...Time is Flying, So do what you want to do...
Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
17 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ได้ยินครั้งแรกกับคำว่า Plagiarism ?

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างที่เรียน Direct Entry Program ซึ่งวิชาต่าง ๆ ที่สอนก็จะเป็นเรื่องการทำรายงาน งานวิจัย ในมหาวิทยาลัย จริง ๆ course นี้ก้ช่วยเราได้เยอะ เพราะบอกตรง ๆ ว่า ก่อนมาเนี่ย ไม่เคยรู้เลยว่าไอ้การทำรายงานในต่างประเทศมันจะยากเย็นขนาดนี้ สมัยเรียนไนไทยไม่เคยใส่ใจมากนัก (เหมือนทำงานส่ง ๆ ไปซะงั้น)

วันนี้เรียนถึงการทำ research ที่ต้องมีการ Reference ข้อมูล เลยได้ความรู้ใหม่มาว่า ที่ออสเตรเลียนิยมการทำ reference อยู่สองแบบคือ แบบ APA และแบบ Harvard ซึ่งเวลาอาจารย์ในแต่ละวิชาเค้าสั่งทำรายงาน เค้าก็จะแจ้งให้ทราบว่าให้ทำ reference แบบไหน (บางวิชาอาจใช้แบบ APA บางวิชาก้ใช้ Harvard) ซึ่งหากเราทำรายงานโดนเอาข้อมูลมาจากที่อื่นและไม่มีการ Ref. นั้นเค้าถือเป็นเรื่องใหญ่นะที่ออสเนี่ย แบบว่า Quote ประโยคมาก็ต้องใส่บอกไว้เลยว่าของใคร แต่ส่วนใหญ่นักเรียนก็จะใช้วิธี Paraphasing ประโยคแล้วอาจจะมีการเสริมข้อมูลจากความเห็นเรา หรือแหล่งอ้างอิงอื่น ๆ ไปอีก วันนี้เลยรู้จักคำว่า "Plagiarism"

Plagiarism เหมือนกันการที่เราขโมยความคิดเห็น หรือข้อมูลมาจkกคนอื่นโดยเอามาเขียนเสมือนเป็นงานของเรา หรือความคิดของเราเอง โดยไม่กล่าวถึงว่าจริง ๆ แล้วความคิดเหล่านี้นำมาจากที่อื่น

ดังนั้นเราจึงต้องมีการทำ Reference เพื่อบอกที่มาที่ไปว่า เราไม่ได้โขมยเค้ามา หรือมานั่งเทียนเขียนเอาเองโดยไม่มีข้อมูลอื่น ๆ มาเสริมความเห็นเรา ช่วงที่เราเรียนเด็ก international อย่างเรา และอีกหลายประเทศอาจจะไม่เข้าใจนัก เพราะบางประเทศไม่ค่อยให้ความสำคัญจริงจังอย่างที่พวกประเทศแถบอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ ที่ถือเป็นความผิดอย่างหนึ่ง ถ้าอาจารย์ที่ตรวจรายงาน งานวิจัยพบเจอ ก็ตกค่ะวิชานั้น ตอนเราเรียนในมหาลัยเทอมแรก ก็มีเพื่อนชาวจีนที่โดนปรับตกให้เห็นจริง ๆ เหตุเพราะ เธอไป copy มานั่นเอง

ฉะนั้นไอ้เขียนรายงานสามพัน สี่พันคำน่ะ กว่าจะเสร็จแต่ละทีนี่ เลือดตาแทบกระเด็น สารพัดหนังสือที่กว่าจะนำมาบรรจงเขียนเป็นรายงานได้ บางเล่มอ่านสิบหน้า เขียนสรุปได้สักห้าหกประโยคในรายงาน แต่ก็ดีนะ ฝึกนิสัยตัวเองไปในตัว ให้หาแหล่งข้อมูลมากขึ้น เพื่องานที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ journal สี่ห้าอันแล้วมาสรุปว่าแนวคิดนั้นถูกต้อง ทำไปทำมาก็ชักสนุกแล้วสิ แถมบางทีได้ความรู้ใหม่ ๆ เปิดปัญญา และสมองอันน้อยนิดของตังเองอีกต่างหาก ยังไงก็แล้วแต่ อยากเห็นนักเรียนในเมืองไทยเป็นอย่างนี้มั่งจัง ไม่ใช่ copy จาก internet แล้วก็นำมาแปะ ๆๆๆ ใน word เสร็จส่งเป็นรายงานชิ้นนึง แล้วมันจะได้อะไรกลับไปเนี่ย อย่างงี้....

แค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของเรา ที่หวังว่าสักวันนึง บ้านเราคงพัฒนาการเรียนไปแบบนั้นบ้าง



Create Date : 17 เมษายน 2551
Last Update : 17 เมษายน 2551 15:38:32 น. 2 comments
Counter : 870 Pageviews.

 
can I have your e-mail? We might know each other,,, I was in OZ for study before....



โดย: Thai @ OZ IP: 203.144.197.162 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:53:01 น.  

 

เพิ่งมาเห็น ขอเป็นหลังไมค์นะคะ ให้ตรงนี้เดี๋ยวมีเมลแปลก ๆ มาเพียบ ^_^


โดย: DEKZA..JA IP: 10.0.100.7, 124.157.142.35 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:11:33:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DEKZA..JA
Location :
Gold Coast Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




...If life is not too tough like it is...
...I would like to stay away from the whole world...
...To be with myself, and Do whatever I want...


Friends' blogs
[Add DEKZA..JA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.