|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
แนวทางการรักษาสิวเบื่องต้น ของแพทย์ผิวหนังในยุคปัจจุบันจาก หมออาท
หายไปเลยทีเดียวบอกตรงๆๆว่าค่อนข้างยุ่งครับ วันนี้จะมีให้ความรู้และวิธีการรักษาสิวที่สามารถรักษาได้ในไทย เพราะที่จะกล่าวต่อไปนี้คือการรักษาสิวในประเทศไทยของเราที่เองที่แพทยฺ์ทัวไปและผิวหนังต้องรู้และเข้าใจไปในทางเดียวกัน หมอว่ามันไม่อยากครับเรารองรู้หลักการและรักษาด้วยตนเองตามแนวทางที่หมอจะแนะนำเพื่อเป็นแนวทางเบื่องต้นที่ถูกต้องก่อนที่จะคิดไปพบแพทย์นะครับ บทความเรื่องสิงบทความนี้จะเป็นบทความสิวสุดท้ายที่หมอจะเขียนเนื่องจากข้างค้างสมบูรณ์และจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดที่ทุกๆคนสามารถอ่านได้เข้าใจ
สิว
ชนิดของสิว
สิวชนิดไม่อักเสบ
-close comedone(สิวหัวขาว)เป็นตุ่มกลมแข็งขนาดเล็กสีขาวเห็นได้ชัดเจน -open comedone(สิวหัวดำ) เป็นตุมแข็งตรงยอดมีสีดำ
สิวชนิดอักเสบ
-papule ตุ่มสีแดงขนาดเล็กๆ -pautule ตุ่มสีแดงขนาดเล็กๆ มีหนองบนยอด -nodule ก้องสีแดงข้างในมีหนองปนเลือด -cyst ก้อนนูนแดง ข้างในมีหนองปนเลือด
ปล. ทุกคนควรหารูปดูใน กูเกิล เพื่อเปรียบเทียบกับสิวของตนเองว่าตรงตามที่อธิบายหรือไม่ในกรณีที่ยังแยกไม่ออก หากใครแยกได้ก็ไปอ่านต่อเลยครับ
สิวมีประเภทดังต่อไปนี้(เอาที่พบบ่อยๆๆนะคับ) 1.Acne vulgaris (most common) 2.Cosmetic acne
ระดับความรุนแรงของสิว ( สำคัญมากนะครับทุกคนต้องแยกเป็นเพราะสำคัญสำหรับการเลือกวิธีการรักษาครับ)
1. Mild = เป็นสิวชนิดไม่อักเสบเป็นสวนใหญ่และมีจำนวนไม่มาก หรือ อาจมีสิวอักเสบขนาดเล็กร่วมด้วยเล็กน้อย(แต่สิวอักเสบต้องน้อยกว่าชนิดไม่อักเสบนะครับ) 2. Moderate = มีสิวชนิด papule และ pautule ปริมาณมาก อาจมีnoduleเล็กน้อยได้ 3. Severe = มีสิวชนิด papule และ pautule ปริมาณมากๆ มี nodule และ cyst เป็นจำนวนมาก
พอดูว่าเราเป็นสิวระดับไหนแล้วมาเริ่มเรียนรู้วิธีการรักษาสิวเลยคับ
ก่อนจะพูดถึงวิธีการรักษาต้องรู้อะไรในธรรมชาติของสิวก่อนนะครับโดยทั่วไปแล้วการรักษาสิวหากรักษาอย่างถูกวิธีนั้น โดยทั่วไปสิวจะค่อยๆดีขึ้นครับแต่มันไม่เร็วทันใจเป็นแน่ครับอย่างน้อยก็ใช้เวลา 2-3 เดือน และเห็นผลชัดสุดเมื่อเวลา 4-8 เดือนและอาจต้องทานยาเพื่อคลุมสิวไว้ระยะหนึ่งครับจนถึงวัยที่เป็นสิวน้อยลงค่อยหยุดยา
มาพูดถึงคุณภาพหลักฐาน และ ระดับของการแนะนำ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยทุกท่าน(บอกจะบอกคุณภาพหลักฐาน และ ระดับของการแนะนำ ของยาทุกตัวที่ใช้รักษาสิวไว้ท้ายตัวยาเพื่อที่จะได้ทราบว่ามีประโยชน์มากและเชื่อถือได้ขนาดไหน)
คุณภาพหลักฐาน ระดับ A = หลักฐานที่ได้จากการวิจัยที่น่าเชื่อถือที่สุดคือ systemic review ของ randomized controlled clinical trial สรุปว่าเชื่อถือได้มากที่สุดแล้วครับ ระดับ B =หลักฐานที่ได้จากการวิจัยที่น่าเชื่อถืออย่าง systemic review ของ controlled clinical study สรุปว่าเชื่อถือได้รองลงมาจากระดับ A ระดับ C =หลักฐานที่ได้จากsystemic review ของ Descriptive study(จากรายงานของผู้ป่วย หลายคนๆ) เชื่อถือได้แต่ยังน้อยกว่าระดับ A&B ระดับ D = หลักฐานที่ได้จากผู้เชียวชาญ
สรุประดับคุณภาพของหลักฐาน A>B>C>D
