Devil love Boy
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
29 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 

การประกวดเรื่องสั้นซีไรต์ประเพณีปีศาจ ประจำปี 2006 ได้เรื่องดีเด่นแล้ว

"การประกวดเรื่องสั้นซีไรต์ประเพณีปีศาจ ประจำปี 2006"

เรื่อง...ไม่สวย แต่ใส

ข้อห้าม...ห้ามเขียนเรื่องเกี่ยวกับท่านละอองดาว
เพราะ...
หนึ่ง มันเศร้า
สอง มันจะกลายเป็นคำไว้อาลัยไปเสีย

เราระลึกถึงท่านละอองดาวอยู่แล้ว แต่ในการประกวดซีไรต์นี้ขอให้รำลึกออกมาในเรื่องราวแบบอื่น

กติกา
1 ให้เขียนเรื่องอ่านในหัวข้อ " ไม่สวย แต่ใส"

2.โดยให้นำคำบังคับเหล่านี้ไปใช้ให้ครบในเนื้อเรื่อง ซึ่งจะเป็นแนวไหนก็ได้ รักหวานซึ้ง ตลกโปกฮา บู๊ดุเดือด หรือรันทดสลดทรวง ได้หมด

คำบังคับได้แก่.......
- ไม่สวย แต่ใส
- ไม่ใส แต่สวย
- หาไม่ได้อีกแล้ว
- ละอองดาว
- พิษณุ
- รถคันโก้
- ขนมจีนน้ำยา
- รักมากจริงๆ
- บ้านร้าง
- แค่สบตา
- เย็นชา
- " อย่า.."
- ตกบันไดพลอยโจน

3. ขอให้คำ" ไม่สวยแต่ใส" เป็นคำสุดท้ายของเรื่อง พูดง่ายๆคือ ให้จบด้วยคำนี้เท่านั้น

4. ไม่จำกัดความยาว แต่ถ้ายาวมากไป พึงระลึกไว้ว่า คน
อ่านอาจจะเบื่อเอาได้

5. ให้เวลาสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพนี้ นับแต่วันนี้ไปจนถึงคืนวันเสาร์ที่ 18 พย. ก่อนตีสอง

6. ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ทุกคนร่วมสนุก เพราะเล่นเอามัน ไม่ได้เล่นเอาชนะคะคาน คนที่เขียนไม่เก่ง ก็ชนะได้ ถ้าเรื่องมันโดน...........

7.เรื่องที่เข้ารอบดีเด่นมีทั้งสิ้น 10 เรื่อง ประกาศผลคืนวันอาทิตย์ที่ 19 พย.

8.ตัดสินโดยการโหวตลับหลังไมค์ว่า ในเรื่องที่เข้ารอบนี้ เรื่องใดได้รางวัลซีไรต์ยอดเยี่ยม


............................................................................

ติดตามเรื่องราวเต็ม ๆ ได้จาก 2 กระทู้นี้ ...

//www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C4890131/C4890131.html


//www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C4903010/C4903010.html




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2549
63 comments
Last Update : 20 ธันวาคม 2549 2:56:15 น.
Counter : 1128 Pageviews.

 

เรื่องที่ 1 ส่งประกวดโดย ท่าน suky

********

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
พระธิดานาม ไม่ใส แต่สวย พระธิดาองค์เดียวของเด็จพ่อเด็จแม่แห่งเมืองละอองดาว นางมีความงามที่หาไมได้อีกแล้วในโลกนี้
ไม่ต้องตกใจว่า ประชาชนทั้งหลายในเมืองนี้ล้วนแต่มีชื่อว่า พิษณุ ไม่ว่าหญิงว่าชาย
สาเหตุมาจาก...
วันหนึ่งในอดีตกาลหลายปีก่อน รถคันโก้คันหนึ่งซึ่งบรรทุกขนมจีนน้ำยามาจากเมืองใกล้เคียงนามว่า เมืองรักมากจริง ๆ พระราชาเมืองนี้ชอบเสวยอาหารเส้นพรรณนี้มากจริง ๆ พยายามปลูกฝังประชาชนในเมืองให้ชอบรับทานตามพระองค์
แต่เสียใจ
มิมีใครชอบ ต่างคนต่างทิ้งเมืองเกิด หอบที่หลับที่นอนหนีออกจากเมือง กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบ้านร้าง
พระองค์จึงจัดให้รถบรรทุกวิ่งปุเลง ๆ ไปยังเมืองข้าง ๆ
ซึ่งพระธิดาน้อยนั่งเล่นพักผ่อนอยู่ริมทะเลสาบอยู่กับนางสนม

พลัน รถบรรทุกได้ขับมาจอดอยู่ข้างพระธิดาน้อย
นางลุกขึ้นจ้องอย่างเย็นชา

"อย่านะ ข้าเป็นพระธิดาแห่งเมืองละอองดาว ไหน อย่ามาแค่สบตาข้า มีไรมาขาย รีบบอก หิวว้อย อุ๊ย..ขออภัย" (พระธิดาหรือพลสุกี้วะ)

คนขับรถบรรทุก "ได้ข่าวว่า ข้าวเปียกแกงเส้นเมืองท่านอร่อยเริ่ดมาก ข้าเอาขนมจีนน้ำยามาแลก เผื่อท่านอาจติดใจ"
แท้ที่จริง คนขับรถบรรทุกคือ เจ้าชายพิษณุ จำต้องตกบันไดพลอยโจน เป็นคนขายขนมจีนน้ำยาไปเสียแล้ว อนิจจา

พระธิดาไม่ใส แต่สวยได้กลิ่นอาหารเส้น เกิดความเคลิบเคลิ้ม ฉวยชามขนมจีนน้ำยา ผักเพียบ หันหลังให้เจ้าชายพิษณุเพียงแต่ผีเสื้อกระพือปีก แล้วก็หันมา ......หมดจาน....

"อาหารของท่านอร่อยมากจริง ๆ นับแต่นี้ไป ข้าจักขอพระราชบิดาของข้าให้ตั้งชื่อประชาชนทุกคนในเมืองข้าว่าตามนามของท่านเพื่อเป็นเกียรติประวัติ ...ท่านชื่อไร"

เจ้าชายพิษณุอมยิ้มอย่างภูมิใจ

"ข้าคือ เจ้าชายพิษณุ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ
.......ไม่สวยแต่ใส............"

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:44:08 น.  

 

เรื่องที่ 2 จาก ท่าน B.LOVE

********

ในยามค่ำคืนหนึ่ง สาวน้อยยืนเหม่อมองดวงดาวด้วยความสนใจ คิดไปต่างๆนานา พลันก็สะดุ้งด้วยเสียงเรียกของ
หญิงชรา
"ละอองดาว คืดอะไรลูก" หญิงชราถาม
"หนูคิดถึงพี่พิษณุคะยาย พี่ไปจากที่นี่สองสามปีแล้วนะ
พี่เค้าคงลืมพวกเราแล้ว เดี๋ยวนี้พี่เขาเป็นนักร้องดังแล้ว
คงลืมบ้านเด็กกำพร้าหลังนี้แล้ว" หญิงสาวตอบยาย
"ไม่หรอกจ้ะ พี่เขาเป็นคนดีไม่ลืมที่นี่แน่นอน"

ละอองดาวเติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้าพร้อมกับพิษณุ
ความทรงจำต่างๆของหญืงสาวจึงอยูที่พี่พิษณุคนเดียว
คนที่นางรักมากจริงๆ คนที่นางจดจำได้เสมอว่าเขาชอบ
สิ่งใด สิ่งใดคือของโปรดของชายหนุ่ม นั่นก็คือขนมจีน
น้ำยาฝีมือของยายไม่ใสแต่สวบเสมอ

วันหนึ่งเสียงรถแล่นผ่านประกาศว่า ค่ำคืนนี้ขอเชิญพบ
กับนักร้องหนุ่มเจ้าเสน่ห์ นายพิษณุ เสียงทอง
หญิงสาวดีใจมากที่คืนนี้จะได้พบพี่พิษณุของนางแล้ว
ละอองดาวไปถึงก่อนเวลา หญิงสาวมองหาพี่พิษณุตลอด
เวลาแต่ก็ไร้เงา แต่ทันใดนั้นนางก็เห็นรถคันโก้สีดำเข้า
มาจอดใกล้กับที่นางยืนอยู่ นางตกตะลึงพูดไม่ออก
นิ่งไปชั่วขณะที่เห็นชายหนุ่มก้าวลงมาจากรถคันโก้
ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าหญิงสาวไปโดยไม่ได้หยุดทักทาย
หรือมีอาการว่าจดจำหญิงสาวได้เลย เวลานี้เหมือนโลก
ได้ถล่มทลายอยู่ตรงหน้าหญิงสาว

ชายหนุ่มที่นางเฝ้ารอว่าสักวันจะได้พบ กลับมีท่าทีเย็นชา
ใส่นางเหมือนไม่เคยรู้จัก หญิงสาวเดินกลับเข้าไปในงาน
เดินไปชิดขอบเวที ทันใดนั้นไฟก็ดับลง สมองหญิงสาวแล่นปร๊าดวิ่งขึ้นเวทีลากชายหนุ่มออกไปด้วบกัน
นางวิ่งไปตามถนนพร้อมชายหนุ่ม
เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นว่า"จะวิ่งไปถึงไหนกัน"
"ฉันจะพาพี่ไปที่ๆเราเคยแอบไปเล่นด้วยกัน" หญิงสาวตอบ "เธอพาพี่ออกมาคนอืนเขาอาจตกใจว่าพี่หายไปไหน" ชายหนุ่มบอกหญิงสาวอย่างกังวล
"ไม่เป็นไรถ้าใครเขาว่าพี่ พี่ก็บอกเขาว่าฉันฉุดพี่มา
พี่จำต้องตกบันไดพลอยโจนมากับฉันไง" หญิงสาวตอบ
ชายหนุ่มยิ้ม "เออ คิดได้ไงนี่ ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายเขาฉุดผู้หญิง และผู้หญิงก็ต้องจำตกบันไดพลอยโจน"
หญิงสาวบอก "อย่า พูดมาก ที่ฉันฉุดพี่มาก็เพราะมีเรื่องจะถาม อ้าวถึงแล้ว บ้านร้างหลังนี้พี่จำได้หรือเปล่า"

ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เดินเข้าไปในบ้านมองไปรอบๆ
"ฉันอยากรู้ว่าพี่จำฉันได้หรือเปล่า ถ้าจำได้ทำไมตอนที่เดินผ่านฉันพี่ถึงมองฉันด้วยสายตาเย็นชาขนาดนั้น
พี่ใจร้ายมากนะที่หายไปไม่กลับมาเยี่ยมพวกเราเลย
ฉันคิดถึงพี่มากนะ" ชายหนุ่มเอามือปิดปากหญิงสาวไม่ให้พูดต่อ แล้วจ้องเข้าไปในตาหญิงสาว
หญิงสาวคิดในใจ "ทำไมแค่สบตาพี่ถึงทำให้ใจฉันหวั่น
ไหวได้ขนาดนี้ โอ้ย ใจจะละลายแล้ว ฉันไม่อยากสบ
ตาของพี่" แล้วหญิงสาวก็ก้มหน้าลง

ชายหนุ่มบอกว่า "พี่จำเธอได้เสมอละอองดาว ที่พี่ไม่ได้
กลับมาเพราะต้นสังกัดไม่อนุญาตให้กลับ แต่ตอนนี้อาจ
กลับมาได้บ้าง พี่แกล้งเธอเล่นเมื่อตอนบ่าย อยากดู
อาการของเธอ พี่ไม่ใช่คนเย็นชานะ พี่เป็นคนดีที่หาไม่ได้
อีกแล้วต่างหาก" พูดจบชายหนุ่มจับคางของหญิงสาว
ให้เงยหน้าขึ้นแล้วจุมพิตไปที่ปากของหญิงสาวเนิ่นนาน
หญิงสาวแทบละลายอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
หญิงสาวมีความสุขมากเหมือนโลกทั้งโลกหยุดลง
หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง "นี่และคือสิ่งที่ฝันมาตลอด
แค่มีชายหนุ่มที่เธอรักยืนอยู่ตรงหน้าก็พอแล้ว ถึงแม้
คืนนี้อาจไม่มีจันทร์....ท้องฟ้าอาจไม่สวย...แต่ใสนะ"

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:46:20 น.  

 

เรื่องที่ 3 จากท่านแดดยามบ่าย

********

แสงแดดยามเที่ยง แผดจ้า ร้อนแรง
สาวน้อย ละอองดาว หน้าตา ไม่ใส...แต่สวย
หญิงสาวแบกหาบ ขนมจีนน้ำยา แสนอร่อยไว้บนบ่า
ฝีมือของมารดา ออกมาขายเลี้ยงชีพ

หญิงสาวเดินเข้ามา ณ หมู่บ้านขอสงวน ถนนพระราม 5
ตอนกลางวัน แบบนี้ ผู้คนต่างออกไปทำงานนอกบ้าน
กันหมด หมู่บ้านใหญ่โต แต่ไร้ผู้คน ก็ไม่ต่าง
อะไรกับ บ้านร้าง หล่อนเดินผ่านบ้านใหญ่หลังหนึ่ง
ป้ายหน้าบ้านเขียนว่า "บ้านพิษณุ"
อ๋อ เจ้าของบ้านคงชื่อ พิษณุ ซินะ หล่อนคิดอะไร
เรื่อยเปื่อย พลางต้องสะดุ้งสุดตัว
เมื่อมี รถคันโก้ สีดำ บีบแตร ปิ้น ปิ้น.....ร้ากกกกกบอย
เอ้ย ไม่ใช่ บีบแตรใส่หล่อน เพราะหล่อนยืนขวางทาง
เข้าบ้านของเขา ชายหนุ่ม หันมามองหญิงสาว
ด้วยสายตา เย็นชา แต่เพียง แค่สบตา หญิงสาว
ก็ตกหลุมรัก ชายหนุ่มเข้าอย่างจัง
หล่อนบอกกับตัวเองว่า คนนี้แหละ ที่ฉันตามหา
ที่ฉันเฝ้าใฝ่ฝัน ที่ฉัน รักมากจริง ๆ
คิ้วเข้ม นัยตาคมของชายหนุ่ม ทำเอาหญิงสาวใจเต้นแรง
เลือดสาว พรุ่งปรี้ด เลือดกำเดาไหลหยดติ๋ง ๆ
ความร้อนภายในร่างกาย บวกกับความร้อนของ
แดดยามเที่ยง ที่ร้อนจัด ทำให้หญิงสาว ยืนโอนเอน
แล้วความสว่างทั้งหมด ก็ดับวูบลง

หญิงสาว รู้สึกตัวอีกที ก็นอนอยู่บนที่นอนแสนนุ่ม
ความรู้สึกแรกของหล่อน ไม่เคยรู้สึกสบายอย่างนี้มาก่อน
จนหล่อนไม่อยากลืมตาตื่น แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ
ของน้ำหอมลอยมาแตะจมูก พร้อมทั้งสัมผัสนุ่ม ๆ
จากมือเรียวยาว มาสัมผัสถูกร่างกายหล่อน อะจึ๋ย อะจึ๋ย
หล่อนลืมตาขึ้นมา เห็นชายหนุ่ม นั่งอยู่ข้าง ๆ ตัว
หญิงสาวร้องขึ้นมาว่า
"อย่า อย่าช้า เอ้ย อย่านะ คุณจะทำอะไรฉัน"
ชายหนุ่ม ตารี ตาเหลือก ตอบหญิงสาวว่า
"ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลย คุณเป็นลมไป
ผมเลยอุ้มคุณมาที่นี่ แล้วผมก็กำลังจะเช็ดตัวให้คุณ
คุณก็ตื่นขึ้นมาพอดี"
หญิงสาว ทำหน้าเสียดาย แล้วคิดในใจว่าไม่น่าตื่นเร็วเลย
เฮ้อ ....เสียดายจังเลย
แผนการณ์อันแยบยล ก็ผุดขึ้นในสมองหญิงสาว เวลานี้
เป็นโอกาสเหมาะ ที่จะทำให้ชายหนุ่ม ตกบันไดพลอยโจน
ถ้าหล่อนร้องโวยวายขึ้นมา ชายหนุ่มต้องรับผิดชอบหล่อน
โอกาสเหมาะ ๆ อย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว
หุ หุ สายตาเจ้าเล่ห์ของหล่อน มองมายังชายหนุ่ม
แล้วสะแหยะยิ้มที่มุมปาก ไม่ผิดอะไรกับนางจิ้งจอก จ้องจะงาบเหยื่อ
มารดาของหล่อน เคยพูดกับหล่อนว่า
"แกนี่ ไม่สวย แต่สมองใส เจ้าเล่ห์ เพทุบาย
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล"
สมญา ที่มารดาตั้งให้หล่อน
"ไม่สวย...แต่ใส" หล่อนช่างภูมิใจนัก

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:47:30 น.  

