โปรดช่วยกันดูแลคนดี
ตั๊กแตน ชลดา
กว่าจะมีคนที่ดีดี สักคน
ยอมอุทิศตน เพื่อคนส่วนใหญ่
กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่
ต้องรอนานเท่าใด จึงได้มา
แต่คนดีก็อยู่กับเรา ไม่นาน
โดนแรงเสียดทาน โถมจนพ่ายล้า
ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป
ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ
ใช้คนดีเปลือง ฝืดเคืองคำชม
โยนเรื่องทับถม ถึงทนก็ท้อ
เมื่อทำดียาก ใครอยากจะทำดีต่อ
ก่อนที่คนดีจะท้อ จึงร้องขอแรงส่งมา
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ
ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหา จนถอดใจ
โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่
ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย
ยืนหยัดสู้ไหว แรงใจมากมี
กว่าจะเจอก็ยากนักหนา ควรรักษาให้ดี
ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ
ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ
โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่
ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำดี
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ
ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ
โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่
ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
ยิ่งคุกคาม ยิ่งต่อต้าน
ยิ่งระราน ยิ่งต่อสู้
ยิ่งรังแก ยิ่งพันตู
ให้มันรู้ กูคือเสรีชน
"การทำสองมาตรฐาน เป็นการทำลายความนับถือ ความวางใจ และความรู้สึกของคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมความเสมอภาคที่เท่าเทียมกันในสังคม จึงควรตระหนักให้ดีก่อนที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยการใช้สองมาตรฐานในสังคมประเทศไทยเรา"
วันนี้เป็นวันจักรี เป็นวันสำคัญของชาติไทยวันหนึ่งวันจักรี ตรงกับ วันที่ ๖ เมษายนของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของไทยมาจนทุกวันนี้ พอดีไปเจอบทความภาพพ่อบอกว่าเลยเก็บมาฝากค่ะ
พระองค์ทรงทำ...พระองค์จึงทรงได้หัวใจรักของราษฏรที่พร้อมจะจงรักภักดีและตายแทนพระองค์ท่านได้...ทั้งๆ ที่พระองค์ท่านทรงเป็นปราชญ์ เป็นนักคิด นักพูด ที่ดี เมื่อพระองค์ทรงคิด พระองค์ท่านก็ทรงทำ เมื่อพระองค์ท่านทรงพูด พระองค์ท่านก็ทรงทำตามที่พูด ไม่ว่าจะคิด จะพูด พระองค์ท่านก็ทำให้ราษฏรของพระองค์ได้เห็น...พระองค์ท่านจึงได้หัวใจจากราษฏรไปโดยไม่มีสิ่งใดกังขา...ราษฏรจึงรักในพระองค์ท่านมากกว่าชีวิตตนเอง...
เรื่องนี้ผู้นำประเทศพีงสังวรณ์ไว้ว่า...ต่อให้ร้อยคำพูดที่พูดออกมาดีและสวยหรู แต่เป็นเพียงคำพูดที่อาบยาพิษไว้ทีละน้อย...ณ เวลาหนึ่งเมื่ออาการของพิษกำเริบ คำพูด ที่กระทำไม่ได้เลยก็กลายเป็นยาพิษตอบสนองคนที่ดีแต่พูด แต่ไม่กระทำ...และวันนี้ที่พวกผู้นำดีแต่ปากบางคนเรียกกลุ่มคนที่ออกมาเพราะเบื่อคำพูดที่อาบยาพิษว่า "ไพร่" ทั้งที่ไพร่หมดไปจากผืนแผ่นดินไทยมานานมากแล้ว ถ้าหากพวกของผู้นำเรียกประชาชนบางกลุ่มที่เป็นคนไทยด้วยกันเองว่า "ไพร่" แบบนี้ก็จงพิจารณาตัวเองด้วยที่บริหารบ้านเมืองอย่างไรให้กลับไปสู่ยุคไดโนเสาร์เต่าล้านปี หรือบริหารประเทศปัจจุบันอย่างไรให้คนไทยเป็นไพร่กันซะส่วนมาก แม้ จขบ. ก็คงเป็นไพร่จบปริญญาอีกคนหนึ่งล่ะ....น่าหัวเราะ....5555555....
