Do you know where you're going to?...... Do you like the things that life is showing you?
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
แปกเป้ขึ้น บขส. ไปเวียดนาม




ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา งานการไม่ค่อยมีทำครับ พรรคพวกที่เคยเที่ยวด้วยกันก็ลางานกันไม่ได้ เลยแบกเป้นั่งรถไปเวียดนามดีกว่า

ขึ้นรถที่ บขส. ภูเก็ตเย็นวันเสาร์ วันอาทิตย์ถึงกรุงเทพฯ ไปนอนตีแปลงที่บ้านเพื่อนที่สะพานควายอยู่ทั้งวัน ตอนหัวค่ำไปหมอชิต นั่งรถไปมุกดาหาร
เช้าวันจันทร์ก็อยู่ที่ท่ารถมุกดาหาร ซื้อตั๋วอินเตอร์บัสข้ามไปฝั่งสวันเขต ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วที่ บขส. มุกดาหารมีขายตั๋วรถบัสจากสวันเขตไปเว้ด้วย ซื้อที่นี่แล้วเอาตั๋วไปเปลี่ยนที่ท่ารถลาวเป็นตั๋วภาษาลาว สะดวกดีครับ มีประกันภัยให้ด้วย

รถบัสโดยสารจากสวันเขตไปเว้ มีทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ จากเว้กลับมาสวันเขต มีวันอังคาร-พฤหัส-เสาร์ (ก็รถคันเดิมนั่นแหละ) วันอาทิตย์หยุดวิ่ง 1 วัน

ถึง บขส.ลาว เปลี่ยนตั๋วได้เข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถ วันนี้รถไม่ถึงกับแน่นมาก เป็นรถแอร์ที่มีแอร์เล็กน้อยพอให้รู้ว่าเป็นแอร์





รถบัสระหว่างประเทศ มุกดาหาร-สะหวันเขต
ท่ารถสะหวันเขต ปะเทดลาว ครับ



ระยะทางจากสวันเขตไปด่านแดนสะหวัน (ลาว) 287 ก.ม. แล้วเดินข้ามไปด่านลาวบาว (เวียดนาม) เสร็จแล้วก็ไปเว้อีกราว ๆ 150 กิโลเมตร รถบัสวิ่งเกือบสิบชั่วโมง (ถ้าเป็น บขส.ไทย ห้าชั่วโมงก็เกินพอ) บนถนนหารถวิ่งยาก มีแต่วัวควายแพะไก่ สองข้างทางเป็นทุ่งนาแห้งแล้ง แวะพักทานข้าวเที่ยงเมืองพินในเขตลาว เข้าใจว่าเป็นร้านของชาวเวียดนาม เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วก็ทำข้าวผัดได้ห่วยแตกมาก (เพื่อนเคยบอกว่าคนเวียดนามผัดข้าวผัดไม่เป็น-เห็นจะจริง) แล้วก็นั่งปุเลง ๆ ต่อไปด่านแดนสะหวันฝั่งลาว ทำเรื่องออกนอกประเทศลาวแล้วเดินไปด่านลาวบาวของเวียดนาม ห่างกันราว ๆ ร้อยกว่าเมตร ทั้งสองด่านมีสาว ๆ ชาวเวียดคอยเดินตื้อให้บริการแลกเงินด่อง

กว่าจะเสร็จเรื่องราวที่ด่านครบกันทุกคนก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่า เริ่มออกเดินทางกันต่อ ตอนนี้คนไทยในรถเริ่มสนิทกันบ้าง มีเฮียคนอุดรที่พูดได้ทั้งไทย-ลาว-เวียดนาม เด็กหนุ่มเดินทางคนเดียว 2 Lady Boy ที่น่ารักจากรั้วพระเกี้ยว มีหนุ่มไทยที่พาคุณพ่อจากยะลากลับบ้านเดิมที่เว้ แล้วก็สองสาวที่นั่งด้านหน้าไม่มาสุงสิงกับคนไทย เธอทั้งคู่เป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนมาเรียนที่เมืองดองฮา (Lady Boy ไปถามแล้วมาเล่าให้ฟังครับ)