 

เรื่องที่ 4 โดย ท่าน more_than_luv

********

ไม่สวย(แล้ว)......แต่ใส(ไร้ทุกข์ใจ) โดย : more_than_luv
......คงเป็นเพราะเครื่องที่นั่งมาเมื่อคืนฝ่าฟันผ่านชั้นบรรยากาศเมฆหมอกมรสุมหนาแน่นมากมายหลายอย่างเรียกว่าสมบุกสมบันอย่างที่ไม่เคยประสบพบมาก่อน เหตุนี้เองทำให้ไม่อาจหลับตานอนได้ตลอดรอดฝั่ง อดนึกไม่ได้ว่าโลกใบนี้ช่างแปรเปลี่ยนไปจากอดีต ไม่ว่าจะบนพื้นดินหรือในอากาศ ทำไมช่างแปรปรวนเสียเหลือเกิน อะไรอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่รู้ว่าเป็นฤดูไหนกันแน่ อยู่ๆฝนก็ตก บางทีตื่นมามีลมหนาวโชยมาอ่อนแล้วก็จางหายไป บางวันร้อนแทบคลั่ง แปรปรวนเหมือนใจใครบางคน ฤดูไหนเราสับสน รู้แต่ว่าวินาทีนี้เราทนทุกข์อยู่ในฤดูเหงา รับไม่ได้ ทนไม่ไหว ขอหลบมาที่นี่ ที่ที่ใครๆเรียก..เมืองอาทิตย์อุทัย.. เผื่อว่าหัวใจดวงเดียวดวงนี้จะดีขึ้น เพื่อจะลืมใครบางคนที่เย็นชา.....
....ในที่สุดลงสู่พื้นดินแห่งแดนอาทิตย์อุทัยจนได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปเกือบปรับตัวไม่ทัน อากาศแจ่มใส สดชื่น เราแอบหายใจทั่วท้อง...หาไม่ได้อีกแล้ว..ไม่พบเจอบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว... มีรถคันโก้มารับ...เราจะได้ไปพบกับสิ่งใหม่ๆหลุดพ้นจากเรื่องเดิมๆ...หวังไว้...หัวใจตอนนี้แม้ยังไม่ใส....แต่สวย...ด้วยบรรยากาศชั้นเยี่ยม
....นั่งรถไป ฟังเพลงไป... เพลงนี้ขนมาจากบ้าน...จำได้ว่าเพลงนี้เคยส่งให้..ใคนคนหนึ่งคนนั้น...หวังว่าจะหยิบขึ้นมาฟังสักครั้งนะ....”พิษณุ”......ก็มันซึ้งจับใจดี....
“คงบังเอิญอากาศเป็นใจ.. ทำคนให้เกิดหวั่นไหว... อย่างไม่เคยไม่เคยมาก่อน
เพลงเดิมๆที่ก่อนเคยฟัง... เพลงเดิมเก่าๆเพลงนั้น... กลับตื้นตันได้อย่างมากมาย
หรือเพราะท้องฟ้าไม่มีดวงดาว ... หรือเพราะท้องฟ้ากว้างไกลเกินกว่าเราจะพบกัน
ละอองดาวในคืนนี้...มองดูคล้ายสายตาคู่หนึ่ง
ฉันได้แต่นั่งเหม่อ... ละเมอว่าเธอมองมา
รู้รึเปล่ามีใครคิดถึง ....นั่งอยู่ตรงนี้
คืนนี้ฉันเหมือนคนบ้า...... ได้แต่เห็นหน้าเธอ”
...ฟังวนไปวนมาอยู่หลายเที่ยว..ก็ชอบเลยฟังอยู่นั่น...และเพิ่งเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่เค้าพูดกันว่า “เพลงโดนใจ” เพลงนี้โดนตรงกลางหัวใจเข้าอย่างเต็มแรง แรงจนเจ็บไปทั้งตัว .....ได้แต่คิดถึง นึกถึง เหมือนคนบ้า ได้แต่เห็นหน้าเธอ.......เป็นคนบ้า..เธอรู้มั้ยว่า...รักมากจริงๆ
....เมืองนี้น่ารักเกินบรรยาย ที่พักสวยหรูน่าอยู่ ผู้คนคึกคักมากมาย ต้อนรับยิ้มแย้ม แต่ทำไมเราไม่รู้สึกได้ ก็ไม่รู้ความรู้สึกเราเหมือนอยู่ในบ้านร้างอ้างว้างจริงจริง ....แม้ผู้คนรายล้อมมากมาย แต่เผลอเหงาในใจ......คงต้องใช้เวลา...นานแค่ไหนก็จะรอเวลาให้ลืม....
.....จนวันนี้.....ตื่นมารับวันใหม่ที่สดใสไม่เหมือนเคย ชีวิตที่นี่แม้เรียบง่ายแต่ถูกใจ ได้ทำอะไรอะไรมากมาย เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว ได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งแค่ผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป เราต้องอยู่ต่อไป อยู่ได้อย่างดีไหม..อยู่ที่ใจเราคิด ......”ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้นยังมีความหมาย....ชีวิตที่ขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป... แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ....”คิดได้แค่นี้..ความสุขก็มาเยือนชีวิตอย่างตั้งรับไม่ทัน แม้จะยังนึกถึงวันนั้น ...ก็ยังยิ้มได้ เพราะใจคิดได้แล้วว่า “อย่า” หลงใหลใฝ่ฝันอะไรเพียงชั่วข้ามคืน เพียงแค่สบตา หรือหลงภาพมายา เลยตกกะไดพลอยโจน ทำให้ใจเจ็บจนหม่นหมองไปชั่วขณะ.. เสียดายวันเวลาเหล่านั้นที่เราทำให้เรื่องต่างๆประดังเข้ามาในช่วงชีวิตจนวุ่นวายสับซ้อนเหมือนเอาขนมจีนผสมน้ำยา วุ่นๆวายๆมัวๆซัวๆ... จนได้มาสว่างสดใสอีกครั้ง..ได้หัวใจดวงเดิมกลับมาแม้หจะมีบาดแผลบ้างแต่สดใสไร้ขยะในใจ..ขอบคุณทุกสิ่งที่เมืองอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ แม้หัวใจเราในวันนี้จะไม่สวย.....แต่ใส...

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:49:03 น.  

 

เรื่องที่ 5 โดยท่าน BLOODCENTER

********



ค่ำคืน..ที่รอคอย

ความมืดค่อยๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ นาทีแล้วนาทีเล่า
เจ้าหมึก..เด็กหนุ่มวัยละอ่อนอายุไม่ถึงยี่สิบปี นั่งกระสับกระส่ายอยู่ ณ มุมหนึ่งของบ้านร้างหลังเล็กๆ แห่งนี้ สายตามันนั้นเล่า ก็ได้แต่จ้องมองผ่านกล้องส่องทางไกลไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปจนสุดเส้นทางเดิน ซึ่งพื้นที่เบื้องหลังคือเนินเขาอันมืดทึมและเงียบสงัด
ห้องกลางของบ้านใหญ่หลังนั้น กลับสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากหลายดวง เสียงบทเพลงบรรเลงเบาๆ มีเงาผู้คนเคลื่อนไหวไปมาผ่านผ้าม่านสีงาช้าง เป็นระยะ บางครั้งดูนิ่งเงียบ บางครั้งดูขวักไขว่ สักครู่มีเสียงรถยนต์เล่นเข้าประตูบ้านมา
“รถคันโก้เชียว” หมึกรำพึงเบาๆ กล้องส่องทางไกลถูกใช้อีกครั้ง คราวนี้ได้จับภาพนิ่งอยู่ที่ใบหน้าหญิงสาวในชุดสีขาว เอวบางร่างน้อยนางหนึ่ง
“คุณละอองดาว แน่” สายตาหมึกยังคงจ้องไม่กระพริบ สลับสายตาลงมามองที่รูปใบใหญ่ที่ได้รับมาดูเป็นตัวอย่าง
“แม้กล้องนี้จะราคาถูก แต่ก็ยังทำให้เห็นใบหน้าเธอ..ใบหน้าที่ถูกตกแต่งเสียมากมาย จนดูไม่ใส..แต่สวย เหลือเกิน”
“พี่หมึก!” เด็กหนุ่มสะดุ้ง ด้วยมีเสียงกระซิบเบาๆ มาจากเบื้องหลังตนเอง
“เจ้านุก มาเงียบเชียว”
“พี่หมึก ฉันเข้ามาตั้งนาน..พี่ไม่ได้ยินเสียงเลยหรือ...เดี๋ยวพี่พิษณุรู้...เราจะอดงานหน้านาพี่”เจ้านุก เด็กรุ่นน้องกระซิบตอบพลางจะเอื้อมมือไปหยิบภาพหญิงสาวตรงหน้า
“อย่า..” หมึกห้าม
“ข้าเพลินไปหน่อย” “เออ..ว่าแต่ว่าเพื่อนเองที่เป็นคนเปิดประตูบ้านโน้นนะ...ดักไว้ดีแล้วนะ”
“สบายพี่ ท่าทางไม่ค่อยระวังกันเท่าไร เพราะบ้านหลังนี้น่ะ ใช้เฉพาะวาระพิเศษ โอกาสอย่างนี้
หาไม่ได้อีกแล้ว” นุกตอบอย่างมุ่งมั่น
“พ่อกะแม่ เป็นนักการเมือง นักสังคมสงเคราะห์ กว่าจะเดินทางมาถึง คงรักมากจริงๆ ถึงยอมให้มาถึงที่นี่”
ความเงียบเข้าครอบคลุมบริเวณนั้นอีกครั้ง... ท้องฟ้ามืด ไร้แม้แสงจันทร์ มีเพียงเงาแมกไม้ ใหญ่น้อย สลับกันไป
“หมึก...นุก...” เสียงกระซิบทุ้มห้าว ของใคร ดังขึ้นเบื้องหลังเด็กหนุ่มทั้งสอง
“พี่ณุ” ทั้งสอง ขานตอบพร้อมกัน “เรียบร้อยใช่ไหม”

“ครับพี่..เหลืออีก 10 นาทีเอง” หมึกตอบ “เจ้านุกแล้วเพื่อนเจ้าล่ะ...” “อ๋อ..เจ้าดีม..มันบอกว่า พอรถ พ่อกะแม่คุณละอองดาวแล่นเข้าสู่ประตูบ้าน..จะกดเบอร์โทร.ของมันมา เป็นอันรู้กันครับ”
“ดี..” พิษณุตอบ สายตาเขายังคงจ้องไปยังบ้านหลังนั้น อย่างมุ่งมั่น ใบหน้าที่เคร่งขรึม ดูน่าเกรงขาม..ชายหนุ่มวัย สามสิบ ต้นๆ แต่งกายรัดกุมด้วยชุดสีดำ ปีกหมวกปิดบังใบหน้าไว้
“ขอบใจเจ้าทั้งสองนะ ที่ช่วยงาน ที่จริงงานเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา...ใจก็ไม่อยากรับหรอก..มันเหมือนตกบันไดพลอยโจนน่ะ...เค้าหาคนไม่ได้ ”
“ฉันสองคนก็ขอบใจพี่ด้วยที่ไว้ใจให้ช่วยงาน...แล้วงานพี่งานแรกเรียบร้อยดีหรือพี่”
พิษณุพยักหน้ารับช้าๆ พร้อมล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบซองเงินให้สองหนุ่มน้อย
“เอาไปก่อน เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะได้รีบแยกย้ายกัน.....”
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเจ้านุกก็สั่นเรียก...เป็นสัญญาณจากเจ้าดีม ทั้งหมด เงียบ แค่สบตากัน
“พี่ พ่อกะแม่น้องละอองดาวผ่านเข้าประตูใหญ่แล้ว” นุกรายงาน
“ฉิวเฉียดเลย” พิษณุบ่นเบาๆ สายตาเย็นชา เจ้าหมึก เจ้านุก วิ่งตรงไปยังปากประตูบ้านร้างเพื่อเตรียมการ
ไฟในบ้านหลังใหญ่ดับลงทั้งหมดพร้อมกันนั้น ชายหนุ่มก็ได้เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ควักวัตถุสีดำ เงา วาว ออกมา เงื้อมือขึ้นสุดแขนและกระหน่ำลงไปสุดแรง
เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง
สิ้นเสียง พลันดอกไม้ไฟที่ถูกซ่อนไว้ ถูกจุดโดยเจ้าหมึกและเจ้านุก ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
งดงามนัก
“เฮ้อ...เสร็จสินภาระกิจของพวกเศรษฐีซะที ลูกสาวจะฉลองวันครบรอบแต่งงานให้พ่อแม่
ต้องออกอุบายเสียเงินเสียทองหลาย...ย้ำกะข้าหลายครั้งหลายคราให้ตรงเวลา ”
“ฉันสองคนก็ขอบคุณพี่มากที่ให้มาช่วยงาน ฉันก็กลัวพี่มาไม่ทัน ฉันไม่ถนัดเคาะกระดิ่งเลย
ไปกันได้แล้วพี่ พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้าตั้งร้านขนมจีนน้ำยาแทนน้องสาว มันไปสอบ”ทั้งสามต่างเก็บข้าวของเครื่องใช้ใส่กระเป๋า
พิษณุหันมาทางหมึก ตะโกนแข่งกับเสียงพลุ “เฮ้ย หมึก...น้องสาวเองน่ะ...ไม่สวย..แต่ใส”

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:50:25 น.  

 

เรื่องที่ 6 โดยท่าน smally

********

……สายลมพัดพลิ้วเข้ามาทางหน้าต่าง....

ชายหนุ่มหลับตา พรางคิดคำนึงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในช่วงชีวิต...ช่วงหนึ่ง
หากวันนั้น..เขาไม่ได้ไปทานขนมจีนน้ำยา ร้านชื่อดังของจังหวัด
เขาก็คงไม่ได้พบกับหญิงสาวผู้งามพร้อมทั้งกายและใจเช่นเธอ ซึ่งคงหาไม่ได้อีกแล้ว..

“หญิงเล็ก” ชายหนุ่มพึมพำเอ่ยชื่อหญิงสาวออกมาเบา ๆ พร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก....
--------------------------------------------------
เหตุการณ์ในวันนั้น...

หญิงสาวก้าวลงจากรถคันโก้ เพื่อมาติดต่อซื้อที่ว่าง ๆ ซึ่งมีบ้านร้างหลังหนึ่งตั้งอยู่ข้างร้านขนมจีน
เพียงแต่สบตาแรก...หัวใจของชายหนุ่มก็พองโตขึ้นมาอย่างไม่สาเหตุ...
“ท่าทางคงจะรวยแฮะ” ชายหนุ่มก้มลงมองตัวเอง อย่างเราจะมีอะไรไปเทียบกับเธอได้...
เมื่อทานเรียบร้อยแล้ว...เขาก็เดินออกมากจากร้านขนมจีน ในขณะที่เธอยังคงยืนมองที่ว่างนั้นอยู่
ทันใดนั้นเอง มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมาจอดข้างรถของหญิงสาว
พร้อมกับคนขับที่สวมหมวกกันน็อกและสวมแว่นตาดำมองตรงไปยังหญิงสาว..
ชายหนุ่มเห็นแล้ว รู้ทันทีว่า ต้องมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับหล่อนเป็นแน่แท้...
เมื่อเห็นดังนั้น...ชายหนุ่มจึงวิ่งเอาตัวเองไปบังหญิงสาวไว้ พร้อม ๆ กับเสียงปืนที่ดังขึ้นสามนัด..
ร่างของชายหนุ่มทรุดลงกับพื้น...พร้อม ๆ กับรถจักรยานยนต์ที่ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวและผู้คนในบริเวณนั้น...
“คุณคะ คุณ..เดี๋ยวฉันพาคุณส่งโรงพยาบาลนะคะ...”
ชายหนุ่มได้ยินเสียงหวาน ๆ ของหญิงสาว..พร้อม ๆ กับสติที่ดับวูบไป....
-------------------------------------------------
เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมา...พร้อมกับเสียงหวาน ๆ ของหล่อน
“คุณคะ..คุณ” ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ จึงมองเห็นหญิงสาวอย่างเต็มตา
“ขอบคุณมากนะคะ..สำหรับความช่วยเหลือ..เพราะฉันแท้ ๆ ทำให้คุณต้องเดือดร้อน
ทำให้คุณต้องมาตกบันไดพลอยโจนไปกับฉัน..ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ”
ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ที่ใบหน้า
“ขอโทษนะคะ คุณชื่ออะไรคะ แล้วบ้านคุณอยู่ที่ไหน มีเบอร์โทรศัพท์มั๊ยคะ
ฉันจะได้ติดต่อที่บ้านของคุณเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอีกครั้งพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณจะให้ผมตอบคำถามไหนก่อนครับ..” หญิงสาวยิ้มเขิน ๆ
“ผมชื่อ พิษณุ ครับ พิษณุ นิ่มสกุล “ พร้อมกับส่งสายตาเป็นประกายไปยังหญิงสาว
และสบตากัน...เนิ่นนาน.....
-------------------------------------------------
“ทำอะไรอยู่คะ” ชายหนุ่มสะดุ้งจากภวังค์ พร้อมกับยิ้มอ่อนหวาน..
“ผมกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เราสองคนได้พบกัน”
“คุณรู้มั๊ย...ครั้งแรกที่ผมพบคุณ...คุณไม่ใส...แต่สวย...ที่สุดในสายตาผม” หญิงสาวยิ้มอย่างเอียงอาย
“ทุกวันนี้ ผมมีความสุขมาก ผมขออะไรจากคุณซักอย่างได้มั๊ยครับ” ชายหนุ่มถาม
“ได้สิคะ...สำหรับคุณ ฉันให้ได้ทุกอย่างค่ะ”
“คุณ อย่า...ทำเย็นชาใส่ผมนะ...”
ได้ค่ะ..ฉันสัญญา”
“ผมรักคุณมากนะ หญิงเล็ก....รักมากจริงๆ”
“ค่ะ ฉันทราบ...ฉันก็รักคุณค่ะ พิษณุ.. เออ! ฉันมีข่าวดีจะบอกคุณด้วยค่ะ”
หญิงสาวทำท่ากระซิบที่ข้างหูชายหนุ่ม
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง พร้อมกับโอบกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ว่าลูกของเราจะเป็นหญิงหรือชาย ผมจะตั้งชื่อลูกของเราว่า ละอองดาว...”
ชายหนุ่มมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า

“เพราะละอองดาว...ถึงแม้ว่าจะไม่สวย..แต่ใส........”

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:52:36 น.  

 

เรื่องที่ 7 โดยท่าน หลักสี่ไปห้าแยก

********

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ริมทะเล ท่านกลางหมู่ ..ละอองดาว บน ท้องฟ้า ที่ ..ไม่ใส แต่สวย
หน้า ..บ้านร้าง เพียง ..แค่สบตา ชายหนุ่มที่ขับ ..รถคันโก้ ก็พบความ..เย็นชา
เหมือน ..ขนมจีนน้ำยา ค้างคืน ที่ ..หาไม่ได้อีกแล้ว


"อย่า.." เสียงดังกันไป
ตอนนี้รู้แต่ ข้า ต้อง ... ตกบันไดพลอยโจน
เพราะ ..รักมากจริงๆ ...พิษณุ ที่เขาบอกว่า เขา ...ไม่สวย แต่ใส

*************************

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:54:00 น.  

 

