Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

วันที่สาม...เมือง Caen กับทัวร์โบสถ์รอบเมือง



เริ่มต้นด้วยแผนที่ของเมือง Caen นะคะ ปารีสอยู่ทางขวามือ แต่ตกแผนที่ไปแล้ว ริมทางด้านซ้ายมือตรงกึ่งกลางก็คือ La Mont St-Michel นั่นเองค่ะ


มาต่อกันเลยน้า


9 May 2006


วันนี้ตื่นตอนสายๆ น้องเอมิรูมเมทออกจากห้องไปร่วมพิธีเปิด conference แล้ว แต่เราเป็นเด็กไม่ดี :p เลยออกสายๆ แถมยังไปเดินเล่นก่อนด้วย

ก่อนอื่นก็ขอแนะนำเมือง Caen ให้รู้จักกันเล็กน้อยนะคะ


Caen เป็นเมืองหลวงของแคว้น Basse Normandie เคยถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักในช่วงวันดีเดย์ทำให้ไฟไหม้เมืองอยู่กว่า 1 อาทิตย์ (*อ้างอิงจากหนังสือคู่มือนักเดินทางฝรั่งเศส)


รูปเมือง Caen ในปัจจุบันค่ะ













ต้นไม้ข้างๆ ทาง ต้นนี้แปลกมาก ไม่มีใบเลย กิ่งก้านดูเป็นปุ่มๆ ต้นใหญ่มาก แปลกดี ^^





ส่วนนี่เป็นต้นไม้ข้างๆ ทางอีกเหมือนกัน เขาตัดเป็นบล็อกเป็นเหลี่ยมมาก ในปารีสก็เห็นเยอะดีค่ะ สวยแปลกตาดี




ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้กำลังบานสวยมาก เอามาให้ชมนิดหน่อยน้า


ดอกทิวลิป





ดอกไม้สีม่วงๆ ที่น่าจะเป็นชนิดเดียวกับ Fuji no hana ของญี่ปุ่น




เจ้าดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ เป็นช่อแบบนี้ (ไม่ทราบชื่อค่ะ ^^’’)




เดินวนไปวนมารอบเมืองเล็กๆ ก่อนจะไปหยุดที่ Place Saint-Pierre โบสถ์ใหญ่กลางเมือง ที่ตอนนี้กำลังทำการบูรณะด้านนอกของโบสถ์อยู่ค่ะ (บูรณะครึ่งหนึ่งน้า เลยถ่ายรูปอีกด้านที่ยังไม่ได้บูรณะมาให้ดู)


Place Saint-Pierre







ไม่มีความรู้เรื่องสถาปัตยกรรมและศิลปะเท่าไหร่ แต่ก็เห็นว่าแทบทุกโบสถ์ที่ไปดูจะมีเจ้าตัวประหลาดแบบนี้เกาะอยู่บนหลังคาโบสถ์เสมอ ไม่ทราบว่าเพราะอะไรนะคะ (ใครมีความรู้ก็ช่วยบอกหน่อยน้า)





โบสถ์นี้เปิดให้เข้าชมฟรีค่ะ ก็เลยเข้าไปชมซะเลย ^^

หน้าประตูทางเข้า




ด้านในค่อนข้างมืดสลัวๆ มีคนเข้าชมอยู่นิดหน่อย เราก็เดินชมไปเรื่อยๆ

เงียบสงบ และงดงาม














ตรงมุมหนึ่งจะมีเทียนบูชาวางขายแบบนี้ ราคาก็แตกต่างกันไปตามขนาด เวลาจ่ายเงินก็หยอดลงกล่องบริจาคคล้ายๆ ของบ้านเราน่ะค่ะ แล้วก็เอาเทียนไปจุดบูชา




ออกจาก St. Pierre แล้วก็ใกล้ถึงเวลาเดินทางไปงาน conference ก็ออกเดินโดยอาศัยแผนที่ดูยากแผ่นนี้



