**Creme Brulee de la Saint Valentin**
สวัสดีทุกๆคนค่ะห่างหายจากการกระจายสูตรอาหารซะนาน อลินอร่อยอราวนด์ เอ้ย อุ้ม สะใภ้ฝรั่งเศส เจ้าเก่า ขอรีเทิร์นสู่วงการบังเทิงเริงรมย์ ในแวดวงการทำอาหารต่อนะจ้ะ อิๆๆวันนี้จะมาเสนอสูตรขนมฝรั่งเศส (อีกละ?) ความจริงอุ้มไม่ได้ฝังใจอะไรกับขนมฝรั่งเศสมากขนาดน้านน เพียงแต่อุ้มชำนาญการทำขนมฝรั่งมากกว่าการทำขนมไทย อย่าถือสาว่ากล่าวกันเลย ไม่ได้มีจริตอะไร เพราะในทางกลับกัน หากไม่ได้เป็นคนทำเองแล้วล่ะก็ ใครทำขนมอะไรมาให้กิน จะขนมชาติไหน ไทยหรือฝรั่งอิชั้นรับได้หม้ดดด ขอให้ส่งมาเถอะ ไม่มีเกี่ยงงอน ถือคติ ไม่กลัวอ้วนแต่กลัวอิ่ม ก๊ากๆๆ ขนมไทยก็พยายามทำอยู่บ่อยๆ เพียงแต่เมืองที่อุ้มอยู่ร้านเอเชียไม่ใหญ่ ส่วนผสม ของดีๆอะไรมันก็ไม่ค่อยมี แป้ง กะทิ มีบ้างแต่ก็ไม่ครบสูตร ทำแล้วก็ไม่เหมือนกินที่บ้านเรา ทำกินให้หายอยากเป็นคราวๆไป แต่อย่างที่บอก ย้ำว่าถ้าไม่ได้ทำเอง ส่งอะไรมาให้กิน ก็เหมือนอ้อยเข้าปากช้าง ไม่เรื่องมาก รับได้หมดดดด ฮ่าๆๆ เอ้า นอกเรื่องเรื่อยเปื่อยไปซะยาวเลย พอดีเมื่อเช้าเกิดครึ้มใจอยากทำขนมหวานๆเป็นควันหลงจากเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ประกอบกับแม่สามีขนไข่สดๆจากบ้านนอกมาให้เยอะแยะ เลยต้องหาวิธีกำจัดไข่ นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำขนมอร่อยๆ และถึอคติเดิม อะไรที่ทำยากๆ วุ่นวาย อุ้มไม่ชอบ เน้นอะไรที่ทำง่าย ทำไว และต้องออกมารสชาดดี อิๆๆ สูตรขนม Crème Brulée de la Saint Valentin ของอุ้มเป็นสูตรประยุกต์มาจากเวปนี้ค่ะ //www.recoin.fr/recette/creme+brulee+de+la+saint+valentin.htmlขออนุญาติให้เครดิตเจ้าของไอเดียนิดนึง แต่อย่างที่บอก ประยุกต์เค้ามา ไม่ได้ก๊อปเค้ามาซะทีเดียว ปกติสูตรขนม Crème Brulée แบบคลาสสิคนั้น อุ้มมีใช้เป็นประจำอยู่แล้วค่ะ ไหนๆตั้งใจจะมาเผยแพร่สูตร ก็ขอปล่อยให้หมดเอาให้รู้กันทั้งบางไปเลย ฮ่าๆๆ สูตร Crème Brulée แบบคลาสสิค ของอุ้ม จะสำหรับกี่ที่กี่คนก็แล้วแต่ ปกติอุ้มคำนวณอย่างนี้ค่ะ 1.ไข่แดง(เฉพาะไข่แดงอย่างเดียวนะคะ ไม่เอาไข่ขาว) หนึ่งฟอง สำหรับ หนึ่งคน2.น้ำตาลทรายขาว(แบบละเอียด) 25 กรัม ต่อคน3.ครีม (สดแบบไม่พร่องมันเนย) 10 cl (เซลลิลิตร) ต่อคน4.