Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
"เกาะหลีเป๊ะ สตูล 3"

มาอัพบล็อกทริปหลีเป๊ะวันที่สามต่อค่ะ ติดตามวันก่อนหน้านี้ได้ที่ -> วันที่ 1, วันที่ 2


วันนี้ก็ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าเป็นกลุ่มแรกอีกแล้ว อาหารเมนูเดิมค่ะ เค้กกล้วยหอมอร่อยดี (ฮา) วันนี้น้องติ้นจะไม่ไปด้วย เพราะไม่ดำน้ำ เลยขออยู่บนเกาะเพื่อทำงานแทน (อะไรจะขยันขนาดนี้ -_-‘) แต่ลูกทัวร์ของเรายังมีสี่คนเหมือนเดิมค่ะ เพราะว่าวันนี้จะมีฝรั่งหนึ่งคนมาร่วมทริปด้วย ซึ่งน้องรัญไม่ได้บอกว่าเป็นชาติไหน แต่พวกเราก็เดากันว่าน่าจะเป็นเยอรมัน (สังเกตจากร้านเช่าหนังสือตรงร้านขายของภาษาเยอรมันเยอะมาก)

อากาศตอนเช้า



เราหวังว่าฟ้าจะใส่แบบนี้ตลอดไป (แต่เมฆเยอะอ่ะค่ะ)

ระหว่างรอน้องรัญ เราก็เห็นฝรั่งคนหนึ่งอยู่กับกลุ่มคนไทยอีกคนหนึ่ง ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แม้ว่าเขาจะเดินตามคนไทยกลุ่มนั้นไป จนกระทั่งน้องรัญตะโกนเรียก และบอกว่าเขาต้องไปกับพวกเราต่างหาก (ฮา)

ก็เดินไปขึ้นเรือกัน มีพี่ยูลันเป็นคนขับเรือเหมือนเดิม น้องติ้นโบกมือส่งเรา แล้วก็เดินจากไปหาอินเตอร์เนตทันทีโดยไม่เหลียวมองเราแม้แต่นิดเดียว (ในใจคงคิดว่า ดีใจจังเลยทิ้งพวกพี่ๆ (บ้าบอ) ได้แล้ว เย้ ฮา)

สืบความว่าลูกทัวร์คนใหม่ของเราชื่อโทมัส เป็นคนสวิส ลางานหกเดือนเพื่อเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว ไปประเทศเพื่อนบ้านเรามาแล้ว และก็มาเกาะหลีเป๊ะสามวัน ก่อนหน้านั้นก็ไปดำน้ำที่เกาะเต่ามาแล้ว (อิจฉาฟ่ะ)

จุดดำน้ำจุดแรกของเราในวันนี้คือ “ร่องน้ำจาบัง” ค่ะ จะมีปะการังเจ็ดสี ตั้งตารอคอยมาก แต่จุดนี้คนเยอะมากๆๆๆ และน้ำแรงมาก เนื่องจากเป็นร่องน้ำลึก (จาบัง แปลว่า ทางแยก ค่ะ) น้ำขุ่นอีกต่างหาก ก็ดำได้นิดเดียว น้องรัญก็ต้อนขึ้นเรือพาไปที่อื่นต่อค่ะ

จุดที่สองของวันนี้คือ “ด้านหลังของเกาะหินงาม” บริเวณนี้คนน้อยมาก น้ำใส และสวย พวกเราดำกันเพลินเลยค่ะ จากนั้นเรือก็พาเราไปที่ “เกาะหินงาม”




หัวเรือกับหินสีดำ เอกลักษณ์ของเกาะหินงาม




หินเปียกน้ำงามดี




ที่นี่เราต้องตั้งก้อนหินให้ได้ครบสิบสองก้อนค่ะ โทมัสตั้งได้ก่อนคนแรก ดูจริงจังมาก ทำให้เราต้องจริงจังตาม แล้วไอซ์ก็ตั้งได้ตามไปติดๆ




วายซังขะมักเขม้น




แล้วเราก็ทำสำเร็จ แม้ว่าจะโกงนิดหน่อย (โกงไงรู้เปล่าคะ ฮา)