วันนี้...ไม่ได้ไปไหนทั้งที่คิดจะไป..แต่อยู่บ้านเพื่อติดตามเหตุการณ์และส่งกำลังใจให้กับฝูงชนกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่ใช่ประชาธิปไตยฉบับประชาธิปัตย์ ด้วยความเป็นห่วงที่ต้องดึงและดันต่อสู้กับรัฐบาลที่ดื้อและดึงเกมตลอดเวลา เมื่อถึงคราวตัวเองบ้างกลับลืมคำพูดที่เคยพูดว่า "...ยุบสภาจะเป็นการรับผิดชอบทำเถอะเพื่อบ้านเมืองสงบ สร้างบรรทัดฐานที่ดีเถอะครับ...." เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2551 และ "...นักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบสูง ยุบสภาเถอะครับ..." ไม่ได้คิดจะเสพข่าว แต่เป็นการเฝ้าติดตามสถานการณ์และส่งกำลังใจไปช่วย ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งนั้นเป็นห่วงและสงสารคนที่ต้องตากแดดหน้าดำอากาศก็ร้อนแรงเสียเหลือเกินช่วงนี้ ยังไงก็ขอให้คุณพระคุณเจ้าปกป้องคุ้มครองดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงทุกๆ คนและขอเผื่อแผ่ไปถึงตำรวจและทหารที่ต้องออกไปทำหน้าที่ตามนายสั่งจะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตามขอให้ทุกคนปลอดภัยจากสิ่งร้ายๆ ทั้งปวงนะคะ...ในเมื่อผู้นำเป็นเด็กดื้อ ก็จะเอาแต่ใจตัวเองโดยลืมคำพูด ลืมคิดในแง่คนอื่นเอาแต่ใจตัวเองและพวกตัวเองเป็นที่ตั้ง...ต่อให้มีคำพูดที่ดูสวยหรูเลิศหรูอย่างไรก็ตาม...ตอนนี้เหลือความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจในความเป็นผู้นำ น้อยลงไปทุกที...ถ้าหากเป็นแบบนี้สู้ยุบสภา...อย่างน้อยยังเหลือค่าความเป็นคนดีเป็นผู้นำที่ดี ที่รู้จักเสียสละ(ตำแหน่ง)เพื่อความถูกต้อง เพื่อความสุขสงบในสังคม เพื่อพิสูจน์ค่าของตัวเองและพรรคไม่ดีกว่าหรือ...อย่าดื้อดึงจนไม่เหลืออะไรแม้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่บรรพบุรุษอุตส่าห์สะสมมาเลยค่ะ...
จึงขอเอาบทกวีจากเวปอารยชน คือที่มา ที่ไปพบบทกวีนี้ เป็นบทกวีชื่อว่า "ทัพไพร่แดง" โดยคุณใบตองแห้ง จึงขอขอบคุณตรงนี้แล้วกันค่ะ
ถนนมุ่งกรุงทุกสายสีแดงฉาน
คาราวานไพร่ยกทัพมาขับสู้
เหนืออีสานจากบ้านมายกธงชู
ให้โลกรู้ถึงกูจนคนเท่าเทียม
จราจรจลาจลสับสนแท้
รถปิคอัพรถตู้แห่ภาพ หน้าเหลี่ยม
ไร้ระเบียบแบบชาวบ้านผู้กร้านเกรียม
แต่มุ่งมั่นขอมาเยี่ยมชาวเมืองแมน
แดดร้อนจ้าเคลื่อนผ่ากลางหว่างตึกสูง
ผ่านคนกรุงในห้องแอร์ผู้สุขแสน
ผ่านโรงแรมพลาซ่าสินค้าแบรนด์
เหมือนอยู่คนละดินแดนแบ่งแคว้นกัน
สาวออฟฟิศวี้ดว้ายกระตู้วู้
ผู้ดีดูผ่านกระจกแล้วอกสั่น
คนชั้นต่ำ จะโค่นล้มสังคมอัน
มีศีลธรรมยึดมั่นบารมี
ทัพผีป่าบุก ผ่านฟ้า มาเนื่องหนุน
ทัพผีบุญกบฎเงี้ยวเลี้ยวเข้าที่
ขนน้ำปูปลาร้ามาอย่างดี
เตรียม ถังขี้ พร้อมรบโดยครบครัน
คือกองทัพคนจนพลรากหญ้า
เหงื่อไคลย้อยมาทายท้าชาวสวรรค์
ย่ำตีนแตกมือด้านมายืนยัน
