space
space
space
<<
กันยายน 2568
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
19 กันยายน 2568
space
space
space

Ultraformer vs Ulthera ต่างกันยังไง? ควรเลือกอันไหนให้คุ้มค่า

Ultraformer vs Ulthera ต่างกันยังไง? แต่ละเครื่องเหมาะกับใคร โปรแกรมไหนคุ้มค่า

Ultraformer vs Ulthera

Ultraformer vs Ulthera สองหัตถการนี้แตกต่างกันอย่างไร? แต่ละแบบเหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน ควรเลือกยังไง ทำที่คลินิกไหนให้ได้ผลลัพธ์คุ้มค่า ผิวแน่นกระชับยาวนาน

เมื่อพูดถึงหัตถการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด “Ulthera” และ “Ultraformer” ถือเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคย เพราะทั้งสองเครื่องล้วนมีเทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเฟิร์มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ไม่ต้องพักฟื้น แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า Ultraformer vs Ulthera แบบไหนดีกว่า? ต่างกันยังไง? และเราควรเลือกแบบไหนถึงจะคุ้มค่า ได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการที่สุด ไปหาคำตอบทั้งหมดได้ในบทความนี้


Ultraformer VS Ulthera ต่างกันยังไง?

Ulthera กับ Ultraformer ต่างกันยังไง? แม้ทั้งสองเครื่องจะใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ในการยกกระชับเหมือนกัน แต่อัลตร้าฟอเมอร์กับอัลเทอร่า ก็มีจุดเด่นและให้ผลลัพธ์ต่างกันออกไป ดังนี้ 

Ultraformer

ก่อนจะรู้ว่า Ultraformer กับ Ulthera มีจุดไหนที่แตกต่างกัน ควรรู้ก่อนว่า Ultraformer (อัลตร้าฟอเมอร์) คือ เครื่องยกกระชับผิวหน้าที่ใช้เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ซึ่งสามารถปล่อยพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน มีหัวยิงหลัก ๆ ให้เลือก 2 ระดับความลึก คือ หัว 3.0 mm. กับหัว 4.5 mm. ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมปัญหาผิว 

Ultraformer จะมีความเสถียรและให้พลังงานสูงกว่าเครื่อง Hifu ทั่วไป โดยจะส่งพลังงานเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ความร้อน 60-70 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวที่เคยหย่อนคล้อยจะดูกระชับแน่น ริ้วรอยจางลง ช่วยลดกระเปาะแก้ม เก็บเหนียง หน้ามีความเรียวเข้ารูปมากขึ้น หรือจะใช้สลายไขมันที่ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องก็ได้

Ulthera

แล้ว Ulthera vs Ultraformer ต่างกันตรงไหน? ในส่วนของ Ulthera หรือ Ultherapy คือเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวนด์ความถี่สูง High Intensity Focus Ultrasound มีจุดเด่น คือ ใช้เทคโนโลยี MFU-V ในการแสดงผลภาพอัลตราซาวนด์แบบ Real-time บนหน้าจอ ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวที่กำลังรักษา ช่วยให้ส่งพลังงานลงสู่ชั้น SMAS ได้แม่นยำกว่า Ultraformer 

และเครื่องยังมีพลังงานค่อนข้างสูง หลังทำหน้าจะยกกระชับชัดเจน เกิดการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า มีหัวยิงให้เลือกหลายความลึกตั้งแต่ 1.5 mm. ถึง 4.5 mm. 


Ultraformer VS Ulthera เหมาะกับใครบ้าง?

Ultraformer vs Ulthera เหมาะกับใคร

คนที่เหมาจะทำ Ultraformer 

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย: ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า คอ หรือร่างกาย เช่น คางสองชั้น แก้มหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวให้ดูเด็กลง: ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ
  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ เพื่อให้ผิวเรียบเนียนขึ้นผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น: ช่วยให้กรอบหน้าชัดมากขึ้น

คนที่เหมาจะทำ Ulthera

  • คนที่ผิวแก่ หย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับทำให้กรอบหน้าไม่ชัด
  • คนที่อยากยกกระชับผิวให้ดูแน่นตึง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • คนที่มีริ้วรอยจางๆ บริเวณหน้าผาก มีร่องแก้มและตีนกา
  • คนที่ผิวอ่อนแอ ขาดคอลลาเจน อยากให้ผิวแน่นอิ่มฟู กระตุ้นคอลลาเจนโดยที่ไม่ต้องฉีด
  • คนที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีเหนียง มีกระเปาะแก้ม คางสองชั้น
  • คนที่มีปัญหาคิ้วตก มุมปากตก

Ultraformer กับ Ulthera ทำอะไรเจ็บกว่ากัน?

