การแต่งเพลงแต่ละเพลงของนักแต่งเพลงส่วนมาก ถ้าไม่แต่งตามแนวที่ตัวเองถนัด และความคิดของตัวเองแล้ว ก็มักจะแต่งตามคนที่จะนำไปร้องว่ามีชีวิตอย่างไร โดยเฉพาะเพลงแนวผิดหวังกับความรักแบบนี้

เพลงนี้ไม่ต้องบอก ใครฟังก็ต้องรู้ว่าเป็นเพลงที่บอกความผิดหวังของคนที่มีความรัก การผิดหวังในความรักก็มีหลากหลายข้ออ้างที่จะจบความรักลง บางคนเพราะมีความรักใหม่ บางคนไปด้วยกันไม่ได้ หรือบางคนคบกันไปคบกันมาก็ต้องจบด้วยน้ำตาโดยไม่รู้สาเหตุก็มี

สำหรับความรักที่ผิดหวังเพราะใครบางคนมีอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในชีวิต หรือที่เรียกว่า รักสามเส้า แต่ก็เศร้า จนกลายเป็นรักสามเศร้า เพราะทั้งสามคนคงไม่มีใครมีความสุขกว่าใครแน่นอน เมื่อรู้ว่าอีกคนปันใจให้กับใครคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองแล้วแบบนี้จะไม่เศร้าอีกเหรอคะ

นักแต่งนวนิยายมักขายดิบขายดีกับนวนิยายที่ชิงรักหักสวาทมาทุกยุคทุกสมัย แม้ในสมัยเกิดสงครามอะไรก็ตามความรักของคนสองคนหรือสามคนก็ยังไปตามราวีรบกวนหัวใจคนมานักต่อนักแล้ว

เมื่อความรักทีเคยมีให้กันไม่เป็นอย่างที่ใจเราวาดหวังไว้ ความผิดหวัง เสียใจ ก็ต้องเกิดขึ้นได้เสมอโดยเฉพาะเป็นความรักที่อีกคนยังรักอีกคนหนึ่งมากอยู่ แต่โดนหักหลังเพราะไปรักใครอีกคน คนกลางคงยากลำบากในการตัดสินใจล่ะ เป็นแบบรักพี่เสียดายน้องเรื่องนี้เราว่าผู้ชายล่ะถนัดนัก หรือผู้หญิงก็เป็นคะ...5555....อันนั้นไม่แน่ใจฟันธงเพราะเราก็เป็นผู้หญิงเรื่องอะไรจะว่าผู้หญิงด้วยกันล่ะจริงมั๊ย...

ความจริงแล้วไม่เห็นจะลำบากเลย สำหรับคนที่ไปมีคนใหม่คงคิดง่ายอยู่แล้ว ถ้าคุณยังรักคนเก่าอยู่คุณก็คงไม่มีคนใหม่ ก็คงเป็นอะไรง่ายๆ ที่คุณคงจะตัดใจได้ สำหรับคนที่ถูกหักหลังเพราะอีกคนไปแอบมีใหม่ ก็ให้คิดง่ายๆ แล้วกันค่ะ (คิดยากก็ตัดใจยาก) ว่าในเมื่อเค้าไม่รักเราจริง แล้วเราจะไปรักเค้าอยู่ทำไม มั่นใจตัวเองหน่อยว่าเราเองก็มีอะไรดีอยู่บ้างล่ะ (อ่าว..ถ้าไม่มีดีแล้วคนที่กำลังมีคนใหม่เค้าจะมารักเราได้ยังไงล่ะ จริงป่ะคะ) เมื่อคิดว่าตัวเองมีดี ถึงแม้ตอนนี้จะเสียศูนย์ไปนิดที่เหมือนคนของเราหักหลัง แต่ก็อย่าไปสนใจคิดถึงส่วนดีของตัวเองเข้าไว้ ว่าไม่เป็นไร โชคดีที่ทำให้คนไม่ดีออกไปจากชีวิตเรา (อ๊าว..คนที่ทำร้ายเรา คนที่หักหลังเราจะเป็นคนดีสำหรับเราต่อไปได้ยังไงล่ะ) ทิ้งเค้าไปบ้าง...ไม่เจอคนที่ดีกว่าก็ไม่เป็นไร เราอยู่ได้เพราะเกิดมาก็มาตัวคนเดียว ไม่มีใครมาก็เคยเป็น พอมีใครก็ดี ไม่มีใครก็ไม่แปลกเหมือนกลับไปเหมือนเดิม อย่าไปชินกับความสุขจอมปลอมกับคนหลอกลวงจอมปลอมไม่เห็นคุณค่ากัน..อยู่คนเดียวก็ดีซะอีกอิสระอยากทำอะไรไปไหนๆ ก็ทำได้ไม่ต้องมีใครมาคอยสั่งโน่นสั่งนี่ในรูปคำพูด แบบห่วงๆ แต่หวงๆ อะไรแบบนี้ค่ะ...เนอะ...

