เมื่อวานอ่านบล็อกพี่ก๋าเรื่อง ..

:: เธอสอนลูกของเธออย่างไร ? ::

ทำให้นึกถึงเรื่องน้องคนหนึ่งขึ้นมา
บอกพี่ก๋าว่าเดี๋ยวจะเขียนเล่า .. หลังจากบอกว่าเดี๋ยวจะ ..
fufu ก็ลงมือเขียนเลยล่ะ คริ คริ :)










เช้าวันหนึ่ง (เริ่มแบบเป็นนิยายไปหน่อยมั้ย 55+)
.. น้องสาวในกลุ่มของเราเดินมาบอกเหล่าชาวดงว่า ..
“เค้ามีแฟนแล้วล่ะ”


น้องคนนี้ เป็นสาวน้อยวัยมัธยม .. หน้าตาน่ารัก
อยู่ที่โรงเรียนก็โดดเด่น หนุ่มๆแวะเวียนมาจีบ
ที่ผ่านมา มีคนที่มาคุยเป็นรื่องเป็นราวบ้าง
แต่คุยโทรศัพท์กันอยู่พักใหญ่ .. แล้วก็เลิกกันไป
ด้วยเหตุผลที่พวกเรามองเหล่ๆ แล้วร้องเฮ้อกัน เช่น ..


.. ก็เค้าง่วงอ่ะ .. มาชวนคุยอยู่ได้ .. ทำไมไม่รู้จักหลับจักนอน ..
(เราสงสัย .. เอ๊า เป็นแฟนกัน ก็ต้องคุยกันดิ)
.. ก็เค้าจะนอน .. ไม่เอาล่ะ .. เค้าเลิก .. เค้าไม่มีแฟนแล้ว เบื่อ ..



พอคุยกับคนใหม่ สักพักก็มาอีกล่ะ ..
..พ่อแม่ยังไม่ซักเค้ามากขนาดนี้เลย จะไปไหน ทำอะไร ถามอยู่ได้ ..
(เราสงสัยอีก .. เอ๊า .. เค้าก็เป็นห่วงเป็นใยกัน)
..ก็เค้าไม่ชอบ .. เค้าจะหาแฟน ไม่ได้จะหาพ่อ .. เลิกๆๆๆ


และกับทุกคน .. ที่น้องสาวรู้สึกว่าเป็นปัญหา ..

.. ก็เห็นอยู่ว่าพ่อมารับเค้า พอเค้าชวนมาไหว้พ่อ .. ไม่มาอ่ะ
(อืมมมมนะ .. เหตุผลนี้น่าคิด...ชาวดงลงมติว่าอย่างนั้น)



ด้วยเหตุผลหลากหลาย .. น้องสาวคนนี้เป็นแฟนกับใครไม่ได้นาน
ในกลุ่มเราเลยลงความเห็นกันว่า ..
เฮ๊ย .. อย่าคบใครเป็นแฟนเลย .. สงสารผู้ชายอ่ะ .. คุยกันกี่วันเนี่ย เลิกอีกแล้ว
ผู้ชายเค้าเสียหายนะเนี่ย .. ไปคบเค้าแป๊บๆ แล้วเลิก
.. ถ้าเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้ .. อย่ามีแฟนดีกว่ามั้ย ^^


น้องสาวก็บอกว่า .. อืม .. เค้าไม่มีแฟนแล้ว
รอเรียนมหา’ลัย ก่อนดีกว่าค่อยมีแฟน .. คบเด็กน่าเบื่อ

(จ๊ะ .. แม่ผู้ใหญ่มากๆๆๆ ..)










และเมื่อ ..
เช้าวันหนึ่ง น้องสาวในกลุ่มของเราเดินมาบอกว่า ..
“เค้ามีแฟนแล้วล่ะ”
(เหล่าชาวดงหันขวับ .. อะไรวะ .. เอาอีกแล้ว)


เมื่อน้องสาวเล่า .. เริ่มไม่มีใครสนใจ .. แบบว่าเบื่อแล้ว
“เฮ้ย .. จริงๆ .. คนนี้เค้าจริงจัง .. เค้าไปถามเองว่า .. คบกันป่าว...”