เข้าเขตเวียดนาม ต้นไม้เขียว อากาศเย็นสบายแตกต่างกับทางลาวลิบลับ ถนนเลียบไปกับแม่น้ำเบ็นไห่ จนเข้าเมืองดองฮา ซึ่งอดีตเคยใช้เป็นเส้นขนานที่ 17 แบ่งแยกเป็นเวียดนามเหนือ-เวียดนามใต้ เฮียสามภาษาลงที่เมืองนี้ บอกว่าจะต่อรถไฟไปฮานอย ชวนผมไปด้วย ผมบอกแกไปว่าเจอกันบนเส้นทางคราวหน้าแล้วกันนะเฮีย นอนบนรถตั้งแต่ภูเก็ตมานี่สองคืนแล้ว คืนนี้ขอนอนเตียงสบาย ๆ ดีกว่า อ้อ..อีก 2 สาวก็ลงที่เมืองนี้เหมือนกัน ตอนนั้นห้าโมงเย็นแล้ว อีกราว ๆ 70-80 กิโลกว่าจะถึงเมืองเว้ แถมในเวียดนามขับรถเร็วไม่ได้ ตำรวจจับ ปรับแพง

ตอนนี้มีเจ๊เวียดบนรถ ท่าทางอารมณ์ดี เริ่มเปิดการขายเงินด่องอีกแล้ว เจ๊แกพูดลาวได้นิดหน่อย เลยสื่อสารกันเฮฮาพอรู้เรื่อง แหม่มมาคนเดียวเห็นคนไทยแลกตังก็เลยเอามั่ง ดูเหมือนเจ๊จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

เมืองเว้ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า HUE บนตัว E มีหมวกมีขีดอะไรต่อมิอะไรอีก 2 ตัว อ่านยังไงก็ออกเสียงว่า หิว (ฝรั่งยังอ่านออกเสียงว่าฮิวเลย) แล้วกว่าจะถึงก็หิวจริง ๆ ด้วย เพราะถึงท่ารถเกือบสองทุ่ม ปกติรถก็ขับช้าอยู่แล้ว นี่ดันเจอฝนเข้าไปอีก ย่องสักราว ๆ 30-40 เห็นจะได้ คราวนี้ขนมปัง น้ำ ของใครมีเหลือก็งัดขึ้นมาแบ่งกันบนรถ

ถึงท่ารถเมืองเว้ ลืมสถานี บขส.ของไทยไปได้เลยครับ เป็นลานดินจอดรถเฉอะแฉะ มีกำแพงล้อม มีอาคารอยู่หลังนึงห่าง ๆ เห็นได้แค่นี้เพราะพี่เวียดแกประหยัดไฟ มีไฟสลัว ๆ ทึม ๆ อยู่ 2-3 ดวง รถจอดมันกลางลานดินนั่นแหละ ลงจากรถได้อันดับแรกคือวิ่งหาเป้ก่อน ต้องใช้ไฟฉายส่องครับ แล้วรีบคว้าให้ทันก่อนที่จะถูกโยนลงบนดินที่แฉะ ๆ ฝนก็ตกพรำ ๆ คนไทยก็มารวมกลุ่มกันว่าจะเอาไงดี หนุ่มไทยกับคุณพ่อจากยะลามีญาติมารับไปเรียบร้อยแล้ว ครู่เดียวเจ๊ก็เดินมาชวนหารค่าแท็กซี่ด้วยกัน ที่ ๆ แกจะไปก็อยู่กลางแหล่งโรงแรมพอดี เอาก็เอา แล้วทั้งหมดก็อัดกันขึ้นไปบนรถตู้คันเล็ก ๆ 2 Lady Boy เธอเอากระเป๋าเดินทางแบบลากใบเบ้อเริ่มแบบที่ใช้เดินทางด้วยเครื่องบิน กว่าจะอัดขึ้นไปได้ผมต้องระเห็จขึ้นไปนั่งคุดคู้ติดหลังคาอยู่บนกระเป๋ามหัศจรรย์ใบนั้น ค่ารถหารกันแล้วดูเหมือนจะราว ๆ คนละ 15 บาท