ระหว่างเรียงก้อนหินน้องรัญก็เอาสับปะรดมาเสิร์ฟ อร่อยดี ที่เกาะนี้มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตานะคะ ถ้าใครเก็บก้อนหินจากเกาะนี้ไป จะประสบกับภัยพิบัติมากมายค่ะ ดังนั้นใครไปก็อย่าเก็บมาน้า ^^

หลังป้ายเกาะ




มาดูหน้าลูกทัวร์คนใหม่ของเรากัน (ตอนหลังกลายเป็นลูกชายไอซ์ไปแล้ว ฮา)




ถ่ายกับคุณไกด์ของเราหน่อย ดีใจมากๆ เพราะเรากลายเป็นไม่ดำไปเลย (ฮา)




ใช้เวลาอยู่บนเกาะหินงามค่อนข้างนาน (ฮา) เราก็ไปดำน้ำกันต่อที่ “เกาะยาง” มีปะการังผักกาดมากมาย สวยดีค่ะ เสร็จจากเกาะยางเราก็ไปกินข้าวกลางวันกันที่ “เกาะราวี” บริเวณ “หาดทรายขาว” เป็นเกาะที่สวยมากๆ ชอบมากเลย อยากมากางเต้นท์นอนที่นี่ (เห็นว่าหน้าท่องเที่ยวช่วงมีนา-เมษาคนราวกับหนอน แทบไม่มีที่ยืน)

วิวนี้



เห็นปุ๊บข้าวปลาไม่กิน วิ่งไปถ่ายรูปเลย

รอถ่ายมุมนี้ แต่มีคน สาวไอซ์ของเราก็เลย...



ถ่ายรูปกันแป๊บ ก็ไปกินข้าวค่ะ วันนี้จริงๆ สั่งเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว แต่เส้นใหญ่หมด เลยได้เป็นเส้นเล็กมา ไม่อร่อยอ่ะ กินไม่หมดเลย -_-‘ เลยตบท้ายด้วยผลไม้ (สับปะรดกับแตงโม) ระหว่างกินข้าวน้านัน (ไกด์ของอีกกลุ่ม) ก็เดินมาคุยด้วย เลยสืบความได้ว่าเป็นน้านันเป็นอาจารย์ของน้องรัญอีกที ฮา น้านันขำมากๆ คุยไปขำไป ตลกดีค่ะ และน้านันนี่เองที่เป็นคนจุดประกายให้เราขึ้นผาชะโดที่เกาะอาดัง

จบจากอาหารมื้อกลางวัน เราก็ไปถ่ายรูปกันอย่างเมามัน น้ำใสมากๆ ปลาว่ายมาใกล้ๆ เพียบเลย




มีหลายอันเลย




มุมชิงช้านี่ก็สุดยอด



เคยเห็นภาพตอนน้ำลง ใต้ชิงช้าจะไม่มีน้ำเลยค่ะ ทะเลใสสุดๆ สวยมากๆ


อยากพักที่เกาะนี้จังเลย




พวกเราพยายามจะถ่ายภาพชิงช้าแบบไร้คน แต่ก็มีคนอยู่ ไอซ์ก็เลย...




จากนั้นไอซ์ก็ตะโกนขอความร่วมมือจากคนตรงชิงช้า เพื่อจะได้ถ่ายรูปชิงช้าเปลือยๆ



ถ่ายภาพที่นี่กันอย่างเมามันมากๆ มีปูลมด้วย




เรื่องขำๆ คือวายซังพยายามไปถ่ายรูปให้โทมัส เพื่อให้เขามาเสนอตัวถ่ายรูปให้เราสามคน แต่โทมัสก็ซื่อมาก (หรือเปล่า) ไม่สนใจจะเสนอตัวถ่ายรูปให้เราเลย ฮา

สักพักหนึ่งน้องรัญก็มาเรียก เพื่อจะให้ดำน้ำยังจุดต่อไป แต่ก่อนหน้านั้นน้องรัญก็ให้เราดำน้ำหน้าเกาะก่อน น้ำไหลแรงมากๆ แป๊บเดียวผ่านวูบมาถึงเรือเลย (ฮา)