แต่ก็อย่างว่าค่ะ พอนั่งฟังเพลงนี้แล้ว..ตัวเอง ก็ยังแอบคิดถึงใครบางคน...ที่อยู่ในความทรงจำแม้ทุกวันนี้ก็ไม่เคยลืม แต่สำหรับตัวเองเป็นคนแยกแยะความเลว ความดีออกจากกัน...ความเลวไม่ดีที่เคยมีต่อกัน คิดไปก็ทุกข์ใจกันเปล่าๆ ไม่คิดล่ะ ขออยู่และเก็บความทรงจำที่ดีไว้ดีกว่า ก็ทำให้รู้สึกดี มีความสุขที่อย่างน้อยเคยมีช่วงวันเวลาที่ดีๆ กับใครบางคน...และไม่จำเป็นที่ต้องให้ใครคนนั้นมารับรู้ความรู้สึกและความคิดถึงนี้...เพราะต่างคนต่างก็มีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง...ขอแค่ได้คิดถึงก็พอใจแล้ว...และก็ยังคุยกันได้จนทุกวันนี้

แต่สำหรับคนที่ก้าวเข้าไปเป็นส่วนเกินในขีวิตของใครบางคู่โดยรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ไม่เป็นไรค่ะจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ความรักมักออกแบบไม่ได้ ในเมื่อคนมีเจ้าของบางคนก็น่ารักซะจนอดใจไม่ไหว..อ่ะเนอะ..(อ่านมาถึงตรงนี้ดูเหมือนไม่มีศิลธรรมเลยแฮะค่ะ)..อ่าว..ก็ต้องเขียนเอาใจคนที่อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกบ้างสิคะ บอกแล้วว่าความรักไม่เข้าใครออกใคร เมื่อรักแล้วก็มักจะรักเลยไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้นล่ะ จึงต้องเขียนอะไรเป็นกลางๆ หน่อยสิคะ...แต่ขอเป็นแค่แอบรักได้ป่ะคะ...อย่าถึงกะไปแย่งคนที่เค้ารักกัน หรือไปทำลายครอบครัวใครเลยค่ะ แบบว่ามันบาปค่ะ..

ก็เลยขอเอารักช้ำ ๆ ทำอย่างไรไม่ให้(ชี)ช้ำมาให้อ่านกันค่ะ เพราะโอกาสความเจ็บของคนที่ไปแอบรักคนมีคู่แล้วเค้าว่าสถิติสูงกว่าคนที่ผิดหวังเพราะโดนแย่งคนรักค่ะ เพราะอย่างน้อยผู้ชายบางคนก็ยังมีศิลธรรม และความรับผิดชอบเพียงพอ ที่ไม่หักหาญน้ำใจคนมาก่อน และเค้าก็ยังรักเราอยู่อะไรแบบนี้ค่ะ เค้าบอกไว้แบบนี้ค่ะ


10 เงื่อนไขรักซ้อน (แบบไม่ซ่อนเงื่อน)



1. อยู่บนพื้นฐานของความรัก

ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่วงโคจรรักซ้อนแบบนี้ คุณต้องถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า นี่คือความรักใช่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นแค่เกม เกมหนึ่งหรือแค่ความวูบวาบหวั่นไหวไปตามอารมณ์ อาจมีคนต้องเจ็บปวดเพราะความคะนองของคุณก็เป็นได้ แต่ถ้ามันเป็นความรักจริงๆ คุณจะควบคุมจิตใจคุณได้ และใช้เหตุผลเข้ามาช่วยตัดสินใจบ้าง


2. ใช้ความยับยั้งชั่งใจ

ระงับความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่าน ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องดึงจิตสำนึกส่วนนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ แม้ว่าการใช้ชีวิตตามความรู้สึกจะนำพาคุณให้บรรลุความปรารถนาได้ก็ตามทีแต่เงื่อนไขของรักซ้อนคือความยับยั้งชั่งใจ จากนั้นใช้ความรู้สึกที่เหลือแสดงออกไป การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมีคุณค่าและดูมีเหตุผล ในขณะที่คุณได้ทำตามความปรารถนาของคุณเองด้วย


3. หาคู่คิด

เพื่อหามุมมองต่างๆ มาหักลบกลบหนี้ และหาทางออกให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะถ้าคุณคิดอยู่คนเดียว อาจทำให้หน้ามืดตามัวขึ้นมาก็ได้ แต่อย่ากระโตกกระตากเป็นอันขาด เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดได้ง่าย และหมิ่นเหม่เป็นอย่างยิ่ง ถ้ายิ่งมีคนไม่เข้าใจ คุณจะยิ่งเป็นทุกข์ คุณควรมีคู่คิดที่เป็นคู่คิดจริงๆ ว่าเขาจะเก็บรักษาเรื่องราวของคุณได้ ราวกับรักษาเรื่องของตัวเอง


4. มีขอบเขตและเงื่อนไข

กำหนดมันขึ้นมาเลย ว่าคุณจะให้ความรู้สึกหรือใจกับคนๆ นั้นได้แค่ไหน โดยที่ไม่เบียดเบียน หรือทำให้ใครต้องเจ็บปวด ให้รักครั้งนี้เป็นความรักที่หวือหวาที่สุดในชีวิตคุณ แต่เงียบที่สุดในชีวิตของเขา แล้วทำตามเงื่อนไขที่คุณกำหนดให้จงได้