ถึงร้านญาติเจ๊ โรงแรมดองเฟืองอยู่ข้าง ๆ คืนละ 8 เหรียญ ห้องแอร์ น้ำร้อน-เย็น ตู้เย็น ทีวี เคเบิ้ล (ดูไม่รู้เรื่องสักช่อง) แถวนั้นโรงแรมเพียบ ขี้เกียจเดินหาที่อื่น พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เช็คอินเสร็จเดินชมเมือง กลับไปที่ร้านของชำของญาติเจ๊ก่อน อาเฮียแกเว่าลาวได้พอ ๆ กับเจ๊ เห็นเบียร์แช่อยู่ในตู้หลายยี่ห้อ ชี้ไปที่ป๋องเขียวตรา Huda รสชาติดีทีเดียว กระป๋องละ 6000 ด่อง ราว ๆ 12 บาท อืม... เวียดนามนี้น่าอยู่จริง ๆ




มื้อแรกในเวียดนามครับ
ขนมจีนขาหมู กับลูกชิ้น (เนื้ออะไรก็ช่างเถอะ) น้อง ๆ ลูกเทนนิส



หิ้วติดมือมา 3 กระป๋อง เดินหาอะไรทานก่อน ร้านอาหารก็เพียบ ฝรั่งนั่งกันตรึม แต่ผมไปสะดุดเอาหาบใต้ต้นไม้ มีคนเวียดนั่งล้อมวงกันหลายคน ส่งภาษาปากกากับกระดาษถามได้ความว่าเป็นขนมจีนขาหมูกับลูกชิ้นขนาดลูกเทนนิส ราคาถ้วยละ 10000 ด่อง = 20 บาท (ช่วงที่ผมไปนั่น 1 บาท แลกได้ 490 ด่อง คิดง่าย ๆ ครับ เงินด่องตัดศูนย์สามตัวหลังออก แล้วคูณด้วย 2 ส่วนเงินกีบก็ตัดศูนย์เหมือนกัน แต่คูณด้วย 4 ตกมาเป็นเงินบาท) พอเราทำท่าจะนั่งทาน รีบบอกมาเลยว่ามีราคาพิเศษด้วยนะ ถ้วยละ 15000 ด่อง ฮั่นแน่ !!! สวมวิญญาณซามูไรเชียวนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก เอาไอ้ถ้วยละ 15000 นั่นแหละมา ดูซิจะฟันได้ถึงไหน

นั่งทานบนโต๊ะและเก้าอี้เตี้ย ๆ ใต้ต้นไม้ข้างถนนในเมืองเว้ ซด Huda ไป แทะขาหมูไปจนเกลี้ยง จึงพบว่าเมืองเว้คืนนี้สวยขึ้นอีกเยอะเลย







เมืองเว้ยามเช้า



รุ่งเช้า เด็กหนุ่มไทยที่มาคนเดียวนั่นจับรถไปฮอยอันแล้ว ส่วน 2 Lady Boy ก็นั่งรถไปดาลัดตอนเช้ามืด เดิมทีพวกเธอจะอยู่เที่ยวเว้อีกวัน แต่เมื่อคืนผมเล่าเรื่องเมืองดาลัดที่ผมเคยไปให้ฟัง ก็เลยเปลี่ยนโปรแกรมไปดาลัดทันที ใจง่ายดีแฮะ




ซากรถถังตระกูล M กับปืนใหญ่อัตตาจร (คงจะเรียกถูกนะครับ) ของมะริกัน ที่พ่ายแพ้แก่รถถัง T54 ของเวียดนามเหนือในศึกเมืองเว้ นำมาตั้งแสดงตอกย้ำชัยชนะของชาวเวียดนาม



