กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
1 กรกฏาคม 2553
1/07/2010



ช่วงนี้ เห็นว่าทำไมมีแต่เรื่องเศร้าๆ เรื่องไม่ดีที่ทำให้รู้สึกแย่


จนอาจจะดูน่าเบื่อน่ารำคาญสำหรับคนอื่น


แบบอะไรเนี่ย ยัยคนนี้ทุกข์อยู่ได้ มากไปป่ะ!!!


เคยเป็นนะ เวลาเห็นคนอื่น(ที่ไม่รู้จัก)ทุกข์มากๆ ก็จะหงุดหงิดว่าเมื่อไหร่จะหายซะทีเนี่ย


อะไรนักหนาคะคุณ จนทำให้คนรอบข้างห่อเหี่ยวหดหู่ตามไปด้วย


แต่พอมาเจอกับตัวบ้าง


ก็รู้ว่ามันต้องระบาย


เรื่องบางเรื่องเล่าได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็อยากระบายให้คนอื่นรู้ว่าทุกข์อยู่นะ เศร้าอยู่นะ


ต้องการกำลังใจนะ ถึงจับต้องไม่ได้แต่รับรู้ก็รู้สึกดีนะ


แต่วิธีระบายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน


บางคนแค่ร้องไห้ บางคนแค่เล่าให้เพื่อนฟัง บางคนหัวเราะเสียงดัง


ฯลฯ


แล้วแต่นิสัยพื้นฐานและความเคยชินของแต่ละคน


เราเป็นคนนึงที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ควบคุมให้นิ่งและคงที่ไม่ได้


ด้วยนิสัยที่ชอบแคร์คนอื่นมากเกินไป


ทำให้เก็บทุกอย่างมาใส่ใจไปซะหมด


เชื่อและไว้ใจคนได้ง่ายและเร็ว


เวลาแค่ 5 นาที ก็ได้ทั้งหัวเราะและร้องไห้


เรื่องดีก็เต็มร้อย เรื่องร้ายก็เต็มที่


เพราะขาดการฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก


ปล่อยไปตามที่ใจมันจะคิด


คิดเรื่องดีก็อมยิ้ม เรื่องไม่ดีก็ได้แต่ถามว่าทำไม ทำไม


...


ครึ่งปีแรกมีหลากหลายอารมณ์


ตอนนี้


เข้าสู่ครึ่งปีหลังแล้ว


ไม่ได้หวังให้เรื่องราวต่างๆมันจะดีขึ้น


( เพื่อนบอกว่า อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่อง


เราก็เลยบอกว่า งั้นคิดว่าเป็นสีสันของชีวิตก็ได้ ^^ )


แต่ขอเพียงให้ตัวเรา


หนักแน่นและมั่นคงมากกว่านี้


เลิกเก็บทุกเรื่องมาใส่ใจ ใครจะว่าอะไรยังไงก็ช่าง


ถึงวันนี้ไม่มีใครเข้าใจเรา สักวันก็จะมีคนเข้าใจ


เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องพบเจอ เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่?


แล้วใครจะรับมือกับมันยังไง?


...


เมื่อวานเพิ่งซื้อหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" ของฐิตินาถ ณ พัทลุง