เรื่องที่ 8 โดยท่าน czephyus

********

....เรื่องเข้าชิงซีไรต์..เรื่อง ขนมจีนละอองดาว

ผมชื่อพิษณุ ครับ นามสกุลผม เหรอ...ละอองดาว...ดูแปลกไหมครับ....ไม่หรอก..ผมเป็นเจ้าของร้าน ขายขนมจีนน้ำยา ทีมี สาขา มากที่สุดในกรุงเทพ ตอนนี้..เรื่องที่ผมมาเป็นเจ้าของร้าน
ได้อย่างไรนั่นก็ เป็นเรื่องตกบันไดพลอยโจน อย่างช่วยไม่ได้ ...
"อย่า.." เพิ่งคิดไปไกล เรื่องมีอยู่ว่า..วันหนึ่ง ผมกับแม่ อยากจะเปิดร้านขายอาหาร โดยกำลังมองหาทำเลอยู่ จะเปิดที่ไหนดี เราสองคน ก็หาทำเลกันไปเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่ง ผมก็ขับรถคันโก้ของผมมากับแม่เพื่อหาทำเลเปิดร้าน
จนมาเจอกับบ้านร้างหลังหนึ่ง ในซอยใกล้ๆกับบ้านของผมถัดไปไม่กี่ซอย..ก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหล่ะ ซึ่งติดประกาศว่าขายหรือ เช่า อยู่มีเบอร์โทรศัพท์..ผมก็จดไป..ก็คุยๆกับแม่ ว่า ดูดีนะ ทำเลดี ตัวบ้านก็ยังไม่เก่ามาก ทำร้านอาหาร แบบสไตล์ โปร่งๆ ก็คงจะดี
ตอนนั้น ผมก็ยังนึกไม่ออกแหล่ะ ว่ามันจะออก มาแบบไหน..จนผ่านไป สองสามวัน ผมเกือบลืม เรื่อง ร้าน เนื่องจาก งานประจำที่ผมทำอยู่ก็ดูวุ่นวาย จนแทบ
กระอัก...ออกมา เป็น..... อย่าให้พูดเลย ดีกว่า...วันหนึ่ง ผมกลับมาจากทำงาน ก็เลย ได้ มีเวลาสะสาง งานเกี่ยวกับ ธุรกิจส่วนตัวที่ผมกับแม่จะเปิด ..
นั่นก็คือ ร้านอาหาร ผมยังจำได้ถึง บ้านหลังนั้น ...กระดาษ แผ่นนั้น อยู่ไหน ผมควานหากระดาษที่จด เบอร์โทรศัพท์ มา " อยู่ไหนๆ..." อ้าว เจอ แล้ว อยู่นี่เอง...ผมก็เลย โทรไปเสียงปลายสาย ที่รับ..เป็นเสียงผู้หญิงครับ
" สวัสดี ค่ะ ...." เสียงหวานน่ะครับ ฟังดูนุ่มหู
" สวัสดี ครับ" ผมตอบกลับไป..." เออ คือ ผม อยากทราบรายละเอียด เรื่องบ้าน
ที่ประกาศ น่ะครับ"
" อ๋อ..ค่ะ ต้องการจะเช่าหรือซื้อ หล่ะค่ะ" เสียงหวานย้อนถามกลับมา
" ถ้าจะซื้อ น่ะ ครับ ขาย เท่าไร ผมจะทำเป็นร้านอาหาร น่ะครับ" ผมเริ่มเข้า
ประเด็นทันที
" ค่ะ ก็ไม่แพงหรอกค่ะ ..จะทำร้านอาหารหรือคะ"
"ครับ ทำไมหรือครับ" ผมแปลกใจ กับน้ำเสียงของเธอ
"อ๋อ..แปลกใจน่ะค่ะ เพราะ ที่นั่น เคยเปิดเป็นร้าน อาหารมาก่อนค่ะ" เธอตอบ
เราคุยกันไปเรื่อยๆ ถึงรายละเอียด เกี่ยวกับบ้านหลังนั้น แล้วผมก็นัด เจอกับเธอ เพื่อ เข้าไปคุยรายละเอียดกันอีกที แต่คุณเชื่อ เชื่อไหมว่า ผมคุยอยู่กับ
เจ้าของเสียงหวานใสนั้น นานเท่าไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่า
เราคุยกันไปเรื่อยๆ..จนกระทั่ง แม่ผม เดินขึ้นมาเรียก ให้ไปกินข้าว เย็น...
ผมมองไปมองนาฬิกา...ฮ้า...ทุ่มนึงแล้วเหรอเนี่ย...ผมจำได้ว่า ผมเริ่มโทรศัพท์ไปคุย ตั้งกะ บ่ายสาม กว่าๆ กะว่าคุยเสร็จ จะพาแม่กับพ่อออกไปกินข้าวข้างนอกบ้านกับน้องชายและน้องสาวที่นัดกันไว้...อะไรเนี่ย...ผมแปลกใจกับตัวเองเหมือนกันนะเนี่ย...ผมก็ไม่คิดหรอกนะ ว่า หลังจากวันนั้น ชีวิตของผมจะเปลี่ยนแปลงไปอยางไม่น่าเชื่อ ผมได้เจอกับคู่ชีวิตที่ผมคิดว่า ชาตินี้ ผมจะมีแฟนได้แต่งงานหรือ
มีครอบครัวไหม ซึ่งผมก็คิดว่า คงจะหาไม่ได้อีกแล้ว มั้งกับชีวิต ครอบครัวที่ ผม คาดหวังไว้...ก็ เจ้าของเสียงหวานใส ที่ผมคุยกับเธอ เป็นนาน สองนาน
น่ะแหล่ะ...
ครั้งแรก ที่เราสองคน เจอกัน แค่สบตากับเธอ....สายตาเย็นชา ที่ส่งผ่านมา ทำให้ผมไม่แน่ใจ ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า..แต่พอคุยไปได้สักพัก
เราก็คุยกันได้ อย่างสนิทสนม เหมือนวันนั้นที่คุยโทรศัพท์ กัน
ผมตัดสินใจ ซื้อ บ้านหลังนั้น ซึ่งเธอ ก็ตัดสินใจขาย ให้โดยมีเธอร่วมเป็นหุ้นส่วนด้วย เธอบอกว่า เปิดเป็นร้านขายขนมจีนดีกว่า แต่คิดเมนู หรือตั้งชื่อ ให้เก๋ๆ ดีกว่า

ขนมจีนน้ำยา ก็เปลี่ยน เป็น ละอองดาว
ขนมจีนน้ำยาป่า ก็ เรียกว่า ไม่สวยแต่ใส
ขนมจีนน้ำพริก ก็เรียกว่า ไม่ใสแต่สวย..
เพราะฉะนั้นเวลา ที่ผ่านมากินขนมจีนน้ำยา ที่ร้านผม ก็จะได้ยิน ว่า
" ละอองดาว 1 ไม่สวย 2 ไม่ใส 1" อะไรแบบนี้
...อ้อ ผมลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เมื่อ สองปีก่อน และก็ มาเปิดร้าน ขนมจีน ได้ ปีกว่าแล้ว ขยายสาขาไปได้ หลายสิบสาขาแล้ว และกำลังจะแต่งงาน ปลายปีนี้ กับ เจ้าของเสียงหวานใสที่ขายบ้านให้ผม
อ้าว ..ลืมบอกชื่อเธอ...ดาวครับ ผมสารภาพ เลยครับว่า ผมรักเธอ
รักมากจริงๆแล้วร้าน ของผม ก็ชือ ว่า "ละอองดาว...(ไม่สวยแต่ใส)" ครับ.



.......จบแล้วครับ....

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 18:58:39 น.  

 

เรื่องที่ 9 โดยท่าน APASRA

********

รถคันโก้...แล่นเข้ามาในคฤหาสน์ "ละอองดาว" อย่างเชื่องช้า...เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่หน้ามุข บันได ชายหนุ่มรูปงามนาม "พิษณุ" ก็ก้าวลงจากรถ...

เขากวาดสายตาเย็นชาไปรอบบริเวณ...หยุดนิ่งอยู่ที่บ้านร้างด้านหลังคฤหาสน์

บ้านหลังนั้นเคยเป็นที่พักอาศัยของชายน้อย น้องชายพิการของเขา....บัดนี้ เขาจะย้อนอดีตไปหาไม่ได้อีกแล้ว

สาวน้อย ไม่ใส แต่สวย...คนนั้น กับเปียยาวสองข้างที่กวัดแกว่งไปมา ยามหยอกเล่นกับชายน้อย อยากจะเข้าไปกระตุกเปียคู่นั้น เสียหลายๆ หน
แต่ก็ห้ามใจตัวเองว่า "อย่า..." "อย่า.."

วันหนึ่งขณะที่สาวน้อยกำลังป้อนขนมจีนน้ำยาให้ชายน้อยที่สนามหญ้าหน้าบ้าน

"อย่ากระนั้นเลยแม่สาวน้อย"...เขาค่อยๆ ย่องเข้าไปๆ ด้านหลังของเธอ

ชายน้อยพยายามร้องบอกให้สาวน้อยรู้ตัว...แต่เขาเปล่งเสียงออกมาได้เพียงคำว่า "อ้า...อ้า..อั้น...อั้น....อี้...อี้....อี้..อาย..อ่าย....อี้...อาย..อ่าย"

พิษณุยื่นมือไปกระตุกเปียคู่นั้น จนเธอหน้าหงาย...นอนแผ่ลงไปกับพื้นสนามหญ้า....ศีรษะของเธอ...อยู่ตรงกลางหว่างขาของเขาพอดี ความตื่นกลัวของเขาพลันผงาดขึ้นใต้ร่มผ้าในทันใด!!!

แค่สบตากับเธอวันนั้น....เขาก็รู้ใจตัวเองว่า ได้ตกบันไดพลอยโจน รักเธอ...รักมากจริงๆ แม่สาวน้อยที่เมื่อดูให้ดีๆ แล้ว...เธอไม่สวย แต่ใส...

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:00:45 น.  

 

เรื่องที่ 10 โดย แกงค์นรก

********

@...........ณ หน้าบ้านร้างหลังใหญ่ใจกลางเมือง แมวน้อยไม่สวยแต่ใส ลำตัวอวบอ้วนนอนหมอบจ้องมอง อยากกินขนมจีนน้ำยา ที่เจ้าของบ้านตรงข้าม คนที่ไม่สวยแต่ใส ชื่อละอองดาวกำลังนั่งทำอยู่ ทันใดนั้นจังหวะที่เจ้าของบ้านเผลอเจ้าแมวน้อยก็กระโดดขึ้นไปกินจากหม้อ ด้วยความอ้วนอุ้ยอ้าย ทำให้การทรงตัวเสีย ตกลงไปในหม้อต้ม

@...........ละอองดาวรีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจ เพราะได้ยินเสียงร้องที่แสดงความเจ็บปวด ช้าไปซะแล้ว เจ้าแมวน้อย ดำดิ่งลงสู่ก้นหม้อ ควันพวยพุ่งขึ้น กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้ามน หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนามพิษณุ

@...........เจ้าของบ้านผู้ไม่ใสแต่สวย ร้องตะโกนด้วยความตกใจ “อย่า...” พิษณุ ผู้กำลังหาผ้าขนหนู มาพันท่อนล่างที่เปลือยเปล่า ตกใจ ทำผ้าหลุดมือ ละอองดาวไม่สวยแต่ใส ร้องอุทานเมื่อจ้องมองท่อนล่างของชายหนุ่มแล้วพร่ำเพ้อว่า...... “เฮ้อ .. ช่างน่ารักมากจริง ๆ “ พิษณุเอ่ยปากร้องขอน้ำด้วยเสียงแหบแห้ง “ละอองดาว........ขอเย็นชาหน่อยคร๊าบ” ละอองดาวได้ยินดังนั้นจึงรีบขับรถคันโก้ยาวสามวาแปดศอกไปซื้อเย็นชาให้พิษณุที่ข้างบ้าน

@...........ใช้เวลาสตาร์ทรถร่วม 5 นาที ขับไปข้างบ้าน 3 วินาที รวม 5 นาที 3 วินาที เป๊ะ จอดปุ๊บ ตะโกนสั่ง.... “โก ขอเย็นชา 3 ถุง จะไปโซ้ยกะหนุ่ม” เสียงแหบแห้งถามออกมาจากบ้านร้าง ที่ดูยังไงก้อไม่น่าจะเป็นร้านน้ำชา “เอ็งจะเอาเย็นชาหรือชาเย็นวะไอ้ฟราย “

@........... “วันนี้มัยโกดุจังว้า....” ละอองดาวคิด แต่ไหน ๆ ก้อสั่งผิดแล้ว จะแก้ก้อเสียเชิง ต้องตกกระไดพลอยโจน ยืนยันคำสั่งเดิม “โกดิฟราย... เย็นชา ไม่รู้จักเหรอ มันทำคล้าย ๆ ชาเย็นอ่ะ แต่มันต้องผสมน้ำมะนาว 2 หยด”

@...........เกิดมาไม่เคยมีใครเหยียดหยาม โกทนไม่ได้ .... ตะลุยเดินออกมาหน้าร้านเตรียมฉะกันไปเลย อยู่ข้างบ้านกันมาเป็นปี ไม่เคยเห็นหน้า วันนี้เป็นไงเป็นกันว่ะ สองคนเผชิญหน้า สบตากันด้วยความตื่นตะลึง ละอองดาวหน้าแหย..... พูดเสียงอ่อย ........ “อ้าว แม่ทัพ ........ ย้ายมาอยู่แถวนี้ก็ไม่บอก (เกือบซวยแล้วตรู) “ ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันนาน เดินกลับเข้าบ้านไปรำลึกความหลัง คุยกันไปกินเย็นชากันไป แล้วก็ลืมแมวน้อยพิษณุไปในที่สุด ....... ทำกันได้ลงนะ ไม่สวยแต่ใส

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:02:47 น.  

 

เรื่องที่ 11 โดย ท่าน more_than_luv ส่งเข้าประกวดเป็นเรื่องที่ 2

********

ไม่สวยแต่ใส

วันนี้อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าไม่ใส แต่สวย
แม้จะเป็นวันแห่งความรัก ก็ยังต้องมานั่งเรียน เข้าใจว่าเพราะหน้าที่แท้ๆ
14 กุมภาพันธ์ ทั้งที อาจารย์เลยขอเบาสบายซักวัน
ให้นักศึกษาในชั้นเรียน นึกถึงคำว่า”ความรัก” แล้วเขียนใส่กระดาษ
ให้เวลา 8 นาที ทำไมต้องแปดไม่มีใครทราบ
ครั้งนี้ไม่เขียนเปล่า อาจารย์แอบมีคะแนนให้ ใครมีจินตนาการโดนใจอาจารย์ มีหวังวันนี้มีสิทธิ์เกิด
เพราะคะแนนครั้งนี้เป็นตัวช่วยสุดๆ เป็นคะแนนเก็บถึง 35เปอร์เซ็นต์
หาไม่ได้อีกแล้ว ส้มหล่นขนาดนี้ ต้องตั้งใจ.................
และแล้วก็ถึงเวลา..... 8นาทีทองหมดลงจนได้......เรียงหน้ากันส่งเข้ามา.........
อาจารย์เริ่มทำใจเป็นกลางอ่าน....เริ่มจากสาวสวย..ละอองดาว... “ แม้ไม่ได้พูดอะไร แค่สบตา ก็เข้าใจกัน”
สาวเปรี้ยว...จันทรา “ รักกันจริงต้องมีรถคันโก้คอยรับส่ง ”
แม่บ้านแม่เรือน..วันเพ็ญ “ รักของสองเรา เข้ากันดี เหมือนขนมจีนน้ำยา ที่รสชาดเข้ากันๆ”
สาวขี้เหงา...นวลแข “ รักแล้วปล่อยให้เหงา เหมือนนั่งอยู่ในบ้านร้างเพียงเดียวดาย”
สาวใส...อาทิตยา “ รักคุณเข้าแล้ว รักมากจริงๆ”
สาวซิ่ง...สุริยา “ อย่าทำให้เขาคนนั้นเสียใจ”
สาวซึ้ง...นภา “ หมั่นเติมคำหวานไม่ให้รักเย็นชา จืดชืด”
สาวเซ็กซี่...ดารา “ตกบันไดพลอยโจน รักเธอ ไม่รู้ตัว”
สาวเอ็กซ์(L)..เพ็ญจันทร์” รัก.แม้ไม่สวยเสมอ แต่ทำให้ใจสดใสทุกวัน ..นิยามสั้นๆ ไม่สวยแต่ใส”
…อาจารย์อ่านมาถึงคนที่ 10 แล้วรู้สึกแปลกประหลาดใจ มืนงงเป็นอันมาก จนต้องเกือบนำส่งโรงหมอกันเลยทีเดียว(แอบเว่อร์).. อะไรกันนี่..!!! อาจารย์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทำไม?!? “ความรัก” ในมุมมองของพิษณุ นักศึกษาชายคนเดียวของห้องแถมยังเป็นหนุ่มหล่อมากถึงมากที่สุด ทำไมความรักของ พิษณุ ที่เขียนออกมาส่งถึงครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนๆเขียนออกมา..เหมือนพิษณุได้รวบรวมทุกความรู้สึกของเพื่อนๆสาวในห้องเรียนได้อย่างครบถ้วน... เมื่ออาจารย์ดึงสติกลับมาได้แล้ว และคิดได้เลยไม่แปลกใจว่า ทำไมพิษณุจึงได้รับเลือกเป็นขวัญใจของชั้นปี ไม่ว่าพิษณุจะทำอะไร อยู่ที่ไหน จะมีเพื่อนๆคอยเป็นกำลังใจ สนับสนุน คำตอบก็เพราะทุกคนได้พบว่าพิษณุมีชิ้นส่วนอันวิเศษอยู่ในตัว สามารถหยั่งรู้ถึงจิตใจคนรอบตัว ใครอยู่ใกล้ๆเป็นเสร็จทุกราย หมายถึงใครๆก็รักพิษณุนั่นเอง อาจารย์ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไม่มีใครจะปฏิเสธข้อนี้ได้เลย ไม่มีใครที่ไม่รักพิษณุ.....
ข้อความที่พิษณุเขียนภายใน 8 นาทีทอง มีความหมายของความรักที่เพื่อนเขียนไว้ทั้งหมด และเรียบเรียงว่า......
“รักแท้แม้ไม้ได้พูด แค่สบตาก็เข้าใจ คอยรับส่งเอาใจรับด้วยรถคันโก้ เราสองช่างเข้ากันดีเหมือนรสชาดของขนมจีนน้ำยา เราจะไม่ปล่อยให้ดายเดียวเอกาเหมือนนั่งอยู่ในบ้านร้าง เพราะรักคุณเข้าแล้ว..รักมากจริงๆ.. นึกเสมอว่าอย่าทำให้เธอเสียใจ หมั่นเติมคำหวานไม่ให้รักเย็นชา วันนี้รู้แล้วว่าได้ตกบันไดพลอยโจน รักโดยไม่รู้ตัว นานๆไปรักอาจไม่ใส แต่สวย สิ่งสำคัญสำหรับรักแท้คือจิตใจ...แม้เธอไม่สวย แต่(ใจเธอ)ใส .............”

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:04:14 น.  

 

เรื่องที่ 12 โดย ท่าน Debra

********

“ดาว….. ดาว ........ อยู่ไหนลูก”

เสียงตะโกนโหวกเหวกของแม่คำกี้ ดังมาแต่ไกล
ทำให้ ดาว หรือ ละอองดาว ต้องละมือจากสิ่งที่กำลังทำ

ยังไม่ทันได้ตอบ ดวงหน้าอันละม้ายพิมพ์เดียวกับสาวน้อย ละอองดาว ก็เยี่ยมหน้ามาที่หน้าประตูครัวแล้ว

ถึงแม้อายุจะย่างเข้าวัยกลางคนมาแล้ว แต่เค้าความสวยก็ยังคงมีให้เห็น ไม่ใสแต่สวย สมกับตำแหน่งนางงามประจำหมู่บ้านขอสงวนในอดีต

“อะไรจ๊ะแม่ ตื่นเต้นอะไร เสียงหลงมาเชียว”

“วันนี้ แม่แวะไปกราบหลวงตาพาวที่วัดมา”
แม่คำกี้ เล่าด้วยน้ำเสียงยังไม่หายตื่นเต้น

“หลวงตา บอกว่า เจ้าพิษณุ กลับมาเยี่ยมท่านเมื่อวาน”

“ชื่อนั้น ทำให้มือที่กำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหาร ชะงักไปชั่วขณะ”

ภาพในอดีต หวนกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่ใช่เมื่อ 10 ปีก่อน

“จำเป็นด้วยเหรอ พี่ณุ ที่พี่ต้องไปกรุงเทพ” สาวน้อยละอองดาวถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

“ดาว พี่ก็ไม่อยากไปกรุงเทพหรอกนะ แต่ถ้าพี่ยังอยุ่บ้านนอกแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ พี่จะมีโอกาสเป็นนักร้องอย่างที่พี่ใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต"
เสียงชายหนุ่มออดอ้อนมา


แม่คำกี้ พยายามจับสังเกตุ ปฏิกริยาของลุกสาว แต่ก็ไม่พบอะไร นอกจากดวงตาเหม่อลอย

“ดาว.... ดาว...... ทำไมเงียบไปลูก”

“ไม่ดีใจเหรอ ที่ พิษณุ เค้ากลับมาเยี่ยมบ้าน
หายไปอยู่กรุงเทพ เกือบ 10 ปี”

“หลวงตาพาว เล่าว่า เมื่อวานขับรถคันโก้ เข้ามาจอดหน้ากุฎิ เล่นเอาลูกศิษย์วัดฮือฮากันอย่างกับผึ้งแตกรัง”

“แล้วเค้ากลับมาทำไมจ๊ะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เจ้าพิษณุ จะร่วมกับเพื่อนดารา จัดผ้าป่ามาทอดที่วัด ก็เลยมานัดแนะ วัน เวลา กับหลวงตา"

“ชาวบ้านที่รู้ข่าว ต่างก็ยกมือโมทนา สาธุ”

“หมู่บ้านขอสงวนของเรา จะได้มีงานบุญใหญ่ซักที หลังจากที่เงียบเหงา เพราะผู้คนต่างแยกย้ายอพยพหนีไปหางานทำที่เมืองกรุงกันเกือบหมดหมู่บ้าน จนเกือบจะกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว”

“หลวงตาพาว ภูมิใจเป็นนักหนาว่า เจ้าพิษณุนะ ไม่ลืมตัว ไปเป็นดารา นักร้อง โด่งดัง ในเมืองกรุง ก็ยังไม่ลืมบ้านเกิด ยังทำตัวอ่อนน้อมเหมือนเดิม คนอย่างนี้นะ หาไม่ได้อีกแล้ว

“สมแล้วที่หลวงตา อบรมสั่งสอนกันมา”

“ในบรรดาลุกศิษย์วัดรุ่นนั้น หลวงตาท่านรักเจ้าพิษณุ รักมากจริงๆ

“แต่ก็อย่างว่านะ เจ้าพิษณุ ก็ไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง”

“แล้วหลวงตา กำหนดวันทอดผ้าป่า หรือยังจ๊ะแม่”

“ท่านดูฤกษ์ยามแล้ว บอกว่า วันที่ 15 พ.ย. นี้เป็นวันดี”

“นี่หลวงตา ท่านอยากให้แม่ดาว ช่วยทำ ขนมจีนน้ำยา ซักหม้อ ไว้เลี้ยงแขกเหรื่อ ที่มาร่วมงานทำบุญ”

“แม่ก็รับปากท่านไปแล้ว แม่ดาวจะว่ายังไงจ๊ะ”

แค่สบตา แม่คำกี้ ก็รู้ว่า ละอองดาว ไม่ปฏิเสธ

“แม่ก็รับปากหลวงตาท่านไปแล้ว หนูก็เหมือนตกบันไดพลอยโจน ไม่มีปัญหาหรอกจ้า”

“แม่ดาวก็ทำให้สุดฝีมือไปเลยนะ อย่าให้เสียชื่อ ขนมจีนน้ำยาแม่ละอองดาว ไม่สวย แต่ใส เชียวนา

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:05:28 น.  