เช้านี้ผมเดินข้ามสะพานไปฝั่งเมืองเก่า ชมพิพิธภัณฑ์ มีรถถังไอ้กันที่ถูกยึดได้สมัยสงครามมาโชว์ (หรือประจานหว่า) ด้วย กว่าจะครบรอบก็เกือบเที่ยง เจอร้านอาหารแบบชาวบ้านอร่อยไม่แพงอีกร้านนึง อิ่มแล้วก็เดินกลับมาเปิดแอร์นอนที่โรงแรม เพราะยามเที่ยงของเมืองเว้นี่ อากาศร้อนได้ใจจริง ๆ เปิดทีวีดูก็ไม่รู้เรื่องตามเคย หนังฝรั่งก็พูดเวียดนาม พูดนะครับไม่ใช่พากษ์ พูดแบบบรรยายซัพไตเติ้ลเลย ถ้าเป็นผู้หญิงพากษ์ เอ๊ย พูด ก็จะพูดแทนตัวละครทุกตัวทั้งเรื่องทั้งหญิงชาย ไม่มีดัดเสียง ไม่มีเสียงเด็ก เสียงคนแก่ ไม่มีอารมณ์ตามเรื่องทั้งนั้น ดูแล้วสนุกพิลึก





Truongtien Bridge
ลอง Effect ดูเล่น ๆ ครับ



พอตอนเย็นก็เดินกลับมาที่เชิงสะพานตรังเทียน (คงจะออกเสียงถูกนะครับ) สะพานโครงเหล็กแบบสะพานพุทธ ทาสีเหมือนสะพานกรุงเทพ แต่ขนาดเล็กกว่ากันเยอะ ทอดข้ามแม่น้ำหอม กลางเมืองเว้ รู้มาว่าสะพานนี้จะมีการเปิดไฟสลับสีกันในตอนกลางคืน แต่ที่ไม่รู้คือเปิดไฟวันไหนและไม่เปิดวันไหน วันนี้เลยแบกขาตั้งกล้องมารอตั้งแต่เย็นพร้อมกับเพื่อนใหม่ Huda Beer




ยามเย็นริมแม่น้ำหอม






Create Date : 17 ธันวาคม 2551
Last Update : 17 ธันวาคม 2551 21:58:34 น. 15 comments
Counter : 8649 Pageviews.

 
เจอภาพแรกมา ก็ถึงเวียดนาม ซะแล่ะ

ไวทันใจ


โดย: Shallow Grave วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:18:52:54 น.  

 
มาเจิมเลยนะครับ คุณ Shallow Grave
ยังไม่เสร็จคร๊าบบบบ...


โดย: Dearance วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:19:05:47 น.  

 
ไปแล้วรึ เอาเพลงไรดีค่ะ จุนพ่อ


มาฟ้องด้วยค่ะ พี่ชายพี่หนูหล่อกำลังมีฟามร๊ากค่ะ

สงสัยน้องๆคงจะเป็นหมาหัวเน่า แมวหัวเน่าเร็วๆนีค่ะ

พวงแสดอยู่นี่ค่ะ

** พวงแสด **





โดย: Fullgold วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:19:17:03 น.  

 
อา.. พวงแสดมาแว้วววว

เรื่องคุณพรี่หนูหล่อนั่น ปล่อยแกไปเถอะครับ
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมัว
อีกไม่นานก็ซมซานกลับมาเอง


มีเพลงเวียดนามมั้ยครับ
เอาเพลง "แอง เอียว แอม" ก็ได้ (มีมั้ยหว่า)


โดย: Dearance วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:19:44:14 น.  

 
หนุ่มภูเก็จ เจ๋งจริงๆ


โดย: (@-@) (ตาพรานบุญ ) วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:05:05 น.  

 
นั่งรถก้นบานเลยจิ อิอิ

เราก้เคยก้นบานน่ะ นั่งจากหนองคายไปฮานอย


โดย: Papayahanaga วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:42:13 น.  

