทศแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้นั้นมีโรคไข้เหลืองระบาดอยู่ จะต้องฉีดก่อนเดินทางอย่างน้อย 10 วัน และสามารถคุมได้ถึง 10 ปี สถานที่ฉีดก็มีหลายที่ด้วยกันส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯคือที่สถาบันบำราศนราดูร ถนนติวานนท์ ,สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถนนสาทร ,ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือกรุงเทพ โดยลองโทรศัพท์สอบถามกันก่อนว่ามีวัคซีนโรคป้องกันโรคไข้เหลืองหรือไม่ ราคาก็ประมาณ 550-600 บาท

ส่วนผมอยู่ใกล้เชียงใหม่จึงไปฉีดที่หน่วยควบคุมโรค ที่ตึกควบคุมกามโรค มีคนมองเยอะแยะเลย เดินไปก็อายๆครับ กลัวเค้าจะเหมาว่ามาฉีดยารักษากามโรค ก็ไปเข้าคิวกับคนไทยที่ไปทำงานในประเทศกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เหลือง การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองเป็นสิ่งจำเป็นนะครับ ทางเคนยาเค้าไม่ได้สนใจหรอกว่าคุณจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนมา แต่จะมีปัญหาเวลากลับเขาบ้านเราแล้วไม่มีใบรับรองเล่มเหลืองเล็กๆว่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองมาแล้ว มีหวังได้ไปนอนตบยุงในเขตกักกันโรคเป็นแน่

นอกจากนั้นตามเอกสารยังแนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางที่มีขนาดกระทัดรัด มีลักษณะโครงอ่อน เพราะรถที่ใช้เดินทางตลอดเส้นทางนั้นจะเป็นรถตู้ที่ใส่สัมภาระได้น้อยในตอนท้าย ทางด้านเครื่องแต่งกายก็หาเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ ที่เน้นคือเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาดเป็นที่สะดุดตาของสัตว์ สีที่เหมาะสมคือสีน้ำตาลเข้ม เขียวขี้ม้า และสีออกโทนมืดสักหน่อยก็จะดี เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อกันแดดเวลาออกไปดูสัตว์และยังเอาไว้กันยุงได้อีกด้วย รองเท้าอย่างน้อย 2 คู่ เป็นรองเท้าผ้าใบเอาไว้ใส่ตอนเดินลุยบ้างในบางสถานที่อย่างที่ทะเลสาปนากุรูเพื่อเดินไปชมนกฟลามิงโก้ อย่างผมเอารองเท้าผ้าใบเดินป่าไป 1 คู่ก็ได้ใช้ตอนเข็นรถติดหล่มที่เขตรักษาพันธุ์มาไซมารานี่แหล่ะครับ และรองเท้าแตะหุ้มส้นอีก 1 คู่ใช้เดินเล่นภายในที่พัก
น้ำหอมอันนี้ไม่ควรใช้นะครับ เพราะสัตว์ป่ามีประสาทดมกลิ่นที่ไวมาก อาจจะพลาดโอกาสดีๆอดเห็นนักล่าอย่างเสือดาวเอาได้ หมวก แว่นกันแดด ครีมทากันแดดก็สำคัญ เวลาอยู่บนรถตู้ดูสัตว์ตอนออกเกมส์ไดรว์ต้องโดนแดดบ้าง ขอบอกว่าแดดที่นั่นแรงมากครับ ป้องกันเอาไว้ดีกว่าเดี๋ยวกลับไปคนที่บ้านจะจำไม่ได้นึกว่าคนป่ามาไซบุกบ้านจะหาว่าไม่เตือน

อุปกรณ์ชมสัตว์ที่สำคัญก็คือกล้องส่องทางไกลส่วนใหญ่ที่ใช้ก็เป็นแบบสองตาไว้ใช้ส่องหาสัตว์จากระยะไกล และส่องนกนานาชนิดที่คุณจะได้เห็นว่านกเคนยานั้นมีมากจริงๆ ดูง่ายไม่ค่อยตื่นคน แหล่งดูนกที่สำคัญไม่ใช่ที่ไหนไกล ก็คือรีสอร์ทที่พักของเรานั่นแหล่ะครับ ที่สำคัญมาเคนยาแล้วต้องเตรียมนั่นก็คือกล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป ใครถนัดอย่างไหนก็ลองดู หรือจะขนมาทั้งสองอย่างก็ไม่มีใครว่า การ์ดหน่วยความจำและแบตเตอรี่ที่ชาร์จเอาไว้ให้พร้อมอย่าไปหวังเอาดาบหน้า บัจจุบันการ์ดต่างๆในบ้านเราก็หาซื้อง่ายราคาถูก ส่วนใครใช้กล้องฟิล์มอยู่ก็ติดฟิล์มไปให้เยอะ เคยมีคนบอกเอาไว้ว่าหากคิดว่าจะเอาไปเท่าไหร่ให้คูณ 2 เข้าไว้ นั่นแหล่ะครับถึงจะพอ

