Group Blog
 
 
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
" November's Tears " ( บทที่ 4 )




บทที่ 4





ดึกแล้วผมออกมานั่งมองน้ำในถนน



เดือนสองดวงลอยอยู่บนฟ้าและในน้ำ..มองเพลินๆ เหมือนนั่งอยู่ริมโขง ลมเย็นพัดเบาๆ..จันทร์บนฟ้า..จะมีสักครั้งไหมที่นึกอยากอยู่บนผิวน้ำ

ถึงจะไม่งามสง่าและสูงส่งอย่างดวงจันทร์ แต่ราชศักดิ์เกษมก็คล้ายกัน..ชีวิตที่เวียงเดือนมีแต่ความสุข สะดวกสบาย แต่บางขณะเขาก็อยากมีชีวิตธรรมดาๆ ที่เมืองไทย..จันทร์บนฟ้าต้องลอยนิ่ง ส่องแสงสุขสกาวเหมือนกำลังยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา แต่จันทร์ในน้ำไม่เคยอยู่นิ่ง พลิ้วไหวกระเพื่อมขึ้นลงตามกระแสน้ำ บางทีก็หายไป มองไม่เห็น

มากรุงเทพฯ คราวนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อพาแม่มาหาหมอเท่านั้น หากมีบางอย่างแฝงอยู่..ผมระแคะระคายบ้างเหมือนกันว่ากำลังจะถูกจับแต่งงาน และถ้าถูกกำหนดลงไปจริงๆ ก็ยากที่จะบิดพลิ้ว..ศิลาเป็นประเทศเล็กๆ อะไรๆ ถึงกันหมดอย่างรวดเร็ว

ถ้าผมกลับไปและงานถูกกำหนดขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะเจ้าสาวที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหลานของท่านอนุชา ผมคงไร้หนทางที่จะหลีกหนี..มีทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยง..ไม่กลับศิลา..ปักหลักอยู่เมืองไทยอย่างถาวร..ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อครึ่งหนึ่งของแม่ผมคือคนไทย

เครดิตของผมคือจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏประจำจังหวัดชายแดนของประเทศไทยที่ติดกับประเทศศิลา แน่ใจว่าคงพอหางานทำได้ อาจติดขัดเรื่องสัญชาติแต่แก้ไขได้ ทุนรอนระยะแรกๆ แม่คงส่งเสียให้ไม่มากก็น้อย ที่พักก็มีอยู่แล้ว

ที่สำคัญ..เรื่องของหัวใจ..ไม่รู้สิครับ..จนป่านนี้ผมยังไม่รู้ใจตัวเอง ฟังเหมือนเรื่องโกหก..เอาอย่างนี้ดีกว่า..เรื่องเพศผมมีความรู้สึกและปลดปล่อยเช่นชายหนุ่มธรรมดาทั่วไปแต่ยังไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวกับใคร..ความรัก..มีบ้างกับเพื่อนๆ ทั้งหญิงและชาย..ความสุขความอบอุ่นจากการพูดคุย ห่วงหาอาทร เอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน..

บางทีนึกอยากเกินเลยมากกว่าความรัก..ความใคร่..แต่ด้วยสำนึกว่าต่างถิ่นต่างแดนและเพราะธรรมเนียมประเพณีโบราณของศิลาที่ฝังลึกอยู่ในใจ ผมจึงห้ามใจตัวเองได้..55..ผมจะเงอะงะจนถูกเจ้าสาวหัวเราะไหมนะในวันแรกของการสร้างครอบครัว 555



แม่หลับไปนานแล้ว..จะรู้ไหมว่าลูกชายโทนของแม่กำลังคิดอะไรอยู่


“อนุชิตครับ..” ไม่รู้ทำไมผมส่งข้อความนี้..ดึกมากแล้ว..ฟางเส้นหนึ่งที่ลอยมาให้ผมเกาะ ไม่รู้จะทานน้ำหนักผมได้มากน้อยขนาดไหน..อย่างน้อยคงอุ่นใจบ้าง