ระดับของการแนะนำ
ระดับ 1 = เป็นการบอกว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษ
ระดับ 1A = ความมันใจของคำแนะนำระดับสูง สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยแทบทุกสถานการณ์ ระดับ 1B = ความมันใจของคำแนะนำระดับสูง ควรจะนำไปใช้ในผู้ป่วยส่วนมากได้ ระดับ 1C = ความมันใจของคำแนะนำระดับปานกลาง นำไปใช้ในผู้ป่วยส่วนมากได้
ระดับ 0 = จากหลักฐานที่มีอยู่แล้วนั้นบอกไม่ได้ว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษซึ่งมาจากหลักฐานยังไม่เพียงพอหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการสร้างแนวเวชปฎิบัติยังมีความเห้นที่แตกต่าง
ระดับ 0A = ความมันใจของคำแนะนำระดับปานกลาง ผู้ปฎิบัติวิชาชีพจะทำตามหรือไม่แล้วแต่สถานการณ์ ระดับ 0B = ความมันใจของคำแนะนำระดับปานกลาง หากไม่จำเป็นไม่ควรนำไปใช้ในผู้ป่วย ระดับ 0C = ความมันใจของคำแนะนำระดับต่ำ หากไม่จำเป็นไม่ควรนำไปใช้ในผู้ป่วย
แสดงว่า ยาตัวใดที่มีระดับของการแนะนำต่ำ ทุกคนควรจะหลีกเลี่ยงการใช้เองนะครับ เว้นแต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังครับเพราะยานั้นอาจมีผลข้างเคียงรุนแรงหรือหากใช้อย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้สิวรุนแรงมากขึ้นได้คับ งั้นเรามาเริมกันเลยนะครับกับวิธีการรักษา
การรักษาสิวระดับเล็กน้อย (Mild)
ชนิดทา -Benzoyl peroxide 2.5-5% ( คุณภาพหลักฐาน A , ระดับของการแนะนำ 1A ) - Retinoic acid 0.01-0.05% ( A , 1A ) - Erythomycin2-4% solution / gel - Clindamycin 1% solution ( A , 1A ) ไม่ควรใช้ยาทาที่เป็นยาฆ่าเชื้อตัวเดียวๆควรใช้ร่วมกับ Benzoyl peroxide ดังนั้นหากจะใช้ Erythomycin2-4% หรือ Clindamycin 1% ต้องใช้ร่วมกับ Benzoyl peroxide ร่วมด้วยเสมอ -Sulfur
ดังนั้นสิวระดับนี้ ไม่ต้องรับประทานยานะครับไม่จำเป็นครับ ใช้แค่ยาทาที่เหมาะสมก็พอคับ(รายละเอียดเกี่ยวกับยา อยู่ข้างล่างสุดเลยคับ)
การรักษาสิวระดับ Moderate
ง่ายๆคือ ยาทา(เลือกเอาเหมือนในการรักษาสิวระดับเล็กน้อย) + ยารับประทานครับ ( Tetracyclin 500-1000mg / day (A , 1A) ) ถ้าแพ้ Tetracyclin ให้กิน Erythomycin 1000mg / day (A , 1A)
การรักษาระดับรุนแรง Severe
แนะนำให้พบแพทย์เลยครับ ไม่ควรรักษาเอง
การติดตามผล ดูผลหลังจากการใช้ยา 1 สัปดาห์ การดูผลว่ายาได้ผลหรือไม่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ครับหากไม่ดีขึ้น หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อนปรับยาครับ แต่ถ้าดีขึ้นให้ใช้ต่อจนสิวยุบหมด หลังสิวยุบหมดแล้วต้องใช้ยาทาคุมป้องกันไม่ให้เกิดอีกจนกว่าจะพ้นวัยที่เป็นสิวครับ
หากการรักษามาตรฐานเหล่านี้ยังไม่ได้ผลมีการรักษาทางเลือกอื่นอีกครับที่แพทย์จะใช้ซึ่งเป็นการให้ยาที่รุนแรงหรือยากลุ่มต่างๆแต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ หมอไม่อธิบายและไม่แนะนำให้ซื้อยานอกจากยาที่แนะนำกินเว้นแต่อยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ผิวหนัง
ข้อมูลตัวยาและวิธีการใช้ยาตามมาตฐาน
Tretinoin ( Trans-retinoic acid , Vitamin A acid )