 

เรื่องที่ 13 โดย ท่าน Spring&Summer

********

“แค่สบตา”เธอละเมอฝันหา

“อย่า…”ทำ”เย็นชา”ให้ฉันหวั่นไหว

“รักมากจริงๆ”รักมากกว่าใคร

รักหมดหัวใจ”ตกบันไดพลอยโจน”

“ไม่ใส แต่สวย”ร่ำรวยน้ำใจ

อยากบอกใครใครคนนี้ซิโดน

“ไม่สวย แต่ใส”จิตใจอ่อนโยน

อยากบอกตะโกนว่าคิดถึงเธอ

“หาไม่ได้อีกแล้ว”แจ่มแจ๋วอย่างนี้

เห็นหน้าทุกทีฝันดีเสมอ

คิดถึงทุกวันอยากได้พบเจอ

ไม่เห็นหน้าเธอเอ้อเฮ้อคิดถึงจัง

วันใดไม่พบใจคออ้างว้าง

เหมือนอยู่”บ้านร้าง”ผุผุพังพัง

แม้กินข้าวแล้วก็บอกว่ายัง

ก็เลยต้องสั่ง”ขนมจีนน้ำยา”

เริ่มมั่วซะแล้วไม่แคล้วมีปัญหา

เหลืออีกสามคำจะทำยังไงหว่า

แม่ทัพโปรดเห็นใจอย่าได้ดุด่า

ลูกทัพอย่างข้าบ้าออกนอกทาง

คำว่า”พิษณุ”ก็ยังไม่ได้ใช้

จะจบยังไงไม่ให้หม่นหมาง

“รถคันโก้”อีกคำที่ยังเคว้งคว้าง

ต้องรีบจัดวางให้น้อง”ละอองดาว”

คนอ่านอย่าเบื่อยังเหลืออีกหน่อย

ไม่ได้เขียนบ่อยอย่าเพิ่งนั่งหาว

จะครบแล้วนะแค่อีกไม่ยาว

ขอจบเรื่องราวด้วย”ไม่สวย แต่ใส”

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:07:39 น.  

 

เรื่องที่ 14 โดย ท่าน หย่ามูแดง(ดีปลีเชือก)

********
๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘


เพื่อนคนหนึ่งเธอเป็นคนมีเสน่ห์แบบแปลกๆ จะมองว่าสวยก็ได้ไม่สวยก็ได้
ตาเรียวคม ผิวคล้ำนิดๆ ผมยาวหยักศกหน่อยๆ ช่างคิด ร่าเริง ทำงานเก่ง
ยามน้อยใจ หรือ โกรธ เธอจะทำตัวเย็นชา ดุจภูเขาน้ำแข็งใส่คุณทันที
แต่พอถึงคราวหวานเธอก็หวานได้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
และอย่าไปจ้องตากับเธออย่างเด็ดขาด เพราะว่าอัน – ตระ – ราย มากกกกก
เพียงแค่สบตา คุณอาจตกกระไดพลอยโจนไปกับเธอได้ง่ายๆ อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
รู้จักกันครั้งแรกคิดว่าเธอเป็นคน ไม่ ( ค่อย )ใส แต่สวย ( ก็ได้ ) และไม่ธรรมดา

เธอเป็นคนโรแมนติคและรักธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจจนถึงขั้นตัดสินใจซื้อบ้านร้างริมน้ำ
บ้านเธอโอบล้อมไปด้วยพันธ์ไม้ เก่าแก่สารพัดชนิดที่หาไม่ได้อีกแล้วในยุคสมัยนี้
พืชผักอะไรที่กินกับขนมจีนน้ำยาอาหารโปรดของเธอได้ เธอสรรหามาปลูกหมด ไม่เว้นแม้แต่ถั่วฝักยาว

เพื่อนๆเรียกเธอว่า “ แม่นางดาหลา “ ทั้งๆที่เธอชื่อ กรแก้ว
พฤติกรรมแปลกๆแกมน่ารักน่าชังของกรแก้ว มีมากมายจนบรรยายไม่หมด
รวมทั้งที่ชอบป่าวประกาศว่าตัวเธอเป็นคนมีสีสันสดใส แบบดอกดาหลา จนทำให้หลายๆคนหมั่นใส้

ช่วงรู้จักกันใหม่ๆ วันหนึ่ง จู่ๆ กรแก้ว ก็ยื่นหน้ามาโผล่อยู่ตรงช่องประตูไม้หน้าบ้าน
“ อ้าว มายังไงนี่ แก้ว “ เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ มากับคุณละอองดาว “
“ ใคร คุณละอองดาว ไหนอยู่ไหน “ ถามไปอย่าง งงๆ เพราะเห็นเธอยืนโด่อยู่คนเดียว
“ โน่นไง “ เธอชี้ไปที่ถนนหน้าบ้าน เมื่อมองตามมือเธอไป.....................
เห็นแต่รถคันโก้ ยี่ห้อ คัมรี่ คันใหม่เอี่ยมสีเขียวหัวเป็ด จอดอยู่โดด ๆ หน้าบ้าน
ยังไม่ทันได้คิดอะไรเธอก็เร่งว่า “ เร็วๆ จะมาชวนไปรับ พิษณุ กับ แม่ดอกกระดังงาด้วยกัน “ ฟังแล้วก็ยัง งงๆ
แต่รีบเดินตามเธอไปโดยดีเพราะดันเผลอไปสบตาเธอเข้าอย่างจัง ( ขนาด ระวังตัวอยู่แล้วยังเผลอได้ )
จนลืมถามเรื่อง คุณ ละอองดาวไปเลย ได้แต่ถามว่า “ พิษณุนี่ใคร กิ๊กใหม่เหรอ “
แก้วรีบปฏิเสธทันควัน “ ไม่ช่ายยย กิ๊ก เกิ๊กใหม่อะไรกัน แก้วรักของแก้วมานานแล้ว รักมากจริงๆ
มีเค้าแล้วรู้สึกอบอุ่น นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นไงถ้าขาดเค้า นี่นัดจะไปรับตอนบ่ายสามโมง “

มาถึงที่หมายบ่ายสามเป๊ะๆ เห็นรถจักรยานเสือหมอบรุ่นปลิวลมสีแดงเลือดนกจอดอยู่หน้าตึกแถว
ข้างๆรถจักรยานมีเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นๆ ยืนรออยู่ด้วย
จอดรถเสร็จ แก้วเดินตรงรี่ไปสำรวจรถจักรยาน แล้วหันมาถามเด็กหนุ่ม “ พิษณุหล่ะจ๊ะ “
“ อยู่ข้างในครับ “ เด็กหนุ่มตอบ แก้ว รีบเดินเข้าร้านไปทันที พลางหันมาบอกว่า “ เธอรออยู่นี่นะ “
ซักพักใหญ่แก้วก็เดินออกมาพร้อมกับหมอนข้างขนาด King Size สีฟ้าสดใสมาแต่ไกล
“ อ้าว! แก้ว ไหนคุณพิษณุหล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ “
แก้วมองมา ด้วยสายตาที่สื่อว่า ( เอ๊ะ ! ยายนี่เป็นไรไป ) สีหน้าแบบ งงๆ ก่อนตอบว่า “ ก็ นี่ไง พิษณุ “
พร้อมกับก้มลงจูบหมอนข้างขนาด King Size ที่กอดอยู่แนบอก “ ฟื้ดดดด “ ยาวนานสูดลมหายใจลึกจนเต็มปอด

โป๊ก ! โป๊ก ! ก๊ากกกกก ก๊าก ! สารพัดเสียงเริ่มตามมา รู้สึกมึนเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัวอย่างแรง
อวัยวะส่วนบนสุดเงียบสงัดไป 2-3 วินาที
จึงค่อยๆสรุปได้ด้วยสมองอันฉลาดช้าว่า อ๋อ ที่แท้คุณละอองดาวของแก้วคงจะเป็น................
และ แม่ดอกกระดังงา คือ.....................สุดท้ายพิษณุที่เธอรักนักรักหนา จนขาดกันไม่ได้ ก็............

นับจากวันนั้นก็ได้รู้จักกับคุณอะไรต่อมิอะไรของเธออีกหลายชื่อ
แก้ว เอ๋ย แก้ว จินตนาการของเธอมันเหลือเกินจริงๆ
ฉันอยากคิดว่าเธอมันบ้า บร้า ในใจฉันบอกว่า “ ยัยนี่มันเพี้ยน “
แต่ลึกๆอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันเป็นความบ้า ความเพี้ยนที่แฝงความละเอียดอ่อนและอบอุ่น เอาไว้อย่างแนบเนียน
นึกถึงคุณโน่น คุณนี่ของแก้วทีไรเป็นต้องเผลอยิ้มหรือหัวเราะออกมาทุกครั้ง
รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่ผุดวาบขึ้นภายในใจของฉันเอง
เธอให้คุณค่าให้ความหมาย และ อ่อนโยน กับทุกๆอย่างที่เข้ามาสัมผัสกับชีวิตของเธอ
มาถึงวันนี้ อยากบอกเธอเหลือเกิน แม่นางดาหลา
อย่างเธอนั้นเขาเรียกว่า ไม่ ( ต้อง ) สวย ( ก็ได้ ) แต่ ( ความ ) ใส ( เปร่งประกายวิ๊งๆ ๆ )

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:10:27 น.  

 

เรื่องที่ 15 โดย ท่าน lilli

********

เช้าวันหนึ่ง ริมถนน พระราม 5 สภาพอากาศร้อนแสนสาหัส บวกกับการจราจรคับคั่ง ทำให้แมสเซนเจอร์หนุ่ม พิษณุ ถึงกับถอนหายใจยาวออกมา ... เฮ้อออ ออกจากบ้านก็สายแล้ว ยังมาเจอรถติดอีก เจ้านายรู้เข้าโดนด่าแหงๆเลย ว๊อยยย .....

พิษณุ คิดในใจ เอาวะ ไหนๆก็สายแล้ว ไปนั่งกิน ขนมจีนน้ำยา เจ้าประจำให้สบายท้องก่อนดีกว่า อิ่มแล้วค่อยคิดคำแก้ตัว พิษณุขี่มอเตอร์ไซค์บุโรทั่ง ของเขาไปจอดเทียบกับ รถคันโก้ หน้าร้าน หาที่นั่งเรียบร้อยแล้วก็ตะโกนสั่ง ป้า ขนมจีนน้ำยา จานนึง ขอเยอะๆนะ หิว ... !!

ป้าเจ้าของร้านซึ่งสนิทสนมกับนายพิษณุดี ตะโกนหยอกกลับมา จะเอาเยอะๆแกก็สั่งพิเศษสิวะ ... โถ่ ป้า .... ชายหนุ่มส่งเสียงอ้อน ผมจนจะตายนะป้า แถมวันนี้ไปทำงานสายอีก โดนหักเงินเดือนแน่ๆ ค่าเช่าห้องก็ยังไม่มีจะจ่ายเลยนะป้า ชายหนุ่มร่ายยาว ป้าเจ้าของร้านเบรคชายหนุ่ม เออๆ พอแล้ว ข้ารู้แล้ว บ่นแบบนี้มากี่ปีแล้ววะ ไอ้ณุ...

ป้ายกจานขนมจีนมาเสิร์ฟ พร้อมบอกชายหนุ่มว่า ... มีร้านขายน้ำมาเปิดใหม่ แกช่วยอุดหนุนหน่อยสิวะ แม่ค้าน่ะเป็นลูกของเพื่อนป้าที่บ้านนอกว่ะ แม่มันให้มาหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่ยังหางานไม่ได้ เลยมาขายโอเลี้ยงไปพลางๆ ....

ชายหนุ่มเหลือบตาไปมองร้านขายโอเลี้ยง .... เห็นหญิงสาวรูปร่างอ้วนป้อม ผิวคล้ำ ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ชายหนุ่ม ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับไปแบบไม่มีความหมาย ป้าตะโกนเรียก ละอองดาว เอ้ย ลูกค้าจะสั่งน้ำแน่ะ ... หญิงสาวตอบรับ.... จ้ะป้า... แล้วเดินมาหาชายหนุ่ม พลางส่งเสียงหวานยั่วยวน “รับอะไรดีคะ” ชายหนุ่มหันไปบอก เอาโอเลี้ยงก็แล้วกัน ....

แค่สบตา กับชายหนุ่ม ละอองดาวถึงกับอุทานออกมา โอ้โห หล่ออย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว .... ละอองดาวตาเป็นประกาย หมายมั่นว่าจะต้องจับหนุ่มรูปหล่อคนนี้มาทำสามีให้ได้ .... หลังจากนั้น ละอองดาวก็ได้เจอหน้าพิษณุบ่อยๆ ทุกครั้งที่เจอ ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจละอองดาวแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเวลาที่ชายหนุ่มสั่งโอเลี้ยงมาดื่ม น้ำเสียงของเขายังฟังดูช่าง เย็นชา เสียจริง .....

หญิงสาวถึงกับทนไม่ได้ รำพึงรำพันกับตัวเอง ...” พิษณุจ๋า อย่า เย็นชากับละอองดาวนักเลย ละอองดาวรักคุณนะ รักมากจริงๆ” ด้วยไฟราคะทำให้หญิงสาวเกิดอารมณ์ชั่ววูบ คิดแผนการอุบาทว์รวบหัวรวบหางชายหนุ่ม หล่อนใส่ยานอนหลับลงในแก้วโอเลี้ยงของพิษณุ แล้วเอาไปเสิร์ฟ ชายหนุ่มดื่มโอเลี้ยงเข้าไปไม่ทันไรก็เกิดอาการง่วงขึ้นมา ป้าขายขนมจีนเห็นพิษณุมีอาการสลึมสลือก็เดินมาเขย่าตัวชายหนุ่ม ณุเอ้ยย ... ณุ เป็นอะไรของแกวะ ...

ละอองดาวกลัวจะเสียแผน รีบวิ่งมาบอกป้า ... ป้าๆ หนูว่าพี่เค้าไม่สบายนะ เดี๋ยวหนูช่วยนะป้า ป้าไปขายของต่อเถอะ หนูฝากร้านด้วยแล้วกัน แล้วรีบประคองชายหนุ่มซึ่งแทบเหมือนคนไม่มีสติขึ้นรถแท็กซี่ไป ละอองดาวสั่งให้แท็กซี่ขับไปที่ บ้านร้าง ท้ายซอย แล้วให้แท็กซี่แบกชายหนุ่มเข้าไปไว้ในนั้น .....

ฮิฮิฮิ... ละอองดาวหัวเราะสะใจ ...พร้อมกับบรรจงปลดเปลื้องอาภรณ์ของชายหนุ่มออก ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์ คล้ายกับว่าฝันไปว่ามีหญิงสาวสวยมานัวเนียอยู่ข้างกาย แม้ภาพที่ชายหนุ่มเห็นจะเบลอก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่านั่นเป็นใบหน้าของผู้หญิง ... พิษณุครางออกมาเบาๆ ไม่ใส..แต่สวย จัง ...... เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าที่ชายหนุ่มจะรู้สึกตัว เขาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความงงงวย เฮ้ย.. เสื้อผ้าตรูอยู่ไหนฟระ แล้วที่นี่ที่ไหน พลางมือก็ควานหาเสื้อผ้า แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ชายหนุ่มก็ขนลุกซู่ขึ้นมา ... ใครน่ะ นอนอยู่ข้างกายเขา ..... พิษณุ หันไปมอง แล้วร้อง ว๊ากกกกกกกกกก คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง ทำไมๆๆๆ อ๊ากกกกกกกกก... ชายหนุ่มโวยวายเหมือนคนเสียสติ ...ละอองดาวยิ้มทำท่าเอียงอายแล้วบอกว่า หนูเป็นของพี่แล้วนะ พี่ต้องรับผิดชอบหนูด้วย

ชายหนุ่ม ตกบันไดพลอยโจน รับละอองดาวมาเป็นเมียด้วยความกล้ำกลืน เพราะคิดว่าตัวเองนั้นบังคับขืนใจหญิงสาว ... พิษณุบ่นกับตัวเองว่าไม่น่าเลยตรู ... นึกว่าไม่ใส..แต่สวย ... พลันหันไปมองหน้าภรรยาหมาดๆแล้วน้ำตาตกใน . นี่มัน ไม่สวย..แต่ใส นี่หว่า !!

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:11:41 น.  

 

เรื่องที่ 16 โดย ท่าน ศรานรา

********

ขออนุญาตเจ้าของภาพทุกภาพ ด้วยนะคะ
Credit ภาพ :
ตอนที่ 1 คุณskrider, คุณmangpor
ตอนที่ 2 คุณBATC, คุณข้าวหลามหนองมน, เจ้าของภาพเสื้อเขียว-ขาว
ตอนที่ 3 คุณMilkyway, คุณHT
ตอนที่ 4 คุณBATC, คุณRavicha
ตอนที่ 5 คุณHT,คุณskrider, ท่านลิลลี่

1.

2.

3.

4.

5.

6.

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:16:39 น.  

 

เรื่องที่ 17 โดย happy infinity

********

“เร่เข้ามาๆ ขนมจีนน้ำยาร้อนๆจ้า อร่อยจนหาไม่ได้อีกแล้ว” เสียงแม่ค้าขายขนมจีนฯร้องเรียกลูกค้าพลางเข็นรถเข็นผ่านไป ปลุกให้เธอตื่นจากห้วงคำนีง

“เฮ้อ วันนี้เค้าก้อคงไม่มาเหมือนเคย”

พิษณาบ่นกับตัวเองเบาๆ ขณะเดินออกจากร้าน “ไม่ใส แต่สวย” มุ่งหน้ากลับสู่บ้านของเธอ

“8 เดือนแล้วสินะ ที่เรามารอเขาแบบนี้ เขาช่างเย็นชานัก ทำไมถึงทำกับเราได้”
พิษณารำพึงด้วยความเศร้าใจ แล้วคิดย้อนกลับไปเมื่อบ่ายวันนึง เมื่อ 8 เดือนที่แล้ว

บ่ายวันนั้น จู่ๆฝนก็เทลงมาอย่างหนัก พิษณาซึ่งกำลังเดินทางกลับบ้าน ต้องรีบไปหลบฝนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านร้างแห่งหนึ่ง
ทำให้เธอได้พบกับเขา

ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มอันอบอุ่น และดวงตาอันแสนหวาน

แค่สบตากับเขา หัวใจของเธอก็สั่นไหว มือไม้เกะกะไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนซะอย่างนั้น

เค้าชวนเธอคุยเล่นเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลา แต่พอได้คุยกัน เหมือนได้เคยรู้จักกันมานานแสนนานอย่างนั้น
เขาและเธอคุยกันถูกคอมากจนเธอไม่อยากให้ฝนหยุดเลย...