แผนที่ดูยากสุดๆ โรงแรมของเราอยู่ตรงใกล้ๆ office du tourisme นะคะ ตอนเช้าเราก็เดินขึ้นไปผ่านข้างๆ Chateau แล้วก็เดินวกกลับมาที่ Hotel de Ville ก่อนจะเดินมาชมโบสถ์ St. Pierre ที่ใกล้ๆ office du tourisme อีกที งานประชุมฯ จัดที่ Centre du Congres ค่ะ (จุดแดงๆ นั่นล่ะ) จริงๆ แล้วมันใกล้มากๆๆๆ แต่เราก็เดินเป็นวงกลมอ้อมโลกไปตั้งไกล ถึงจะเดินไปถึงงาน conference ทั้งๆ ที่ตอนเช้าเดินผ่านไปเกือบถึงแล้ว แต่เราก็ไม่ได้เดินเลยไปอีกนิด เศร้ามากๆ T-T เดินจากเจ็บเท้าเลยอ่ะ

(แผนที่ของฝรั่งเศสเห็นแบบนี้เยอะมากเลยนะ แบบดูอาร์ตๆ สวยงาม แต่ใช้งานไม่ได้จริง T-T หรือเราชินกับแผนที่ญี่ปุ่นที่ละเอียดยิบซะก็ไม่รู้ -_-')


เอาบรรยากาศงานหน้าประชุมสัมมนาวิชาการมาให้ดู

EMECS 7th international conference


เป็นงานประชุมสัมมนาวิชาการทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับทะเล และสมุทรศาสตร์ เริ่มจัดขึ้นในปี 1990 ค่ะ ปกติงานนี้จะจัดเป็นประจำทุกสองปีค่ะ และจัดเวียนไปแต่ละประเทศที่เป็นสมาชิก งานประชุมสัมมนาฯ ครั้งก่อนจัดที่เมืองไทยค่ะ ส่วนครั้งต่อไปจะจัดที่เมืองจีนนะคะ ถ้ายังอยู่ในแวดวงคงไปรวมอีกแน่เลย ^^

ไปถึง conference ตอนสิบเอ็ดโมงนิดๆ เขากำลังถ่ายรูปรวมข้างหน้าพอดี คนเยอะพอประมาณ แต่ไม่เยอะมากเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา 80% ของผู้ร่วมงานเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เพราะงั้นก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นเพลินไปเลย :p หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ก็แวบไปดูโปสเตอร์ของน้องเอมิ กับน้องอากิระ เด็กที่แลบเก่าสองคนที่มาร่วมพรีเซนต์ ปีนี้คนร่วมงานน้อยมากๆ โปสเตอร์ก็น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับงานก่อน ดูโหลงเหลงไปเลยอ่ะน้า

ไปนั่งรอเวลาอาหารกลางวัน (ฮา) นั่งดื่มชา กินขนมอยู่สักพัก เกือบๆ บ่ายโมงก็ได้เวลาอาหาร ก็เอาคูปองเข้าไปยื่นแล้วก็ไปนั่งตามโต๊ะที่เข้าจัดไว้ อาหารมาอย่างหรูหราสมกับเป็นฝรั่งเศสมาก





อาหารวันนี้เป็นปลาค่ะ พายที่วางข้างบนอร่อยมากๆ กรอบนุ่ม แต่ขนมปังก้อนกลมๆ ตรงโน้น ไม่ค่อยอร่อยเลย -_-‘ แข็งอ่ะ เราเจาะกินแต่เนื้อข้างใน ฮา เหลือกรอบข้างนอกให้น้องเอมิกิน (เลวนี่ :p) ก็น้องเขาอยากกินอ่ะน้า อาหารจานหลักหมดลงแล้ว ก็เป็นชีสค่ะ ชีสมาก้อนใหญ่เหมือนเค้กเลย ไม่อร่อย -_-‘ อะนะ ก็ไม่ค่อยชอบ แต่ก็พยายามกินไปได้เกือบหมด ต่อจากชีสก็เป็นขนมหวานค่ะ เป็นพายแอปเปิ้ล อร่อยดี แต่ว่าเริ่มอิ่มแล้วไง (ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย เพราะคนเริ่มเยอะ เกิดอาการเขิน ฮา)