นอกจากสิ่งต่างๆที่กล่าวข้างต้นแล้ว เสื้อกันหนาวก็จำเป็นเหมือนกันเพราะในช่วงเช้าอากาศจะเย็นประมาณ 15 องศาเซลเซียส จนไปถึงไม่น่าเกิน 30 องศาในช่วงกลางวัน ยากันยุงตะไคร้หอมเอาติดไปด้วยก็ดี ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ๆ เอาไว้กันฝุ่นอันนี้ก็จำเป็น อย่างเช่นช่วงฤดูอพยพ สัตว์ก็เยอะนักท่องเที่ยวก็แยะและเป็นช่วงหน้าแล้งของเคนยาพอดี รถแต่ละคันขับสวนกันฝุ่นตลบอบอวนไปหมด ให้ติดไปหลายๆผืนก็ดีนะครับ ของขบเคี้ยวอันนี้ก็สำคัญ อะไรก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เอาติดไปซักหน่อยเถอะครับ คู่มือดูสัตว์ถ้าหาซื้อบ้านเราไม่ได้ตามโรมแรมและร้านค้าที่เคนยามีจำหน่ายเกือบทุกที่ แต่ราคาแพงมากครับ ก่อนไปลองหาดู อย่างผมสั่งซื้อหนังสือในเครือเอเซียบุ๊คราคาไม่แพง เช่น Watching Wild Life East Africa ,Lonely Planet:Kenya

น้ำดื่มที่นั่นราคาแพงหน่อยแต่ก็พอซื้อกินได้ครับ น้ำบรรจุขวดขนาดไม่ถึงลิตรแปลงค่าเป็นเงินไทยแล้วก็ตกขวดละ 50 บาท ส่วนใหญ่ก็แวะซื้อระหว่างทางเป็นแพ๊คไปราคาจะถูกกว่าในโรงแรม บางคนเห็นราคาแพงจะแบกแกลลอนจากเมืองไทยไปก็อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับ นอกนั้นใครจะเอาอะไรใส่เป้ไปก็สุดแท้แต่ แต่ที่สำคัญคือต้องมีที่ว่างพอเอาไว้ใส่ของที่ระลึกกลับบ้านไปฝากยาหยีด้วยนะครับ

กลับมาที่เครื่องบินกันต่อครับ สายการบินเคนยาที่เรานั่งกันอยู่นี้เริ่มต้นเดินทางจากประเทศฮ่องกงมาแวะพักที่กรุงเทพฯแล้วบินตรงสู่กรุงไนโรบี นักบินประกาศว่าใช้เวลานั่งๆนอนๆบนเครื่องบิน สูดกลิ่นชาวเคนยาคือ 9 ชั่วโมง กับอีก15 นาที ใช้เส้นทางข้ามมหาสมุทรอินเดีย ผ่านมัลดีฟ จนไปถึงกรุงไนโรบี

ได้เวลาเสริฟเครื่องดื่ม ความฝันของชายหนุ่มที่หวังจะได้ขึ้นเครื่องสายการบินเคนยาแล้วไม่เจอแอร์สาวสวยเลยก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เมื่อสาวหมวยน่าจะเป็นสาวจีนแอร์ผิวขาวคนเดียวในสายการบินเที่ยวนี้ เดินนวยนาดเสริฟเครื่องดื่ม ทำเอาหนุ่มโสดชั่วคราว อย่างพวกเราเรียกใช้บริการเธออยู่เสมอ จนกลัวเธอจะแกล้งทำน้ำร้อนหกใส่เอา ผมเลือกดื่มเบียร์ คนอื่นเลือกไวน์แดง และวิสกี้ ผมมีสูตรอยู่เล็กน้อยที่เคยอ่านเจอมาฝากสำหรับนักดื่มที่ขึ้นเครื่องแล้วหลับยาก คือเค้าบอกให้ดื่มเบียร์ก่อน 1 กระป๋อง ไวน์ 2 แก้ว แล้วตามด้วยวิสกี้อีกเล็กน้อย จะทำให้หลับสบายมากขึ้น อันนี้จริงหรือเปล่าต้องลองดู