โอ้ .. ประเด็นนี้น่าสน ชาวดงก็เลยเริ่มสนใจหันไปถาม ด้วยคำถามประมาณ ..
.. เป็นผู้หญิง .. ไปขอเค้าคบเนี่ยนะ ..
.. ช่างกล้า ..
.. เขินบ้างป่ะเนี่ย ..
คำถามหลากหลาย แต่ประมาณนี้แหละ


น้องสาวจึงเล่าให้ฟังว่า .. หนุ่มน้อยคนนี้เป็นเพื่อนในห้อง .. มาชอบเธอก่อน
ได้รู้จากเพื่อนๆว่า .. คนนี้แอบชอบ ..
และก็รับรู้ด้วยความรู้สึกจากหัวใจตัวเอง
(เพราะก็แอบชอบเขาอยู่นั่นแหละ...ชาวดงสรุป)
.. ชอบเค้าแน่ .. (ก็ .. มองอยู่ด้าย)
สาวเจ้าก็เลยเริ่มเล็งว่าเพื่อนคนนี้น่าสนหรือเปล่า




เหล่าชาวดงถามนั่น นี่ โน่น .
ในที่สุดก็ได้รู้ว่า .. หนุ่มน้อยติดอันดับหล่อของห้อง
ไม่ค่อยพูด .. เป็นคนเฉยๆ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เกเร
เป็นขวัญใจของรุ่นน้อง รุ่นพี่ .. และ .. ไม่มีแฟน
น้องสาวเล็งอยู่หลายวัน .. เริ่มสนใจตรงที่ .. ไม่มีแฟน
และในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าไปถาม .. เป็นแฟนเค้ามั้ย(บ๊ะ .. ช่างกล้า)
หนุ่มน้อยก็งง (คงจะ .. เอ๋อไปเลย ..) แต่ก็พยักหน้าว่า.. เป็น พร้อมทำท่าเขินอาย
(โลกมันเปลี่ยนไปแล้วรึไงหว่า...เหล่าชาวดงสงสัย)



คำถามที่พวกเรากระหน่ำถามคือ .. นึกยังไงไปชวนเค้าเป็นแฟน
น้องสาวก็บอกว่า .. ก็มองอยู่ได้เลยถามซะเลย แล้วพอดีว่าว่างด้วย
แล้วถ้าเค้าบอกว่าไม่ล่ะ .. ก็หน้าแตกสิถามได้ ..
.. แต่มั่นใจล่ะว่าหนุ่มจะ say yes .. ไม่มั่นใจใครจะกล้าถาม
(ถ้าเค้า say no มา .. คงไม่มีเรื่องให้ดี.มาเล่าหรอก 55+)



พวกเราเลยต้องสรุปกันว่า .. น้องสาวเรามีแฟนแล้ว
แล้วทีนี้จะยังไงต่อ .. บางคนเริ่มห่วงฝ่ายชาย .. (มันจะถูกน้องเราทิ้งวันไหนวะเนี่ย)









เมื่อเริ่มคบเป็นแฟนกัน .. ก็จะมีการโทรศัพท์คุยกันกันก่อนนอน ..
พอน้องบอกง่วงแล้ว .. งั้นก็วาง .. เป็นอันว่าข้อนี้ผ่าน
จะไปไหน .. พอเล่าให้ฟัง .. ก็อืม .. รับรู้ไม่ถามอะไร .. ข้อนี้ผ่านอีก
เลิกเรียน เดินออกมาจากโรงเรียนมาด้วยกัน
.. พ่อเค้ามารับ ..ไปไหว้พ่อเค้าก่อนมั้ย .. ไป
ข้อนี้ก็ผ่านอีก



ความรักของน้อง .. เราชาวดงอยากให้เป็นไปได้ดีไปนานๆ..
เพราะนองสาวคนนี้ ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ..
การคบกับเพื่อนชาย อยู่ภายใต้สายตาของผู้ใหญ่
.. และช่วยเหลือกันในเรื่องการเรียน เช่น ..
.. ไม่ต้องโทรมาหาเค้านะ ถ้าทการบ้านไม่เสร็จ
ฝ่ายโน้นโอดครวญมา .. กว่าจะเสร็จ นานนะ ..
ก็นั่นแหละ .. เอาเวลาโทรมา ไปทำงานเลยไป
โดนดุ เข้าแบบนี้ .. ฝ่ายชายตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อจะได้โทรมาคุย
.. เป็นอันว่าการบ้านเสร็จ (แม๊ .. น่ารัก)