กินอาหารกลางวันเสร็จก็ไปฟังอาจารย์เจ้าของแลบที่อยู่ตอนนี้พรีเซนต์งานวิจัย ห้องเล็กๆ คนไม่เยอะเท่าไหร่ ฟังแค่ยี่สิบนาทีก็เสร็จ หลังจากนั้นก็ไม่มีหัวข้องานวิจัยที่เราสนใจอยากจะฟัง ก็เลยพากันไปเดินเล่นข้างนอกกับน้องเอมิและอากิระ พากันเดินไปซื้อปลั๊กไฟที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ โรงแรมของเราก่อน อ้อ ที่ฝรั่งเศสใช้ไฟ 220 โวลต์ นะคะ เราก็เตรียมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟได้ แต่...หนังสือคู่มือท่องเที่ยวบอกเพียงว่าเป็นปลั้นสองตา แต่เป็นปลั๊กแบบกลมค่ะ ซึ่งใช้ไม่ได้กับปลั๊กของเรา ที่เตรียมไปเป็นปลั๊กสองตาแบบแบนทั้งนั้นเลย เสียบใช้ไม่ได้เลย T-T เศร้ามาก ต้องไปตัวเสียบต่างหากมา ราคาเกือบๆ สี่ยูโร แต่ก็มีปัญหาอีกว่าปลั๊กนี้ไม่สามารถใช้กับที่ชาร์ตกล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือได้ เนื่องจากมันมีขอบกั้นขึ้นมา แถมปลั๊กแบบที่มันดีกว่านี้ (และแพงกว่านี้) ก็หมดด้วย ก็เลยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการชาร์ตกล้องอย่างเดียวก็โอเคแล้ว

ดังนั้นนะคะ แนะนำเลยว่าถ้าจะไปที่ไหน ให้เช็คไฟฟ้าของบ้านเขาว่าเป็นไฟขนาดไหน และต้องไม่ลืมด้วยว่าเขาปลั๊กประเภทไหนนะคะ จะได้ไม่ผิดพลาดค่ะ คราวนี้เป็นบทเรียนเนอะ ^^’’ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา ขอโทษทีนะคะ อาจจะเข้าใจลำบากหน่อย ^^’’)


หลังจากนั้นเราก็พากันไปเดินดู L’Abbaye aux Hommes (Hotel de Ville) หรือ The Men’s Abbey ค่ะ โบสถ์หลังนี้เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ก่อนจะทำการต่อเติมเพิ่มขึ้นอีกครั้งในศตวรรษที่ 13 และ 17 ค่ะ Men’s Abbey เป็นหลุมฝังศพของ William the Conqueror ผู้สร้างค่ะ (อ้างอิงจาก tourism information of Caen นะคะ)













ตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่นำมาเป็น the City Council Chamber ค่ะ ถ้าเข้าชมต้องเสียค่าเข้าสองยูโรนะคะ (ถ้าจำไม่ผิด ฮา) ตอนแรกพวกเราไม่รู้ว่าจะต้องเข้าชมในโบสถ์ตรงไหน ก็เลยเดินเข้าไปใน city council ไปถามคุณผู้หญิงประชาสัมพันธ์ เขาก็บอกว่าให้เดินไปทางขวามือ เข้าชมได้เลย ไม่ต้องเสียค่าเข้า เราก็เดินแบบงงๆ ไป เพราะดูยังไงก็ไม่เห็นจะมีประตูทางเห็น แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นคนเดินออกมาก็เลยรู้ว่ามีประตูทางเข้าเล็กๆ ที่ถ้าไม่สังเกตคงไม่รู้อยู่ทางขวามือจริงอย่างที่คุณน้องบอก ก็เลยพากันเดินเข้าไปชมข้างในค่ะ





















สวยเหมือนเดิม โบสถ์คริสต์ให้ความรู้สึกว่าสวยนะคะ ชอบนะ ดูสงบและเยือกเย็น แต่ก็เป็นคนละบรรยากาศกับโบสถ์ไทยนะคะ โบสถ์ไทยจะให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และโล่งๆ มากกว่าปิดทึบเห็นเป็นแสงสลัวๆ แบบนี้ ก็เป็นกันไปคนละแบบล่ะเนอะ ^^

ออกจาก Men’s Abbey แล้ว พวกเราก็พากันเดินกลับไปที่งาน conference อีกที เพราะตอนเย็นจะมี Party เปิดงานที่ Ladies’ Abbey เขานัดกันที่งานตอน 17.40 น. เพื่อจะมาขึ้นรถบัสไปด้วยกัน เดินไปถึงงานแบบพอดีๆ เวลา ก็เดินตามเขาไปขึ้นรถกัน