อาหารบนเครื่องก็มีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อปลาให้เลือก เหมือนสายการบินอื่นๆ ผมเลือกเนื้อมาทาน รสชาติก็พอกินได้ไม่ถึงกับอร่อยนัก ถ้าพูดถึงความสะดวกสบาย หรูหราบนเที่ยวบินนี้ ก็ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เครื่องที่ใช้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 767-300ER จอทีวีที่พนักพิงตอนหน้าน่ะเหรอ ไม่มีหรอกครับ มีแต่จอผ้าใบฉายหนังที่เล่นไปหนังก็กระตุกไปเป็นพักๆ พยายามยืดคอดูหนังแข่งกับคนข้างหน้าจนคอจะยืดเป็นยีราฟก็ยังมองไม่เห็น เมื่อหนังจบก็แอบเห็นแอร์สาวผิวหมึกขอให้ผู้โดยสารด้านข้างของผมลุกขึ้น แล้วเธอก็ถลกกระโปรงเผยให้เห็นขาอ่อนคล้ำๆของเธอ เหยียบที่นั่งปีนขึ้นไปที่ช่องใส่สัมภาระด้านบน กดม้วนวีดีโอม้วนเก่าออกมาแล้วใส่ม้วนใหม่เข้าไปแทนที่ เปลี่ยนจากหนังตื่นเต้นมาเป็นหนังชีวิตกล่อมให้พวกเราหลับกันได้ซะที

ช่องเก็บของด้านหน้าเห็นมีหูฟังอยู่เลยลองเสียบวิทยุฟังดู มีหลายช่องได้ยินแต่เสียงเพลงพื้นเมืองฟังไม่รู้เรื่อง แต่มีอยู่ช่องหนึ่งที่ผมชอบเปิดเพลงสนุกๆแนว “จังเกิ้ล” โดยเฉพาะเพลงประกอบหนังการ์ตูนเรื่อง Lion King ร้องว่า Hakuna Matata คำนี้เป็นภาษาพื้นเมืองสวาฮิลี แปลว่า Don’t worry เนื้อเพลงก็หมายถึง “เรื่องร้ายไม่เคยมี ท่องไว้ให้ดีๆ มากูน่า...มาตาต้า” มาจาก Lion King ภาคแรกตอนที่ซิมบาพระเอกของเรื่องเกิดกังวลใจ “ทีโมน” ตัวเมียแค๊ทกับ “พุมบ้า” หมูป่าก็ได้สอนแล้วปลอบให้ถือคติคำนี้ไว้ให้ดี เพราะคำนี้สามารถแก้ปัญหาให้เราได้

ฟังเพลงไปก็นึกถึงเหตุการณ์ข้างหน้าครับอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเคนยาแล้ว พวกเราจะเจอกับอะไรบ้าง จะเห็นบิ๊กไฟส์ครบมั้ย จะมีอันตรายอะไรรอพวกเราอยู่หรือเปล่า ภาวนาขอให้เทพีแห่งความโชคดีอยู่ข้างเราก็พอ Hakuna Matata…..




Create Date : 29 ตุลาคม 2552
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 11:21:14 น. 4 comments
Counter : 914 Pageviews.  
 
 
 
 
จะคอยติดตามค่ะ สนุกดี
 
 

โดย: คนชอบเที่ยว IP: 203.158.225.14 วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:13:07:43 น.  

 
 
 
ฮาคูน่า บาท้าท่า น่าสนุกนะขอรับ พบเห็นสิ่งใหม่ๆตื่นเต้นดี อยากจะไปสักครั้งในชีวิตเหมือนกัน เห็นแต่ในโทรทัศน์
 
 

โดย: มังกรบิน@mj_mj วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:13:11:39 น.  

 
 
 
น่าไปค่ะ แต่ถ้าไปเจอกลิ่นร้านกาจขนาดนั้น ต้องขอเปลี่ยนที่นั่ง หรือหาที่ว่างดีกว่าค่ะ ไม่งั้นหรือไม่ก็กินยานอนหลับไปเลย บรื้อ แค่คิดก็หยองแ้ย้ว แล้วมาเล่าต่อนะคะ
 
 

โดย: NathalieNoelle วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:15:32:10 น.  

 
 
 
ติดตามอยู่ครับ
 
 

โดย: Vic IP: 110.169.40.80 วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:15:46:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Devilkae
 
Location :
ตาก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กำลังศึกษาปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ แต่รักการถ่ายภาพการเขียน และการท่องเที่ยว อยากให้เพื่อนมีเวลาว่างๆมาจับกล้องถ่ายรูปกันครับ
[Add Devilkae's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com