2 ชม.ผ่านไปไวเหมือนโกหก ฝนหยุด ท้องฟ้าสดใส เธอรู้สึกใจหาย เมื่อคิดว่าจะไม่ได้พบกับเขาอีก

แต่แล้ว...เขาก็เอ่ยปากขอเบอร์โทรศัพท์เธอ

“ทำไมเราถึงโง่อย่างงี้ วันนั้นให้เบอร์เค้าไปซะก็สิ้นเรื่อง ทำเท่เป็นนางเอกหนังเกาหลีไปได้ แล้วเป็นไงละเนี่ย
ชวด ฉลู ขาล เถาะ นานๆจะมีเหยื่อ เอ๊ย ผู้ชายหลงเข้ามาในชีวิตซักคน เฮ้อ รู้งี้ฉุดเข้าบ้านร้างซะก็ดี
จะได้ตกบันไดพลอยโจนกันซะให้สิ้นๆเรื่องไป”

เขาขอเบอร์โทรศัพท์เธอ แต่เธอลังเลด้วยเกรงว่าเขาจะหาว่าเธอ Easy เกินไป
ก็เลยเขียนชื่อร้าน”ไม่ใสแต่สวย” ร้านน้ำปั่นใกล้บ้านที่เธอชอบมานั่งเล่นเป็นประจำให้เขา
และบอกเขาว่า วันที่ 8 ในเดือนหน้า เธอจะรอเขาอยู่ที่นั่น

เธอจากกับเขาด้วยความหวังที่เต็มอยู่ในหัวใจ

แล้วทุกวันที่ 8 ของทุกเดือน เธอก็ไปรอคอยเขาที่นั่น...โดยไม่เคยได้พบ แม้แต่เงาของเขา..

***

เขา...หยุดยืนมองรถคันโก้ ที่ชะลอๆตรงหน้าเขา ก่อนที่จะขับผ่านเลยไป เผื่อว่าจะเป็นใครบางคนที่เขารอคอย
แต่ก็เป็นแค่หญิงสาวแปลกหน้าที่แอบมองเค้าและซุบซิบกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเดาได้ เพราะเจออยู่เสมอๆ ว่าเขาซุบซิบถึงเขาว่าอะไร

“อุ๊ย ตัวเองๆ นั่นใช่ บอย พิษณุ พระเอกละครรักหรรษาฯคนนั้นรึเปล่า ล๊อหล่อจังเลย ตาก็ว๊านหวาน”

"ไหนๆ ว๊าย ไม่ใช่หรอก บอย พิษณุเค้าขาวกว่านี้เยอะ หล่อ สูง ขาว ตี๋ ดูดีมีชาติตระกูลกว่านี้เยอะเร้ย”

พาสนุรู้ตัวเองดี ว่าตัวเองมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของฟ้าเมืองไทยคนนั้นบ่อยๆ
แหม คิดกันไปได้ นักร้องชื่อดังแบบนั้นจะมายืนอยู่ข้างถนนทำไมกัน

พาสนุไม่ใส่ใจเรื่องพวกนั้น หันกลับมาหมกมุ่นกับเรื่องที่วนเวียนภายในใจต่อ

นี่ก็เดือนที่ 8 แล้ว แล้วเดือนที่ 9 ล่ะ เราจะไปรออีกไหม

พาสนุตั้งคำถามกับตัวเองในใจขณะเดินก้าวไปตามทาง พลางคิดถึงบ่ายวันนั้น

วันที่เขาได้เจอกับเธอ

บ่ายวันนั้น จู่ๆ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ทำให้เขาต้องรีบไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วเธอ...ก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเขา

ผู้หญิงหน้าหวาน ผมสั้นปัดเป๋ ทั้งหวาน ทั้งเท่คนนั้น

เพียงแค่เธอยิ้ม เขาก็รู้สึกมีละอองดาวมากมายพร่างพรายอยู่ในหัวใจ
เขาชวนเธอคุยเรื่องต่างๆมากมาย ยิ่งได้คุย ยิ่งรู้สึกว่า...ใช่เลย คนนี้ที่เฝ้าหามานาน
แล้วดูทีท่าเธอ ก็มีใจตรงกับเขาเช่นกัน

2 ชม.ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาขอเบอร์โทรศัพท์เธอไว้เพื่อสานสัมพันธ์ เธอเขียนอะไรยุกยิกๆครู่หนึง
ก่อนที่จะยัดใส่มือเขา แล้ววิ่งจากไป

โชคร้าย...ระหว่างทาง ฝนตกลงมาซ้ำอีกรอบ ทำเขาเปียกมะล่อกมะแล่กกว่าจะถึงบ้าน
เมื่อถึงบ้าน เขากางกระดาษแผ่นที่เธอให้มาออกดู กระดาษเปียกน้ำ ข้อความเลือนลางนั้น จับได้ใจความแค่ว่า

“ขอมรดกนะคะ”

เอ๊ย ไม่ใช่ๆ

เขียนเอาไว้ว่า

“พบกัน...8…หน้า…แต่สวย...”

เขาออกเสาะหาร้านแถบนั้นจนพบร้านที่มีชื่อนี้ แล้วก็รอคอยเธอทุกๆวันที่ 8 ตลอดมา
เพราะเชื่อมั่นว่า มันเป็นรักแรกพบ แม้เพียงเจอกันชั่วครู่ แต่เขารู้สึกได้เลย...กับเธอ...เขา...รักมากจริงๆ

8 เดือนผ่านไป...

ถ้าเพียงแต่วันนั้น เค้าตะโกนออกไปว่า “อย่า” อย่าเพิ่งไป

ถ้าเธอไม่คิดพล็อตหนังเกาหลีมาเล่นกับความรู้สึกกับเขาอย่างนี้

การรอคอย ณ. ที่แห่งนี้ มันจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหนนะ

แล้วเธอคิดยังไงกับเขากันแน่นะ ถึงนัดเขาให้มารอเธอที่ร้านนี้

พาสนุคิดกับตัวเอง ก่อนที่จะยืนหยุดยืนมองป้ายชื่อร้านสังฆทานที่เขามารอเธอทุกเดือนๆ

ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า “ไม่สวย...แต่ใส”

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:18:09 น.  

 

เรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 18 ส่งประกวดโดย ท่าน ตะละหล้า

********

ชื่อเรื่องว่าไรดี ...ไม่สวยแต่...ใส ...ละกัน ..


วสันต์ ..ชายหนุ่มผิวเข้ม ลำข้อแข็งแรงบึกบึน อย่างที่เรียกกันว่าอกสามศอก กว้างพอที่จะให้หญิงสาวมาซบอกของเขาได้ทีเดียวสามคน..ถ้าเขาต้องการ
วสันต์มีนัยน์ตาสวย พูดเพราะกับผู้หญิงทุกคนตั้งแต่อายุสิบห้าไปจนถึง......(เติมเอาเอง)

วสันต์รู้ตัวดีถึงเสน่ห์ในตัวเขาที่เขามี ..นัยน์ตาสวยของเขาแค่สบตา..หญิงสาวทั้งหลายก็พร้อมจะเดินตามเขาไปทุกแห่งแล้ว ...แต่ถึงอย่างไรวสันต์ก็ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย...ความเจ้าชู้ของเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องย้ายออกจากเชียงใหม่บ้านเกิด..ไปอยู่ที่แม่ฮ่องสอนแทน
ที่แม่ฮ่องสอนวสันต์ได้เปลี่ยนชื่อของเขาเป็น พิษณุ เขาจับพลัดจับพลูมาเป็นผู้จัดการโรงบ่มใบยาในหมู่บ้านเชิงดอย..


เขาเดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าไปในป่า..กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกสักลอยมากระทบจมูก..แสงจันทร์ส่องลอดกิ่งไม้ลงมาบนทางเดิน เขาเดินไปจนถึงจุดหมายปลายทาง..บ้านไม้หลังเก่าจนดูเหมือนบ้านร้าง บ้านของสาวสวยประจำหมู่บ้านที่มีชายหนุ่มทั้งหลายหมายปอง..คำหล้า..ชื่อของหญิงสาวที่สวยแบบบอกไม่ถูก ไม่รู้จะเรียกว่า สวยแบบใส ๆ หรือไม่ใสแต่สวยดี เอาเป็นว่าสวยแบบบ้านป่าเป็นแบบที่หาไม่ได้อีกแล้ว เขาตกหลุมรักคำหล้าตั้งแต่แรกเจอ เขารู้สึกว่าเขารักหล่อนมาก รักมากจริง ๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

พลันเสียงผิวปากเงียบลง..เขามองเห็นชายหนุ่มอีกคนยืนคุยกับหญิงสาวอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นหันมาเจอสายตาเย็นชาของเขาก็เลยกล่าวคำลาหญิงสาวแล้วเดินลงบันไดไป ..

เขาเอ่ยปากถาม ... “นั่นใครเหรอ ??ทำไมอ้ายบ่อเคยเห็น” เขาพูดภาษาเหนือได้นิดหน่อย

“อ๋อ นั่นอ้ายเต่าบ้านอยู่ท้ายหมู่บ้านปู้น” หญิงสาวตอบเบา ๆ
“อ้ายมามีธุระอะหยัง”

“อ้ายมาด้วยความคิดถึง” เขายื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหู

“คนอะหยัง” หล่อนก้มหน้าอาย ยกมือมาตีแขน(ล่ำ) ของชายหนุ่มเบา ๆ เขาจับมือหญิงสาวมากุมไว้ ด้วยใจที่เต้นแรงอย่างกับไม่เคยเข้าใกล้ผู้หญิง ...นี่กระมังหนอความรัก..ชายหนุ่มคิดกับตัวเอง

“ไปเดินเล่นข้างล่างไหม” เขากระซิบชวน “เดือนหงาย ดอกไม้ก็หอม”
เขายังไม่ยอมปล่อยมือที่กุมไว้ ...ยังคงเว้าวอน “ลงไปดูดาวเถอะ ดาวที่เห็นยังงามสู้น้องไม่ได้เลย” เขาปล่อยคำหวานออกมา
หญิงสาวใจอ่อนไปกับคำหวานของเขา

ชายหนุ่มเริ่มรุกเร้าประชิดตัวตามประสาคนใจร้อน มือไม้เขาเริ่มเปะปะไปบนร่างของหญิงสาว
“อย่า” หญิงสาวร้องบอก “เดี๋ยวพ่อมาเห็น มันบ่ดี..เฮาไปก่อนเน้อ” หล่อนวิ่งขึ้นบ้านไป

ชายหนุ่มจำต้องเดินจากมาด้วยใจโหยหา .. เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน..
คืนนั้นเขานอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะพิชิตหัวใจของหญิงสาวได้
เขาคิดที่จะพาหญิงสาวไปเมืองกรุงด้วยกัน วาดอนาคต ฝันถึงรถคันโก้ บ้านหลังใหญ่ ที่จะมีเขากับหญิงสาวอยู่ด้วยกัน
เป็นไงเป็นกันพรุ่งนี้เขาจะรวบรวมความกล้าเข้าไปพูดกับพ่อของหญิงสาวให้ได้


“อ้ายบอยยยย” หญิงสาวร่ำให้ โผซบอกเขา “พ่อโกรธมาก เมื่อคืนพ่อเห็นอ้ายอยู่กับเฮา เปิ่นบอกว่าอ้ายจะหลอกพาเฮาไปขาย...อ้ายบ่ใจ่คนบ้านเฮาไว้ใจ๋บ่ได้”
เขาฟังด้วยใจเจ็บปวด ก้มมองดูหน้าหญิงสาว ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาส่องประกายต้องแสงจันทร์ดั่งละอองดาวร่วงลงมา.. เขารั้งร่างบอบบางไว้แนบชิด เขายอมไม่ได้ที่จะต้องเสียหล่อนไป คิดดูสิริมฝีปากอ่อนละมุม ดวงตาสวยคู่นี้ จะไม่ได้เป็นของเขา ..คิดดังนั้นเขาจึงกระซิบนัดแนะหล่อน
“พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านขนมจีนน้ำยาของยายเขียดนะ อ้ายจะรออยู่ จะพาคำหล้าไปอยู่เมืองกรุงกัน”
“เฮาบ่ปิ๊กบ้านแล้ว เฮาจะไปอยู่กับอ้าย” หล่อนตัดสินใจเด็ดขาด


เขานั่งรอหญิงสาวอย่างกระวนกระวาย รอตั้งแต่เช้า จนสายก็ยังไม่เห็นหล่อนมา..เกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาว หรือว่าหญิงสาวจะหนีออกมาไม่ได้ หรือเขาควรจะไปรับหล่อน

เขานั่งคิดถึงวงหน้าเรียวขาว ดวงตาคู่สวย หล่อนสวยนัก ในเสื้อและซิ่นแบบง่าย ๆ เขาเคยเจอหล่อนแต่ในยามค่ำคืน ท่ามกลางแสงจันทร์ หรือแสงตะเกียงวับแวม เขายังไม่เคยหล่อนตอนกลางวันแม้แต่ครั้งเดียว

นั่นใคร....สายตาของเขากวาดไปเจอ นั่งอยู่ตรงข้ามร้านขนมจีนที่เขานั่งอยู่นี้ ...ถนนในอำเภอนั้นแคบนัก..เขาจึงเห็นหล่อนได้ถนัด...หญิงสาวนั่งยอง ๆ อยู่ริมถนน มีหาบคอนวางอยู่ข้างตัว หล่อนแต่งตัวอย่างเดิมนุ่งผ้าซิ่นอย่างง่าย ๆ เท้าเปลือยเต็มไปด้วยขี้ดิน แต่ทำไมท่ามกลางแสงตะวัน หล่อนไม่สวยอย่างที่เคยล่ะ

เขามองไป...เขาจะทำอย่างไรดี ตัวเขาแต่งตัวหล่อใส่เสื้อตัวเก่งผูกเนกไท แล้วหล่อนละ นุ่งผ้าซิ่น เท้าก็เลอะไปด้วยขี้ดินจนมาถึงครึ่งน่อง แถมหาบคอนอีก เขาจะไปกับหล่อนได้อย่างไร

ว่าแล้วเขาก็หันหลังกลับ เตรียมตัวที่จะชิ่งหล่อนในทันที

“อ้ายบอยยยยย” เสียงหล่อนตะโกนมาด้วยความดีใจ วิ่งข้ามถนนมาหาเขาพร้อมหาบของพระรุงพระรัง ..
“เฮามาแล้วอ้ายจะไปไหน อ้ายจะทิ้งเฮาไปก๊ะ” หญิงสาวถามเขา
“ไม่หรอก เอ่อ อ้ายก็ เอ่อ แค่จะสั่งขนมจีนน้ำยาให้” เฮ้อ จะทำอย่างไรได้...ยังไงเขาก็คงต้องตกบันไดพลอยโจน ไปซะแล้วคราวนี้ ..

เฮ้อ ไม่เป็นไร ..จะเลอะเทอะไปด้วยขี้ดิน หรือจะดูชาวบ้านไปหน่อย แต่ลองมองดี ๆ หล่อนก็ ไม่สวยแต่ใส (ละว๊า) ..



จาก....คำหล้ารีเทรินส์

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:19:32 น.  

 

เรื่องนี้โดยท่านทาสบอย.....ไม่ได้ส่งเข้สประกวด เพราะหมดเขตซะก่อน

อันนี้ แต่งเพื่อสนองความซาดิสม์ของปีศาจบางตัวเท่านั้น เฮ้อ...เวรกรรม

.......................................
เช้าวันเสาร์ที่ 4 พ.ย. 49 เวลา 9 โมงกว่า ๆ "น.ส.บานนี่" เด็กสาวหน้าใส วัยกำดัด ตาจับจ้องเขม็งไปจอทีวีที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความสนอกสนใจยิ่ง

"นายชิน หันหลังมาให้ชั้นซบหน่อยจิ"
เสียงพากษ์ตัวละครที่เป็นนางเอก จากซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา"(คำบังคับมาแว้วว) ดังออกมาจากตู้ทีวี
เป็นเสียงที่น่ารักน่าชัง จนบานนี่ เคลิ้ม คิดว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวนั่นเชียวล่ะ
ยิ่งตอนที่พระเอกให้นางเอกซบหลังด้วยแล้ว บานนี่ ถึงกับเพ้อออกไปแทนตัวละครทีเดียว "เจ้าชายชิน ของบาน"
ผั้วะ! เสียงหนังสือพิมพ์มัวนตบลงบนหัวบานนี่อย่างแรง
"โอ๊ย...ไรวะ" บานนี้เงยหน้ามองด้วยความโมโห "ไอ้พี่บ้า มาตีหัวบานทำมัย"
เจ้าของหนังสือพิมพ์พิฆาตเล่มนั้น เป็นเด็กสาวหน้าตาสดสวย ละม้ายคล้ายน้องสาวไม่น้อย ตอบพร้อมกับตีผลั้วะ เข้าที่กกหูน้องสาวอีกที(ไมมันซาดิสม์งี้วะ ....คนแต่งงง)
" ก้อ..ให้แกเลิกเพ้อ เลิกฝัน นั่งตาลอยน้ำลายย้อยเป็นทางสักทีนะเด่ะ " ชามมิ่ง พี่สาวของบานนี้ตอบอย่างไม่ไว้ภาพพจน์น้องสาวให้คนอ่านเลย
พูดจบพี่สาวคนสวย(จริงอ่ะ)ก็เดินไปล้วงซีดีจากกระเป๋าสะพายตนเอง ถือมาเตรียมเปิดในเครื่องเล่นที่วางข้าง ๆ ทีวี
"ดูนี่ดีกว่าบาน อมตะหนังไทย ที่หาไม่ได้อีกแล้ว(คำบังคับ)ในยุคนี้ พี่อุตส่าห์ไปหาซื้อมายากเย็นแสนเข็ญ รู้ป่ะ"
" ไม่รุ" บานนี่หน้างอเป็นม้าหมากรุก
"อย่าโง่น่ะ บาน ยิ่งไม่ค่อยฉลาดอยู่แระ หนังดี ๆ ยุคก่อนสมัยพวกเรายังไม่เกิดแน่ะ มาพี่จะเปิด" ชามมิ่งทำท่าเสียบแผ่นซีดีหนังไทยแผ่นนั้นลงในเครื่องเล่น
" โอ๊ย ไม่เอานะพี่ชาม(ชื่อเหมือนนางงามแฮะ) บานจะดูหนังเกา หนังไทยโบราณไม่ดู ไม่รู้เรื่องบ้าอะไรของพี่"
" ใครว่าเรื่องบ้า นี่มันเรื่อง ละอองดาว(คำบังคับ) ที่ป้าจิ๊ก เนาวรัตน์ แสดงนะว้อยย ไอ้บานทะโร่"
"ไม่รู้ล่ะ ไม่ดูหรอก หนังเก่าสมัยพระเจ้าเหาเกาไข่อย่างนั้นน่ะ น้ำเน่าโคตร ๆ บานเห็นมีแต่ตบจูบ ๆ เดี๋ยวนางเอกขาแพลง พระเอกอุ้มขึ้นรถ ฝนตกกลางทาง เจอบ้านร้าง(คำบังคับ) แล้วได้เสียกัน แถมได้กันครั้งเดียวท้องเลย มีอยู่แค่เนี้ย ไม่อาว ไม่ดู"
บานนี่ร่ายยาว ราวกับกดดันกับพล็อตหนังไทยมาเป็นสิบปี
"แต่กรูจะดู"ชามมิ่งเริ่มมีน้ำโห เปลี่ยนสรรพนามในฉับพลันพร้อมดันซีดีเข้าเครื่อง
"อย่า......."(คำบังคับ)บานนี่ ถลันเข้าไปกดปุ่มให้เครื่องดีดแผ่นซีดีออก
"เอ๊ะ..ไอ้นี่ พูดไม่รู้เรื่อง" ชามมิ่งตวาดพร้อมยกเท้าถีบโครมเข้าตรงสีข้างของน้องสาว "หนังเกาหลีหนุกตรงไหนวะ พระเอกนางเอกตะละคน หน้าตาดูไม่ได้ จืดสนิทไม่เห็นสวยเลย"
บานนี่เซแซ๋ด ๆ ลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนจะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ประมาณว่าเคยชินกับทีนพี่สาวเป็นอย่างดี
"ดาราเกาหลีอ่ะ ไม่สวย..แต่ใส ๆ (คำบังคับ)ทั้งนั้นแหละ "