สิ่งที่สนใจกันมากก็คือ .. การคบกันภายใต้เงื่อนไขว่า .. ผู้ใหญ่รับรู้
เป็นเรื่องแปลกในสายตาของเพื่อนๆน้อง ว่าเฮ้ย ..
.. บอกพ่อแม่ได้เหรอ พ่อแม่ให้คบกันได้เหรอ ..
แล้วเพื่อนบางคนก็บอกว่า .. มีแฟนบอกแม่ได้
ดีจัง .. เราไม่กล้าบอกแม่ .. บอกไปแม่ตีตาย
..แม่ไม่ให้คบกับแฟนหรอก ต้องแอบๆ




น้องสาวก็บอกไปว่า ..
บอกพ่อแม่สิดี เกิดอะไรขึ้น พ่อแม่จะได้รับรู้ ไม่ต้องเหนื่อยมานั่งโกหกกัน
มีอะไรพ่อแม่จะได้ช่วยได้

แต่เพื่อนก็บอกว่ายาก .. ถ้าจะให้พ่อแม่เข้าใจ
..มันยากจริงๆนะคะ ที่จะให้ผู้ใหญ่เข้าใจความรักของเด็กๆ
และเด็กๆเองก็พร้อมที่จะอยู่ในกรอบ ไม่นอกลู่นอกทาง










^ ^ ดี.อยากบันทึกเรื่องนี้เก็บไว้ .. เป็นมุมที่ดี.รู้สึกดี
อยากเล่าสู่กันฟังด้วยค่ะ


ดี.ว่าความคิดของน้อง .. น่ารักดี

พอดีมีโอกาสได้คุยกับพ่อแม่น้องด้วย ว่า .. ทำไมเปิดใจ เพราะปกติลูกสาว พ่อแม่หวง
พ่อแม่ของน้องบอกว่า .. เด็กจะมีแฟน .. คงห้ามเขาไม่ได้ โตๆกันแล้ว
แต่ก็ดูแลอยู่ในสายตาว่าไม่ให้มีอะไรเลยเถิด เกินเลย ..
แล้วตัวเด็กก็รับรู้เงื่อนไขข้อนี้ ..


แม่ของน้องบอกเพิ่มเติมว่า ..
จริงๆแล้วการเปิดใจรับรู้เรื่องความรักของลูก ..
เท่ากับเราแบ่งปันความรู้สึกของลูกมา .. รับรู้ด้วย
ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกต่อไป .. ก็คือต้อง .. รับรู้




ดี.มานึก .. นึก .. ผู้ใหญ่เปิดใจได้ ..
เด็กเองก็คิดได้ .. ปัญหาต่างๆก็น่าจะลดน้อยลงได้
ความสัมพันธ์ในครอบครัว .. ก็ ..
การหันหน้าเข้ามาคุยกันบ้าง ..ฟังกันบ้าง .. น่าจะเป็นเรื่องดี



เล่ามาถึงตรงนี้ .. ก็จบซะดื้อๆเลยค่ะ
เพราะเรื่องราวที่เล่า .. เป็นชีวิตที่ยังคงดำเนินอยู่ ..
ใครจะรู้ อยู่ๆสาวเจ้าเกิดเดินมาบอกชาวดงว่า ..
“เค้าเลิกกับแฟนแล้ว .. คบเด็กเบื่อ .. รอไปมีแฟนตอนมหา’ลัยดีกว่า”
หรือ ..
“คนนี้ใช่แน่ๆ .. เรียนจบ .. แต่งงานเลย ..”


แต่ละชีวิต .. ^ ^ต่างก็ดำเนินไป .. เราก็ .. ไปต่อไปนะคะ ..

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 7:54:56 น.		35 comments
Counter : 1064 Pageviews.
Share Tweet