 
เป็นการเดินทางที่มาราธอนมั่กๆ แต่ก็คุ้มนะคะ...ค่าครองชีพที่เวียตนามท่าทางจะถูกมากๆเลยนะคะ ...กะเตี๋ยวชามเบ้อเร่ออเลย ยี่สิบบาทเอง

.........................

พี่หนูหล่อกะลังมีฟามรักเหรอคะคุณปู...ยอมม่ายได้นะคะ ใครจะมาเป็นพรี่สะใภ้พวกเราต้องผ่านด่านพวกเราไปก่อน ฮึ่มๆๆๆ


โดย: Suessapple วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:49:28 น.  

 
ขอบคุณป๋าพรานบุญครับ ที่แวะมาเยี่ยมกัน ดูแล้วท่าทางบ้านเราจะอยู่ใกล้ ๆ กันนะครับ อย่างน้อยก็เคยล่องเพชรเกษมเหมือน ๆ กัน

คุณ Papayahanaga ครับ หนองคาย-ฮานอย บานกว่ากันเยอะเลย ของผมมันแค่จิ๊บ ๆ



โดย: Dearance วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:21:28:20 น.  

 
คุณเปิ้ล ที่เมืองเว้หรือหลายเมืองในเวียดนาม ถ้ากินอย่างคนเวียด ร้อยนึงอยู่ได้ทั้งวันครับ ตอนเย็นแถมเบียร์ให้อีก 2 ป๋อง เอ้า

ส่วนเรื่องพรี่สะใภ้นั่น เหอ ๆ ๆ เรื่องเป็นยังงัยครับ คุณปู



โดย: Dearance วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:21:38:36 น.  

 
ที่จริงเดินทางแบบนี้ ต้องมีแผนที่ด้วยค่ะ
ไม่งั้นนึกภาพไม่ออก อิอิ

(Lady Boy )เด็กผู้ชายเป็นหญิงใช่ไหมค่ะ

อ่านไปอ่านไป เหมือนคุณเดียร์เสียดายเด็กหนุ่ม
ที่มาคนเดียวแล้วไปฮอยอันเลยค่ะ เสียดายมากกว่าสองสาว
ที่ลงไปก่อนหน้านั้นเสียอีก

เรื่องของพี่คนนั้น ต้องไปอ่านที่บ้านพี่เค้าเองค่ะ อิอิ

เพลงส่งไปทางแมวร้อนแล้วค่ะ


โดย: Fullgold วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:15:42:49 น.  

 
แหม ตะเองคิดได้งัยอ่ะ ว่าเค้าชอบเด็กหนุ่มคนนั้น


เหอะ ๆ ๆ ๆ ได้รับเพลงแล้วครับ เด๋วจะเอาลงประกอบตอนที่ 2 พร้อมกับแผนที่

ทีแรกก็ว่าจะลงทีเดียวจบ แต่พักนี้เวบพันทิบเข้ายากเข้าเย็นเหลือเกิน อีกวันสองวันจะลงตอนสองครับ



โดย: Dearance วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:12:11:39 น.  

 
คุยอะไรกัน งุงิ

มีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรงนะค่ะคุณ Dearance


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:11:01:09 น.  

 
เอาดอกไม้จากภูพิงค์มาฝากค่ะ

ไม่ใช่สีม่วงเสียใจด้วยเน้อ อิอิ



โดย: Fullgold วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:17:34:24 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ คุณจิ๊บ

ไม่ต้องดอกม่วงก็ได้ คุณปู อิอิ ขอบคุณครับ



โดย: Dearance วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:21:44:04 น.  

 
แหมเราไม่มาเยี่ยมแป๊บเดียว คุยกันตามไม่ทันเลยนะคะ

ตกลงเวียตนามนี่ ถ้าคนไทยไปคงเหมือนเป็นเศรษฐีเลยนะคะ

เอาไปพันนึงคงอยู่ได้เป็นอาทิตย์เลย

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ



โดย: Suessapple วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:8:09:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Dearance
Location :
ภูเก็ต Virgin Islands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Google
Friends' blogs
[Add Dearance's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.