จากนั้นคุณไกด์ก็พาไปดำน้ำต่อที่ “เกาะอาดัง” บริเวณ “หาดสอง” มีหอยมือเสือสารพัดสี เยอะมากๆ ดำน้ำแล้วแบบว่าจิ้นบรรเจิดมากๆ เลย ได้ฉากไปเขียนนิยาย DOL เลยค่ะ (พอดีเขียนฉากใต้น้ำอยู่ เอทล์กับริสซี่อ่ะนะ ฮา) ชอบมากๆ ก็ตรงที่หนึ่งมีปะการังโต๊ะแผ่ขยายออกไปเป็นแผ่นใหญ่ ตรงกลางมีหอยมือเสือฝังตัวอยู่ สวยมากๆ เลยค่ะ ชอบๆ

ต่อจากหาดสอง น้องรัญจะพาไปดำน้ำที่อื่นต่อ แต่พวกเราก็บอกว่าอยากไป “ผาชะโด” เพราะน้านันบอกเอาไว้ น้องรัญถามว่าจะไปจริงๆ เหรอ ต้องเดินขึ้นเขาไปเจ็ดร้อยเมตรนะ พวกเราก็ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปเหอะ ก็ตรงไปยังหน้าเกาะอาดัง

นี่ใช่มั้ย รีสอร์ตเอกชนที่กำลังสร้างบนเกาะอาดัง เป็นรูปร่างแล้วนะคะ เหอ เหอ เหอ




ผาชะโด เป้าหมายต่อไปของเรา




เกาะอาดังเงียบดีจังเลย มีที่พักของอุทยานตั้งอยู่ ห้องน้ำห้องท่าสบายมากๆ มากางเต้นท์ก็เวิร์คดีนะคะ น้องรัญเดินน้ำขึ้นเขาไป กล้องข้าพเจ้าแบตฯ หมด แถมยังลืมเอาแบตฯ สำรองมาด้วย เศร้ามากๆ T^T รูปทั้งหมดเลยฝากให้ไอซ์กับวายซังถ่ายนะคะ (และทั้งสองสาวก็ฝากกล้องไว้กับโทมัส <- ลูกชายไอซ์ ฮา)

เดินกันหนุกหนานมาก วายซังกับไอซ์ลำบากสุดๆ เพราะรองเท้าแตะ (ส่วนเราใส่ scholl รัดส้นเลยสบายไป) จริงๆ ผาชะโดมีทั้งหมดสามชั้น พอขึ้นไปถึงชั้นหนึ่ง (ที่แคบมากๆ) ก็เห็นเกาะหลีเป๊ะค่ะ แต่เพราะเป็นชั้นหนึ่งเลยเห็นหลีเป๊ะแค่ครึ่งเกาะ (ฝั่งหาดชาวเล) ต้องขึ้นไปชั้นสองถึงจะเห็นหาดทั้งสองด้าน เสียดายที่ตอนนั้นเมฆฝนมาแบบเพียบมากๆ วิสัยทัศน์เลยไม่ชัดเจน ทำให้เรามองไม่เห็นร่องน้ำค่ะ (รอรูปบนผาชะโดจากกล้องไอซ์ หรือวายซังนะคะ)

จริงๆ อยากขึ้นไปชั้นสองและสามนะคะ แต่ว่าฝนทำท่าจะตก ก็เลยรีบปีนลงมา เพราะทางไม่ค่อยดี ถ้าฝนตกนี่ไม่ต้องพูดกันเลยค่ะ จากนั้นน้องรัญก็พาไปจุดดำน้ำสุดท้ายอีกหนึ่งที่ คือ “เกาะกระ” อยู่ด้านหน้าเกาะหลีเป๊ะเลยค่ะ ประโยคเด็ดก็คือ

“ตรงนี้น้ำนิ่งครับ แต่คลื่นแรง”

วายซังขำก๊าก คือคลื่นโยนตัวแรงมาก เพราะฝนตกไงคะ แล้วน้ำจะนิ่งได้ไง ฮา แต่จริงๆ แล้วกระแสน้ำด้านล่างจะค่อนข้างนิ่งค่ะ พวกเราเห็นคลื่นก็มองหน้ากันแบบว่าเอาจริงเหรอ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาเลย ลงกันเลย และจุดนี้ก็สวยมากๆ น้ำตื้นมากเลย กลัวเหยียบถูกหอยเม่นมากค่ะ แต่ก็รักษาตัวกันได้ดีน้า