เงียบ!..ผมกดเข้าไปดูหน้าเฟสของอนุชิต ไล่ดูข้อมูล ข้อความเก่าๆ ของเขา

“โกรธเขาเสมอ เกลียดเธอที่ทิ้งเเค้นทุกสิ่งที่เป็นวันนี้ มันทำใจไม่ไหวสักทีกับความรู้สึก เจ็บลึกที่อยู่ในใจ”

“ถึงภายนอกดูไม่เป็นไรเเต่รู้ไหมว่าข้างในนี้มันเจ็บปวดขนาดไหน”

“ร่างกายมันก็ปกติเเต่ทำไมรู้สึกไม่มีเเรงจนไม่อยากทำอะไร”

“ณ ตอนนี้ที่นี้ทุกอย่างมันจบลงเเล้ว ไม่จำเป็นที่อยู่ ณ ที่เดิม จะเดินต่อไปข้างหน้าเเละลืมเรื่องที่เลวร้ายทั้งหมด เริ่มต้นชีวิตใหม่”

“โอ๊ยหนาวจัง อยากนอนกอดเเต่ไม่มีคนให้กอด หนาวๆๆ”

“ขอโทษนะ ความรู้สึกบ้างอย่าง ควรมีเเค่หนึ่งไม่ใช่สอง”

“คนนะเหงาเป็น T_T”

“กรูมันแค่ผู้ชายเปื้อนฝุ่น คงกอดไม่อุ่นเท่าผู้ชายมีตังค์”

“มันเจ็บนะรู้ไหม รู้ไหมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ T_T”

“เคยไหมฝันว่าร้องไห้ตื่นชึ้นมาน้ำตาไหลจิงๆ T_T”

“มันทำไม่ได้ว่ะ ฝืนทำใจให้ดูดีมีความสุข”

“นอนหลับฝันดีๆ ไม่ต้องตื่นเลยก็ดี”

“สำหรับคนที่ไม่มีใคร จะอยู่ที่ไหนก็หนีไม่พ้นความเหงาในใจ”

“ทุกสิ่งผ่านมา เพื่อผ่านไป อย่ายึดติดถือติด ต้องทำให้ได้”

“อยู่คนเดียวกับความเหงา ซักวันเราจะตายไปเอง อิอิ”

“อะไรกันวะเนี่ย มันเกิดเหี้ยอะไรกับชีวิตหนักหนาวะ”

“อยู่ไปก็ไม่เคยเห็นกรูอยู่ในสายตาเลยสักนิด”


ผมก็นะ..ลอกมาเกือบทุกข้อความ



ประมวลจากข้อความที่เห็น อนุชิตกำลังอกหักและตัดใจไม่ได้ ยังคงนัวเนียอยู่กับคนที่รักสุดหัวใจคนนั้น แม้ข้อความ วาจาจะดูกร้าวแกร่งแต่สัมผัสได้ถึงความอ่อนล้า เหงาเศร้า และเป็นรอง

อนุชิตกำลังอกหัก..ผมเหงา อยากมีเพื่อน อยากมีคนปรับทุกข์ปรึกษาและให้ความเห็นเกี่ยวกับชีวิต อนุชิตอาจอยากมีเพื่อนจริงใจสักคน..ส่วนมากที่เห็นคุยกันก็แค่สนุกสนานเฮฮาชั่วคราว ยิ่งคิดจะคบเป็นคนรู้ใจนั้นยาก..ถ้าจะหาคนรู้ใจจริงๆ ต้องหาจากสังคมในชีวิตจริงไม่ใช่โลกไซเบอร์อย่างนี้..อ้าว!..ผมก็ไม่ใช่คนจริงใจอย่างนั้นสิ..ไม่ใช่..ไม่ใช่



“ผมก็ไม่มีใครเหมือนกันครับ..เข้าใจความเหงาของคุณดี” ผมแสดงความเห็นในข้อความหนึ่งของอนุชิต “สำหรับคนที่ไม่มีใคร จะอยู่ที่ไหนก็หนีไม่พ้นความเหงาในใจ”

