Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
..คืนวันที่หลงลืมจากปลายนิ้วที่เลอะเลือน..และ..จุด จุด จุด..(ตอนที่ 9)



.. 9 ..





เมื่อคืนหลังจากคุณรูปหล่อกล่าวสวัสดี..แม่คว้ามือผมไปกอด..”แม่ไปแล้วแกจะอยู่กับใคร?”




แม่ถามคำถามเดิมซ้ำหลายครั้ง..และทุกครั้งผมจะตอบว่าอยู่กับแม่..ในที่สุดแม่ก็เลิกถาม..




เพื่อนหลายคนในเฟส พูดแต่เรื่องเดิมๆ ที่มีความสำคัญกับเขา..วันละหลายครั้ง..แทบทั้งเฟส..บางคนพูดเรื่องสามี..บางคนพูดเรื่องพระเจ้าและสิ่งบูชา..หรือโพสท์รูปท่องเที่ยวที่เขาไปเสมอๆ (มีฐานะ)....เหล่านี้เต็มเฟสไปหมด..ในที่สุดผมก็บล็อกข้อความเหล่านั้น..55..ผลคือเฟสผมสะอาดเอี่ยม ไม่มีใครหรืออะไรให้ดูเลย..สมน้ำหน้า!

ที่เขียนข้างต้นก็เพื่อจะบอกว่า..ผมจะไม่เขียนเล่าเหตุการณ์ระหว่างแม่กับผมลง “คืนวันที่หลงลืม ฯ” อีกแล้ว (มีแทรกอยู่เกือบทุกตอน)..เด๋วเพื่อนๆ นักอ่านจะบล็อกผมเสียหรอก



วันหนึ่ง..ผมเล่นกับพรรณอยู่ที่ร้านพี่ติ๋ม..ได้ยินเสียงคนร้องเพลงดังมาจากไหนสักแห่ง..ร้องเพราะด้วยไม่ได้มั่ว..เพลงแล้วเพลงอีก..ชิ!..หนวกหูแล้วซิ..กำลังนึกรำคาญ ได้ยินพี่ติ๋มคุยกับลูกค้าที่คงคิดคล้ายผมว่า “ยุ่น” เด็กหนุ่มตาบอดหลานของเจ้หุยข้างร้านเป็นคนร้อง

ห้องแถวแต่ละห้องไม่ได้กว้างมากนัก..มองออกไปข้างร้านพี่ติ๋ม เห็นบั้นท้ายสาวที่เหมือนกำลังยืนหันมองไปที่ร้านเจ้หุย..สักครู่มีเพิ่มอีกบั้นหนึ่ง..มองอะไรกัน..ว่าแล้วผมก็กะเตงพรรณออกไปดูมั่ง

เจ้หุยผู้อ้วนตุ้ยนุ้ยกำลังนั่งเย็บเสื้อโหล..บนพื้น..หน้าจักรเย็บผ้า เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง..ใส่เสื้อกล้ามสีขาว..กางเกงกีฬาดำสั้นเต่อ..ท่อนขาอวบล่ำที่ปลิ้นจากกางเกงขยับตามจังหวะ..ทั้งปากกำลังร้องเพลง มือคลำเสื้อที่ทยอยเลื่อนลงมา..ใช้กรรไกรตัดเล็มเศษด้ายที่ติดอยู่ตามเสื้อเหล่านั้นอย่างชำนาญเหมือนตาเห็น

จากเสียงเพลงที่เปล่งออกมา..รอยยิ้มและดวงตาที่เหมือนคนปกติธรรมดา..ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มยุ่นตาบอด..ดวงตาของเขาสดใสไม่มีลักษณะพิการแต่อย่างใด เพียงแต่มองอย่างไม่มีจุดหมาย


“ยุ่น” เป็นชาวตาคลี นครสวรรค์..เกิดมาร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ..ช่วยพ่อแม่ทำงานหลังเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์..เขาติดรถไปส่งสินค้ากับพ่อ..นอนอยู่บนกองสินค้าหลังรถ แหกปากร้องเพลงนาๆ ชนิด..ต่อมารู้สึกตัวว่ามองอะไรตรงๆ ไม่ค่อยชัด ต้องมองสูงกว่าความเป็นจริง..ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะภาพที่ปรากฏชัดเจนเหมือนเดิม

แต่เมื่อต้องเหลือกตาดำสูงขึ้นทุกทียุ่นจึงเริ่มเอะใจ บอกพ่อ..พ่อซึ่งเป็นคนหัวโบราณมุ่งแต่ทำมาหากินไม่เข้าใจ กลับดุด่าว่ายุ่นขี้เกียจไม่ยอมทำงาน....ในที่สุดแม้ยุ่นจะเหลือกตาสักเท่าใดก็ไม่เห็นอะไรเลย

พ่อพายุ่นไปรักษาแทบทุกแห่ง ทุกวิธี ที่คิดว่าจะทำให้ตาของยุ่นมองเห็น..แต่ไม่..แม้พามารักษาที่กรุงเทพฯ โรงพยาบาลใหญ่ๆ คุณหมอผู้เชียวชาญ..ตายุ่นก็ยังมองไม่เห็น..(สาเหตุที่ยุนตาบอด..ตัวจริงกับใน “ไม่มีเมฆสีเงิน” คือสาเหตุเดียวกัน)



“ผมร้องเพลงเพราะไหมครับ?” จู่ๆ ยุ่นถามขึ้น..ไม่มีใครยืนอยู่แล้วนอกจากผม..พรรณเข้าบ้านไปกินนม

“ถามใครหรือ?” ผมไม่แน่ใจ..อาจเป็นคนอื่นที่ยุ่นรู้จัก (ยืนดูเมื่อครู่)

“คนที่ฟังอยู่น่ะครับ” ยุ่นหันมาทางเสียงผม

“เพราะครับ..” ไม่รู้จะคุยอะไรด้วย..ผมเดินออกมาดื้อๆ

“อ้าว!..” เสียงผิดหวังเบาๆ แล้วยุ่นก็ร้องเพลงต่อ พร้อมมือที่ไม่อยู่นิ่ง

“เขาชื่อตี๋..อยู่ห้องด้านตลาด ที่พรรณขึ้นไปอึ๊ใส่บนบ้านไง..พรรณติดมาก” เสียงเจ้หุยอธิบายแว่วมา


“คงใจดี เด็กถึงรู้..นะเจ้” ดวงตาเหม่อ..ครุ่นคิด


“คนมองไม่เห็นก็รู้ด้วยละมั้ง!” เจ้หุยสัพยอกกลับ


เขียนไปเขียนมา..จากเรื่องเล่ากลายเป็นนิยายเสียละ..เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก็คล้ายนี้ แต่ไม่ฟินเท่า..มะเอาๆ..เปลี่ยนเป็นเล่าแบบเดิมดีกว่า..555++






Create Date : 07 มีนาคม 2558
Last Update : 7 มีนาคม 2558 16:27:54 น. 0 comments
Counter : 751 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.