ก่อนที่สงครามไร้สาระจะดำเนินต่อไป
คุณนายบลัดศรี มารดาของทั้งสองเดินถือจานออกมาจากห้องครัวพอดี
"กินขนมจีนน้ำยา(คำบังคับ)เจ้าอร่อยแล้วหรือยังลูก"
" ยังเลยค่ะแม่ ว่าจะดูหนังก่อน "ชามมิ่งตอบ
"ดูอะไรกัน แม่จะดูข่าว นี่ข่าวต้นชั่วโมงจะมาพอดี เปิดหน่อยสิบานช่อง 7 อ่ะ "
"มั่วแล้วแม่ ช่องเจ็ดน่ะ ละครเกาหลีไม่ใช่ข่าว นี่อยากเห็นหน้า พิษณุ(คำบังคับ) นิลกลัด ล่ะสิ แม่น่ะ รักมากจริง ๆ(คำบังคับ)กับตาคนนี้ ไม่รู้มีดีอะไร"
บานนี่ค่อนขอดแม่ไม่จริงจังนัก เป็นที่รู้กันว่าคุณนายบลัดศรีนั้น ติดรายการข่าวเพราะชอบคนอ่านข่าวที่ชื่อพิษณุ นิลกลัดมาก ลูก ๆ ทั้งสองคนเลยต้องตกกระไดพลอยโจน(คำบังคับ)ติดรายการข่าวตามไปด้วย
"มีดีที่รวยไง มีบ้านหลังใหญ่ ๆ อยู่ มีรถคันโก้(คำบังคับ)คันโต ๆ ขับ" พี่สาวตอบแทนมารดา
"บ้าเหรอพวกแกเนี่ย ชั้นชอบที่เค้าอ่านข่าวดี เสียงนุ่มนวลอบอุ่น ดูเป็นคนดี ไม่ต้องรู้จัก แค่สบตา(คำบังคับ)ก็รู้แล้วว่าคนคนนี้น่ะคบได้"คุณนายบลัดศรีชี้แจงทั้งที่ไม่จำเป็น (แต่ถ้าไม่พูดออกไป คำบังคับก็ไม่ได้ใช้สิวะ(คนแต่ง..))
"ต๊ายแม่มีเขินว่ะ ไอ้บาน ว่าก็ว่าเถอะนะ แม่เรานี่ยังสวย ยังใส อยู่เลย ทำไมไม่หาแฟนใหม่สักทีอ่ะแม่"(อ้าว..เป็นแม่ม่ายอ่ะดิ เพิ่งรู้ กร๊ากกก)
"ใช่พี่...อย่างแม่เค้าเรียกว่าไม่ใส ...แต่สวย(คำบังคับ) ฮี่ๆๆๆ"บานนี่แซวแม่พร้อมหัวเราะอย่างไร้เหตุผล
"ถูกกกกกกกกกก....ส่วนชั้นน่ะ ไม่สวย...แต่ใส(คำบังคับ)เฟร้ยย"

จบ...

...........................................................................

บอกแล้ว คำครบเมื่อไหร่ เรื่องจบเมื่อนั้น
เนื้อหาไม่เอา

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:24:50 น.  

 

นี่อีกเรื่องของท่านคุวาย ....ส่งมาช้าน่าเสียดายเรื่องหนุกดี ...

ตอน 1
คืนนั้น ในปี ค.ศ.1955 เป็นคืนที่ถึงจะไร้ซึ่งแสงละอองดาว แม้ท้องฟ้าจะไม่ใส แต่สวยด้วย
ละอองฝนอากาศหนาวเหน็บทั้งๆที่มันเป็นคืนฤดูร้อน ฝนโปรยปรายแข่งกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบ
แก้มของ ป๊ากคูวาย หญิงสาวร่างบาง นอนสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดชายคนรัก พิษณุนิ่ม
ความรักของเขาและเธอ บริสุทธิ์ดุจผิวเด็ก เกินที่กำแพงใดๆจะมาขวางกั้น ทั้งคู่กอดกระชับ...
ถ่ายรับไออุ่นจากกาย พลางมองเหม่อไปยังสนามบินปูซานผ่านหน้าต่างของบ้านร้างที่ใช้หลบฝน
และรอคอยเวลา...แห่งการล่ำลาในเช้าวันรุ่ง
พิษณุนิ่ม หนุ่มเลือดไทย ที่จำต้องกลับเมืองไทยไปช่วยคุณแม่ดูแลกิจการร้านขนมจีนน้ำยาแม่หนก
"พี่คะ ... พี่คือคนที่ฉันรักมากจริงๆ ฉันจะไม่รักใครอีก นอกจากพี่พิษณุนิ่ม ลูกแม่หนก เท่านั้นค่ะ อะฮึก.. อะฮึก"
พิษณุนิ่ม ยิ้มเศร้า จูบเธอเบาๆที่โหนกแก้มซ้าย
"ต่อให้โลกนี้ มีป๊ากคูวาย สักร้อย พัน ล้านคน ก็หาไม่ได้อีกแล้ว ที่จะเป็นป๊ากคูวายที่พี่รัก
ตรงหน้าคนนี้"
"อ่า.......เอือก.. เอือก แว่ะ.... " ไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้ที่โดนฝน หรือเพราะคำรักหวานของเขา
ที่ทำเอาป๊ากคูวายเกิดอาการ ..วิ๊ง..วิ๊ง.. วิ่งหากระโถนพล่าน
"ค่อยยังชั่วแล้วใช่ไหม ...ฉันมีบทกลอนจะให้เธอด้วยนะ .....ฉันเลยถามหัวใจฉันดู ก็เลยรู้ ที่มันตอบกลับมา ว่าใจ มันเรียกเธอที่รัก มันไม่หยุดรักเธอ เวลาขาดเธอ เหงาใจจนทนไม่ไหว"

และนั่นเป็นคำสัญญา และบทกลอนแห่งรักไร้พรมแดน ในคืนที่ก่อนทั้งสองจะพรากจากกัน
................................


ตอน 2
บ่ายวันหนึ่ง ปี ค.ศ. 2006 สถานพักฟื้นคนชรา เมืองปูซาน
"คุณยายคะ ไปนั่งกับเพื่อนๆเถอะค่ะ อีกสักครู่จะมีศิลปินคนดัง มาเลี้ยงวันเกิดที่นี่นะคะ ไปค่ะ"
เจ้าหน้าที่ดูแลบ้านพักประคองหญิงชราคนหนึ่ง ที่มักนั่งมองเหม่อไปทางสนามบินทุกวัน ไปยังบริเวณที่จัดเลี้ยง
เสียงปรบมือต้อนรับแขกคนสำคัญดังกึกก้อง หนุ่มร่างสูง ในชุดหนังสีแดงเป็นมัน ที่กำลังก้าวลงมาจากรถคันโก้ ราคาแพง
"สวัสดีครับ คุณตา คุณยายทุกท่าน วันนี้ ผม ปิ๊ดซัมนู จะมาสร้างความสุขและมอบบทเพลงให้ทุกท่านนะครับ"
" ป๊ากคูวาย อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย มีขนมจีนน้ำยาสั่งมาจากร้านอาหารไทย ของโปรดเธอด้วยล่ะ จั๊บ จั๊บ "
“ ใช่ เธอลืมพี่พิษณุนิ่มไปเถอะ จนป่านนี้แล้ว ยิ่งเธอจดจำ เธอก็ยิ่งทรมานใจเปล่าๆ “
คังดึ๊กนุก และ ซุกดีมมี
2 หญิงชรากว่าให้คติ รักไม่รุ่ง มุ่งเรื่องกินดีกว่า แก่ป๊ากคูวายเพื่อนสนิท
แต่...ป๊ากคูวายยังคงเหม่อมองไปทางสนามบินอย่างไร้ชีวิต
"สุดท้าย ผมขอมอบบทเพลงนี้ไว้นะครับ .....ฉันเลยถาม หัวใจฉันดู ก็เลยรู้ที่มันตอบกลับมา...."
ป๊ากคูวายหันขวับมาตามเสียงเพลงที่ดังแว่วนั้น เธอรู้สึกเหมือนใบหญ้าที่ใกล้ตายกำลังได้น้ำ เหมือนถุงเท้าสีดำๆ ได้ไฮเตอร์มาทำให้ขาว
เธอร้องคลอตามเพลงนั้นทันที
"ว่าใจ มันเรียกเธอที่รัก มันไม่หยุดรักเธอ เวลาขาดเธอ เหงาใจจนทนไม่ไหว.......พี่คะ "
ปิ๊ดซัมนู ดีใจที่หญิงชราร้องเพลงนี้ของเขาได้ แต่ก็แปลกใจที่เธอเรียกเขาว่า..”พี่”
"พี่คือคนที่ฉันรักเพียงคนเดียว พิษณุนิ่ม ลูกแม่หนก พี่จำได้มั้ยคะ" ป๊ากคูวายโผเข้ากอดปิ๊ดซัมนูด้วยความโหยหา
ปิ๊ดซัมนู เหมือนตกอยู่ในภวังค์ เมื่อได้ยินประโยคนั้น เขาตอบทันใด
"ต่อให้มีป๊ากคูวายสักร้อย พัน ล้านคน ฉันก็.....ก็ .. .เอ๊ะ! คุณยาย อะไรเนี่ย... "
และแล้วเขาก็ได้สติ ผลักร่างเธอออกห่าง
" พี่จำคืนนั้นของเราไม่ได้หรือคะ ที่บ้านร้างนั้น " ป๊ากคูวายยังพร่ำรำพัน
"นี่ ยาย ผมไม่เห็นเข้าใจอะไรที่ยายพูดเลย ให้ตายสิ.. ผมมาสนุกในวันเกิดแท้ๆ
กลับต้องมาตกบันไดพลอยโจนไปกับนิยายรักของยายได้ไงนี่ ผมกลับละ "
ปิ๊ดซัมนูหัวเสีย
"...ฉันสู้อุตส่าห์เฝ้ารอพี่มาทั้งชีวิต แต่พี่กลับทำเย็นชาใส่ฉัน โฮๆๆๆๆ "
ป๊ากคูวายรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอได้รับ พูดจบเธอคว้าไม้เท้าวิ่งกระย่องกระแย่งด้วยความชรา ออกไปอย่างไร้ทิศทาง
.......


ตอน 3 ตอนอวสาน
ส่วนปิ๊ดซัมนู เขาเองก็รู้สึกแปลก ๆกับเหตุการณ์เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้น ทำไมคุณยายวัย 70 จึงทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจนัก
เขาจึงไปเพื่อพบเธอในกลางดึกของคืนนั้น แต่......ป๊ากคูวายไม่อยู่ที่นั่นแล้ว เจ้าหน้าที่นำภาพถ่ายที่เธอทิ้งไว้มาให้ปิ๊ดซัมนู
เขามองดูอย่างพิจารณา แล้วพลันเหตุการณ์บางอย่างก็ผุดขึ้นมาเหมือนฝันไป......
.......เป็นเวลาเช้ามืด พื้นถนนที่เฉอะแฉะ หญิงสาวร่างบางกับชายหนุ่มร่างสูง เดินกุมมือกันออกมาจากบ้านร้างที่ดูคุ้นเคย
ชายหนุ่มกล่าวลาและเดินข้ามฟากไปยังสนามบิน หญิงสาวน้ำตาเอ่อ จ้องมองภาพด้านหลังชายคนรักไม่วางตา พลางเอ่ยว่า
" ฉันจะจดจำทุกอย่างที่เป็นพี่ไว้ตลอดไป แม้แต่....ขาลีบๆ คู่นั้นค่ะ "
ทันใดนั้น ร่างของเขา ลอยคว้างกระเด็นไปด้วยแรงกระแทกกับรถเก็บขยะ โครม !!!
" พี่พิษณุนิ่มมมมม !!!!! " เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานใจดังก้องไปทั่วบริเวณ .....

.... ปิ๊ดซัมนู สะดุ้งตื่นจากภาพในความคิด น้ำตาไหลรินด้วยความรู้สึกปวดใจในภาพนั้น
" ป๊ากคูวาย..." เขาอุทานในลำคอ
และรีบวิ่งรี่ไปยังบ้านร้างที่คุ้นเคยนั้น หัวใจสั่งให้ร่างกายทนต่อความหนาวเหน็บ สั่งสองขาลีบ ๆ ให้รีบวิ่งไปไม่รู้จักล้า
เบื้องหน้าอีกฟากถนนในตอนนี้ มีไฟสลัวๆลอดมาจากหน้าต่าง
"เธออยู่ที่นี่ ฉันรู้ ว่าเธอรอฉันอยู่ที่นี่" เขาแน่ใจ และบัดนี้ หัวใจเขาตะโกนก้องว่า เขาคือ พิษณุนิ่ม ชายที่รักป๊ากคูวายเพียงคนเดียว ดังคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อ 50 ปีก่อน

"เฮ้ย..! อย่า...เพิ่งข้ามไป....."
" กรี๊ด.......ด คนถูกรถดูดส้วมชน ช่วยด้วย ๆๆ !"

ร่างของปิ๊ดซัมนูกระเด็นไปราว 8 เมตร ในดวงตาที่ปิดสนิท เขากลับมองเห็น ตัวเองเมื่อ50 ปีก่อน นอนหมดลมหายใจในอ้อมกอดของหญิงสาวที่ร่ำไห้ปานจะขาดใจ บนพื้นถนนกลางสายฝนแห่งเดียวกันนี้
" ปะ.. ปะ.. ป๊ากคูวาย พี่มาแล้ว รอพี่ก่อน...." เขารวบรวมพลังลืมตา พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมแขนของป๊ากคูวาย
" พี่คะ.....ฮือ..ฮือ ...ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง"
"ป๊ากคูวาย พี่รู้ว่าเธอต้องรออย่างปวดร้าว ต้องเฝ้าคอยอย่างทรมาน มานานถึง50ปี พี่ .. พี่กลับมาเพื่อรักเธอแล้ว"
"แต่.....ฉันไม่ใช่ป๊ากคูวาย วัยสาวใสเช่นในอดีต 70 อย่างฉัน ไม่คู่ควรกับพี่ในตอนนี้แล้ว" หญิงสาว แม้จะอิ่มเอมในหัวใจ
แต่เธอก็หวั่นในความจริงที่ยากจะเป็นไปได้ระหว่างหนุ่มศิลปินอินเทรนด์เช่นเขา กับหญิงผมขาว ที่ไปไหนมาไหนด้วยไม้เท้าอย่างเธอ

"ต่อให้โลกนี้มี ป๊ากคูวายและพิษณุนิ่มสักกี่ร้อย พัน ล้านคู่ จากนี้ไป จะมีแต่ฉัน.. พิษณุนิ่ม และ เธอ.. ป๊ากคูวายตรงหน้านี้ เพียงคู่เดียวเท่านั้น ที่จะมีกันและกันตลอดไป "
ปิ๊ดซัมนู ซึ่งบัดนี้เขาคือ พิษณุนิ่ม ยืนยันรักให้เธอด้วยสำนวนชวนหากระโถนเช่นเคย
"ค่ะพี่ ขอให้พี่ แค่สบตาฉันด้วยรักเช่นนี้ ฉันก็พร้อมจะเป็นผักกาดเขียวเหี่ยวๆ ที่อยู่เคียงข้าง เนื้อย่างเกาหลีอย่างพี่ ตลอดไปเช่นกัน " ป๊ากคูวาย ก็เสี่ยวได้ไม่แพ้กัน

และ..คำรักสุดท้ายจากหัวใจพิษณุนิ่ม ในร่างของปิ๊ดซัมนู ก็ได้ทำให้ป๊ากคูวาย มั่นใจในรักของเขาไปชั่วนิรันดร์
" ป๊ากคูวาย เธอ..คือชีวิตอีกครึ่งของฉัน คือน้ำปลาเวลาที่ไม่มีซีอิ๊วขาว คือแสงดาวในคืนมืด คือ ตื๊ด ตื๊ด หนึ่ง ที่ฉันจะส่งความคิดถึงไป และเพราะมีเธอเคียงข้าง ฉันจึงไม่อ้างว้าง ในค่ำคืนมืดมิดที่แม้ท้องฟ้าจะไม่สวย........แต่ใส "

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:29:08 น.  

 

ต่อไปเป็นช่วงคอมเมนต์ ...โดยท่านแม่ทัพทากชมพู คอมเมเตเตอร์ผู้ทรงคุณวุฒิ

แหม ที่จริงน่าจะได้สักยี่สิบเรื่องนะ

ระหว่างที่ผลการตัดสินยังไม่ออกมา ปีศาจชักช้าท่านอื่นๆก็ยังมีโอกาสนะ ช่วงนี้ขอบรรยายความรู้สึกก่อนว่า
......ตัดสินยากมั่กมาก..........

หลักเกณฑ์การพิจารณานั้น ดูที่
สำนวนการใช้ภาษา และความคิดสร้างสรรค์

บางคนสำนวนดี ภาษาลื่น แต่ผูกเรื่องธรรมดา ก็อาจพลาดได้เพราะขาดความประทับใจ
บางคนเรื่องดี น่าติดตาม แต่ภาษาไม่ได้ หรือใช้คำบังคับไม่ครบ ไม่จบตามคำที่กำหนดก็...อาจพลาดอีก

ทีนี้มาดูกันซิว่า ความคิดสร้างสรรค์คืออะไร
นึกถึงรายการชิงช้าสวรรค์เข้าไว้

โจทย์ก็คือเพลงลูกทุ่งธรรมดา ที่ได้ยินกันจำเจ
แต่ใครสามารถ นำมาร้องมารำ หรือทำดนตรีให้สด แปลก ใหม่ หรือฟังแล้วน่าตื่นเต้นกว่าที่เคยๆ ก็มีโอกาสชนะได้

ซีไรต์ของเราก็เช่นกัน
คำบังคับที่ให้ เป็นคำบ้านๆ คำธรรมดา ถ้าสร้างเรื่องบ้านๆพื้นๆ มันก็ไม่แปลกใช่ไหม

ดังนั้นเรื่องที่เอาคำชาวบ้านๆ มาอยู่ในเนื้อเรื่องที่มีฟิลต่างออกไป จึงน่าสนใจสำหรับข้า

อย่างไรก็ตาม ยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้งานชิ้นนั้นได้รับชัยชนะ

ขอให้ทุกคนแปลงร่างเป็นปีสาจสปิริต พร้อมน้อมรับคำคอมเมนต์ได้อย่างเบิกบาน
ถูกใจมั่ง ไม่ถูกใจมั่ง อย่ามีเคือง ถือว่าเล่นกันหนุกๆ และทุกคนก็ไม่ใช่นักเขียนอาชีพ

เท่าที่เขียนกันมาได้ขนาดนี้.......ถือว่า สุดยอดแล้ว
นับถือจริงๆ

จากคุณ : ส่งอีกยังได้นะ (ทากชมพู) - [ 19 พ.ย. 49 16:34:11 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:32:33 น.  