“คาฟๆๆ” อึดใจต่อมาอนุชิตพิมพ์ตอบ

“ผมเล่นในบีบี มันไม่ค่อยอัปเดทข้อความที่ส่งมาจึงมองไม่เห็นที่คุณทัก..แต่ถ้าแสดงความคิดเห็น บีบีมักแสดงรายการให้รู้คับ”

“ดึกแล้ว ไม่รู้ทำไมผมป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้” ผมหาเรื่องคุย

“แถวนี้คือแถวไหนคับ” ไม่รู้จริงๆ หรือ

“เมืองไทย..ข้างๆ คุณอนุชิต” อะนะ..ผม

เงียบ!..สงสัยเขินคารมหนุ่มศิลา

“ผมแอดเพื่อนคุณอนุชิตเป็นเพื่อนผมบ้างได้ไหม? ไม่มีใครคุยด้วย เหงาคับ ~><~” อ้าว!..ทำไมพูดอย่างนั้น..พลาดละสิผม

“แล้วแต่เลยคับ ^_^”

“ถูกใจคนไหนก็แอดเลยคับ ^_^”

สองข้อความติดต่อกันโดยไม่รอคำตอบจากผม และออกจากการสนทนา



เช้าวันรุ่งขึ้น


“วันนี้กลับจากหาหมอแล้วแม่จะกลับศิลานะ” เรากำลังเตรียมตัวไปโรงพยาบาล

“โอ๊ย!..” ผมค่อนข้างตกใจ “กะทันทันอย่างนี้นะแม่ ใครจะเตรียมตัวทัน” ใครจะทำใจทันต่างหาก..คิด..คิด..หาเหตุผล

“ก็แค่กระเป๋าคนละสองใบ” แม่ตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำ ไม่ฟังเสียงใครนอกจากพ่อ

“ของฝากยังไม่ได้ซื้อสักชิ้น..น้ำก็ยังท่วม..” จะได้ผลไหมนะข้ออ้างของผม

“เดี๋ยวแวะห้างก็ได้..ทีไปโรงพยาบาลยังได้ ทำไมจะไปสนามบินไม่ได้”

“วันนี้วันลอยกระทง เราลอยกันก่อนแล้วค่อยไปดีไหม?”

“เบื่อแล้ว” แม่ตอบสั้นๆ

“พ่อบังคับละซี..” จี้จุดอ่อนเพราะแม่ไม่ชอบให้ใครรู้ว่ากลัวสามี

“เปล่า” สั้นกว่าเดิม

“แล้ว..แล้ว..” ผมปิ๊งขึ้นมาอีกเหตุผลที่แม่จะปฎิเสธไม่ได้ “พรุ่งนี้วันศุกร์ ถัดไปเสาร์อาทิตย์..” ผมค้างไว้

“แล้วไง?” แม่คงรู้สึกได้เหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร

“ละครหลังข่าวไง..ศุกร์เสาร์อาทิตย์..กำลังสนุกไม่ใช่หรือครับ” ยิ้มในใจเมื่อเห็นแม่กุมหน้าอก

“ตาย!..จริงด้วย..ยังไม่กลับหรอกถ้าอย่างนั้น..” หันมายิ้มกับผม “ขอบใจนะที่เตือน..เดี๋ยวแม่จะโทรฯ ไปเลื่อนวันกลับกับพ่อเอง”



ตกค่ำ..ผมนั่งมองดวงจันทร์อย่างเหงาๆ..วันลอยกระทงถึงแม้จะไม่ใช่ประเพณีของศิลาแต่ผมก็คุ้นเคยมานาน จนบางทีนึกว่าที่บ้านก็มีเหมือนกัน..ลำคลองบนถนนที่คาดว่าจะมีการลอยกระทงก็ไม่มี..คงไม่มีใครมีกะจิตกะใจจะลอยทั้งที่เห็นเย้าแหย่กันในเฟสว่าปีนี้ดีจังจะได้ลอยกระทงหน้าบ้าน