ที่เกาะกระไอซ์ทำท่าจะไม่ยอมกลับ (แม้จะหกโมงแล้ว ฮา) จนเห็นพระอาทิตย์ตก พวกเราก็รีบขึ้นเรือกัน เพราะจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก (โอกาสสุดท้ายแล้วอ่ะค่ะ วันนี้) พี่ยูลันใจดีมากๆ พาเราแล่นเรือไปตามหามุมถ่ายพระอาทิตย์ตก

ขืนใจแบตฯ กล้องถ่ายมาได้สองสามรูป (ฮา)




ฝั่งหาดชาวเลนะคะ



ฝั่งนี้เราจะเห็นซากสะพานสูงตั้งอยู่ แอบงงนิดหน่อย เพราะเห็นในโปสการ์ดที่วางขายเป็นสะพานแบบสมบูรณ์ พอถามน้องรัญ ก็ได้ความว่าเป็นสะพานท่าเทียบเรือเมื่อนานมาแล้ว แต่ปัจจุบันพอผุพังก็ไม่ใช้แล้ว เพื่อให้ชาวบ้านได้มีรายได้ในการขับเรือหางยาวรับนักท่องเที่ยวเข้าเกาะค่ะ เพราะถ้ามีสะพานท่าเทียบเรือ เรือใหญ่เข้าจอดได้ พวกชาวบ้านก็จะขาดรายได้น่ะค่ะ

จากนั้นน้องรัญก็มาส่งเราที่ฝั่ง หกโมงนิดๆ ก็นัดกันกินข้าวตอนหนึ่งทุ่ม ไอซ์ก็เลยชวนโทมัสให้มานั่งโต๊ะเดียวกัน กลับห้องไปอาบน้ำอาบท่า สงสารน้องติ้นมากมาย เพราะตอนกลางวันก็ไม่ยอมกินข้าว เนื่องจากไปนั่งกินโรตีคนเดียวมา เลยอิ่ม กินกลางวันไม่ลง (ไม่คุ้มแพ็กเก็ตที่สุดเลยน้อง T-T)

อาหารมื้อเย็นก็เริงร่ากินกันไป ระหว่างนั้นไอซ์ก็ถามน้องรัญว่าร้านขายเครื่องดื่มเจ้าไหนอร่อย เมื่อวานไปกินมาร้านหนึ่ง (ไอซ์ออกชื่อร้านด้วยเสียงดัง ฮา) ไม่ได้เรื่องเลย น้องรัญเลยแนะนำตรงถนนที่มีร้านค้าเยอะๆ เพราะริมชายหาดนี่เขาขายบรรยากาศกับ เอ่อ กัญชา ^^’’ ก็เลยว่าเดี๋ยวลองไปดูกัน

จบอาหารมื้อเย็นปิดท้ายด้วยผลไม้ประจำเกาะ (แตงโตกับสับปะรด) พวกเราก็ไปร้านโรตีเจ้าเดิม โดยมีลูกชายไอซ์ตามไปด้วย วันนี้รีเควสโรตีมะพร้าวราดช็อกโกแลตแบบไม่เอาไอศครีมอร่อยมากมาย แต่ขำคนเสิร์ฟที่แบบว่าเอาไปเสิร์ฟผิดโต๊ะ แล้วเอาเมนูอื่นมาให้ โดยถามว่า “ได้มั้ยอะ” คือแบบว่าเหวอ ได้อะไรเหรอ ไม่ได้อ่ะ เพราะเราไม่กินกล้วยหอม (กินได้แต่ไม่ชอบ เรื่องอะไรจะฝืนใจ เมื่อไม่ใช่ความผิดของเราอ่ะนะ)

สรุปเขาก็ไปทำมาให้ใหม่ ฮา

น้องหมีกับโรตีของพวกไอซ์



น้องหมีน่าสงสาร เพราะถูกหยกประทุษร้าย ทำแขนขาหลุดกระเด็น ฮา

หมีน้อยรักติ้น




แล้วไปสูบเลือดวายซัง




ก่อนมาออกกำลังดันแก้วชานมสด (วันนี้อร่อย ฮา)