รถบัสมาจอดห่างจาก L’Abbaye Aux Dames หรือ The Ladies’ Abbey ไม่ไกลนัก พวกเราก็พากันเดินไปที่ด้านหน้าของโบสถ์





เริ่มแรกก็พาเข้าไปชมภายในโบสถ์ก่อนค่ะ (The Holy Trinity Abbey Church) ข้างในสวยมาก สร้างด้วยหินสีขาว ดูแล้วสมกับเป็น “ผู้หญิง” จริงๆ เลย แต่คนค่อนข้างเยอะ ก็เลยดูอะไรไม่ได้ละเอียดเท่าไหร่ อยากจะมาอีกรอบ แต่เวลาก็มีน้อยมาก ทำให้ไม่ได้อีกครั้งตามที่ตั้งใจเลย











ที่เรียกว่าเป็น Ladies’ Abbey เพราะว่าโบสถ์นี้ใช้เป็นที่ฝั่งพระศพของ Queen Matilda ที่เป็นคนค้นพบโบสถ์นี้ในปี 1060 ค่ะ (ข้อมูลจาก tourist guide 2006 ค่ะ)

ออกจากโบสถ์ ก็เดินไปยังส่วนของ Regional Council of Lower-Normandy ที่จะเป็นห้องจัดงานเลี้ยงของเราในวันนี้




เอารูปน้องเอมิกับอากิระมาให้ดู กำลังเดินเข้างาน




ห้องที่จัดงานค่อนข้างเล็ก และคนเยอะมาก (ในงาน conference คนน้อย แต่พองานเลี้ยงละคนเยอะเชียว ฮา) เจ้าภาพก็พูดๆๆๆ ... เป็นภาษาฝรั่งเศส แขกบางคนก็เริ่มกินเริ่มดื่มไปแล้ว ฮา เครื่องดื่มมีชื่อของที่นี่ก็คือ Cidre เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากแอปเปิ้ลค่ะ ดื่มไปหลายแก้วเหมือนกัน ก็อร่อยดีนะ ^^ ภายในงานเป็นแบบค็อกเทลน่ะค่ะ เลี้ยงอาหารของกินเล็กๆ น้อยๆ แต่เราก็กินไปเยอะเหมือนกันนะ ฮา ของขึ้นชื่อของที่นี่อีกอย่างก็คือหอยแมลงภู่ค่ะ เห็นแล้วนึกถึงเมืองไทยนะ (เพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีล่ะ ^^) กินอย่างเดียว ไม่ได้ถ่ายรูปเลย ฮา

สักสองทุ่มงานก็เลี้ยงก็เลิก คนทยอยกลับ เราก็กลับด้วย เดินกลับกัน เดินมาเรื่อยๆ ฟ้ายังสว่างอยู่เลย น้องๆ ถามว่าจะไปต่อกันหรือเปล่า แต่พอดีพรุ่งนี้อยากจะไปงานแต่เช้า เพราะว่ามี special session เรื่อง Tsunami ที่อยากฟัง อาจารย์จากจุฬาฯ มาพูดสองท่านในช่วงเช้า และช่วงบ่ายเราต้องพรีเซนต์งานวิจัย ก็เลยตกลงแยกย้ายกันกลับโรงแรมไปนอนกัน

หมดวันที่เริ่มทำงาน ^^


เด็กทะเล




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2549
13 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2549 14:39:19 น.
Counter : 3253 Pageviews.

 

มาชมภาพค่ะ อาหารน่ากินสุดๆๆเลย ตอนนี้อิ๊งค์ไปตามอ่านหัวใจที่กลางดาวแล้วนะคะ ส่วนเรื่อง Silver Rain ยังไม่ได้อ่านอ่ะค่ะ จริงๆอ่านเรื่อง ดวงดาวฯแล้วนะคะ แต่คิดว่าจะรอ Silver Rain ตอนเป็นหนังสือแล้วอ่านทีเดียวเลยดีกว่า

 

โดย: W i n t e r b e r r y (W i n t e r b e r r y ) 22 พฤษภาคม 2549 10:03:05 น.  