ว่าหนึ่งเสียงเท่ากันไม่ยอมแพ้
คนกรุงล้มรัฐบาลมาทุกยุค
เคยไล่รุกเผด็จการมาแน่วแน่
กลับมาเชียร์รัฐประหารเปลี่ยนผันแปร
แล้วแถกแถอ้างศีลธรรมความชั่วดี
พันธมิตร ตุลาการ รัฐทหาร
ล้มรัฐบาลจากเลือกตั้ง ไร้ศักดิ์ศรี
แล้วรวมหัวกัน รู้รักสามัคคี
เพื่อกดขี่ชนบทกดให้ยอม
วันนี้คนจนขอไล่รัฐบาลบ้าง
โปรดอย่าอ้างความชั่วดีให้ขี้หอม
ต่างถูกผิดด้วยกันอย่าทำฟอร์ม
แล้วบังคับให้อ่อนน้อมค้อมเรื่อยไป
ว่าจน โง่ กินเหล้า เมา ขายสิทธิ
ก็ไม่เคยดัดจริตหล่อเล็กใหญ่
นโยบายได้ผลสิโดนใจ
ประชาธิปไตยกินได้ จึงตื่นตัว
ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องอ้างศีลธรรม
มาครอบงำกรีดนิ้วชี้ว่าดีชั่ว
แล้วใช้ปืนใช้กฎหมายสร้างความกลัว
มากดหัวให้ยอมรับ นี่คนดี
ประชาธิปไตยของไพร่ตื่นขึ้นแล้ว
จึงเข้าแถวทวงเท่าเทียมมาถึงที่
แม้หัวแถวไม่ได้ความเช่น 3G
นักการเมืองปาหี่มีทั่วไป
ย้อนอดีตแล้วนึกขำจำได้ว่า
ม็อบคนจนยกพลมาครั้งไหนไหน
นิติรัตน์ สมเกียรติ พลาดได้ไง
NGO ยะใส ต้องครบครัน
มาวันนี้ผิดฝาตัวพลิกขั้วกลับ
ไปนำทัพคนเมืองเหลืองห้ำหั่น
พอชาวบ้านตื่นตัวกลัวรู้ทัน
ก็ปลุก บางระจัน ต้านมวลชน
หลายสิบปีหมอประเวศเที่ยวเทศน์โปรด
เสียงงึมงำเปล่าประโยชน์ไม่เห็นผล
แต่ทักกี้แค่สี่ปีปลุกคนจน
แดงท่วมท้นชนบทลุกเป็นไท
นายทุนยึดประชาธิปไตยของคนยาก
NGO ข้ามฟากเป็น ขุนนางใหม่
วิปริตผิดเพี้ยนเสียกระไร
ตลกไหม? ตลกร้ายไร้ที่ลง
ใบตองแห้ง
14 มี.ค.53 / ที่มา ประชาไท
และขอนำบทความ "พ่อบอกว่า..." ที่เป็นบทความสอนที่ดีมาฝากอีก 1 บทค่ะจากเวปสานรัก ขอขอบคุณตรงนี้เช่นกันค่ะ....
พ่อบอกว่า...เมื่อเกิดมาเราต้องลืมตา
พ่อบอกว่า...เมื่อเราหิวจงเรียกร้องหา
พ่อบอกว่า...เมื่อเราเจ็บจงร้องไห้เรียกน้ำตา
พ่อบอกว่า...เมื่อเราเรียนควรใฝ่รู่
พ่อบอกว่า...เมื่อเราเล่นควรรู้จักคำว่า "พอ"
พ่อบอกว่า...เมื่อมีเวลาควรอ่านทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าเรา
พ่อบอกว่า...เมื่อเราเข้าสังคมควรรู้จักคำว่า "ขอบเขต"
พ่อบอกว่า...เมื่อยามคบเพื่อนเราควรรู้จัก "วางตัว"
พ่อบอกว่า...เมื่อยามทุกข์ใจเราควรปรึกษา
พ่อบอกว่า...เมื่อเราอยากมี...ควรนึกถึงแต่คำว่า "จำเป็นรึเปล่า"
พ่อบอกว่า...เมื่อเราผิดควรยอมรับแล้วแก้
พ่อบอกว่า...เมื่อเราเจอปัญหาควรตั้งสติ
พ่อบอกว่า...เมื่อเราฟุ่มเฟือยเราจะเหลือแต่หนี้
พ่อบอกว่า...เมื่อในหลวงสอนเราว่าพอเพียง คือ มีกิน มีใช้ มีเหลือ
พ่อบอกว่า...ถ้าพ่อยังอยู่พ่ออยากให้ลูกได้มีได้ทำทุกอย่าง...
พ่อบอกว่า...ถ้าพ่อไม่อยู่แล้ว พ่ออยากให้ลูก เป็นคนดีที่ช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร
ชอบประโยคนี้ "..ยุบสภาจะเป็นการรับผิดชอบทำเถอะเพื่อบ้านเมืองสงบ สร้างบรรทัดฐานที่ดีเถอะครับ...."
ตามผมมาได้ที่นี่นะครับ
//www.uddthailand.com/