มองหน้าคนดูนิดหนึ่ง




จากนั้นก็เดินกลับออกมาโดยไม่ได้ไปร้านดื่ม เพราะติ้นดูเหนื่อยๆ บวกกับอยากส่งโทมัสกลับไปสู่ที่ของตนเอง (ฮา) แต่ก่อนหน้านั้นเราก็เดินไปอีกด้านของชายหาด (ฝั่งวารินทร์รีสอร์ต) ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารทั้งนั้นเลย มีของสดวางขาย ให้เลือก และเขาจะปรุงรสให้เราค่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ก็เลยพากันเดินกลับ ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปร้านเมื่อวานที่แสงสีดึงพวกเราเข้าไป (ฮา)



บรรยายกาศมันน่านั่งแบบนี้ ใครจะอดใจไหวเนอะ

จากนั้นพอถึงบันดาหยา พวกเราก็ว่าไปนั่งดื่มกันสักแก้วดีกว่า แต่ติ้นไม่ไหวแล้ว ขอตัวกลับก่อน พวกเราตอนแรกก็จะกลับ แต่เนื่องจากลูกชายไอซ์ไปรอที่ร้านเหล้าของรีสอร์ตระหว่างที่เราไปห้องน้ำกันแล้ว ก็เลยบอกติ้นว่าเดี๋ยวจะรีบกลับไปหา (ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย T-T)

แก้วแรกที่สั่งได้ฟรีค่ะ เพราะไอซ์บอกว่าเมื่อวานไปกินค็อกเทลไม่ได้เรื่องเลยยย พี่แซม (กัปตันคนนั้น ที่เหวอเพราะไอซ์ไปเมื่อวาน) ก็บอกว่าที่นี่บาร์เทนเดอร์ไปเรียนมานะ อร่อยแน่นอน ถ้าไม่อร่อยเขาจ่ายให้เอง แก้วแรกไม่ปลื้มค่ะ พี่แซมเลยจ่ายให้ (ฮา) คาลัวร์ของเราก็หวาน ของวายซังสั่งไรหว่า สีฟ้าๆ

แล้วก็เหมือนกับเป็นการฆ่าได้หยามไม่ได้ บาร์เทนเดอร์กับพี่แซมพยายามหาค็อกเทลที่ทำให้ไอซ์ออกปากว่าอร่อยให้ได้มา (แต่ไม่ฟรีแล้วนะ ฮา) ไอซ์เลยสั่งเป็นช็อตไป

น้องบาร์เทนเดอร์ (ชื่อไรอ่ะ จำไม่ได้แล้ว) ตั้งใจทำมาก




ไอซ์ก็ตั้งใจดื่มมาก (ฮา)



*สังเกตพี่เบลอๆ ตรงมุมขวานะคะ

ได้ข่าวว่าแก้วนี้ปลื้มนะ จากนั้นก็เลยสั่งอีกช็อต จำชื่อได้ว่า “เรนโบว์”



เพราะเปิดตำราทำกันเลย เสร็จแล้วก็มีเอามาเทียบด้วย (ฮา) แก้วนี้ก็ปลื้มนะ (ใช่มั้ยไอซ์ ฮา)

จากนั้นพี่เบลอๆ ตรงรูปข้างบนก็มานั่งคุยด้วย พี่เขาถามว่า KU ตรงเสื้อที่เราใส่ (พอดีใส่เสื้อ KU Dive อ่ะค่ะ) เป็นตัวย่อของอะไร บริษัทเหรอ ก็บอกว่าไม่ใช่ KU ก็ Kasetsart University อ่ะค่ะ พี่เขาก็เลยแนะนำตัว ว่าเขาก็เคยูนะ จริงๆ ต้องรุ่น 52 แต่เอนท์ช้าไปปีเลยเป็นรุ่น 53 ส่วนเราอ่ะรุ่น 54 (โอ้ โลกกลม) แต่พี่เขาเป็นเด็กเศรษฐ์ศาสตร์ ส่วนเราน่ะประมง พี่ชื่อพี่เป๊กค่ะ และเป็นเจ้าของบันดาหยา (โอ้) พี่เป๊กบอกว่าถ้ารู้ตั้งแต่วันแรกน้า บนโต๊ะมีกุ้งมังกรมาเสิร์ฟแล้ว (จริงเปล่าเนี่ย) เสียดายมารู้วันสุดท้าย (พรุ่งนี้จะกลับแล้ว) พี่เขาเลยเลี้ยงเหล้าพวกเรา ลากยาวไปถึงตีหนึ่งเลย ประมาณว่าบาร์ปิดแล้ว แต่พี่เขาก็ยังเลี้ยงเราต่อ เพราะเลี้ยงเท่าไหร่ก็ไม่เมาซะที (ก็พวกเราอ่ะคอแข็ง ฮา) อ้อ โทมัสก็นั่งอยู่ด้วยจนสุดท้ายเลย (ได้อานิสงค์ค็อกเทลฟรีไปหนึ่งแก้ว ฮา)