 

เรื่องแรกของท่านกี้

มีดีตรงความกล้า ที่เขียนมาเป็นคนแรก ประมาณว่าสมองแล่นก่อนใคร อันนี้ต้องคารวะให้
เนื้อเรื่องอ่านแล้ว รู้สึกเหมือนกำลังดูลิเก กร๊ากกก
เหตุผลไม่ต้องมี......
แต่กระชับฉับไวดี

เรื่องทำท่าว่าน่าสนใจ เสียแต่ตอนจบ มันจบแบบยัดๆใส่ยังไงไม่รู้
ดูไร้เหตุผลไปนิดอะท่านกี้อะ

จากคุณ : ทากชมพู - [ 19 พ.ย. 49 20:27:09 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:34:14 น.  

 

เรื่องที่ 2 ของท่านท่าน B.LOVE

ถ้าในแง่ของการดำเนินเรื่องแบบไหลลื่นไม่ติดขัด
ก็พอได้อยู่
คืออ่านเพลินๆ เจริญอาหาร

แต่พล็อตแบบนี้......บรรยากาศแบบหนังไทยสมัยก่อน
มันซ้ำนิท่านบีเลิฟ
คือมันทำให้เราเดาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ว่าอะไร ยังไง ทำให้คนอ่านหมดลุ้น

ถ้ายังยึดพล็อตนี้ ก็น่าจะมีหักมุมตอนจบ แบบโฉดๆ หรือฮาๆ
ทำให้คนอ่านบ้าไปเลยอะไรแบบนั้น แล้วซีไรต์เรื่องนี้จะเข้าตายิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าได้เห็นการเขียนครั้งใหม่ของท่านบีเลิฟ เชื่อว่า มีแววรุ่งได้

จากคุณ : ทากชมพู - [ 20 พ.ย. 49 13:26:36 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:36:21 น.  

 

เรื่องที่ 3 ของท่านแดดยามบ่าย

เรื่องนี้เหมือนยังไม่จบนะท่านแดด มันคาๆ ยังไงไม่รู้เหมือนเขียนๆมา แล้วสมองตื้อฉับพลัน
ทำให้คนอ่าน ต้องเดาว่าแล้วตกลงอีนังละอองดาวในเรื่องนี่ มันจะทำอะไรต่อไป
แล้วมันนางเอก หรือ นางร้าย???????
ขึ้นต้นมาดูนางเอก ดูรักดีหามจั่ว พอเจอผู้ชาย กลายเป็นรักชั่วหามเสา
หื่นมากมาย........บุคลิกคล้ายๆกับพวกกองทัพปีศาจซะงั้น

แล้วก็ตอนจบนี่...ผิดกติกานะ มีคำต่อท้ายคำบังคับอีกอะ
ข้าอนุโลมให้ได้แค่อะไรสั้นๆคำเดียวเท่านั้นนะ

แต่นี่ "ไม่สวย...แต่ใส" หล่อนช่างภูมิใจนัก ......ผิดกติกาเห็นๆ

สรุป ภาษาและความหื่นผ่าน แต่พล็อตหลวม และเรื่องยังไม่สมบูรณ์

จากคุณ : ยังไม่ชมใครเลยข้า (ทากชมพู) - [ 20 พ.ย. 49 18:10:55 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:38:12 น.  

 

เรื่องที่ 4 ท่าน more_than_luv

อา......เรื่องนี้ช่างทำให้ข้าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ไม่ว่าเรื่องภาษาที่ฟังดูร่วมสมัย แต่ก็ยังมีชั้นเชิง มีความงามของการพรรณาโวหาร

คำบ้านๆของข้า ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องยุคใหม่
เป็นเหมือนบันทึก เป็นไดอารี่ และมีความเป็นสารคดีแทรกอยู่นิดๆ
ตรงนี้ข้าถือว่าท่านมอร์มีความคิดสร้างสรรค์มาก
หยิบคำเชยๆ ไปทำให้ไม่เชย จึงขอชมเชย

ในขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็ได้อารมณ์เปลี่ยวเหงา ได้แง่คิด ได้อะไรต่างๆมากมาย

อ่านแล้วอยากจะบอกใครๆที่หัวใจร้าวรอนว่า
ไปญี่ปุ่นเถอะ ไปล้างใจที่นั่น แล้วคุณจะเป็นคนใหม่น่าน...ประมาณนั้น

พูดง่ายๆว่าเรื่องนี้ อ่านแล้วนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต

ผ่านเข้ารอบสิบเรื่องสุดท้ายแน่นอน

จากคุณ : ลืมติ (ทากชมพู) - [ 20 พ.ย. 49 19:02:22 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:39:21 น.  

 

เรื่องที่ 5
ของท่านBLOODCENTER

เป็นอีกเรื่องที่ข้าชอบ เรื่องภาษานั้นผ่านฉลุยอยู่แล้น ไม่ติเช่นกัน

แต่ที่ชอบยิ่งกว่าภาษา ก็คือเนื้อเรื่องที่ดูน่ารัก น่าลุ้น
ดูซุกซน ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชวนให้ติดตามไปเรื่อยๆ
และก็จบลงอย่างโอเคเลย มีดอกไม้ฟง ดอกไม้ไฟ เออ ช่างคิดนะ

ขอย้ำอีกทีว่า อ่านแล้วสดชื่นหัวใจจริงๆ

ถ้าจะให้ติ ติตรงชื่อละคร ที่ตรงกับชื่อปีศาจในนี้อะ
มันทำให้จินตนาการคนอ่านไม่ไปสุดๆ ลดทอนความน่าเชื่อถือของเรื่องไปหน่อย (ท่านรองแกจะแก้ของแกมั้ย์?)
แต่ถ้าให้คนนอกอ่าน จุดนี้ก็ไม่ใช่ข้อผิดพลาดนะท่านบลัด

เรื่องนี้น่าจะเข้ารอบ สิบเรื่องสุดท้ายอีกแร้ววว

จากคุณ : ใครคือคิวต่อไป (ทากชมพู) - [ 21 พ.ย. 49 10:36:05 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:42:22 น.  

 

เรื่องที่ 6
ของท่าน smally

ขึ้นต้นเรื่องได้ละมุน จบก็ซาบซึ้ง
หวานแหววแต๋วจ๋า ภาษาก็ใช้ได้
เสียอย่างเดียวที่ดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนามากเกินไป

พูดโต้ตอบกันไปมา ทำให้ดูเหมือนแชทอะ

ที่จริงถ้าเพิ่มการบรรยายอีกนิด ซีไรต์เรื่องนี้จะสมบูรณ์กว่านี้
ยังไงก็ตาม ข้าขอยินดีด้วยกับลูกในท้องของหญิงเล็กด้วยคน....กร๊ากกกกกกก

ขอคิดดูก่อนนะว่าจะให้เข้ารอบมั้ย

จากคุณ : รู้สึกแต่ละคนหนาวจายย.. (ทากชมพู) - [ 21 พ.ย. 49 15:03:46 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:44:09 น.  

 

เรื่องที่ 7
ท่านหลัก......ข้าม.....อุ๊ยไม่ใช่

สั้นๆกระชับและดูขี้เกียจดี

แต่ถามว่าได้เรื่องได้ราวมั้ย ก็ได้อะนะ
รู้เรื่อง และเข้าใจ เพียงแต่ถ้าเอาคำโจทย์มาผสมให้เนียนกว่านี้ก็จะดี
นี่ใส่ไปแบบรีบร้อน ก็เลยมีบางประโยคที่ดูแหม่งๆ
อย่างเช่น........
" ก็พบความ..เย็นชา
เหมือน ..ขนมจีนน้ำยา ค้างคืน ที่ ..หาไม่ได้อีกแล้ว"

เป็นการเปรียบเปรยแบบมั่วๆ แต่อ่านแล้วขำๆ

ถ้ายาวกว่านี้ อาจเข้ารอบ........

จากคุณ : ทากชมพู - [ 21 พ.ย. 49 16:03:51 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:45:25 น.  

 

เรื่องที่ 8 ขนมจีนละอองดาว
ท่าน czephyus

....โอ้ว..อ๊ากกก.....คาดไม่ถึงว่าท่านซีจะเขียนหนังสือได้ดีขนาดนี้

ข้าอ่านตำนานร้านขนมจีนละอองดาวในเมืองกรุงแล้ว รู้สึกชื่นชมจริงๆว่าภาษาท่านซีไหลลื่นไม่ติดขัด แล้วยังผูกเรื่องได้ดี
เอาคำโจทย์ไปใช้ได้เนียน เหมาะกับเรื่องมั่กๆ ใส่แบบไม่ยัดเยียดเลย

ความรักของตัวละครก็ไม่เวอร์เกินไป ดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงๆ

แล้วดูไอเดียตรงนี้สิ ......
ขนมจีนน้ำยา ก็เปลี่ยน เป็น ละอองดาว
ขนมจีนน้ำยาป่า ก็ เรียกว่า ไม่สวยแต่ใส
ขนมจีนน้ำพริก ก็เรียกว่า ไม่ใสแต่สวย..
เพราะฉะนั้นเวลา ที่ผ่านมากินขนมจีนน้ำยา ที่ร้านผม ก็จะได้ยิน ว่า
" ละอองดาว 1 ไม่สวย 2 ไม่ใส 1" อะไรแบบนี้

........กรี๊ดด.......คิดได้ไง..............

อ่านแล้วข้าอยากลาออกจากงานไปตั้งร้านขายขนมจีนแข่งกับท่านซีเลย

ผ่านเข้ารอบไปนอนรอได้เลย

อ้อ...เกือบลืม ติดอยู่นิดว่าตอนจบผิดกติกานะท่านซี มันต้องจบด้วยคำว่า ไม่สวยแต่ใสนะ

จากคุณ : ทากชมพู - [ 22 พ.ย. 49 11:03:05 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:47:00 น.  

 

เรื่องที่ 9
ของท่าน APASRA

เรื่องนี้ติดเรต
เยาวชนอ่าน ควรมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำด้วย...กร๊าก

นี่คือประโยคเจ้าปัญหา..........
พิษณุยื่นมือไปกระตุกเปียคู่นั้น จนเธอหน้าหงาย...นอนแผ่ลงไปกับพื้นสนามหญ้า....ศีรษะของเธอ...อยู่ตรงกลางหว่างขาของเขาพอดี ความตื่นกลัวของเขาพลันผงาดขึ้นใต้ร่มผ้าในทันใด!!!

.....................................
ความจริงภาษาของท่านอาภัสราก้ไม่เลว
เสียแต่เรื่อง ยังไม่โดนใจ เหมือนแต่งๆไปยังงั้นแหละ
เหมือนมีใครเอาปืนจี้ให้แต่ง นึกอะไรไม่ออกก็ล้อเลียนบ้านทรายทองซะงั้น
ซึ่งเมื่อมานึกว่า บ้านทรายทองถูกล้อเลียนบ่อยๆอยู่แล้ว
ทำให้ซีไรต์เรื่องนี้จึงยัง...ไม่โดน

เชื่อว่า...ถ้าท่านอาภัสราตั้งใจแต่งกว่านี้ ฝีมือระดับนี้ไม่แพ้ใครแน่นอน

จะเข้ารอบหรือเปล่า ต้องดูเรื่องที่เหลือก่อนว่ายังมีเจ๋งๆมั้ย

จากคุณ : นะท่านนะ (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 11:24:20 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:48:06 น.  

 

เรื่องที่ 10
ของ แกงค์นรก

อันนี้นรกจริงๆ หาดอกไม้จันมาประชุมเพลิงได้เลย ฮ่าๆๆ

เริ่มเมนต์ตรงไหนก่อนดีวะ....
เอาที่ @.... ก่อน
อยากรู้ว่าเอา @..... มาทำไมไม่ทราบ อ่านแล้วสะดุดทุกที

ครั้นมาดูเนื้อเรื่อง มันทั้งสยอง(ต้มแมว) มันทั้งโป๊เปลือย(พิษณุผ้าหลุด) มันทั้งล้อเลียนกรรมการ(ตอนจบ)
ซึ่งอย่างหลังนี่ ไม่ได้เลย....ถือว่าไม่เคารพศาล เอ๊ย กรรมการ

นอกจากเรื่องที่จับแพะชนแกะมั่วไปหมดแล้ว มาดูภาษา
ภาษาก็วัยรุ่นเกิน วิบัติสุดริด(เอ้า ข้าก็เจือกใช้)
อย่างเช่น........
“วันนี้มัยโกดุจังว้า...

ดังนั้น ความดีเด่นประการเดียวของเรื่องนี้ก็คือ อุตส่าห์ร่วมสนุก

ถึงไม่ผ่านเข้ารอบ แต่มีสิทธิ์ชิงรางวับป๊อปปูล่าร์โหวตได้

จากคุณ : เผลอๆได้ซะก็ไม่รู้ (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 11:37:22 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:49:56 น.  

 

เรื่องที่ 11
เป็นอีกเรื่องของท่านมอร์

เรื่องนี้ก็สุดยอดอีกเช่นเคย จะเรียกว่าฝีมือท่านมอร์เนี่ยอยู่ตัวก็ว่าได้
ต่อให้เขียนกี่เรื่อง ก็ทำได้ดีหมด ประหนึ่งเป็นมืออาชีพ
เรื่องนี้ข้าก็ชอบ จุดเด่นมากๆคือเอาคำบังคับไปใช้ได้คุ้ม และใช้อย่างฉลาดสุดๆ
ยิ่งตอนจบนี่..จบแบบปราบเซียนไปเลย

โอ.......ชอบๆ บอกไม่ถูกว่าจะเอาเรื่องแรกหรือเรื่องที่สองเข้ารอบดี
ดูเหมือนไอเดียท่านมอร์มีล้นเหลือจริงๆ

แล้วจะบอกอีกทีว่าจะเลือกเรื่องไหน เพราะตอนนี้ รักพี่ เสียดายน้อง

จากคุณ : ทากชมพู - [ 22 พ.ย. 49 13:26:49 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:51:41 น.  

 

เรื่องที่ 13
ของท่าน Debra

เรื่องนี้ข้ารู้สึกเป็นกลางๆ คือทั้งภาษาและพล็อต มันไม่ถึงกับเลิศ แต่ก็ไม่เรียกว่าด้อย


ถ้าจะติ ติตรงการเว้นวรรคที่มากเกินไป อ่านแล้วตะกุกตะกัก น่าจะเขียนร้อยเรียงติดๆกัน จะทำให้อ่านได้รู้เรื่องเร็วกว่า และได้อารมณ์มากกว่า
ที่ติอีกอย่าง แต่อันนี้เป็นส่วนตัวนะ คือไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร คือสั้นไปนิด แล้วเรื่องมันเหมือนจะต่อไปได้อีกหน่อย

สรุป ตกรอบก็เสียดาย เข้ารอบก็ยังลังเล

จากคุณ : คิดก่อนละกัน (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 13:37:32 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:52:53 น.  

 

เรื่องที่ 13
ของท่านสาว
( ตะกี้เรื่องที่ 12 ลืมใส่แว่นจริงๆว่ะ)

อา.....มาเป็นกลอนแปดมาเลย ถือว่าความคิดสร้างสรรค์ใช้ได้ กะคว้ารางวัลกวีซีไรต์ใช่มั้ยล่ะท่านสาว

บทแรก....สุดยอด
...............................................
“แค่สบตา”เธอละเมอฝันหา

“อย่า…”ทำ”เย็นชา”ให้ฉันหวั่นไหว

“รักมากจริงๆ”รักมากกว่าใคร

รักหมดหัวใจ”ตกบันไดพลอยโจน”
..................................................

บทต่อไป......สุดทน เอ๊ยไม่ใช่ สุดจะเสียดาย
เพราะอะไรหรือ?????????

ก็เพราะว่า ไอ้คำสุดท้ายของวรรครับ ท่านสาวผิดหมดเลยน่ะดิ
เพราะตามกฏของกลอนแปด
คำสุดท้ายของวรรคที่สอง ต้องเป็นเสียงสูงเท่านั้น
แต่ของท่านสาว ใช้เสียงสามัญ มันเลยออกทะเล ฟังไม่เสนาะตามแบบกลอนที่ดีทั้งหลาย

คือกลอนแปดนี่ คำท้ายของแต่ละวรรคเขาบังคับเสียงด้วยอะนะ
ท่านสาวสัมผัสอักษร กับ สัมผัสนอกในได้หมด
แต่สัมผัสเสียง ผิดกระจาย

กลอนแปด เลยกลายเป็นกลอนประตูด้วยเหตุฉะนี้

ถ้าเขียนได้ถูกต้องทุกบทอย่างบทแรก

ข้าให้เข้ารอบไปเลย จริ๊ง............

จากคุณ : โหดนะคอมเมนต์เตเตอร์ (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 15:11:56 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:53:40 น.  

 

เรื่องที่ 14
ของท่าน หย่ามูแดง(ดีปลีเชือก)

อ่านแล้วรู้สึกสนุก
ท่านหย่ามูบรรยายถึงบุคลิกของกรแก้ว หรือแม่นางดาหลาได้น่ารักน่าชังและน่าติดตาม

รู้สึกเหมือนเธอเป็นนางเอก เจ้าหญิงวุ่นวายอะไรแบบนั้นเลย

เมื่อได้อ่านเรื่องนี้ รู้สึกได้ว่าคนเขียนมองโลกสวยงาม และมีความรู้สึกดีๆต่อมนุษย์และสิ่งรอบตัว

ในเมื่อเรื่องราวรื่นรมย์ สำนวนเริงรื่น
การเอาคำบังคับมาใช้ก็ดูลื่นไหล
จึงขอให้ผ่านเข้ารอบไปอีกหนึ่งเรื่อง

จากคุณ : ผ่านกี่เรื่องแล้วเนี่ย (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 16:30:30 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:54:40 น.  

 

เรื่องที่ 16
ของท่านลิลลี่

ก่อนอื่นเลย อารมณ์เรื่องมันคล้ายๆฟังนิทาน เพราะท่านลี่ไม่เอาบทสนทนานั้นมาใส่เครื่องหมายคำพูด
ถ้าเอามาใส่ จะทำให้เรื่องนี้เพอร์เฟคขึ้น จะได้ไม่ดูเป็นนิทาน

สำนวนใช้ได้ จบก็ดี ขำๆ แต่ว่าตรงพล็อต มันดูคล้ายๆกับชีวิตของพวกกองทัพปีศาจยังไงไม่รู้
คือเห็นผู้ชายหล่อๆไม่ได้ เห็นแล้วต้องหื่น และฉวยโอกาสปล้ำในที่สุด กร๊ากกกกกกก ขอโทษที่แทงใจดำ

ในเมื่อเนื้อเรื่องมันไปในทิศทางที่เดาได้ ก็เลยขาดเสน่ห์ไปหน่อย

แต่ก็อีกแหละ เรื่องนี้มันก็มีความมัน ความบ้าอยู่พอควร สำนวนก็พอทน

ผ่านก็ได้วะ......

จากคุณ : ค่อยไปตกรอบหน้า (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 20:28:40 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:55:33 น.  