 

ภาพสวย เล่าเรื่องเที่ยวได้ละเอียดน่าติดตามดีครับ
ต้นไม้ปุ่มๆนั่นมันยังไม่แตกใบครับ อีกไม่นานใบคงจะแตกกิ่งก้านออกมาครับ
ที่เห็นเป็นปุ่มๆคือร่องรอยการตัดแต่งกิ่งก้านหน่ะครับ
ส่วนดอกสีขาวๆนั้น น่าจะเป็นดอกLilac ครับ

 

โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 22 พฤษภาคม 2549 10:44:31 น.  

 

ชอบโบสถ์จัง

แค่เห็นภาพยังรู้สึกถึงความเงียบงันได้ยินแม้เพียงเสียงลมหายใจ วังเวงดีด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า อยู่อีกโลกหนึ่งเลย โลกที่มีแต่ความสงบ ความวุ่นวายภายนอก ไม่สามารถระแคะระคายที่นี่ได้เลย ชอบจัง

เอ๋ ท่าน โบสถ์แบบนี้มี Iron Maiden ที่เป็นคเรื่องทรมานหรือเปล่า (น่าจะเรียกว่าเครื่องประหารมากกว่านะ) อยากเห็นจัง

ถนนหนทางบ้านเขา ดูสะอาดตาดีจังเลยเนอะ น่าอิจฉา อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้บ้างจัง

 

โดย: arshura IP: 210.213.12.200 22 พฤษภาคม 2549 12:25:16 น.  

 

ตัวประหลาดที่อยู่ตรงโบสถ์เป็นทางระบายน้ำค่ะ มีชื่อว่า การ์กอยล์ เห็นว่ามีความเชื่ออะไรสักอย่างอีกเหมือนกันนะที่ต้องทำ ... เอาเป็นว่ามันชื่อการ์กอยล์แล้วกันค่ะ

 

โดย: jeannie IP: 58.147.14.11 22 พฤษภาคม 2549 12:57:51 น.  

 

สวยดีนะคะ รู้สึกสภาปัตยกรรมของฝรั่งเศสสวยดี

โดยเฉพาะโบสถ์ ข้างในรูปร่างคล้ายๆ กันหมด อีกอย่างดูสงบนิ่ง เย็นๆ จัง

 

โดย: เนตรนภัส IP: 203.144.212.195 23 พฤษภาคม 2549 17:44:07 น.  

 

สวยค่ะพี่อ้อม
น่าไปเที่ยวบ้างจัง

 

โดย: PoR IP: 203.113.16.250 24 พฤษภาคม 2549 15:26:25 น.  

 

ได้เห็นอะไรสวยๆงามๆนี่ดีจังเลยน้า ต้องขอบคุณพี่อ้อมที่เอามาให้ได้ดูกัน

 

โดย: พู่ไหม IP: 203.209.107.195 24 พฤษภาคม 2549 18:16:22 น.  

 

 

โดย: lily <lovekalo> IP: 124.121.21.54 24 พฤษภาคม 2549 18:41:27 น.  

 

555 พี่อ้อมไปสัมมนาแต่หนูแอบตามมาเที่ยวค่ะ

 

โดย: nurin (Nontagorn ) 24 พฤษภาคม 2549 21:02:20 น.  

 

ตามมาเที่ยวปารีสด้วยคน
อาหารดูน่าทานเนอะ

 

โดย: wanwitcha 25 พฤษภาคม 2549 10:53:11 น.  

 

อยากไปเที่ยวอ่ะ

 

โดย: Styx IP: 58.8.120.44 26 พฤษภาคม 2549 13:26:39 น.  

 

สวยมากๆเลยนะคะ
ขออนุญาตก๊อบรูปหน่อยนะคะ
สวยมากจริงๆอ่า เห็นแล้วอยากไปมากๆเลย

 

โดย: ปพิชญา IP: 124.157.189.5 27 มีนาคม 2550 0:24:03 น.  

 

je vous remercie bien de nous montrer les photos de Caen. j y ai vecu en 2005-2006, Elles me font penser cette ville, A cette epoque la jetais dans une maison dernier lUniversite de Caen, Je pense que je reviendrai cette ville en mai,

 

โดย: เด็กเก่าเมืองCaen IP: 124.120.95.29 4 กุมภาพันธ์ 2551 12:36:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.