จากนั้นก็แยกย้ายกลับที่พัก แบบว่า...น้องติ้นน่าสงสารอ่ะ หลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน พี่ขอโทษน้า T-T

พรุ่งนี้วันเดินทางกลับแล้วค่ะ เดี๋ยวมาเจอกันนะคะ ^^

เด็กทะเล
08.12.30


ป.ล.1 จากที่คุยกับพี่เป๊ก รีสอร์ตต่างๆ ในหลีเป๊ะเริ่มบลูมได้สองปีแล้ว และกำลังก่อร่างสร้างใหม่อีกมากมาย ห้องพักแพงมากๆ เพราะห้องพักดีสุดของบันดาหยา แพ็กเก็ตที่เราจ่ายเงินมา (สี่วันสามคืนเกือบๆ หกพัน) พักได้แค่คืนนิดๆ เท่านั้น T-T

ป.ล.2 เหตุการณ์วันนี้บ่งบอกว่า ถ้าไปครั้งหน้าต้องใส่เสื้อประกาศสถาบันไปตั้งแต่วันแรก เพื่อให้ได้กุ้งมังกรมาวางบนโต๊ะ ฮา ขอบคุณพี่เป๊กสำหรับสปอนเซอร์น้ำเมาด้วยนะคะ เอ๊ย ผิดไอค่อน ฮา

ป.ล.3 ไปครั้งหน้าอยากไปกางเต้นท์นอนที่เกาะราวี หรือไม่ก็เกาะอาดังค่ะ พักบ้านพักอุทยานของเกาะอาดังก็ได้นะ น่าจะสงบเงียบดี


Create Date : 30 ธันวาคม 2551
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 12:43:07 น. 4 comments
Counter : 2302 Pageviews.

 
กรี๊ดดด อัพเร็วมาก ของเรายังอยู่ในกล้องเลยฟ่ะ ฮา

เสียดายมากที่อ้อมใส่เสื้อช้าไปหน่อย ไม่งั้นได้เหล้าฟรีทุกคืนแหง ฮี่ๆๆๆๆ เหล้าแก้วหลังๆ อร่อยเกือบหมดเลย สองแก้วข้างบนอร่อยนะ กิกิ

ดำน้ำสนุกมากมาย ตัวดำปี๋ ยังลอกไม่หมดเลยฟ่ะ ... สงสารน้องติ้น โดนพวกพี่ลากไปทรมาน T^T

คุณลูกชายส่งข้อความมาถามว่า ที่กรุงเทพฯ มีบาร์อะไรบ้าง ... ถามผิดคนแระ ถึงจะคอแข็ง แต่ก็ไม่เที่ยวกลางคืนเฟ้ย


โดย: Clear Ice วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:0:15:48 น.  

 
อัพล่ะ...อัพแบบขี้เกียจมากมาย ฮา

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=clear-ice&month=31-12-2008&group=12&gblog=17

>_<


โดย: Clear Ice วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:19:08:00 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ แล้วก็รออ่าน dol ของพี่อ้อมที่จะมีฉากใต้น้ำสวยๆของเกาะอะไรหว่า จำไม่ได้เดี๋ยวเลื่อนไปดูข้างบนก่อน ฮา อิอิ เกาะอาดัง บริเวณหาดสอง 555


โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 58.9.49.163 วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:19:52:48 น.  

 
งืออออออออออออออออ


ถ้ารู้ว่ามีแบบนี้หนูยอมถ่อจากเชียงใหม่ไปด้วยแล้ว


โดย: waidhaya วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:1:20:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.