 

เรื่องที่ 16
โดย ท่าน ศรานรา

ท่านศราเนี่ยต้องถือเป็นมือรางวัลเก่านะ
แต่ไม่รู้ปีนี้จะโดนปีศาจดาวรุ่งสอยร่วงอ๊ะป่าว คริๆ

ของท่านศราฉีกแนวจำเจมาเป็นการ์ตูนช่อง
.........ว้าว............
ถ้ามีรางวัลความคิดสร้างสรรค์และความขยันยอดเยี่ยม ข้าให้ไปเลย

ถือเป็นงานที่...อืมม..หลายคนคงชอบ
องค์ชายเห็นก็น่าจะชอบ(เพราะองค์ชายอาจขี้เกียจอ่านยาวๆ)

สำหรับข้าเอง ก็คงไม่อาจไม่ผ่านงานชิ้นนี้


แม้ติดอยู่นิดว่า อยากเห็นหน้าซาร่าจัง
น่าจะโผล่เป็นอะไรที่ฮาๆตอนจบนะ

......เข้ารอบไปตามความคาดหมาย.......

จากคุณ : ทากชมพู - [ 23 พ.ย. 49 12:17:13 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:56:39 น.  

 

หวัดดีบาน หมู่นี้เลอะเลือนว่ะ
สมาธิสั้นด้วย ก็เลยอ่านงานท่านแฮปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่หลายรอบ

เรื่อง 17
ของท่านแฮป

ฮิตกันจริ๊ง ไอ้เรื่องย้อนนึกถึงอดีตเนี่ย รู้สึกว่ามีหลายคนใช้มุกนี้นะ
เรื่องท่านแฮป มันเกาหลีจริงๆ เรื่องราวผ่านกาลเวลา ผ่านอะไรต่อไร ตัดกลับไปมา ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อยจนเรื่องราวดูกระจัดกระจาย

อีกอย่าง การจงใจเล่นเลข 8 โอเค ความคิดดีใช้ได้(ไงก็ขอซะหน่อยชิมิท่านแฮป)แต่ยังไม่แรงพอที่คนอ่านจะสะดุดใจหรือประทับใจ

ถ้าเล่นเลข 8 ก็ควรเล่นให้รู้สึกว่าเป็นเมนหลักของเรื่องจริงๆ

น่าเสียดายภาษาที่ดีเอาการของท่านแฮปมาอยู่ในเนื้อเรื่องที่ยังไม่กระชากอารมณ์หรือน่าสนใจมากพอ

.......อะ...ผ้าซับน้ำตาท่านแฮป

จากคุณ : ไม่อยากพูดตรงๆว่าไม่ผ่าน อิอิ (ทากชมพู) - [ 23 พ.ย. 49 12:37:37 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 19:58:03 น.  

 

เรื่องสุดท้าย
ก่อนอื่น ชมดอกไม้ก่อน




จากคุณ : ดึงระยะยาว (ทากชมพู) - [ 23 พ.ย. 49 13:24:01 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:00:41 น.  

 

เรื่อง 18
ของท่านหล้า

อืมม........ต้องยกให้เธอเลยว่าเป็นเจ้าแม่นิยายพื้นบ้าน

คืออ่านแล้วได้ฟิลบ้านนอกมาก
มีกลิ่นอายซื่อๆแบบชนบทจนไม่น่าเชื่อว่าแต่งโดยสาวกรุงไฮโซอย่างท่านหล้า

ข้าชอบตรงนี้นะ
ไปเดินเล่นข้างล่างไหม” เขากระซิบชวน “เดือนหงาย ดอกไม้ก็หอม”

โอ้...ได้อารมณ์โรแมนติกแบบบ้านๆดีแท้

สำนวนภาษา ท่านหล้าทำได้ดีอยู่แล้ว ละมุนละไมแทรกอารมณ์ขันเล็กๆ ยิ่งภาษาคำเมืองที่อ่านแล้วฟังฮู้เฮื่อง ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ขึ้นอีก

เลิฟซีนก็ไม่โจ่งแจ้ง มีอะไรมาผงาดให้ตกใจ

"ชายหนุ่มเริ่มรุกเร้าประชิดตัวตามประสาคนใจร้อน มือไม้เขาเริ่มเปะปะไปบนร่างของหญิงสาว "

ตอนจบก็อดยิ้มไม่ได้.......

สรุปว่า ท่านหล้าก็ยังคงคม เหมือนเดิม
แต่ก็นั่นแหละนะ ถ้าเป็นภาษาเอเอฟ ต้องบอกว่า "อยากเห็นพัฒนาการของน้องมากกว่านี้"

ดังนั้นปีหน้า ขอเรื่องแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวคันทรี่ได้ไหมท่านหล้า
ดูซิว่า จะเป็นยังไง

.....ลอยลำเข้ารอบไปซะดีๆ..........


จากคุณ : จบซะทีว่ะ (ทากชมพู) - [ 23 พ.ย. 49 13:36:17 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:01:41 น.  

 

ขั้นตอนของการตัดสิน

อันดับแรก ข้าจะคัดผู้เข้ารอบ 10 เรื่อง
จากนั้นเหลือห้าเรื่อง (ก็แบบนางงามอะแหละ)

แล้วค่อยเหลือสามเรื่องที่คุณภาพพอกัน

แล้ว......จากนั้นให้ทุกท่านโหวตกัน โดยจิ้มที่หลังข้าว่า
ใครคือผู้ชนะในสายตาท่าน

ส่วนรางวัลป๊อปโหวตมีหนึ่งรางวัล
ขอให้บอกหลังไมค์ไปพร้อมๆกันว่า ท่านจะให้ใครในบรรดา 19 เรื่อง

วันแมน วันโหวตเท่านั้น อย่าลืม

ไม่มีติดสินบน ไม่มีอามิสสินจ้าง
ถ้ารู้ว่าใครแอบมีตุกติก มีใต้โต๊ะ ข้าจะขอตัดสิทธิ์ในการประกวดปีต่อไปทันที

เรียนมาเพื่อทราบ..............


และก็เหมือนการเลือกตั้งทั่วๆไป
ผู้เขียนเองมีสิทธิ์โหวตให้ตัวเองได้

แก๊งนรก โปรดฟังซ้ำ..............


........................................
รางวัลมีดังนี้
รางวัลซีไรต์ยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ได้รับของฝากจากญี่ปุ่น จากองค์ชาย 1 ชิ้น

รางวัลป๊อปในใจองค์ชาย(องค์ชายเลือกเอง)
เป็นของฝากจากญี่ปุ่นจากองค์ชายอีกแหละ อีก 1 ชิ้น

รางวัลป๊อปปูล่าร์โหวต
เป็นของฝากจากญี่ปุ่นจากข้าเอง(ก็ได้วะ) ซื้อมานานแล้วยังไม่แกะกล่องนะเฟ้ย

ทุกรางวัลได้โล่เกียรติยศแปะทู้ไปจนถึงปีใหม่จากฝีมือท่านรอง


อ้อ.....ส่วนรางวัลหอม หรือ กอดองค์ชายนั้น
ข้าล้อเล่น

จากคุณ : ฝันเอาเองจิ (ทากชมพู) - [ 22 พ.ย. 49 15:41:41 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:03:02 น.  

 

สรุปว่า เรื่องที่ผ่านเข้ารอบที่สอง มีเพียง 8 เรื่อง ดังนี้ค่ะ

เรื่องที่ 4 โดยท่าน More_than_luv เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 1

เรื่องที่ 5 โดยท่าน BLOODCENTER เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 2

เรื่องที่ 8 โดยท่านซีพิษ เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 3

เรื่องที่ 11 โดยท่าน More_than_luv เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 4

เรื่องที่ 14 โดยท่านดีปลีเชือก เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 5

เรื่องที่ 15 โดยท่านลิลลี่ เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 6

เรื่องที่ 16 โดยท่านศรานรา เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 7

เรื่องที่ 18 โดยท่านตะละหล้า เข้ารอบเป็นเรื่องที่ 8

ยินดีกับผู้ที่ผ่านเข้ารอบด้วยค่ะ

จากคุณ : smally - [ 23 พ.ย. 49 14:06:23 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:04:20 น.  

 

เรื่องที่ข้าลังเลอยู่ ถือว่าไม่ผ่านเข้ารอบดีกว่า
เพราะอ่านแล้ว พอๆกัน ตัดสินไม่ถูก
และถึงผ่านเข้ารอบสิบเรื่อง ก็มีสิทธิ์เด้งตอนคัดห้าเรื่องแหงๆ( ข้าเด้งเอง)

ดังนั้น มีเรื่องที่เข้ารอบทั้งหมดแปดเรื่องด้วยกัน
ขอแสดงความยินดีด้วย

ส่วนคนที่ไม่เข้ารอบก็อย่าเสียใจ
เพราะกรรมการอย่างข้า ข้าแต่งตั้งตัวเองง่ะ
อาจไม่ได้มาตรฐานเท่าไหร่หรอก
เรื่องที่ข้าเมนต์ไม่ดี อาจจะดีก็ได้ ถ้าเอาให้คนที่เขาเก่งๆเมนต์


อย่างไรก็ตาม ขอบคุณที่ร่วมสนุกกัน

คอยลุ้นกันต่อไปว่า ห้าเรื่องสุดท้ายที่เหลือคือ???
และสามคนที่เหลือคือ??????

จากคุณ : หลายขั้นตอนจิงวุ้ย (ทากชมพู) - [ 23 พ.ย. 49 13:58:29

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:15:22 น.  

 

หลังจากไปนอนคิดอยู่หนึ่งคืน
ข้าขอประกาศ ห้าผู้เข้ารอบโดยไม่เรียงลำดับคะแนนดังนี้

1 เรื่อง “ตำนานรักร้านขนมจีน” ของท่านซี
2.เรื่อง ”หัวใจยังยิ้มได้ที่แดนอาทิตย์อุทัย” ของท่านมอร์ฯ
3.เรื่อง ” แม่นางดาหลาที่น่ารัก” ของท่านดีปลีฯ
4.เรื่อง “ เดือนหงายดอกไม้หอม ” ของท่านหล้า
5.เรื่อง “ ภารกิจรักดอกไม้ไฟ” ของท่านบลัด

ทั้งห้าเรื่อง ดีเด่นทั้งภาษา ทั้งเนื้อหา อ่านแล้วจรรโลงหัวใจให้ชุ่มชื่น จรรโลงสังคมให้น่าอยู่
ขอแสดงความยินดีด้วย
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 49 14:21:12

จากคุณ : ชื่อเรื่อง ตั้งตามใจข้าเอง (ทากชมพู) - [ 24 พ.ย. 49 14:03:54 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:16:36 น.  

 

พรุ่งนี้จะคัดเหลือสามเรื่อง

จากนั้นให้ทุกคนโหวตกันหลังไมค์ข้า ว่าใครจะได้ตำแหน่งซีไรต์ยอดเยี่ยม

ให้เวลาโหวตถึงวันจันทร์ สิบโมงเช้า
หนึ่งคน ต่อหนึ่งโหวต

และกรุณาเขียนชื่อคนที่ท่านอยากให้ได้รางวัลป๊อปปูล่าร์โหวตมาด้วย
ท่านสามารถเลือกเรื่องโปรดของท่านได้ทุกเรื่อง ไม่เว้นเรื่องที่ติดหนึ่งในสาม หนึ่งในห้า หนึ่งในแปด หรือเรื่องที่ตกรอบแรก

สรุป ตอนโหวต เขียนมาสองชื่อ
ชื่อแรกยอดเยี่ยม
ชื่อสอง ป๊อปปูล่าร์โหวต

จากคุณ : เข้าใจนะ (ทากชมพู) - [ 24 พ.ย. 49 15:38:00 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:17:43 น.  

 

ประกาศผู้เข้ารอบ สามคนสุดท้าย
เป็นสามคนสามเรื่องที่ ตัดสินใจยาก
จึงอยากให้ชาวทัพช่วยตัดสินให้
ว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็น ซีไรต์ประเพณีปีศาจยอดเยี่ยมปี 2006

3 เรื่องที่เข้ารอบนี้ ไม่มีลำเอียง ไม่มีเส้นสาย แต่เข้ารอบได้ด้วยความดีเด่นตามที่เมนต์ไปแล้ว
ได้แก่...(ดนตรีมา)

...... เรื่อง “ตำนานรักร้านขนมจีน” ของท่านซี

...เรื่อง ”หัวใจยังยิ้มได้ที่แดนอาทิตย์อุทัย” ของท่านมอร์ฯ

...เรื่อง “ เดือนหงายดอกไม้หอม ” ของท่านหล้า

.......เริ่มโหวตได้วันนี้ (ให้เวลาโหวตสักสองวันแล้วกัน หมดเขตเก้าโมงเช้าวันอังคาร )

จากคุณ : ทากชมพู - [ 25 พ.ย. 49 18:55:00 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:18:33 น.  

 

ประกาศ

รางวัล ป๊อปปูล่าร์โหวตประเพณีซีไรต์ปีศาจ ปี 2006

ได้แก่ ซีไรต์การ์ตูนเรื่อง..ที่รักของซาร่า โดยท่านศรานรา

.....ขอแสดงความยินดีด้วย.........

คะแนนนอนแผ่หรามาเลย...ทิ้งห่างแก๊งนรกที่เข้ามาลำดับที่สองหลายช่วงตัว



จากคุณ : ยอดเยี่ยมรออีกหน่อย (ทากชมพู) - [ 29 พ.ย. 49 11:04:00 ]

 

โดย: ตะละหล้า 29 พฤศจิกายน 2549 20:31:48 น.  

 

ปีศาจหายหัวไปไหนหมดเนี่ย

 

โดย: ทาสบอย (ลืมล็อกอินว้อยย) IP: 202.5.87.155 4 ธันวาคม 2549 21:02:29 น.  

 

แหะ แหะ ..มัวแต่เที่ยวเพลิน เลยลืมมาอัพเดท ..

ผลนิยายยอดเยี่ยมออกมาแล้ว ....

ได้แก่....

แท้น แท้น แท๊น แท่น....

ดนตรีมา...

 

โดย: ตะละหล้า 5 ธันวาคม 2549 1:53:25 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 68

สวัสดีทุกคน

ผู้ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมซีไรต์ประเพณีปีศาจปี 2006 ปีนี้

ห่างกันแค่คะแนนเดียว คือท่านหล้า กับ ท่านซี

แม้ข้าพยายามรอคะแนนพลิกผัน เพราะยังมีหลายคนที่ยังไม่ได้โหวต แต่ก็ไม่มีการโหวตเพิ่มขึ้น

ข้าจึงขอประกาศว่า......

จากคุณ : ทากชมพู - [ 30 พ.ย. 49 09:51:51 ]

 

โดย: ตะละหล้า 5 ธันวาคม 2549 1:55:56 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 69

ผู้ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมซีไรต์ประเพณีปีศาจปี 2006

ได้แก่ ซีไรต์เรื่อง เดือนหงาย ดอกไม้หอม ของท่านตะละหล้า

ขอแสดงความยินดีด้วย..........

สำหรับท่านซีและท่านมอร์ ...ข้าก็รู้สึกเสียดายมาก เพราะทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้าชอบสุดๆเช่นกัน
เรื่องของท่านซีนั้น เนื้อเรื่องดี ไอเดียดีเด่น
ส่วนเรื่องท่านมอร์ ก็มีความคิดสร้างสรรค์ และน่าประทับใจ
แม้ไม่ได้รางวัล...ก็ถือว่าชนะแล้วในสายตาข้า

......ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนุกในกิจกรรม แม้ว่าเมื่อดูจากรายชื่อกองทัพแล้ว ข้ารู้สึกว่า มันน้อยไปหน่อยก็ตาม...



จากคุณ : ยินดีอีกครั้ง (ทากชมพู) - [ 30 พ.ย. 49 10:07:36 ]

 

โดย: แหะ แหะ ข้าเองอ่ะ ..ดีจัยมั่ก ๆ (ตะละหล้า ) 5 ธันวาคม 2549 1:58:04 น.  

 

รางวัลซีไรต์ยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ได้รับของฝากจากญี่ปุ่น จากองค์ชาย 1 ชิ้น

ได้แก่

ซีไรต์เรื่อง เดือนหงาย ดอกไม้หอม ของท่านตะละหล้า

 

โดย: ตะละหล้า 5 ธันวาคม 2549 2:03:05 น.  

 

รางวัลป๊อปปูล่าร์โหวต
เป็นของฝากจากญี่ปุ่นจากข้าเอง(ก็ได้วะ) ซื้อมานานแล้วยังไม่แกะกล่องนะเฟ้ย

ได้แก่

ซีไรต์การ์ตูนเรื่อง..ที่รักของซาร่า โดยท่านศรานรา

 

โดย: ตะละหล้า 5 ธันวาคม 2549 2:04:05 น.  

 

ส่วนรางวัลเรื่องสั้นในใจขององค์ชายนั้น ...
คงต้องรอผลกันไปก่อน .. ช่วงนี้ องค์ชายคิวแน่นมาก
ว่างเมื่อไหร่คงจะเข้ามาอ่านและจะประกาศผลให้ รู้กัน

รักแล้วรอหน่อยเน้อ

 

โดย: ตะละหล้า 5 ธันวาคม 2549 2:06:49 น.  

 





สุขสันต์วันพ่อค่ะ

 

โดย: angel_exx (ALFA-TANGO ) 5 ธันวาคม 2549 8:14:32 น.  

 

ยินดีด้วยจ้ะสำหรับนักเขียนยอดเยี่ยม .. ตะละหล้า..และ ยอดนิยม..ศรานรา..

อย่างนี้ต้องฉลอง คริ คริ

 

โดย: ทากลูกหมู 9 ธันวาคม 2549 1:51:36 น.  

 

ขอบใจว้อยย
ที่ไปโหวตบล็อกให้
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
สงสัยได้จากท่านหล้าคนเดียวอ่ะ

ส่วนบล็อกนี้จะเอาไรดีเด่นวะ
นอกจากรักองค์ชายเป็นบร้าดีเด่นข้ามปี

 

โดย: ทาสบอย 9 ธันวาคม 2549 8:15:55 น.  

 

...สุขสันต์วันหยุด ปีศาจแสนสวยทั้งหลาย...

 

โดย: ทากลูกหมู 10 ธันวาคม 2549 0:43:30 น.  

 



วันนี้แวะมาอ่านค่ะ

สบายดีนะคะ

 

โดย: angel_exx (ALFA-TANGO ) 12 ธันวาคม 2549 8:52:36 น.  

 

 

โดย: ALFA-TANGO 16 ธันวาคม 2549 9:42:30 น.  

 

 

โดย: ทาสบอย 18 ธันวาคม 2549 17:42:43 น.  

 

แวะมาดู

เฮ้อ.......ไอสปายฉบับปีใหม่ ปกองค์ชาย สวย ใสจริงๆ

 

โดย: ทากชมพู IP: 58.136.53.153 19 ธันวาคม 2549 18:05:06 น.  

 


มาเยี่ยม
ปีใหม่ไปฉลองที่ไหนเอ่ย

 

โดย: angel_exx (ALFA-TANGO ) 21 ธันวาคม 2549 10:33:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตะละหล้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครหลงเข้ามาในนี้...ใคร่จะคุยก็เชิญได้เรยไม่ว่ากัน..

ยกบล๊อคนี้ให้เป็นของกองทัพปีศาจไปแล้น..

สามารถเมาท์แตกกระเจิดกระเจิงกันไปได้เลยไม่จำกัดจำนวน...

อ้อ...

ขอขอบคุณรูปจากท่านข้าวหลามหนองมน..แอบเอามาใช้ซะงั้น..

เพลงเพราะ ๆ อัพโดยบานนี่ และหญิงเละ ..

รูปสวย ๆ อยากให้เอามาช่วยกันใส่ด้วยนะ แล้วถ้าไปแอบเอาของใครมาก็ขอขอบคุณไว้ด้วยนะคร๊าบบบ


อ้อ เพลงรุ่นใหม่ทันสมัยไฮเทค ..ได้ความอนุเคราะห์จากท่านรอง..คนไรทั้งสวยทั้งเก่งทั้งใจดี .. ท่านรองน่าร๊ากกก
Friends' blogs
[Add ตะละหล้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.