|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
- 'Winter in Furano, Hokkaido' - 1
- Satou Steak House at Kichijoji, Tokyo
- Ikura Cave & Takahashi Town - Okayama
- Saijo Inari - Okayama
- บันทึกการเดินทาง Fukuyama -> Okayama -> Hokkaido -> Okayama
- บันทึกการเดินทาง Kansai Airport -> Kobe -> Kagawa -> Okayama -> Kumamoto -> Okayama
- Tottori Sand Dune (鳥取砂丘)
- Moss Pink & Tulip - Hokkaido, Japan
- Yakushima (2): Jomon sugi ตอนท้าย
- Yakushima (1): Jomon sugi ตอนต้น
- Summer in Hokkaido (2) - จบ
- Summer in Hokkaido (1)
- Kansai Trip (จบ): Houryuuji - Nara
- Kansai trip (1): Kyoto
- Japan: Shirakawago - Gifu (จบ)
- Japan: Shirakawago - Gifu (4)
- Japan: Bokka no Sato - Gifu (3)
- Japan: Takayama - Gifu (2)
- Japan: Takayama - Gifu (1)
- Tokyo (5): Shibuya & Akihabara (จบ)
- Tokyo (4): Ueno Park
- Tokyo (3): Shinjuku & Sumidakawa - Asakusa
- Tokyo (2): Asakusa
- Tokyo (1): Akihabara
- Nara (1): Japan
- Kurushima Straits Bridge, Ehime-Japan
- Hiroshima Part II (จบ): Miyajima
- Hiroshima, Japan (Part I: Hiroshima city)
- Okinawa (5): Sayo-nara...Okinawa
- Okinawa (4): Ikei-island, Glass boat and Memorial of World War II
- Okinawa (3): Manzamo, Pineapple Park and Okinawa Churaumi Aquarium
- Okinawa (2): Nagannu Island
- Okinawa (1): Shurijo Castle Park
- Sea and Sky: Amakusa, Kumamoto
- White winter in Sapporo
- White illumination - Odori Park, Sapporo
- Eki-ben
- Kouyou, Hokkaido University
- "Asahiyama Zoo" Asahigawa, Hokkaido
- พาเที่ยว "Ghibli Museum, Mitaka"
- "มาเจาะน้ำแข็งกันเถอะ"
- เส้นทางชมธรรมชาติกับบ่อโคลนเดือดริมทะเลสาบ
- Akan Natural Park: Part I มาริโมะน้อยกลอยใจ
- เริ่มแรก
|
|
|
|
|
Tokyo (5): Shibuya & Akihabara (จบ)
วันที่ 31 มีนาคม 2550
วันนี้ตื่นมาไม่เช้ามาก ไปกินอาหารที่ห้องอาหารญี่ปุ่น (ลืมบอกไปว่าเมื่อวานเช้าไปกินอาหารจีน ฮา) แล้วก็กลับมาอาบน้ำเก็บของ เพื่อเช็กเอ้าท์ เอาของออกไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ฝากของตรงล้อบบี้ (ฝากฟรีไม่ต้องเสียค่าล็อกเกอร์) พอดีมีโน้ตบุ้คส์ เขาก็ให้เอาไปใส่ล็อกเกอร์ของโรงแรม ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน (สบายเลย ฮา)
ตอนแรกวันนี้คิดอยากจะไปฮาโกเน่เหมือนกัน หรือไม่ก็ไปนิกโกะ แต่ว่าดูเวลารถไฟแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันเครื่องบิน ก็เลยนะ ตัดใจ เที่ยวในนี้ก็ได้
เป้าหมายแรกเลยก็ไปชินจูกุที่เดิม ไปเดินดูร้านค้าทั่วๆ ไป ไม่ได้ซื้ออะไร งงตัวเองเหมือนกัน ไม่เหมือนตอนมาโตเกียวครั้งแรก ช้อปแหลก มาครั้งนี้ซื้อของน้อยมากๆ ชินจูกุคนยังเยอะมากๆ เหมือนเดิม
จากชินจูกุเราก็ไปชิบุยะ
ไปมองหา Hachiko ดันออกประตูผิด ทั้งๆ ที่เขามีทางออก Hachiko อยู่ด้วย (คือสารภาพว่าตอนแรกไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการหานั่นชื่ออะไร ฮา) ก็เดินวนอยู่ในสถานีงงๆ ก่อนจะโผล่ออกมาเจอ Hachiko