กลิ่นวานิลลา หรือ วานิลลาจริง (ถ้ามี) ใส่นิดเดียวพอหอมๆ วิธีทำ ระยะเวลาการอบ เหมือนกันหมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสูตรคลาสสิค หรือสูตรประยุกต์ ทีนี้เรามาดูสูตรประยุกต์กันบ้าง พื้นฐานสูตรเหมือนคลาสสิคทุกอย่าง ยกเว้น กลิ่นวานิลลา เปลี่ยนเป็น ขิง(ชนิดผงนะคะ)ไอ้ขิงชนิดผง ที่ทำให้ไม่เหมือนสูตรปกติ ก็เพราะว่า ฝรั่งคิดว่าการทานขิง จะช่วยกระตุ้นอารมณ์รักๆใคร่ๆให้มากขึ้น โดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ ต้องการให้รู้สึกรักกันๆมากขึ้น ก็ต้องทานขิง หรือทานของเผ็ดๆ (ความจริงก็ไม่ใช่เฉพาะขิงหรอกค่ะที่เชื่อว่าเป็นการช่วยโด๊ป ยังมีหอยนางรม ช็อคโกแลต เครื่องดื่มแอลกฮอลล์ ฯลฯ)นอกจากเปลี่ยนจากกลิ่นวานิลลา เป็น ขิงผง ก็ยังมีการผสม น้ำตาลทรายขาว กับน้ำตาลทรายแดง แบบสองในสาม คือน้ำตาลทรายแดงมากกว่าน้ำตาลทรายขาวสองในสามจากปริมาณน้ำตาลทีต้องใช้ในการทำขนมครั้งนั้นๆเดี๋ยวจะงงๆกัน ขอยกตัวอย่างสูตรให้ดูดังนี้ค่ะสูตร Crème Brulée แบบประยุกต์ สำหรับวันวาเลนไทน์(แบบควันหลง) คำนวณเพื่อทำขนมสำหรับ 5 คน 1.ไข่แดง(เฉพาะไข่แดงอย่างเดียวนะคะ ไม่เอาไข่ขาว) 5 ฟอง2.น้ำตาลทรายแดง 85 กรัม3.น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม(ตรงนี้เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับน้ำตาล คือน้ำตาลทรายแดงมันหมด เหอๆๆ ไม่ทันได้ดู เลยต้องใส่แต่น้ำตาลทรายขาวล้วนๆ)4.ครีม (สดแบบไม่พร่องมันเนย) 50 cl5.ผงขิง หนึ่งช้อนชา (ตรงนี้แล้วแต่ความชอบ แต่ไม่ควรจะใส่มากเกินไป เดี๋ยวเผ็ดเกิน ฮ่าๆๆ) ไปดูรูปประกอบวิธีการทำกันเลยดีกว่านะคะ จะได้เข้าใจง่ายๆค่ะ อ้อ เกือบลืมๆ ก่อนทำขนม อุ่นเตาอบรอไว้เลยนะคะ จะได้ร้อนๆ อุ่นเตาไว้ที่ 120 องศาเซลเซียส หรือเบอร์ 4 ค่ะอย่างที่เห็นในรูปค่ะ ไข่ห้าฟอง เอาเฉพาะไข่แดง เลยต้องแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวก่อนนะจ้ะน้ำตาลทรายขาว (ตวงแล้ว) ไม่ได้ใส่น้ำตาลทรายแดงตามสูตร เพราะขัดข้องทางเทคนิค ฮ่าๆๆครีมสด (แบบไม่พร่องมันเนย) และผงขิง (ใช้นิดหน่อย) มีแค่นี้แล่ะค่ะ ไม่ต้องใช้อะไรมากเลย ตามรูปค่ะ ไข่กับน้ำตาล ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน ใครเคืองอะไรมา ก็ระบายไปเลยค่ะ ตีมันแรงๆให้สะใจ พอได้ส่วนผสมเหลืองๆตามรูป