deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
ทุกอย่างในโลกนี้มักมีขาวกับดำแม้แต่นิทานเรื่องนี้




มีเศรษฐีคนหนึ่งถูกตาถูกใจลูกสาวชาวนายากจนคนหนึ่ง และชาวหน้าผู้นี้ก็

เป็นหนี้เขามานานแล้ว วันหนึ่งเขาจึงเรียกชาวนากับลูกสาวไปพบเขา ที่สวน

หลังบ้าน ซึ่งเป็นสวนที่โรยด้วยกรวดสีดำและขาวมีเนื้อที่กว้างใหญ่มาก เมื่อ

สองพ่อลูกมาถึงสวนของเศรษฐี เขาจึงบอกกับชาวนาว่า



"ท่านเป็นหนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง แต่ถ้าหากท่านยกลูกสาวให้ข้า ข้าก็จะยกเลิก

หนี้สินทั้งหมดให้แก่ท่าน" ชาวนาตอบเศรษฐีทันทีว่าไม่ตกลง



เศรษฐีจึงค้นหาวิธีใหม่ที่จะให้ได้ลูกสาวของชาวนาผู้นี้ เขาจึงบอกชาวนาว่า



"ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม โดยข้าจะหยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้าที่ข้า

ถืออยู่นี้ ก้อนกรวดก้อนหนึ่งจะเป็นก้อนกรวดสีดำ อีกหนึ่งก้อนจะเป็นสีขาว

แล้วจะให้ลูกสาวของท่านเป็นคนหยิบก้อนกรวดจากถุงผ้านี้ หากนางหยิบ

ก้อนกรวดได้เป็นก้อนกรวดสีขาว ข้าก็จะยกเลิกหนี้สินที่ท่านมีกับข้าให้หมด

และนางก็ไม่ต้องแต่งงานกับข้า แต่ในทางตรงกันข้ามหากนางหยิบได้

ก้อนกรวดสีดำ นางจะต้องแต่งงานกับข้าทันที และข้าเองก็จะยกเลิกหนี้สินที่

ท่านมีกับข้าให้หมดไป...ตกลงไหม"



ชาวนาตกลงทันที แล้วเศรษฐีก็หยิบก้อนกรวดสองก้อนใส่ลงในถุงผ้า โดย

ความว่องไวและขี้โกงของเศรษฐี เขาได้หยิบก้อนกรวดเป็นสีดำทั้งสองก้อน

แต่ก็ไม่พ้นสายตาของลูกสาวชาวนาไปได้ เธอบังเอิญแอบเห็นพฤติกรรม

เลวๆ ของเศรษฐีผู้นี้




เธอจึงเริ่มใช้ความคิดอย่างหนัก นี่เธอจะทำอย่างไรดีนะ.....เธอจะเปิดเผยสิ่ง

ที่เศรษฐีโกงดี หรือจะปล่อยเลยตามเลยดีนะ เธอต้องขบคิดอย่างรวดเร็ว

หากเธอเปิดโปรงกลโกงของเศรษฐี ก็จะทำให้เขาเสียหน้า แล้ว

ยกเลิกเกมนี้ และอาจจะพาลพ่อกับเธอก็ได้ โดยการบีบรัดพ่อเธอให้ชำระ

หนี้สินให้หมดอยู่ดี ที่สำคัญพ่อเธอคงต้องเป็นหนี้ต่อไปอีกนานแล้วเมื่อไรจะ

หลุดพ้นจากปัญหาการเป็นหนี้เป็นสินเสียที แต่ถ้าเธอไม่เปิดเผยความจริง

เกี่ยวกับกลโกงนี้ เธอก็คงต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงนี้แน่นอนซึ่งเธอก็คง

ทำไม่ได้เช่นกัน




จากเรื่องเล่านี้...คนที่อ่าน...เรื่องนี้คิดได้อย่างไรกันคะว่าถ้าหากเป็นตัวเรา ๆ

จะทำอย่างไรดีกับปัญหาเฉพาะหน้านี้ มีบางคนอาจเคยอ่านผ่านตากับเรื่อง

เล่าอันนี้มาแล้วและสามารถตอบได้ว่าลูกสาวของชาวนาแก้ปัญหาได้อย่าง

ไร แต่ก็คงมีอีกหลายๆ คนคงไม่เคยอ่านผ่านตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ลองคิดดูนะ

คะว่า ถ้าหากเป็นตัวเองแล้วจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร



สำหรับตัวเองคิดเสมอว่า...ปัญหาทุกปัญหาเมื่อมีได้เกิดขึ้นได้..ก็ต้องมี

วิธีแก้เสมอ ...เพราะทุกปัญหาที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้มักเกิดขึ้นมาพร้อมกับ

ทางแก้ทุกๆ ปัญหาค่ะ
...แล้วแต่ว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นกับใครและใครจะ