ยืนเป็นสง่าอยู่หน้าสถานี เจ้า ฮาจิโกะ หมาที่เกิดในจังหวัดอากิตะ เมื่อปี 1923 ถูกซื้อและพามาโตเกียวปี 1924 อยู่กับเจ้าของถึง 1925 ด้วยระยะเวลาประมาณสองปี แล้วหลังจากนั้นเจ้าของก็ตายระหว่างที่ไปทำงาน เลยไม่ได้กลับบ้าน เจ้าฮาจิโกะก็ไปรอที่สถานีเหมือนเช่นทุกวัน รอทั้งๆ ที่ (เราคิดว่า) ก็รู้ว่าเจ้าของคงจะไม่กลับมาแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่าสายสัมพันธ์ระหว่างคุณเจ้าของกับเจ้าฮาจิโกะที่มีระยะเวลาเพียงสองปี จะผูกพันเหนียวแน่นให้มันไปเฝ้ารอที่สถานีที่เดิมนานถึงสิบปี ก่อนจะได้เดินทางไปพบกับเจ้าของที่ไปรออยู่ก่อนแล้วเมื่อปี 1935 และสถานที่ตายของมันก็คือสถานีชิบุยะนั่นเอง
ฮาจิโกะแบบใกล้ๆ มีคนมาถ่ายรูปเยอะเหมือนกันนะคะ บริเวณนี้ถูกใช้เป็นจุดนัดพบของวัยรุ่นบ่อยๆ (สังเกตได้จากการ์ตูนหลายๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องจริงด้วย ^^) รูปปั้นฮาจิโกะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1934 ค่ะ (ก่อนมันตายอีกนะ) เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลย (แต่แอบเล็กกว่าที่คิดนะคะ ^^ คิดไว้ใหญ่กว่านี้ล่ะ)
ตู้รถไฟสีเขียว ถูกตั้งเป็นที่แสดงประวัติของฮาจิโกะ มีรูปถ่ายด้วย แวบๆ เข้าไปดู แต่ไม่ได้ถ่ายภาพด้านในไว้ เสียดายเหมือนกัน ^^
ที่ผนังของห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ สถานี มีเป็นภาพประดับเรื่องราวของฮาจิโกะ
ชิบุยะเป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ของเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่น คนอายุเลยวัยรุ่นมานิดก็จะไม่เดินกันค่ะ (เคยพยายามชวนคนญี่ปุ่นไปเดินด้วย แต่เขาบอกว่าไม่ไป เพราะอาย เนื่องจากมีแต่เด็กๆ -_-) แต่เราเป็นนักท่องเที่ยว เพราะงั้นไม่อาย ฮา ก็เดินๆ ช้อปปิ้งดูร้านโน้นออกร้านนี้ ไม่ได้ซื้ออะไรเท่าไหร่ ยกเว้นไปตายกับ LOFT ซื้อโปสการ์ดสวยๆ แล้วก็แวบเข้าร้านนี้
เป็นโรคแพ้ทาง Disney เห็นทีไรต้องเข้าไปดู สาขานี้ตกแต่งสวยจริงๆ มีทั้งหมดสามชั้น เดินดูอย่างเดียว ชอบอ่ะ
ข้างทางมีคนยืนต่อแถวมากมาย หน้าร้านขายฟิกเกอร์ อ่านป้ายเห็นบอกว่าวันนี้จะมีฟิกเกอร์ของสตาร์วอร์ออกใหม่ และคนมาเข้าแถวรอซื้อ ญี่ปุ่นสุดยอด ฮา จากนั้นก็แวะไปกินอาหารกลางวันที่ฮาเก้นดาซ์ กินไอติมแทนข้าวค่ะ เยอะมาก อิ่มเลยล่ะ
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟต่อไปที่สถานีอากิฮาบาระอีกรอบ บรรยากาศวันเสาร์ช่างคึกคักมากๆ
สาวๆ แต่งคอสฯ มายืนแจกใบปลิวร้านต่างๆ
แต่พอเห็นเราเล็งกล้องก็หันหลังให้ซะงั้น
ฝีมือการแอบถ่ายยังไม่ได้เรื่องมากๆ ต้องไปฝึกฝนอีกนาน
เป้าหมายของวันนี้จะไปร้าน K-Book เพื่อไปดู Dollfie บังเอิญเป็นคนบ้าตุ๊กตา ชอบดู อยากซื้อ แต่ไม่มีเงิน ฮา แถมยังเป็นพวกรู้ตัวว่าซื้อมาคงไม่ได้ดูแลรักษาเป็นอย่างดีแน่ๆ เพราะงั้นเลยได้แต่ดู
ร้าน K-Book นี่อยู่หน้าสถานีเลย แต่ด้วยเราเป็นพวกตาดีมาก เดินวนหาอยู่นานจนปวดขา เลยกลับมาตั้งต้นใหม่ เลยเจอ ฮา K-Book ชั้นบนเป็นร้านขาย Ball Joint Dollโดยเฉพาะ (ชั้นอื่นๆ ก็ขายพวกฟิกเกอร์, การ์ตูนทั้งใหม่และเก่า อื่นๆ อีกมากมาย) มีของบริษัทอื่นด้วย ราคาก็จะแตกต่างกันไป แต่ที่สวยสุด แพงสุด ก็นะ Dollfie ของ Dream of Doll (ถ้าจำไม่ผิดเป็นบริษัทของเกาหลีค่ะ รายละเอียดตรงนี้ไม่แม่นนะคะ แนะนำว่าถ้าใครสนใจเชิญเข้าบล็อกนี้ได้ค่ะ //dollfie.exteen.com เจ้าของบล็อกมีตุ๊กตา dollfie ค่ะ เขียนเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนี้ไว้เยอะเชียว แนะนำค่ะๆ ^^)