กว่าจะได้ซื้อก็พิมพ์ครั้งที่ 56 แล้ว


แถมตอนซื้อยังลังเลอีกว่าที่บ้านมีรึยัง 55


ตอนนี้เค้าออกมาหลายเล่มแล้ว เพิ่งได้ลองเปิดดูเนื้อหาข้างในผ่านๆ


คิดว่ายังมีอีกหลายคนที่มีเข็มทิศของชีวิตแล้ว


และยังมีอีกหลายคน เช่น เรา ยังไม่มีเข็มทิศ


ยังเดินสะเปะสะปะไปทั่ว


คิดว่าถ้าได้อ่าน เราคงเข้าใจอะไรง่ายขึ้น


แต่จะทำได้รึป่าว ก็ต้องให้ตัวเองคอยเป็นแรงผลักดัน


ตั้งแต่งานสัปดาห์หนังสือครั้งล่าสุด ก็ไม่ค่อยได้เข้าร้านหนังสือเลย


ที่เคยซื้อๆมาตุนก็ยังอ่านไม่หมด


พอได้เข้าไปอีกทีและรู้สึกอยากเป็นเจ้าของร้านหนังสือจริงๆ


หนังสือดีๆผุดขึ้นมาเต็มไปหมด


บ่งบอกถึงการพัฒนาแนวคิดของคนในปัจจุบัน


หรือบ่งบอกว่าคนสมัยนี้ต้องการที่พึ่งทางจิตใจมากๆก็ไม่รู้


แต่ก็ดีนะ ผู้เขียนแต่ละคนก็มีแนวคิดไม่เหมือนกัน การได้แชร์ความคิดแบบนี้


ก็ทำให้ผู้อ่านเลือกใช้หรือดำเนินชีวิตตามแนวทางของใครก็ได้


หรือจะหลายๆคนประยุกต์เป็นแนวทางเดินของตัวเองก็คงไม่ผิด


เพราะทุกคนแนะแนวทางเดินที่ดีให้กับเราทั้งนั้น


อ่ะ อยากรีบอ่านเร็วๆแล้วสิ


ไม่รู้ว่าเค้ามีไฟล์อะไรให้ดาวน์โหลดรึป่าวนะ


แต่เอาไว้ถ้าเราอ่านแล้ว จะพิมพ์ให้อ่านให้โดยทั่วๆกันนะ


จะลองเลือกบางส่วนของบางบทมาลง


ถ้าอยากอ่านเต็มๆต้องไปอุดหนุนเค้านะจ๊ะ


แต่ถ้าไม่สะดวกซื้อ จะลองพิมพ์เป็นไฟล์ไว้ดีมั้ยนะ?? 55


ลองหลังไมค์มาละกันนะคะ ^_____^


...


จริงๆแล้ววันนี้ไปสมัครงานมา


ไม่สิ


ไปสอบสัมภาษณ์งานมา


แถวๆเพลินจิต


ตลอด 4 ปีของการทำงาน (รู้เลยว่าแก่ -*-)


ไม่เคยใส่ชุดฟอร์มเลย ชุดไปเที่ยว ชุดทำงาน ชุดเดียวกัน!!!


เสื้อยืดกางเกงยีนส์


ดูสบายๆ จนเวลาเลิกงานแล้วไปไหนต่อคนอื่นนึกว่าหยุดงาน ถามตลอดว่า นี่ชุดทำงานหรอ?


แต่วันนี้ต้องใส่ชุดเต็มยศเลย เหมือนเพิ่งจบใหม่แล้วหางานทำเลย


ตลกดี เมื่อยมากด้วย ปกติไม่ใส่ส้นสูง


แถมถือกระเป๋าหนักๆ + แฟ้มเอกสารอีก พะรุงพะรังจริงๆ


แหม่ ใกล้จะเป็นสาวออฟฟิศเต็มตัวแล้วมั้งเนี่ย 55+


แถมเช้ามาก็มีอุปสรรค ฝนตก!!!


น้ำมนต์โปรยปรายศักดิ์สิทธิ์เชียว


แต่รถติด -*- เกือบต้องวิ่งหน้าตั้งซะแล้ว โชคดีที่ยังทัน


ไปถึงก็กรอกใบสมัคร


สักพักเค้าก็เอาข้อสอบวัดความรู้มาให้ เลขชุดนึง อังกฤษชุดนึง


บอกว่า 11 โมงเค้าจะมาเก็บ ตอนนั้นก็ 9 โมงครึ่งละ


แหม่ มึนกันซะทีเดียว ดีนะเค้าให้เครื่องคิดเลขมาด้วย กดมันมือเลย


เลือกทำเลขก่อนเพราะคิดว่าง่ายกว่า ก็ง่ายแหล่ะ ไม่ยากมาก 30 ข้อ


เป็นพื้นฐานทั่วไป มีลอจิกนิดหน่อย แต่ได้อยู่


ส่วนภาษาอังกฤษส่วนแรกๆทำได้นะ แค่ดูว่าคำนั้นเขียนถูกหรือผิด ตัวไหนผ่านตาหรือเห็นบ่อยๆก็จะรู้