Ultraformer vs Ulthera ในแง่ของความรู้สึกขณะทำ ต้องบอกว่า Ultraformer ค่อนข้างเจ็บน้อยกว่า เพราะมีการปล่อยพลังงานแบบหลายจุดพร้อมกันในครั้งเดียว บางคนอาจรู้สึกแค่ตึง ๆ หรืออุ่น ๆ ใต้ผิว หรือในจุดที่ผิวบอบบางก็อาจรู้สึกเจ็บมากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่อยู่ในระดับที่ทนได้

ส่วน Ulthera จะรู้สึกเจ็บระหว่างทำชัดกว่า เพราะจะปล่อยพลังงานแบบโฟกัสเป็นจุด ๆ ขนาด 1 mm. ลงสู่ผิวชั้นลึกด้วยความแม่นยำ ทำให้รู้สึกเจ็บหรือจี๊ด ๆ บริเวณที่ทำได้มากกว่า แต่ก็ให้ผลลัพธ์ด้านการยกกระชับที่ชัดเจนมากกว่าด้วยเช่นกัน

สำหรับคนที่กังวลเรื่องความเจ็บตอนทำ Ulthera กับ Ultraformer สามารถแจ้งแพทย์เพื่อขอแปะยาชาประมาณ 30-60 นาทีก่อนทำหัตถการ จะช่วยลดความรู้สึกเจ็บให้น้อยลง หรือบางคนแทบไม่รู้สึกเลย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทนเจ็บของแต่ละคน รวมถึงระดับพลังงานที่ใช้


Ultraformer vs Ulthera อะไรเห็นผลนานกว่ากัน?

Ultraformer vs Ulthera อะไรเห็นผลนานกว่ากัน? หลังทำ Ultraformer จะเห็นผลได้ทันที 10-20% แล้วจะกระชับเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล ถ้าต้องการให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น แนะนำให้ทำซ้ำทุก 6 เดือน

ส่วนผลลัพธ์หลังทำ Ulthera จะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที 20-30% จากนั้นผิวจะแน่นเฟิร์มเต็มที่ภายใน 3 เดือน และจะอยู่ได้นานตั้งแต่ 12-18 เดือน เมื่อทำครบช็อต และทำต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ


ทำ Ultraformer กับ Ulthera ที่ไหนดี?

การเลือกคลินิกถือว่าสำคัญพอ ๆ กับการเลือกหัตถการที่จะทำ เพราะถึงแม้จะใช้เครื่องดี แต่ถ้าแพทย์ไม่มีประสบการณ์ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจนัก สำหรับปัจจัยที่ควรพิจารณาเวลาเลือกคลินิกทำ Ultraformer III กับ Ulthera ได้แก่

  • คลินิกเปิดบริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักจากกระทรวงสาธารณสุข
  • ใช้เครื่อง Ultraformer กับ Ulthera ของแท้ ตรวจสอบได้
  • แพทย์ผ่านการเทรนใช้เครื่องยกกระชับแล้ว สามารถประเมินใบหน้า และให้คำแนะนำได้ตรงจุด
  • มีรีวิวจากผู้ใช้จริง
  • มีบริการติดตามผลหลังทำ และมีช่องทางติดต่อชัดเจน

สรุป Ultraformer vs Ulthera เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

Ultraformer vs Ulthera แม้จะเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดทั้งคู่ แต่ก็มีความแตกต่างชัดเจนในด้านความแม่นยำ ความเจ็บ และผลลัพธ์ที่ได้ โดย Ulthera เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับผิวอย่างชัดเจน อยู่ได้นาน ส่วน Ultraformer เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนเล็กน้อย ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างต่อเนื่อง และไม่อยากเจ็บมาก

สุดท้ายแล้วการเลือกทำหัตถการไหน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อวางแผนดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพปัญหา ความต้องการ และงบประมาณที่มี


 



Create Date : 19 กันยายน 2568
Last Update : 14 ตุลาคม 2568 13:57:17 น. 0 comments
Counter : 49 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

BlogGang Popular Award#21


 
สมาชิกหมายเลข 8254872
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 8254872's blog to your web]
space
space
space
space
space