อือ..เปิดโน๊ตบุ๊คดีกว่า..อนุชิตไม่แยแสผม ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังมีเพื่อนคนอื่นอีก

“ลอยกระทงป่าวคาฟวันนี้” อนุชิตส่งข้อความมาเมื่อตอนกลางวัน

แทนที่จะตอบ..ถึงตอบก็คงไม่มีประโยชน์..ป่านนี้อนุชิตคงลอยกระทงสนุกสนานอยู่ที่ไหนสักแห่ง..ว่าแล้วผมก็กดเข้าไปดูหน้าเฟสของเขา

ทันใจดีจริง..อนุชิตโพสท์รูปกระทงสองใบคู่กัน..เขียนข้อความว่า “อิอิ”

กดลงไปบนรูป..อัลบัมลอยกระทงก็ปรากฏ..อนุชิตและเพื่อนสี่ห้าคนโพสท์ท่าต่างๆ ระหว่างลอยกระทง สีหน้ายิ้มแย้มพร้อมข้อความกระเซ้าเย้าแหย่อย่างสนุกสนาน..ระหว่างกลุ่มเพื่อนเหล่านั้นมีเพื่อนหนุ่มที่ผมมั่นใจว่าเป็นคนรักของอนุชิตรวมอยู่ด้วย

ว่าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยแล้วอดไม่ได้เขียนตอบไป..พรุ่งนี้อนุชิตคงเข้ามาเห็น

“เฮ้อ!..ได้ลอยกระทง..ได้เที่ยวแล้วยังหัวเราะ อิอิ..ไม่เห็นใจผมเล๊ยยยย..คุณอนุชิต..แบ่งความสุขเผื่อคนเหงาบ้างสิครับ..”

“ดูน้ำ..ดูอนุชิต..เห็นแล้วก็นอนได้นายตี๋” นี้เขียนว่าตัวเอง



กำลังจะกดปิด..เลข 1 สีแดงปรากฏขึ้น

“เงียบเลยนะคับวันนี้เป็นไงบ้าง” อนุชิตทักมา

“วันนี้ทำงานทั้งวัน ทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องน้ำไม่ได้สนุกสนานอะไรเลย..งานเทศกาลสนุกมากไหมครับ?”

“ก็สนุกดีคับ สงสารคนที่โดนน้ำท่วม เมื่อไหร่จะเข้าสู่ภาวะปกติน้อ แล้วน้องน้ำเขาทำอะไรอะคับ”

“ชะตากรรม เส้นทางชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันแล้วแต่บุญวาสนาและผลกรรมที่ได้ทำมา ของใครก็ของใคร ต้องยอมรับและต่อสู้ให้ถึงที่สุด..ขอบคุณที่สงสารพวกน้ำท่วมครับ” ตอบเฉไฉปลงชีวิตเสียอย่างนั้น..งอนละมั้งผม

“คิดถึงนะครับ” นั่น!..ไหนว่างอน..แต่ก็งับฝาโน๊ตบุ๊คลง

“เดี๋ยว!” ข้อความขึ้นแวบๆ ผมง้างโน๊ตบุ๊คขึ้นจนได้

“รู้คับว่าจะเลิกคุย..ขออธิบายหน่อยนะ”

“เรื่องอะไรหรือ?” ผมไม่รู้จริงๆ ว่าอนุชิตจะอธิบายเรื่องอะไร

“กระทงสองใบนั้น ของแม่หนึ่งใบของผมหนึ่งใบ ไม่ใช่ของใครอื่น..พอดีเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยและแถวบ้านแห่กันมาจึงยั๊วเยี๊ยอย่างที่เห็น..ไม่มีอะไร..ผมเองก็ไม่ค่อยสบาย ลอยเสร็จกลับบ้านโพสท์รูป..ถ้าเที่ยวเพลินเที่ยวดึกป่านนี้คงยังไม่ได้ลงรูป”

