ความเชื่อต่างมุมมอง : "I am a Cyborg, But That is Ok"
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่บล็อกที่แล้ว บล็อกนี้ดี.จะเขียนถึงเรื่อง "ความเชื่อ"
ในความเชื่อที่ต่างมุมมองกัน มีหลายหลายเหตุผลที่สามารถนำมาพูดถึง หรือนำมาโต้แย้งกันได้ เพราะต่างต่างความเชื่อก็คือต่างต่างความคิด และในต่างต่างความคิดสำหรับดี. ดี.มอง "ความเชื่อ" ผ่าน...
"I am a Cyborg, But That is Ok"
ใ น ชี วิ ต ข อ ง คุ ณ . . . คุ ณ เ ชื่ อ เ รื่ อ ง อ ะ ไ ร บ้ า ง แ ล ะ ใ น ค ว า ม เ ชื่ อ นั้ น คุ ณ ส า ม า ร ถ เ ล่ า ใ ห้ ค น อื่ น ฟั ง แ ล ะ ท ำ ใ ห้ เ ข า เ ชื่ อ ใ น ค ว า ม เ ชื่ อ ข อ ง คุ ณ ไ ด้ ห รื อ เ ป ล่ า ???????
"I am a Cyborg, But That is Ok"
เป็นภาพยนตร์เกาหลีค่ะ ฉายเมื่อปี 2007 ดี.ดูหลายรอบแล้ว เหตุเพราะชอบ "เรน" พระเอกของเรื่อง เป็นเบื้องต้น เคยบอกพี่ก๋าว่าจะเขียนเรื่อง "เรน" และเรื่อง "โรคจิต" พร้อมกัน บอกมานานแล้ว...คาดว่าพี่ก๋าลืมไปแล้วชิมิ จากเวลานั้น....ถึงเวลานี้... ดี.อยากเขียนถึงเรื่องนี้มาตั้ง 2 ปีแล้วนะเนี่ย วันนี้สมใจซะที :)
"I am a Cyborg, But That is Ok"
เล่าแบบสั้นๆเกี่ยวกับเรื่องย่อหน่อยค่ะ ถ้าใครไม่อยากเสียอรรถรสในการชมภาพยนตร์ข้ามไปเลยค่ะ (ไ่ม่ต้องอ่านเลยก็ได้ค่ะ แค่ไปเม้นต์ว่ารักดีดีพอแระ อิอิ)
"I am a Cyborg, But That is Ok"
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยทางจิต นางเอกของเรื่องคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์จึงไม่กินอาหาร แต่ใช้วิธีเลียถ่าน หรือใช้นิ้วแตะถ่านไฟฉาย เพื่อเป็นการชาร์ตไฟ...จะได้มีพลังงาน
พระเอกเป็นผู้ที่มีความเจ็บช้ำในวัยเด็ก ส่งผลให้เขามาอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทางจิต
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างก็รู้ว่า...เขาเป็นคนเก่งที่สามารถขโมยอะไรก็ได้ เมื่อวันพฤหัสของคนหนึ่งหายไป แน่นอนว่าเป็นฝีมือของเขา
"I am a Cyborg, But That is Ok"
ในช่วงเวลาที่เข้าฉายนั้นรู้สึกจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ภาพโปรโมท หรือจากเรื่องราวที่ออกมาตามสื่อต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนบ้าที่มารวมตัวกันอยู่ในโรงพยาบาล โดยบอกแนวหนังว่าเป็น...หนังรักโรแมนติกหวานซึ้งแต่แอบฮา โปรโมทออกมาแบบนี้ ร้องเฮ่อ!คำเดียวจบ ไม่เคยชอบวิธีโปรโมท+การตั้งชื่อภาพยนตร์ต่างประเทศ ในบ้านเราเลยให้ตายเถอะ
"I am a Cyborg, But That is Ok"
เล่าเรื่องย่อต่อ... (ย้ำอีกครั้ง...ถ้ากลัวความรู้สึกในการดูหนังจะเสียหาย ข้ามไปเลยค่ะ ไปเม้นต์ว่ารักดีดีก็พอ อิอิ)
เพราะพระเอกเก่งเรื่องการขโมย นางเอกซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่กับคุณย่าที่ป่วยทางจิต และได้สูญเสียความรู้สึกของความเป็นคนไปเพราะเชื่อว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ จึงคิดว่าเธอมีบางอย่างที่หุ่นยนต์ไม่ควรมี และเธอก็ขอให้เขาขโมย เพื่อให้สิ่งเหล่านี้หายไป นั่นคือ...
...การจมปลักอยู่กับความเมตตา.. ...ความกระวนกระวายใจ... ...การลังเลในทุกเรื่อง... ...การฝันลมๆแล้งๆ... ...การรู้สึกผิดตลอดเวลา... ...การนอบน้อมไร้สาระ...
ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างหายไป เธอต้องการให้เขาขโมย ความเมตตา
สิ่งที่น่าสนใจใน...