ก็ใส่ผงขิงเข้าไป พอดีสามีไม่ค่อยชอบทานเผ็ด เลยใส่นิดเดียว แล้วตีส่วนผสมด้วยมือกันต่อ เอาให้กล้ามขึ้นกันไปเลย อิๆๆ ใส่ครีมลงไป แล้วก็ลงมือคนๆๆ คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันได้ดี โดยเฉพาะน้ำตาล ต้องให้มันละลายให้หมดก่อนนะจ้ะ ขออภัยในความซ๊กม้ก รีบๆมากไปหน่อย ทำส่วนผสมครีมหกเลอะเทอะ น่าอายจริงๆยัยอลิน เอ้ย ยัยอุ้ม อิๆๆ ไปๆมาๆ บอกว่าจะทำขนมสำหรับห้าคน แต่ถ้วยขนมอุ้มมันเล็กไปหน่อย เลยทำออกมาได้ 8 ถ้วย เออ ดีเหมือนกัน มีแถมๆ จากที่เราวอร์มเตาเอาไว้ เราก็เพิ่มเวลาเป็น หนึ่งชั่วโมงค่ะ ปล่อยไว้ที่อุณหภูมิเดิมนะจ้ะ (เตาแอบเน่าได้ใจจริงๆ เหอๆๆ) เกือบๆหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลองสังเกตว่าครีมมันสุกหรือยังด้วยการลองเขย่าถ้วยดูนะคะ (เทคนิคครูกุ๊ก สามีอุ้มเอง)ถ้าเขย่าๆถ้วย แล้วครีมมันไม่ขยับเขยื้อน(เหมือนวุ้น) ก็แสดงว่าครีมสุกแล้วค่ะ (ไม่ต้องเอามีดจิ้มให้มันเป็นรูก็รู้ได้ง่ายๆจ้า) ความจริงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีเลยค่ะ ขนมมันก็สุกก่อนกำหนดแล้วอ่ะ สงสัยเตาเน่าๆของอุ้มมันจะร้อนเกินไปหน่อย แต่เอาเป็นว่าลองเขย่าขยับถ้วยดูนิดๆ ก็พบว่าขนมสุกแล้วค่ะ จากนั้นใครจะราดน้ำตาลปิ้งหน้าขนมแล้วทานกันแบบร้อนๆ หรือจะรอให้เย็นแล้วเอาขนมเข้าตู้เย็นก็ทำได้ค่ะ ได้ทั้งร้อนและเย็น ตามใจชอบ ของอุ้มชอบทานร้อนๆ เลยต้องไปตามมือเพลิง (สามี) มาช่วยพ่นไฟหน้าขนมให้ (อุ้มมีเครื่องพ่นไฟจ้า) ใครไม่มี ก็ใช้วิธีปิ้งหน้าขนมในเตาอบเอาแทนได้นะจ้ะ เปลี่ยนโปรแกรมเตาอบเป็นโปรแกรมปิ้งย่าง โรยน้ำตาลทรายหน้าขนมให้ทั่ว แล้วเอาเข้าเตา ปิ้งไว้ประมาณห้าถึงสิบนาที พอหน้าขนมไหม้ๆ ก็ใช้ได้เลยค่ะ ขนมพร้อมเสิร์ฟแล้ว มาๆ มาช่วยหยิบกันไปทานคนละถ้วยสองถ้วย อิๆๆ ขนมอร่อย ทำง่ายๆจ้า ลองทำ ลองทานกันดูนะคะ รับรองจะติดใจ วาเลนไทน์ไม่ได้มีแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นะคะ เราสามารถทำทุกๆวันให้เป็นวาเลนไทน์ได้เสมอ อย่าลืม "เติมความหวาน เติมน้ำตาลให้ชีวิต" อยู่เรื่อยๆนะคะ สุขสันต์วันแห่งความรักย้อนหลังให้กับทุกๆคนค่ะ
ไว้คราวหน้าถ้ามีเวลาจะเอาสูตรเค้กมาฝาก ช่วงนี้ยังไม่หายป่วยและยุ่งๆนิดหน่อยค่ะ มีเรื่องค้างให้อัพบานเลย เหอๆๆ