ส่วนที่สองเริ่มมั่ว ให้ศัพท์มาแล้วดูว่าความหมายเหมือนคำไหน


บางข้อรู้คำแปลโจทย์ บางตัวเลือกไมู่้รู้


ก็มั่วๆไปเยอะ ส่วนสุดท้ายนี่สิมั่วแหลก


แบบจะหมดเวลาด้วยแหล่ะ เลยลนๆ เค้าให้เติมคำิ่อ่ะทำไม่ได้เลย


เตรียมตัวไปนะ แต่ไม่ตรงอ่ะ บางเรื่องก็จำไม่ได้ ดันไปเน้นเรื่อง tense แต่ไม่มีออกเลย


แต่ก็ไม่เป็นไรแหล่ะก็เต็มที่ละ


สักพักหัวหน้าฝ่าย IT ก็มาสัมภาษณ์ 2 คน Smiley


ตกใจหมด แต่ไม่มีอะไรมากเค้าก็ยิงถามเรื่องงานปกติ


ไม่นานด้วย แล้ว HR ก็มาสัมภาษณ์ต่ออีกที


เค้าก็ถามนะใช้ภาษาได้มั้ย เราก็ตอบเลยว่าไม่ค่อยไ้ด้ค่ะ Smiley


แต่เค้าบอกว่าที่เทสก็คะแนนดีนะ สงสัยถนัดแกรมม่ารึป่าว


ฮ่าาาาาา


คุยเสร็จก็เที่ยงพอดี เค้าบอกรอฟังผลสัปดาห์หน้าแล้วเค้าจะติดต่อมาอีกที


ลืมถามว่าถ้าไม่ผ่านจะติดต่อมามั้ย เด่วรอเก้อ หุหุ


แต่เค้าก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับองค์กรเค้าแหล่ะ


ไม่ได้ก็ไม่เสียใจ เพราะเป็นประสบการณ์การสัมภาษณ์งานครั้งแรกในรอบ 4 ปี


อาจจะยังทำได้ไม่ดีพอแต่ก็พอดี ฮิ้ววววววว Smiley


ก็หาต่อไปเรื่อยๆ สู้ๆ Y(^^)Y











Create Date : 01 กรกฎาคม 2553
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 19:28:17 น.
Counter : 432 Pageviews.

3 comments
  
เลขกับอังกฤษคือคู่ปรับกับสมองผมเลยครับ เรียนยังไงอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ สงสัยสมองส่วนการรับรู้ของ2วิชานี้จะอักเสบ


การได้อ่านข้อคิดดีๆของคนอื่นมันอาจช่วยให้เรามีกำลังใจและหาหนทางแก้ไขปัญหาชีวิตได้น่ะครับ อ่านเข็มทิศชีวิตจบแล้วยังไงก็เอามาบอกกล่าวกันในบล็อกน่ะครับมาของเขาดีแค่ไหน

บล็ฮกผมใกล้อัพแล้วล่ะครับเขียนไปได้ครึ่งนึงเเล้วแต่ตอนนี้หมดมุข ฮ่าๆๆ
โดย: Don't try this at home. วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:18:33 น.
  
สวัสดีค่ะ..แวะมาทักทายค่ะ
เป็นกำลังใจให้กับทุกเรื่องนะคะ
โดย: nootikky วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:25:28 น.
  
พี่สาวสู้ๆ ^^
โดย: นัมดงเซง IP: 110.164.249.112 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:20:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DekmOoNoiZe
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ทุกอย่างที่เป็นเรา...อยู่ในที่แห่งนี้แล้ว

++ ใช้สติในคอมเมนท์นะคะ ++

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ ^/\^