"I am a Cyborg, But That is Ok"
ในมุมคิดของดี. ดี.นึกไปถึงเรื่องราวของ ความเชื่อที่ต่างมุมมองกัน เรื่องราวในหนังเกิดขึ้นเพราะนางเอกเชื่อว่าเธอเป็นหุ่นยนต์ เธอจึงใช้ชีวิตอย่างที่หุ่นยนต์จะพึงเป็น มองย้อนกลับมาในชีวิตของเราเอง ดีดีกำลังเชื่อว่าตัวเองเป็นใครล่ะ และกำลังใช้ชีวิตไปอย่างไร
"I am a Cyborg, But That is Ok"
ความเชื่อ ที่เกิดขึ้นในจิตใจ ส่งผลอะไรให้กับตัวเราอย่างมากมาย เชื่อว่าคนนั้นเป็นคนดี เชื่อว่าคนนี้เป็นคนร้าย และจากความเชื่อก็จะพัฒนาต่อไปว่า... เรากำลังมีความเชื่ออย่าง...มีวิจารณญาณหรือเปล่า แต่ก็อีกนั่นแหละ ในแต่ละวิจารณญาณก็แตกต่างกันออกไป "ความเชื่อ" จึงเป็นอะไรที่ซับซ้อนอยู่ในตัวโลกกลมกลมเสมอ
(( ในความเชื่อของ "แคสสิโอเปีย" เมื่อมองว่า "ดงบังชินกิ"เป็นคนดีแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรดีหรือไม่ดี สำหรับ "แคส" พวกเขาคือคนดีอยู่เสมอ ...ในความเชื่อประเด็นนี้.... บล็อกน้องชางมินที่รักของดีดี เดี๋ยวจะนำเสนอเรื่องนี้))
"I am a Cyborg, But That is Ok"
คือการย่อโลกกลมกลมมาไว้ในโรงพยาบาลเล็กเล็ก ผ่านตัวละครเพียงไม่กี่ตัว สิ่งที่คนดูรู้สึกได้ก็คือ... ผู้ป่วยทางจิตมีโลกส่วนตัวที่อยู่ห่างไกลจากความจริง ดูหนังเรื่องนี้เหมือนว่า... เรากำลังมองโลกที่ไกลออกไป เพราะเราคงไม่บอกว่าเราเป็นหุ่นยนต์และใช้ีวิตแบบหุ่นยนต์ เราไม่เชื่อว่าวันพฤหัสของคนหนึ่งจะหายไป เพราะถูกอีกคนขโมยไป
แต่เรากลับเชื่อว่า... ...เราเจ็บปวดอย่างที่สุด เพราะรู้สึกว่าคนรักกำลังไ่ม่ซื่อสัตย์ต่อเรา ...เราแค้นใจอย่างสุดแสนเมื่อเราได้ยินจากบุคคลที่ 3 ว่า บุคคลที่ 2 กำลังทำร้ายเรา ทั้งๆที่เรายังไม่เคยเห็นว่าเป็นจริงหรือเปล่า เราแค่ฟังจากบุคคลที่ 3 ...และอีกมากมายที่เราเชื่อ จริงจริงแ้ล้ว "ความเชื่อ" แบบไหนที่ถูกหรือผิด...เราตัดสินใจจากอะไร???
กระซิบ : "I'm a cyborg, But that is ok." มีชื่ิอภาษาไทยที่ไม่เข้ากับเนื้อเรื่องเลยว่า OK! ถึงจะบ้า ก็บ้า ร้าก กำกับการแสดงโดย ปาร์ค ซานวูค นำแสดงโดย เรน หรือ ชองจีฮุน และ "อิมซูจอง" ได้รับรางวัลพิเศษ ภาพยนตร์แห่งการสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม (Alfred Bauer Prize) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 57 ณ ประเทศเยอรมนี
กระซิบ 2 : อยากบันทึกไว้ว่าเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ดี.ชอบมาก ชอบทุกอย่างที่มารวมกันเป็น
"I'm a cyborg, But that is ok."
และอย่างที่บอก...ชอบ "เรน" ดี.ติดตามผลงานการแสดงของเขาตั้งแต่ซีรี่ส์เรื่องแรก ฝีมือเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าทึ่ง
กระซิบ 3 : คนสวยชอบคนหล่อ มิแปลกใช่มั้ยมาดีนัยห์ & เปิ้นเหวิ่นที่รัก บล็อกถัดไปจะเขียนเรื่องน้องชางมิน แต่กำลังถกเถียงกับน้องสาวอยู่ เพราะน้องอยากให้ลงทั้งวง วุ้๊ยยยยยย พูดเรื่องคนหล่อแล้วอารมณ์ดี คาดว่าจะเขียนเรื่อง "ดงบังชินกิ"ทั้งวง อิอิ
Create Date : 08 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 9:43:01 น. |
|
41 comments
|
Counter : 1072 Pageviews. |
|
|
|