“ผมอธิบายบ้าง” ตัดสินใจพูด..ทีอนุชิตยังกล้า..ผมก็กล้าเหมือนกัน

“วันนั้นที่ผมขอแอดเพื่อนคุณอนุชิตเพราะน้อยใจที่อนุชิตไม่สนใจทักทายผมเลย..ยอมรับว่าช่วงนี้ผมเหงาและมีปัญหาครอบครัวมากมายอยากหาคนเป็นเพื่อน..น้อยใจที่คุณอนุชิตคุยกับเพื่อนๆ แต่ไม่คุยกับผม”

“อะนะ” คงไม่รู้จะเถียงอย่างไร

“ง่ายๆ คุณอนุชิตทราบไหมว่าบ้านเกิดของผมอยู่ที่เวียงเดือน ประเทศศิลา และอีกไม่กี่วันผมจะกลับบ้านเพื่อสะสางปัญหา..อีกอย่างไม่อยากนั่งมองน้ำไปวันๆ คนเดียว”

“จะรีบไปไหนอ่า..ขอโทษด้วยที่เหมือนไม่สนใจ..นานๆ ผมเข้าเฟสทีเลยไม่เห็นและไม่ได้ตอบข้อความใคร..อย่าคิดมากน่า :) ยิ้มๆ

“ตอนนี้เรื่องน้ำท่วมมันทำให้คนเครียดกันไปใหญ่จริงๆ กลับบ้านก็ดีนะจะได้มีอะไรทำ ดีกว่านั่งดูน้ำไปวันๆ..ผมเองก็หนีน้ำมาแบบไล่ก้นมาเลยคับ ^_^”

“คุณอนุชิตไม่สบายพักผ่อนเถอะครับ” ผมหยั่งเชิง..เริ่มงงๆ กับข้อความสุดท้ายของอนุชิต

“คับ ผมก็ว่าจะนอนเหมือนกัน..บายคับ”



อ่านใจอนุชิตไม่ถูกจริงๆ ว่าเป็นอย่างไรแน่ บางครั้งรู้สึกเหมือนแคร์ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา บางทีก็เฉยเมย..ไอ้การไม่เข้าเฟสนั่นแหละคือการเฉยเมย..ไม่อยากรู้เลยหรือว่าเพื่อนรูปหล่อน่ารักอย่างผมกำลังทำอะไรอยู่ ทักทายมาบ้างหรือเปล่า..แล้วดูสิ..สนับสนุนให้ผมกลับบ้านเฉยเลย

หนุ่มที่คาดว่าเป็นคนรักของอนุชิตไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่..รูปร่างหน้าตาของผมดีกว่าเขามากนัก แถมเป็นลูกครึ่งสามช่า..เอ๊ย!..สามชาติเข้าไปอีก หล่อระเบิด และที่ยังไม่มีใครรู้ มีเชื้อสายผู้ปกครองประเทศศิลา..เชื้อเจ้าเชียวนะ..อ้าว!..รู้กันหมดแล้ว

แต่..เรื่องของความรักมันไม่เข้าใครออกใคร..ถ้าจะรักอย่างไรก็จะรัก ขี้เหร่ สวยงาม ดีเลวอย่างไรก็จะรัก..ถ้าไม่รัก เลอเลิศอย่างไรก็ไม่รัก..กรณีของผมก็เช่นกัน..อนุชิตรักคนรักของเขาทั้งๆ ที่นำความเจ็บช้ำใจมาให้เนืองๆ ผมเสียอีกดีทุกอย่าง..แต่ไม่รักนี่นะทำอย่างไรได้



เอ..ตกลงเรื่องนี้ผมเป็นพระเอกหรือมารร้ายที่คอยแย่งรักเขากันแน่?






Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 10:41:27 น. 2 comments
Counter : 701 Pageviews.

 
หวัดดีครับแวะมาทักทาย...........................


โดย: maramba1 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:7:31:02 น.  

 
ขอบคุณมากครับอีกหนึ่งกำลังใจจากคุณ maramba1..


โดย: ดาเรน IP: 124.121.176.217 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:8:24:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.