5. ยอมรับความจริงและเผื่อใจ

ห้ามหลงตัวเอง ห้ามหลอกตัวเอง นั่นหมายความว่า คุณต้องรู้จักสถานะตัวเองดีพอที่จะประเมินสถานการณ์ทุกอย่างบนความจริงได้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ก็ตามแต่ คุณต้องรับมันและผ่านไปให้ได้ ไม่แน่ว่า ความรักครั้งนี้อาจเป็นหนทางทำให้คุณรู้จักตัวเองอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตที่คุณไม่เคยรู้ตัวมาก่อนก็เป็นได้ ในเมื่อคุณก้าวเข้ามาในวังวนความรักแบบนี้ คุณต้องรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าความทุกข์จะต้องรออยู่ข้างหน้า ฉะนั้นเตรียมรับมือไว้ได้เลย แต่มันก็คุ้มค่าไม่ใช่หรือที่จะแลกกัน


6. อย่าคาดหวังเป็นอันขาด

เป็นเรื่องพื้นๆ ที่มีคนกล่าวว่าที่ความผิดหวังเกิดขึ้นได้ ก็เพราะเราคาดหวังมันเอง แล้วคุณจะหวังอะไรกับรักต้องห้ามครั้งนี้ได้ ห้ามแม้แต่จะคิดหวังจะให้เขามาเป็นของคุณ แค่ได้รักกันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นแล้ว


7. อย่าทำให้ใครต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้

นี่คือเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดสำหรับความรักแบบต้องห้าม มิเช่นนั้นความรักของคุณจะเป็นพิษทันที ถ้ามันจะทำให้ใครสักคนมีอันต้องเจ็บปวดขึ้นมา


8. ห้ามก้าวก่าย

ความหมายคล้ายๆ “กิ๊ก” เหมือนกัน เพียงแต่จริงจัง จริงใจกว่ากันหลายขุม ที่ต้องห้ามไปก้าวก่ายในชีวิตเข้าหรือเธอก็เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ในชีวิตของเขาคนนั้น คุณแค่รักกัน แต่คุณไม่ใช่ของกันและกัน


9. ปรนเปรอความสุข

ให้คนที่คุณรักด้วยการสรรหาสิ่งดีๆ ให้ซึ่งกันและกันอย่างเต็มใจไม่ปรุงแต่งให้มากมาย ให้ความรักเป็นสิ่งสวยใส ไม่ขุ่นมัวจะดีกว่า เป็นการถนอมรักด้วย เขาจะรู้สึกดีแค่ไหน ที่มีคุณก้าวเข้ามาในชีวิต แล้วก็มอบแต่สิ่งดีๆ ให้เท่าที่ให้ได้จากตำแหน่งที่คุณยืนอยู่ เพราะคุณไม่สามารถที่จะล่วงล้ำอาณาเขตมากไปกว่านี้อีกแล้ว


10. เติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดหาย

แน่นอนเขากำลังมองหาส่วนที่ขาดหายอยู่แน่ๆ ไม่งั้นเขาคงไม่คิดจะเปิดรับคุณเข้ามาได้หรอก เพราะฉะนั้นผู้โชคดีที่จะไปเติมส่วนขาดให้เขา คือคุณนั่นเอง เรื่องนั้นอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ชีวิตเขาไม่เคยพบเจอและหาไม่ได้จากคนที่เป็นตัวจริงของเขา เป็นความหวาน เป็นความประทับใจ ที่ตกหล่นหายจากชีวิตเขาไปเนิ่นนานแล้วก็ได้ ทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ส่วนเกินที่ต้องตัดทิ้ง


เค้าบอกว่าความรักมักซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และรักสามเส้ามักจบด้วยความเศร้าเคล้าน้ำตาเสมอ บางคนแทบกระอักกับความรัก จนไม่กล้าที่จะรักใครอีกตลอดชีวิตเลยก็มีค่ะ ทั้งที่ความรักไม่ได้น่ากลัว แต่คนที่นำความรักไปใช้ในทางที่ผิดต่างหากที่ทำให้ความรักดูน่ากลัว เค้าจึงบอกว่า "เวลาที่คนเราเดินหกล้ม ก็ไม่ใช่ความผิดของถนนเลยสักนิด ก็คนเดินหกล้มเองต่างหากล่ะเดินอย่างไรถึงหกล้ม เดินไม่ระวังเอง" ซึ่งคงไม่ต่างอะไรกับความรัก ความรักก็เช่นเดียวกัน ตัวของความรักเองใครมีความรักก็มักจะมีความสุข แต่เมื่อใดหมดรัก เมื่อนั้นทุกข์ทันที แล้วเป็นความผิดของความรักเหรอคะ ที่ต้องทุกข์เพราะความรัก ทำอย่างไรให้ความรักที่เป็นความสุขกลับกลายมาเป็นความทุกข์ได้ล่ะคะ...จริงมั๊ยเอ่ย...หรือใครจะเถียงคะ...

ขอขอบคุณคุณญามี่คนใจดี สำหรับบีจีสวยๆ ค่ะ