ข้อบ่งชี้การใช้ยา -สิวอุดตัน(สิวหัวขาวและหัวดำ) -ถ้าใช้รักษาสิวทุกประเภทใช้ได้คับแต่ต้องใช้ร่วมกับยาอื่นๆที่ออกฤทธ์ต่างกัน เช่น ยาฆ่าเชื้อ -ใช้ป้องกันสิวอักเสบที่เกิดขึ้นใหม่ หลังจากใช้ยาแล้วอาการดีัขึ้นแล้ว- -สิวที่เกิดจากสารเคมี acne cosmetica -สำหรับการป้องกันสิวทายา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ
ปริมาณยา : cream , gel 0.01 % , 0,025% , 0,05% %และ 0.1 %
วิธีการใช้ ทาบางๆวันละครั้งก่อนนอน การใช้ในสัปดาห์แรกอาจมีผืนขึ้น หน้าแดงหรือหน้าลอกได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอาการเป็นมากเกินไปให้ลดความเข้มข้นของยาลงและลดความถึ่ของการใช้ ที่สำคัญ ยานี้ควรเลี่ยงเลียงแสงแดด ประเมินว่ายาได้ผลหรือไม่ใช้เวลา 2-3 เดือน
Benzoyl Peroxide
ข้อบ่งชี้การใช้ยา -สิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง -ไม่ค่อยดีในสิวอุดตันเท่าไหร เพราะกลไกของยาหลักคือฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยีสในรูขุมขน ส่วนอาการหน้าแห้งที่พบหลังจากการใช้ยาเกิดจาก ตัวยานี้ค่อนข้างระคายเคืองทำให้ผิวหนังลอกเป็นขุยซึงเป็นผลให้ผิวแห้งตามมาได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดนะครับ
ปริมาณยา : Aquagel , alcohol , acetone gel 2.5% , 4% , 5% & 10%
วิธีการใช้ ทาบางๆทั่วหน้า เช้า เย้น ช่วงแรกที่ใช้อาจทาทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกถ้าไม่แพ้ค่อยๆทายานานขึ้นต่อไป ในกรณีที่ทาร่วมกับ retinoic acid ควรทาคนละเวลากัน ควรระวังเพราะอาจเกิดอาการแพ้ยาได้นะครับ
ยาฆ่าเชื้อชนิดทา ( Erythromycin , Clindamycin )
ข้อบ่งชี้การใช้ยา -ได้ผลดีกับสิวอักเสบทุกชนิด
ผลิตภัณฑ์ยา ที่ใช้บ่อยๆคือ Clindamycin 1% , Erythromycin 1-2 % ยาErythromycin และ Clindamycin นั้นให้ผลใกล้เคียงกันครับ
วิธีการใช้ ทาบริเวณสิวอักเสบวันละ 2-3 ครั้ง
ยาฆ่าเชื้อชนิดกิน Tetracyclin ไม่ได้ผลใน close comedoneและ open comedone แต่ได้ผลดีในสิวอักเสบและสิวที่มีตุ่มหนอง ควรรัปประทานก่อนอาหาร หากมีอาการคลืนไส้ อาเจียร สามาระทานหลังอาหารได้ ห้ามรับประทาน นม และ แคลเซียม ระยะเวลา หาก กินไปแล้ว 3-5 เดือนไม่ดีขึ้นแนะนำพบแพทย์เพื่อนเปลี่ยนยาครับ ถ้าแพ้ Tetracyclin ให้กิน Erythomycin 1000mg / day
สำหรับ สมาชิค VIP สามารถเรียนรู้เคสตัวอย่างเพื่อเป็นแนวทางการเลือกปรับยาได้ในห้อง VIP นะครับ
Create Date : 18 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 19:10:50 น. |
Counter : 1396 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: jub IP: 222.123.168.65 19 ธันวาคม 2552 20:08:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลุ้มใจจัง IP: 125.27.220.185 21 ธันวาคม 2552 0:26:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟ้าใส IP: 125.24.171.77 22 พฤษภาคม 2553 18:42:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
สวัสดีครับ ผมหมออาท ครับ เป็นหมอผิวหนังครับ เห็นคนเวลามาปรึกษามักจะฝากหน้าและผิวไม่ให้หมอก็ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ้งหากไม่มีความรู้นับว่าเสี่ยงมากที่จะทำให้การดูเเลและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างผิด ไม่ใช้ดูแค่คำคุยโอ้อวดหรือเพราะว่าราคาแพง
|
|
|
|
|
|
|