เป็นคนคิดหาทางออกของปัญหาได้ก่อนกัน สำหรับเรื่องนี้ สิ่งที่ตัวเองคิดได้

ก็คือ...เห็นจริงกับลูกสาวชาวนาที่ว่า..ไม่ว่าจะหยิบอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะโกง

หรือไม่โกง ชาวนาหมดหนี้สินแน่นอน อิ อิ...ก็เลยคิดต่อไปว่าแรงกดดันก็

น้อยลงนิดนึง ถ้าเราไม่เปิดเผยว่าเราจับกลโกงเค้าได้ แค่ทำเฉยเสีย

แล้วออกอุบายให้เศรษฐีจับก้อนกรวดกันคนละก้อน เผอิญ มีวิทยายุทธ

มายากลหยิบก้อนกรวดสีขาวกำไว้ในมือไม่ให้เศรษฐีรู้
เหมือนที่

เศรษฐีไม่ให้ชาวนากับลูกสาวรู้ที่หยิบก้อนกรวดสีดำใส่ไว้ในถุงผ้าทั้งสอง

ก้อน เราก็ทำบ้างให้เศรษฐีหยิบก้อนกรวดออกมา แล้วโชว์ก้อนกรวดพร้อม

กัน โดยเราเปลี่ยนก้อนกรวด ด้วยความชำนาญเปลี่ยนเป็นสีขาวแบบ แว๊บ

ๆๆ เปลี่ยนก้อนกรวดสีดำอย่างรวดเร็วให้เป็นสีขาว แล้วนำออกไปโชว์พร้อม

กัน เท่านี้เศรษฐีก็ไม่เสียหน้า ลูกสาวชาวนาก็ไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้

โกง ชาวนาก็หมดหนี้สินด้วย และที่สำคัญเศรษฐีไม่กล้าโวยเพราะเป็นคนตั้ง

กติกาแบบนี้เองก็ตามกติกาทุกอย่างแล้วนี่คะ...แต่ที่สำคัญการแก้ปัญหา

แบบนี้ทำได้จริงๆ เหรอ ในความคิดตัวเองไม่น่าได้ อิ อิ เพราะลูกสาวชาวนา

ไม่ได้เรียนมายากลมา และอาจคิดแบบนี้แล้วก็ได้ แต่ไม่รอบคอบอาจพลาด

ท่าเศรษฐีได้ถ้าหากเค้าจับกลโกงได้ แต่ถ้าจับไม่ได้ก็รอดตัวไป



สรุปจากปัญหาที่เกิดทำให้ตัวเองได้เรียนรู้ว่า..หนทางแก้ปัญหามีหลาย

ทางให้เราเลือกได้ก็จริงอยู่ แต่ในแต่ละปัญหาที่เลือก เราจะรู้ได้อย่างไรว่า

เป็นหนทางที่ถูกต้องและสามารถแก้ปัญหาได้จริงๆ บางทีแก้ปัญหาไปแล้ว

กลับกลายเป็นปัญหาใหม่ขึ้นมา กลับกลายเป็นอีกเรื่องไปก็ได้




แต่สำหรับเรื่องนี้...ลูกสาวชาวนา (คนเขียน) คิดลึกล้ำยิ่งกว่าเรา ตรงที่หยิบ

ก้อนกรวดขึ้นมาจากถุงแล้วแกล้งทำตกพื้น ซึ่งพื้นที่ทำก้อนกรวดตก ก็

เป็นพื้นที่ ที่โรยก้อนกรวดสีดำสีขาวอยู่เต็มบริเวณ
เมื่อทำก้อนในมือ

ตกลงไปก็จะทำให้มองไม่ออกว่าก้อนกรวดที่หยิบมาและตกลงไปเป็น

ก้อนกรวดสีอะไร และแถมยังใช้ปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปัญหาที่ดีมากๆ

โดยการบอกทุกคนว่า เมื่อเศรษฐีใส่ก้อนกรวดสองก้อนเป้นสีดำ 1 ก้อน สี

ขาว 1 ก้อน เมื่อเธอทำตกไปก้อนหนึ่งก้อนที่อยู่ในมือเศรษฐีก็ต้องเป็นสีตรง

ข้ามกันกับที่เธอทำหล่นพื้นไป...เป็นสิ่งที่เราเองก็คิดไม่ถึงกับการแก้ปัญหา

แบบนี้ นับว่าคนเขียนเรื่องนี้มีปฏิภาณยอดเยี่ยมมากๆ ค่ะ


จากตรงนี้ทำให้เห็นว่า คนเรามักมองทุกเรื่อง ทุกปัญหาแบบมองต่าง

มุม
และมองให้เห็นว่าหนทางการแก้ปัญหามีมากกว่าหนึ่งทาง

เลือกเสมอ การยืดหยุ่นพลิกแพลงแก้ปัญหาไปตามสถานการณ์
ก็เป็น

วิถีทางหนึ่งในการแก้ปัญหา และในบางครั้งในการแก้ปัญหา อาจต้องสร้าง

เครื่องมือในการแก้ปัญหาขึ้นมาใหม่ และนอกเหนือจากนี้ คือ ทำให้เห็นได้

ว่าโลกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวกับดำ แต่มีสีอื่นเข้ามาแซมในโลกสีดำและขาวด้วย