ชั้นข้างบนที่แสดงตุ๊กตาไม่ให้ถ่ายภาพ เลยไปหาภาพจากเวป //dreamofdoll.com มาให้ดูค่ะ
เอารายละเอียดคร่าวๆ นะคะ สูงประมาณ 60 เซนฯ ตามข้อมือต่างๆ จะมีข้อต่อที่ทำให้จับเปลี่ยนท่า จัดท่าทางได้ สวยงาม แบบนี้เป็นต้น
และราคาตัวที่เห็นในภาพนั้นอยู่ที่ 560 ดอลล่าร์ค่ะ ก็ประมาณสองหมื่นกว่าบาท ^^ อันนี้เป็นราคาตุ๊กตาอย่างเดียวนะคะ ไม่รวมชุด ไม่รวมอื่นๆ อีกมากมาย แต่คำนวณแล้วซื้อจากเวบน่าจะถูกกว่าซื้อที่นั่น เพราะว่าที่เห็นวางขายในตู้ ราคาเข้าไปสองแสนกว่าเยนแล้วอ่ะค่ะ ^^
รายละเอียดเหมือนจริงมากๆ เพราะงั้นเลยแพง
ผู้หญิงก็มีค่ะ เห็นแล้วพูดได้คำเดียวว่า หลง ^^
กรุณาอย่าถามรายละเอียดนะคะ เพราะไม่ทราบ ตามไปอ่านได้ที่บล็อก exteen ข้างบนนะคะ ^^
เป็นของเล่นสำหรับผู้ใหญ่จริงๆ ค่ะ แต่ต้องวงเล็บว่าผู้ใหญ่มีเงินกับใจรักด้วยนะ เพราะเสื้อผ้าเครื่องใช้ของตุ๊กตานี่ บางชิ้นแพงกว่าเสื้อผ้าเราอีก (เห็นขายรองเท้าตุ๊กตาคู่ละ 5000-6000 เยน ก็ตก...1500-1800 บาทไทย ^^) สำหรับเรานี่ดูแต่ตามืออย่าต้องจริงๆ ค่ะ เพราะเห็นว่าตุ๊กตาบอบบางมาก เลอะง่ายด้วย เพราะขอดูเกี่ยวรูปไว้ดูให้ชื่นใจอย่างเดียวพอค่ะ ^^
นอกเรื่องไปไกล ฮา สรุปว่าวันนั้นใช้เวลาช่วงบ่ายอยู่กับ Dollfie นานมาก จนใกล้ได้เวลาก็นั่งรถไฟไปชินากาว่า ไปเอากระเป๋าเหมือนเดิม และนั่ง private railway ไปสนามบินฮาเนดะ เช็กอิน โหลดกระเป๋า หาข้าวกิน (อาหารญี่ปุ่นในสนามบินแพง และคนเยอะมาก แต่ต้องกิน เพราะหิวแล้ว) แล้วก็เดินทางกลับถึงบ้านตอนดึก
จบทริปโตเกียวค่ะ รีบมาอัพ เพราะเดี๋ยวจะอัพบล็อกที่ไปเที่ยวกิฟุแล้ว เย้ รูปเพียบเลย ขอบอก
เด็กทะเล 07.5.7
Create Date : 07 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2550 20:59:57 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1225 Pageviews. |
|
|
|
โดย: tintin IP: 58.9.190.109 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:08:03 น. |
|
|
|
โดย: นายน้อย IP: 58.9.130.68 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:11:43 น. |
|
|
|
โดย: ไนท์ IP: 124.120.138.49 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:21:44 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:44:00 น. |
|
|
|
โดย: น้ำ IP: 61.7.143.172 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:19:14 น. |
|
|
|
โดย: Yasmin วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:37:03 น. |
|
|
|
โดย: oa IP: 202.28.9.80 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:37:18 น. |
|
|
|
โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:59:40 น. |
|
|
|
โดย: Masaomi IP: 125.24.87.7 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:22:58 น. |
|
|
|
โดย: โทเทม IP: 124.120.185.123 วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:9:30:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ตอนใต้ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
|
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|
อยากเที่ยวๆๆๆ
ป.ล. เรามาแต่งคอสฯ กันมั้ยคะพี่ๆ ฮา