รีวิวหนังสือ " The knife of never letting go มีดของท็อดด์ - Patrick Ness"
เรื่องราวของเด็กชายชื่อท็อดด์ ฮิววิตต์ ที่อีกหนึ่งเดือนเขาก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวตามเกณฑ์ของเมืองเพรนทิสทาวน์ที่เด็กชายอายุ ๑๓ ปีจะกลายเป็นผู้ใหญ่ และเขาเป็นเด็กชายคนสุดท้ายของเมืองที่มีอายุ ๑๒ ปี กับอีก ๑๒ เดือน (ที่นี่หนึ่งปีมี ๑๓ เดือน) แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องไปเก็บแอปเปิ้ลตามคำสั่งของเบน ชายที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่ที่พ่อและแม่ของเขาตาย ซึ่งเขาต้องเดินทางผ่านบึงน้ำที่อันตราย มันเป็นสถานที่ห่างไกลจากตัวเมือง และอยู่ชายขอบ แล้วเขาก็บังเอิญเจอกับเด็กสาวคนหนึ่ง "ไวโอล่า" เด็กสาวจริงๆ! อย่างที่เขาเคยเห็นในความคิดของผู้ชายในเมืองและที่เห็นในวิดีโอที่ฉายให้ดู เพราะที่นี่มีแต่ผู้ชายเท่านั้น เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีแต่ความเงียบ! ซึ่งเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาไม่ได้ยินเสียงคิดใดๆจากตัวเธอเลย เพราะในเมืองเพรนทิสทาวน์สิ่งมีชีวิตล้วนเต็มไปด้วยเสียงคิด กระทั่งสัตว์ ไม่ว่าเราจะคิดอะไรทุกคนจะรับรู้หมด
แต่แล้วเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เบนและคิลเลียนชายที่เลี้ยงดูเขากลับรีบเก็บกระเป๋าให้เขารีบออกเดินทางหนีไปจากเมืองนี้ทันทีพร้อมสมุดบันทึกของแม่ และแมนชี่หมาพูดได้ที่เขาได้รับเป็นของขวัญแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการมันเลยแต่เขาก็ต้องคอยดูแลและฝึกมัน และเขายังต้องหลบหนีไปตามเส้นทางเดิมที่เขาไปเก็บแอปเปิ้ลให้เบนมาด้วย มันคือสถานที่อันตรายที่เขาไม่อยากกลับไปอีกเลย แล้วยังต้องเจอ "แอรอน" บาทหลวงที่ทำตัวแปลกประหลาดและเล่นงานเขากับไวโอล่าตั้งแต่รอบก่อน ทำให้รอบนี้เขาตัดสินใจพาเธอร่วมเดินทางหนีตายจากการตามล่าของนายกเทศมนตรีของเมืองและนักบวชไปด้วย โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าทำไมพวกนั้นต้องมาตามล่าเขาด้วย เป็นเรื่องราวการเดินทาง และวิ่งหนีกองทัพของนายกเทศมนตรีเมืองเพรนทิสทาวน์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองอื่นของสองคนกับหนึ่งหมาน้อยน่ารัก ที่มักจะพูดว่า "อึ๊ ท็อดด์ ปวดอึ๊" และตื่นเต้น ร่าเริงกับบรรยากาศโดยรอบ แต่ก็ดันมีฉากหักมุมของแมนชี่ จนทำให้เราไม่อยากอ่านต่อไป เพราะที่อ่านไปเรื่อยๆเพราะหลงรักในความน่ารักของแมนชี่ ทั้งเรื่องเป็นการวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของกองทัพจากคนในเมืองที่ตัวเองเคยอยู่แล้วไปแวะพักตามเมืองต่างๆที่พบเจอแล้วกองทัพก็ตามไปทำลาย เป็นแบบนี้ไปทั้งเรื่องจนรู้สึกเบื่อเพราะดูเหมือนเนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรเลยนอกจากหนี เจอเมืองข้างหน้า อยู่สักพักแล้วก็หนี มันก็มีเรื่องราวและการคลี่คลายบอกปมอยู่แต่เราไม่รู้สึกว่ามันน่าสนใจพอที่จะอยากรู้หรืออยากอ่านต่อขนาดนั้น เพราะมันวนไปวนมา บาทหลวงอย่าง"แอรอน"ที่โดนสารพัดอย่างทั้งมีด หมัด ยับเยินหน้าเป็นรูโหว่เห็นฟัน เลือดไหลทะลักออกจากแผลมันก็ไม่ตายสักทีตามมาอยู่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วฉากสุดท้ายคนที่ต้องการหนีอย่าง " นายกเทศมนตรี" ก็ดันหนีไม่พ้นมาเจอกันพอดีในสถานที่ๆเป็นจุดหมายการเดินทางและคิดว่าปลอดภัย คนอื่นอาจจะคิดว่ามันทำให้น่าติดตามอ่านเล่มต่อไปเพราะดันมาเจอกัน แต่สำหรับเราคือมันวนเวียนซ้ำๆเกินไปแล้ว รู้สึกดีใจที่อ่านจบตามที่ต้องการเพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อเล่มต่อไปดีไหม เพราะมีทั้งหมด ๓ เล่ม เล่มสองออกแล้ว แต่หลังจากอ่านเล่มแรกแล้วไม่คิดซื้อต่อ จะเก็บไว้เพียงที่คั่นหนังสือสวยๆ ส่วนหนังสือต้องอยู่กองบริจาคแน่นอนเพื่อไปพบคนที่คู่ควรต่อไป
Create Date : 31 พฤษภาคม 2563 |
|
0 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2563 15:37:10 น. |
Counter : 685 Pageviews. |
|
|
|