จะเห็นได้ว่าขณะเมื่อลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า แล้วแกล้งทำ

ก้อนกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น เพื่อให้กลืนหายไปในก้อนกรวดสีดำและสีขาว

ของสวนกรวด เธอต้องมีเทคนิคในการทำให้ก้อนกรวดหล่น พร้อมต้องทำสี

หน้าให้ทุกคนเห็นเช่นอาการที่เธอทำ และพร้อมใช้น้ำเสียงที่ชวนให้เชื่อถือ

ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทำให้หล่นเลยมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ด้วยคำพูดว่า "

ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวดสี

ขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้ ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูสีกรวด

ก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่า กรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร "


และที่ก้นถุงผ้าก็จะเป็นก้อนกรวดสีดำซึ่งเธอและเศรษฐี สองคนเท่านั้นรู้ดี

ก่อนคนอื่นว่าเป็นสีดำเท่านั้น ด้วยปฏิภาณไหวพริบของเธอจึงทำให้เธอและ

พ่อของเธอจึงพ้นสภาพการเป็นลูกหนี้และเธอก็ไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้

โกงคนนั้น



ทุกเรื่องราวที่มีคนแต่งขึ้นเพื่อให้ความคิด ความรู้ เป็นเรื่องเล่าหลายๆ เรื่อง

หากทุกคนที่อ่าน เก็บไปคิด หรือ อ่านไปคิดไป มักให้แง่คิดที่ดีกับคนที่

เข้ามาอ่าน
ถึงมีแง่คิดว่า เมื่ออ่านนิทาน นิยายแล้วกลับมาย้อนดูตัว ก็

จะทำให้เกิดประโยชน์จากการอ่านมากๆ อย่างเรื่องเล่านี้ก็สอนให้รู้ว่า

"หากเราพยายามที่จะแก้ไขปัญหา ด้วยความคิด ด้วยสมอง ด้วยเหตุผล

ต่างๆ แล้วเราก็จะพบว่า ในทุกๆ ปัญหาย่อมมีทางออกและมีวิถีทางแก้ไข

เสมอ"






Unchain My Heart / Lisa Ono


Unchain my heart, baby let me be

Unchain my heart 'cause you don't care about me

You've got me sewed up like a pillow case

But you let my love go to waste so

Unchain my heart, oh please, please set me free


Unchain my heart, baby let me go

Unchain my heart, 'cause you don't love me no more

Ev'ry time I call you on the phone

Some fella tells me that you're not at home so

Unchain my heart, oh please, please set me free


I'm under your spell like a man in a trance

But I know darn well, that I don't stand a chance so

Unchain my heart, let me go my way

Unchain my heart, you worry me night and day

Why lead me through a life of misery

When you don't care a bag of beans for me

So unchain my heart, oh please, please set me free


[Sax Solo]


I'm under your spell like a man in a trance

But I know darn well, that I don't stand a chance so

Unchain my heart, let me go my way

Unchain my heart, you worry me night and day

Why lead me through a life of misery

When you don't care a bag of beans for me

So unchain my heart, please, please set me free

(please set me free)

Oh won't you set me free

(please set me free)

Woah, set me free

(please set me free)

Woowow, set me free little darlin

(please set me free)

Oh won't you set me free









Create Date : 15 เมษายน 2551
Last Update : 15 เมษายน 2551 18:46:13 น. 3 comments
Counter : 457 Pageviews.

 
คุ้นๆว่าเคยฟังนิทานเรื่องนี้คับ
แต่ก็จำไม่ได้แน่แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง
จำได้แต่เรื่องกรวดขาวกะดำนี่แหละคับ เหอๆๆ
ลูกสาวชาวนาคนนั้นก็ไหวพริบดีจังคับ
ใจผมน่ะ คิดว่าจะให้เศรษฐีหยิบกรวดอีกก้อนขึ้นมาด้วย
แล้วเปิดดูพร้อมๆกัน แต่ลูกสาวชาวนาในนิทานนี่แยบยลกว่าคับ
ได้ข้อคิดเหมือนที่พี่บอกเลยปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้
และก็อาจจะมีมากกว่า1วิธี
หากเรามีสติคิดไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบ
รักนะคับ


โดย: AquiraX IP: 58.8.139.149 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:18:33:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่ไปชมการทำ Photoshop

ไม่ได้เข้าไปทำต่อ เลยไม่ทราบว่าคุณเข้าไปดู

ขอให้มีความสุขนะค๊ะ



โดย: ยายเก๋า ,ชมพร (ชมพร ) วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:20:36:23 น.  

 
sawas dee ka :) happy wan songkran na ka :P


โดย: its me (NIRISSA ) วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:22:33:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.